5.0
ความคิดเห็น
5.9K
ชม
28
บท

บอกเล่าเรื่องราว ‘คาวกลิ่นราตรี’ เธอที่หลงระเริงอยู่ในกลิ่นคาวของราตรีกาล เรียนรู้ที่จะสร้างความสุขให้กับตัวเอง เรียนรู้ที่จะทำให้ตัวเองเป็นที่ต้องการของผู้ชายทุกคน แต่ในที่สุด เธอกลับหลงวนอยู่ในกลิ่นคาวของน้ำกามจนไม่สามารถพาตัวเองออกมาได้ ‘ขาดอะไรก็ขาดได้ แต่ขออย่าให้ขาด ‘เซ็กซ์’ ไม่อย่างนั้นเธอคงจะลงแดงตาย!!’ ‘โลดแล่นไปในห้วงแห่งกลิ่นหอมรัญจวน’

บทที่ 1 EP.01

“อา... โอว... อา... อู้...”

ริมฝีปากบอบบางอ้าค้างอย่างหุบไม่ลงก่อนจะห่อปากเข้าหากันเพราะแรงกระแทกกระทั้นจากทั้งสองช่องทางพร้อมๆ กัน กระทบเข้ากับอวัยวะภายในจนร่างกายของหล่อนปั่นป่วนไปหมด

ความอัดอั้นมากมายรุนแรงจนหล่อนต้องกรีดร้อง ความซ่านเสียว ความเจ็บปวด ความตึงแน่น ผสมผสานปนเปจนหล่อนแยกไม่ออก แต่เหนือกว่าสิ่งใดนั้นคือ ‘มัน’ หล่อนกำลังได้รับความมันตอบสนองความอยากอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของตนเอง

ชาวต่างชาติผิวดำมันวาวกระแทกตัวตนขนาดมหึมาเข้าสู่โพรงถ้ำกว้างและลึกของหล่อนไม่หยุดยั้ง และทุกแรงกระแทกก็ทำให้อีกช่องทางต้องกดลึกกับความแข็งแกร่งอีกท่อนที่เสียบคาอยู่ด้านล่าง

เสียงกรีดร้องสอดประสานกับเสียงหอบหายใจพร้อมคำสบถเป็นภาษาต่างชาติชนิดที่ ‘หยาบ’ แต่ยิ่งเร่งเร้าความดิบเถื่อนของหล่อนให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก

“โอว... โอว... เยส... เยส... โอว...”

หล่อนยังคงกรีดร้องกับความใหญ่โตที่สอดใส่เข้ามา สิ่งที่สายตาเห็นจากเงาสะท้อนของกระจกบานโตสูงจากพื้นจดเพดานห้อง ไม่ต่างจากน้ำมันที่ราดรดบนกองไฟแห่งความมักมาก อยาก และปรารถนา

เมื่อร่างสีดำมะเมื่อมขนาบกับร่างขาวนวลเนียนไม่ต่างจากขนมปังช็อกโกแลตสอดไส้ด้วยครีมนม

แรงกระตุ้นเร่งเร้าทำให้หล่อนกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ความเสียวสุดยอดจู่โจมจนเส้นขนทุกเส้นบนร่างลุกชัน ดวงตาลอยคว้าง ภาพที่เห็นเป็นสีเบลอไปหมด

ร่างกายรับรู้เพียงความอุ่นวาบที่แล่นปะทะภายในโพรงถ้ำจนร้อนฉ่าราวกับไฟในร่างของหล่อนกำลังจะลุก

“เป็นไงล่ะรัตตี้ คืนนี้ได้เท่าไร”

‘รัตติกาล หรือ รัตตี้’ สาววัย 24 ปี หันตามเสียงเรียก ดวงตาสวยกรีดอายไลเนอร์จนคมกวาดมองคนเรียก ชนิดที่ว่าหากไม่รู้จักกันมาก่อนได้มีตบกันซักฉาดเป็นแน่ แต่เพราะรู้ดีว่า ‘สาลี่’ เพื่อนร่วมอาชีพของหล่อนนั้นเป็นคนเช่นไร หล่อนจึงไม่ใส่ใจคำพูด ได้ยิ้มๆ เท่านั้น

