พิศวาสทาสคนเถื่อน

พิศวาสทาสคนเถื่อน

อัญญาณี

5.0
ความคิดเห็น
81.3K
ชม
75
บท

เพลิง…ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยปมในอดีต ความเจ็บปวดจากภรรยาที่หนีตามชู้ยังไม่เคยจืดจางในใจเขา จนจิตใจของพ่อเลี้ยงหนุ่มด้านชา ไม่เคยมองเห็นหญิงสาวคนใดมีค่ามากไปกว่า ดอกไม้ประดับเตียง พอดอมดมจนพอใจก็โยนทิ้ง จนกระทั่งมาเจอเธอ ธันย์ณิชา ดอกไม้ดอกสวยที่ไม่ได้มีดีแค่ความสาว เธอยังมีเสน่ห์ปลายจวักอันยอดเยี่ยม และนั่นทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล “มื้อนี้ทำอะไรให้ฉันกิน” “มื้อนี้วุ้นทำปลาสามรสให้พี่เพลิงทานค่ะ แล้วยังมีไข่เจียวกุ้งสับทรงเครื่องกับแกงจืดไว้ให้พี่เพลิงซดคล่องคอ” เธอบอกเมนูอาหารที่ทำสุดฝีมือ “ไข่เจียวกุ้งสับทรงเครื่อง วุ้นจำสูตรมาจากทีวี วุ้นเพิ่งทำเป็นครั้งแรกด้วย อร่อยไม่อร่อยยังไง พี่เพลิงติวุ้นได้นะคะ วุ้นจะได้เอาไปปรับปรุง” “ฉันกลายเป็นหนูทดลองของเธออีกใช่ไหมเนี่ย” เพลิงพูดติดตลก แต่ก็ยอมเป็นหนูทดลองให้เธอแต่โดยดี ลงมือทานอาหารที่ธันย์ณิชาบอกว่า เพิ่งทำครั้งแรกเป็นจานแรก โดยมีแม่ครัวแสนสวยนั่งลุ้นอยู่ใกล้ๆ “เป็นไงคะ อร่อยไหมคะ” “มันแปลกๆ เพราะปกติฉันเคยกินแต่ไข่เจียวหมูสับ” เพลิงตอบตามความรู้สึกของตนเอง “แต่รสชาติอร่อย กลมกล่อม มีกลิ่นหอมของต้นหอมซอยด้วย ฉันชอบ” คนทำอาหารยิ้มกว้างกับคำชม แต่ก็ต้องหุบยิ้ม ใบหน้าแดงซ่านเมื่อเขาพูดประโยคต่อมา “ฉันยอมเป็นหนูทดลองให้เธอแล้ว คืนนี้เธอต้องเป็นหนูทดลองอุปกรณ์ใหม่ของฉันด้วยนะ ตกลงไหม” เพลิงส่งสายตาประกายวับวาว เป็นสายตาที่ไม่เคยส่งให้หญิงสาวคนใดมาก่อน มันเต็มไปด้วยความปรารถนาที่พร้อมจะลุกโชนได้ทุกครั้งที่ชิดใกล้เธอ รวมถึงตอนนี้ด้วย “ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ ด้วยกิริยาเหนียมอาย คนที่มองเห็นแทบจะกระชากร่างเล็กมากอดจูบให้หายอยาก แต่ก็ต้องกลั้นความรู้สึกเอาไว้ รวบยอดทีเดียวตอนค่ำพร้อมอุปกรณ์เซ็กซ์ชิ้นใหม่ที่เพิ่งส่งถึงมือเขาตอนสายดีกว่า

บทที่ 1 1

1

อุณหภูมิภายนอกที่ต่ำกว่าสิบห้าองศาเซลเซียส ไม่ได้ทำให้สามชีวิตที่อยู่ในห้องนอนห้องหนึ่งเกิดความหนาวเหน็บเหมือนคนอื่นๆ ที่อาศัยใบบุญของพ่อเลี้ยงเพลิงเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามทั้งสามมีแต่ความร้อนและร้อน ความร้อนที่เกิดจากบทเพลงสวาทเร่าร้อนที่กินระยะเวลามากว่าสองชั่วโมงแล้ว แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงง่ายๆ

“พ่อเลี้ยงขา...พ่อเลี้ยง”