‘สาลี่’ สาวอายุ 30 ปีที่หล่อนไม่คิดจะเรียกพี่นำหน้า เพราะสาลี่ชอบให้เรียกชื่อเฉยๆ จะได้ไม่ดูแก่ว่าบรรดาสาวกลางคืนที่ใช้สถานที่ทำงานร่วมกัน

นิสัยของสาลี่เป็นชนิด ‘ปากว่า-ตาจิก’ แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไรแอบแฝงในคำพูดนั้น นอกจากความหมั่นไส้เล็กๆ ที่ค่ำคืนนี้หล่อนดูจะมีรายได้มากกว่าสาลี่เป็นแน่

“ก็ไม่เท่าไร เบาะๆ ก็แค่สักสองหมื่น” รัตติกาลพูดริมฝีปากเหยียดยิ้มอย่างไม่ยี่หระกับอะไรทั้งสิ้น

“โห! ตั้งสองหมื่น นี่แกไม่เหน็ดไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”

“ก็ไม่รู้สินะ” ยิ้มพร้อมเดินจากไป แต่ก่อนที่รัตติกาลจะก้าวเดินคำพูดของสาลี่ก็ทำให้หล่อนต้องฉุกคิด

ศีรษะส่ายไปมาหัวเราะในลำคอเบาๆ คล้ายสิ่งที่สาลี่พูดนั้นช่างไร้สาระสำหรับหล่อนเสียเหลือเกิน แต่ใครเล่าจะรู้ดีเท่าตัวหล่อนเอง... เสียงหัวเราะนั่นคือสิ่งแสดงออกเพื่อเยาะเย้ยโชคชะตาของหล่อนต่างหาก

‘ร่างกายถ้าใช้ไม่บันยะบันยัง ระวังมันจะซ่อมไม่ไหว’

คำพูดของสาลี่ยังก้องอยู่ในสมอง แม้ว่าร่างกายจะเหน็ดเหนื่อยเพราะกิจกามที่กินเวลากว่า 2 ชั่วโมง แต่ก็ไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ เพราะสิ่งที่สาลี่พูดนั้นใช่ว่า ‘ไม่จริง’ ร่างกายของหล่อนกำลังฟ้องว่าหล่อนใช้งานมากจนเกินพอดี

‘แต่แล้วอะไรล่ะที่พอดี’ เสียงหนึ่งในตัวเองร้องถาม คำถามที่หาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ รู้แต่ว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมานี้ ไม่มีคืนไหนเลยที่หล่อน ‘ไม่ได้’ ไม่นับช่วงเวลาที่มีเมนส์ แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่แม้เลือดจะแดงสาดแต่หล่อนก็ซ่านไม่เลิก ต้องดอดให้ใครมากระทุ้งจนหายคันเสียก็บ่อย

ใครล่ะอยากจะมี ‘ผัว’ เกิน 1 แต่สำหรับหล่อน ต่อให้นับนิ้วมือรวมนิ้วเท้าทั้งสองข้างก็ยังไม่พอ

หล่อนเลยไม่บัญญัติคำว่า ‘ผัว’ ให้กับผู้ชายที่ผ่านมาผ่านไป รู้แต่ว่าไอ้ที่จะกลับมาให้หล่อนกินซ้ำนั้นก็น้อยนักที่จะจดจำ สิ่งที่หล่อนจดจำก็คือ ใครที่ทำให้หล่อน ‘ถึงสวรรค์’ ได้มากที่สุด หรือใครที่ ‘จ่ายหนัก’ จนหล่อนจำไม่มีวันลืม

แต่ที่ผ่านมานั้นหล่อนแทบจะไม่จำพวกกระเป๋าหนักสักเท่าไร เพราะสิ่งที่หล่อนต้องการในทุกค่ำคืนก็คือความแข็งแกร่งของเพศชายที่จะมาช่วย ‘ปลดเปลื้อง’ ห้วงทุกข์แห่งความโหยหา