เสียงหวานกระเส่าของนภา สาวบริการจากเมืองกรุงที่พ่อเลี้ยงเพลิงจ้างมาสร้างความสุขแบบรายสัปดาห์ที่มีอัตราค่าจ้างสูงถึงเจ็ดหมื่นบาท ยังไม่รวมเงินพิเศษที่จะได้รับเมื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ร้องครวญครางไม่หยุด เสียงครางแห่งความกระสันซ่าน เธอเสียวสะท้านไปทั้งกายยามขยับโยกเคลื่อนไหวบนร่างกายของพ่อเลี้ยงหนุ่ม ที่มีสาวบริการนามว่า เอมอรเพื่อนร่วมงานอีกคน ที่ถูกซื้อบริการมาด้วยจำนวนเงินเท่ากันกำลังใช้ปากและลิ้นไล้เลียยอดอกของเขา

“พ่อเลี้ยงดีไหมคะ อา...นภาทำถูกใจ...พ่อเลี้ยงรึปะ...เปล่าคะ...อ๊า”

นภาเอ่ยถามเจ้าของเงินที่จ่ายค่าตัวเสียงขาดห้วน ใบหน้าแดงก่ำจากพิษเสน่หาเล่นงาน โยกกายขึ้นสูงแล้วกระแทกร่างลงมาเต็มแรง จนเกิดเสียงดังของเนื้อกระทบเนื้อ บางจังหวะเธอก็เสยร่างไปข้างหน้า ทำทุกอย่างให้เขาพอใจ แต่ทว่าคำตอบก็ไม่ได้หลุดออกมาจากปากหนาได้รูปมีเสน่ห์ของเพลิง เนื่องจากเวลานี้ปากของเขาไม่ว่าง กำลังจูบอย่างดูดดื่มกับเอมอรที่เลื่อนปากมาประกบปิด

นภาขย่มร่างอรชรของตนอยู่สักพัก ร่างของเธอก็เกร็ง ความสุขกำลังวิ่งเข้าใส่ นภาขยับร่างโยกตัวแรงขึ้นเพื่อนำพาตัวเองไปยังความสุขที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม เป็นความสุขที่เธอวิ่งเข้าใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พ่อเลี้ยงเพลิงยังไม่ถึงสถานที่แห่งนั้นเลยสักครั้ง...เขาอึดจริงๆ

“เอมอร ไปเอาของในลิ้นชักมา”

เพลิงผลักใบหน้าของเอมอรให้ออกห่าง ส่งผลให้ปากของทั้งคู่แยกห่างกัน ก่อนที่เขาจะสั่งเอมอรให้ไปหยิบของบางอย่างในลิ้นชัก ที่เอมอรและนภาต่างรู้ดีว่าคืออะไร

“ค่ะพ่อเลี้ยง” เอมอรเดินไปหยิบของที่พ่อเลี้ยงต้องการ ซึ่งเธอกับเพื่อนร่วมงานได้ใช้อุปกรณ์เหล่านี้มาตั้งแต่วันแรกที่มาทำหน้าที่และไม่เกี่ยงงอนจะทำตามใจลูกค้า ยิ่งเป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ผู้ร่ำรวย ให้ค่าบริการสมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่เธอกับเพื่อนต้องเผชิญ พวกเธอก็ยิ่งต้องเอาใจที่สุด

“นี่ค่ะพ่อเลี้ยง” เอมอรวางอุปกรณ์ที่เพลิงต้องการลงบนที่นอนข้างร่างสูงใหญ่ เพลิงผลักร่างนภาที่หอบหายใจแรงบนตัวเขาให้ไปนอนบนที่นอน ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นนั่ง ดึงถุงยางอนามัยที่สวมใส่ความเป็นชายของตนออก จากนั้นก็นำของใหม่มาสวมใส่แทนถึงสามชั้น

“แส้ไหมคะพ่อเลี้ยง” เอมอรถาม

“ไม่” เพลิงตอบสั้นๆ ขณะที่หยิบอวัยวะเทียมของเพศชายที่มีขนาดความใหญ่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าของเขาเลย อีกทั้งยังมีความนุ่มหยุ่นคล้ายกันด้วยแบบสวมเอวมาคล้องไว้ที่เอวเตรียมการออกศึกรักกับสองสาว “เอากุญแจมือมาสองอันเลย”

เอมอรหยิบสิ่งของที่พ่อเลี้ยงหนุ่มต้องการ แล้วยื่นให้เขารับมันไว้ในมือ พลางเอี้ยวตัวไปทางร่างของนภาที่รู้งานว่าต้องทำอย่างไร

นภาหยิบกุญแจมือที่เขาส่งมาให้มาคล้องข้อมือของตนทั้งสองข้าง แล้วล้มตัวลงนอนตรึงแขนเหนือศีรษะ ส่วนกุญแจมืออีกอันหนึ่งเพลิงส่งให้เอมอรที่ขยับตัวนำกุญแจมือที่อยู่ในมือมาคล้องไว้กับโซ่ระหว่างกุญแจมือที่นภาสวมอยู่ ปลายอีกด้านคล้องไว้กับหัวเตียงที่ทำจากเหล็กดัด

“ท่าเดิมนะ” เพลิงหันมาสั่งเอมอร

“ค่ะพ่อเลี้ยง”

เอมอรรับคำ จัดท่วงท่าที่เพลิงต้องการ ด้วยการคร่อมร่างนภาในลักษณะคุกเข่า มือของเธอเท้าวางลงบนที่นอนข้างหัวไหล่ของนภา

เพลิงขยับตัวมาอยู่ในกลางร่างของสองสาว กดบั้นท้ายขาวของเอมอรลงมาให้ร่างกายส่วนหน้าของเอมอรและนภาแนบชิดกัน จากนั้นก็สอดแทรกตัวตนทั้งของจริงและของปลอมเข้าสู่ความเป็นอิสตรีของทั้งคู่ กายแกร่งที่มีชีวิตดันลึกเข้าไปในรวงผึ้งของนภา ส่วนของเทียมสอดแทรกเข้าไปในร่างของนภา เพลิงกำลังมอบความสุขให้สองสาวพร้อมกัน

“อ๊า...อ๊า...พ่อเลี้ยงขา...อา”

นภาส่งเสียงครางรับพละกำลังแรงของเพลิงที่สาดใส่ พร้อมกันนี้เสียงครางของนภายังระบายความเจ็บจากกุญแจมือที่คล้องข้อมือของตน เพราะจากแรงโจนจ้วงของเขา และแรงเสียดสีระหว่างกุญแจมือกับผิวเนื้อของเธอก็จะเสียดทานกันตลอดเวลา ความเจ็บจึงบังเกิดขึ้นด้วย แต่พอนึกถึงเงินที่จะได้รับตอบแทนความเจ็บ เธอก็พร้อมจะฮึดสู้ เก็บงำความเจ็บเอาไว้

“โอ้...อา...พ่อเลี้ยง...อืม”

เอมอรแม้ว่าจะไม่ได้สัมผัสกับความแข็งแรงของเพลิง ทว่าอวัยวะเทียมก็สร้างความสุข เร้าใจให้กับเธอไม่น้อย เพลิงบีบแก้มก้นของเอมอร ขยำสุดแรงจนเกิดรอยมือซ้อนกัน บางครั้งก็ใช้มือฟาดราวกับว่าเขากำลังฟาดก้นอาชาไนยยามที่ควบขี่

จังหวะประสานกายของเพลิงเร่งเร้าขึ้นทุกขณะ ตามแรงอารมณ์ของเขาที่กำลังจะทะยานเข้าสู่เส้นชัย ยิ่งใกล้เพลิงยิ่งกระแทกสุดแรง จนช่องทางรักของสองสาวร้อนฉ่า เพลิงเร่งจังหวะแรงขึ้นและแรงขึ้นก่อนที่เขาจะคว้าเส้นชัยแค่มือเอื้อม

กว่าที่เพลิงจะสุขสม สองสาวก็เหนื่อยหอบ ร่างของเอมอรพลิกกายลงนอนบนเตียง หอบหายใจแรงและรู้สึกปวดเนื้อปวดตัวกับการหนักมือของพ่อเลี้ยงสุดหล่อ เช่นเดียวกับนภาที่หายใจแรงไม่แพ้กัน เหนื่อยล้ากับบทรักที่กินระยะเวลาสองชั่วโมงกว่า