รัตติกาลนอนไม่หลับจึงออกมานั่งรับลมด้านนอกห้องพัก ซึ่งจะเห็นดวงไฟจากเรือสินค้าได้อย่างประปราย แต่มากที่สุดคงไม่พ้นเป็นดวงไฟนับหมื่นจากคอนโดฯ ริมแม่น้ำ

ด้านนอกระเบียงถูกตกแต่งไว้เป็นสวนหย่อมน้อยๆ ต้นไม้สีเขียวปลูกอยู่ในกระถางเป็นแนวรั้วเตี้ยๆ มีดอกกุหลาบ ทานตะวัน กล้วยไม้ ทิวลิป หลายหลากสารพัดดอกที่หล่อนชอบ ชอบแบบไหนก็แค่ซื้อมาเปลี่ยน เพราะทั้งหมดนั้นเป็น ‘ของปลอม’ เพราะหล่อนชอบของสวย แต่หากต้องให้มานั่งดูแลเอาใจใส่หล่อนคงทำไม่ได้ ของปลอมที่จัดหามาก็ย่อมดีกว่าของจริงที่ต้องรอคอยการเจริญเติบโต ต้องใส่ปุ๋ยให้น้ำ ต้องดูแลรักษา ก็คงไม่ต่างจากหล่อน

เพราะผู้หญิงอย่างหล่อนไม่ต่างอะไรจากดอกไม้ประดิษฐ์นี้ หล่อนไม่เคยมีอะไรที่เป็นของจริง ทุกอย่างในชีวิตล้วนปลอมทั้งหมด ความจอมปลอมที่หล่อนเคยชิน

เมื่อเริ่มสาวหล่อนกลายเป็น ‘ของเล่น’ ของผู้ชายทุกวัย ไม่ว่าจะหนุ่มหรือแก่ ลูกใคร ผัวใคร ใครก็ได้ที่มีไอ้สิ่งที่เรียกว่า ‘ตัวเดียวอันเดียว’ ที่พร้อมจะสอดใส่ หล่อนก็พร้อมที่จะอ้าให้ทุกวันทุกคืน เพื่ออะไรน่ะเหรอ เพื่อของที่หล่อนอยากได้ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

และ ‘เพื่อสนองความอยากอย่างไม่มีที่สิ้นสุด’ หล่อนจึงเปรียบตัวเองเป็นดั่งดอกไม้จอมปลอมเหล่านี้ เหมาะกันแล้ว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ชนิตร์นันท์

ข้อมูลเพิ่มเติม
คนงานบ้านนายฝรั่ง

คนงานบ้านนายฝรั่ง

โรแมนติก

5.0

หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย

รับ(ลับ)ฉบับมาดาม

รับ(ลับ)ฉบับมาดาม

โรแมนติก

5.0

#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.4

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

พระชายาของข้าคนเดียว

พระชายาของข้าคนเดียว

Daryl Tudge
5.0

เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"

เทพเจ้าแห่งอสูร: พิชิตทุกพิภพด้วยหมื่นภูตผี

เทพเจ้าแห่งอสูร: พิชิตทุกพิภพด้วยหมื่นภูตผี

Daniel
5.0

-- ในศตวรรษที่ 26 ทหารรับจ้างอันดับหนึ่งได้กลับชาติมาเกิดใหม่ กลายเป็นลูกเลี้ยงที่ไร้ค่าของตระกูลผู้มีชื่อเสียง แต่เมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง โลกก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ย่ำยีชายทรยศ ข่มเหงหญิงเลว จัดการกับพวกที่ทำให้ชีวิตติดขัด เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งตามใจปรารถนา ควบคุมเทพสัตว์นับพัน ถลุงยาวิเศษ วางข่ายศักดิ์สิทธิ์ วาดยันต์ผี ทุกอย่างนางทำได้อย่างชำนาญ อยู่เหนือกว่าอัจฉริยะทั้งห้าภพ โลกนี้นางครอบครอง ไม่สามารถบำเพ็ญตบะงั้นหรือ แต่นางเป็นผู้ครอบครองพลังครบทุกธาตุ ไม่มีคุณสมบัติมากพอบำเพ็ญลัทธิหรือ นางนอกจากบำเพ็ญลัทธิอสูรลัทธิเทพลัทธิวิญญาณลัทธิมารทั้งสีแล้ว ยังสร้างลัทธิภูตผีอีกด้วย ไร้ค่า ไม่มีความสามารถงั้นหรือ นางคือราชาผี ที่สืบทอดพลังหยินขั้นสูง แค่กระดิกนิ้ว พญาวิญญาณแค้นนับหมื่นก็พรั่งพรูมาปรนนิบัติ เพียงแต่ว่าจักรพรรดิผู้ลึกลับที่ตามตื้อนางนั้น มันคือยังไงกัน เฝิงอี้ "เพิ่งเจอหน้ากันก็ถอดเสื้อข้า เช่นนั้นเราสู้กันบนเตียงอีกรอบดีหรือไม่" เย่วเฉิงเฟิงยิ้มยั่ว "ผู้ชายมีแต่จะเป็นตัวถ่วงของข้า ท่านจักรพรรดิ ท่านเดินทางดีๆ ลาก่อนนะ"

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

ตามเธอไม่เคยทัน

ตามเธอไม่เคยทัน

Crepuscular Glyph
5.0

หลินหลั่งเยี่ยน เป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ จากรัฐ เป็นสาวอัจฉริยะที่ทุกคนในองค์กรอิจฉา มีความสามารถทางการต่อสู้สูงและไม่ยอมใคร แต่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวฝาแฝดของเธอเพียงลำพัง หลังจากผ่านไปเจ็ดปี ในที่สุดรัฐก็อนุมัติอิสรภาพให้เธอ หัวใจของหลินเหลิงเหยียนเต้นระรัวด้วยความคาดหวัง ขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับบ้าน แต่เธอกลับต้องพบว่าป้าของเธอใช้ชีวิตอย่างหรูหราในบ้านพักของพ่อแม่ผู้ล่วงลับ ขณะที่น้องสาวของเธอเองกลับถูกบังคับให้นอนในคอกสุนัขและกินของเหลือ ทันใดนั้น เธอพลิกโต๊ะอาหารด้วยความโกรธ ป้าข่มขู่? เธอใช้วิธีการที่เด็ดขาดถอนตัวจากการร่วมมือ จนบริษัทของป้าพังทลายลงอย่างรวดเร็ว! การกลั่นแกล้งในโรงเรียน? เธอปลอมตัวเป็นน้องสาว เข้าไปในโรงเรียนและตัดสินใจสู้ไฟด้วยไฟ จากนั้นเธอก็ถ่ายทอดสดตอนพวกอันธพาลคุกเข่าร้องขอความเมตตา ถูกเยาะเย้ยเรื่องตัวตน? หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา“ใช่ ฉันก็แค่คนธรรมดา” ในวินาทีถัดมา ครอบครัวที่มีชื่อเสียงมายืนยันว่า“เธอคือลูกสาวคนโตของเรา!” สถาบันวิจัยแห่งชาติ “พวกเราคือเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ!” …… ซือฮานเฟิง ผู้เป็นผู้นำของตระกูลลึกลับ ไม่เคยปรากฏตัวในสายตาสาธารณชน ข่าวลือว่าเขาเป็นคนเยือกเย็นและไร้ความปรานี บางคนเคยเห็นเขายืนสูบบุหรี่ในสถานการณ์ที่น่ากลัว และบางคนก็เห็นเขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา แต่ต่อมากลับมีคนเห็นว่าเขาไล่ตามหลินหลั่งเยี่ยนจนถึงมุมกำแพง ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าและความไม่พอใจ “หลั่งเยี่ยน ฉันช่วยเธอจัดการพวกนั้นแล้ว เธอควรจะอยู่เป็นเพื่อนกับฉันบ้างไหม?” “เราไม่ใช่แค่พันธมิตรหรือ?” หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างงงงวย ซือฮานเฟิงถอนหายใจลึกๆ แล้วจูบเบาๆ บนริมฝีปากของเธอ “ตอนนี้ล่ะ”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