“ฉันจะไปต่อในห้องน้ำ” พ่อเลี้ยงเพลิงเอ่ยขึ้นขณะที่ก้าวลงจากเตียง ถอดเครื่องป้องกันออกจากตัวตนแล้วโยนลงไปในถังขยะ จากนั้นก็ถอดอวัยวะเพศปลอมออกจากเอว “นภา เธอกลับห้องไป ส่วนเอมอรตามฉันไปในห้องน้ำ”

“ค่ะพ่อเลี้ยง” เอมอรแม้ว่าจะเหนื่อยล้า แต่เมื่อนึกถึงเงินที่จะได้ แรงกำลังก็มีขึ้นมามากมาย “พ่อเลี้ยงจะให้เอมเอาอะไรเข้าไปในห้องน้ำมั่งคะ”

“เชือก” เพลิงตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินเปลือยกายเข้าไปในห้องน้ำ เอมอรทำตามคำสั่ง เธอพยุงกายลุกขึ้นนั่ง หยิบลูกกุญแจที่วางอยู่บนตู้ข้างเตียงมาไขกุญแจมือที่คล้องอยู่บนข้อมือของเพื่อน จากนั้นก็หยิบเชือกตามคำสั่งแล้วเดินตามร่างสูงใหญ่เข้าไปในห้องน้ำ

เพลิง โยธาบดินทร์เจ้าของไร่เพลิงพยัคฆ์ ไร่ชา และไร่กาแฟที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเหนือ นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของรีสอร์ตสุดหรูบนเนินเขา ทว่าโดยนิสัยส่วนตัวเพลิงเป็นคนที่ป่าเถื่อน โหดเหี้ยม โมโหร้าย เป็นที่ยำเกรงต่อลูกน้องทั้งหลายและคนรอบข้าง

ครั้งหนึ่งเขามอบความรักและความไว้วางใจให้กับพิมพิไล มอบตำแหน่งแม่เลี้ยงให้ด้วยความเต็มใจ เธองดงามราวกับเทพธิดา วาจาไพเราะเพราะพริ้ง กริยามารยาทสมกับเป็นกุลสตรี แต่ทว่าเธอกลับมีใจสกปรก ชั่วช้า ตอบแทนความรัก ความไว้ใจด้วยการคบชู้สู่ชายไม่เลือกหน้า และสุดท้ายก็คบชู้กับเพื่อนของเขา นับตั้งแต่นั้นเพลิงไม่เคยมองสตรีคนไหนมากไปกว่าคู่นอน หญิงสาวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขาเป็นเพียงเครื่องสนองอารมณ์ทางเพศ พอเสร็จสมก็ทางใครทางมัน ไม่มีค่าอะไรมากกว่านี้

หลังจากที่เอมอรเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับเชือก ไม่นานเสียงครางครวญของเธอก็ดังลั่นห้องน้ำ โดยไม่มีเสียงครางของเพลิงเลยสักนิด เขาโหมกระหน่ำใส่ร่างเอมอรที่กรีดร้องด้วยความสุขระคนความเจ็บ เซ็กซ์ของเพลิงดุดัน ดิบเถื่อน พร้อมสรรพไปด้วยอุปกรณ์ทางด้านนี้ที่เขาสรรหามาสร้างความตื่นเต้น หญิงสาวทุกคนที่ผ่านมาอาจจะมองเขาว่า เถื่อน ซาดิสต์ แต่ในความเป็นจริงเขากำลังลบความรู้สึกบางอย่างในจิตใจ ที่ติดค้างไม่ยอมมลายหาย และหวังว่าสักวันหนึ่งความรู้สึกนี้จะหมดไปจากจิตใจ

สักวันหนึ่ง...

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สามีใหม่ของฉัน สุดยอดน่าดูเลย

สามีใหม่ของฉัน สุดยอดน่าดูเลย

Thaddeus Shore
5.0

ทั้งเมืองรู้กันดีว่า หลังจากที่ลู่ซิงหลานถูกเปิดเผยว่าเป็นลูกสาวปลอม เธอก็ถูกสามีขับไล่ออกจากชีวิต พ่อแม่ก็ทอดทิ้ง พี่ชายก็รังเกียจ ครอบครัวของสามีตัดสินใจไล่เธอออกจากบ้านอย่างเด็ดขาด แต่ใครจะคิดว่าเธอกลับไปพึ่งพา ลี่จิ่งเหยียน ผู้ทรงอิทธิพลในวงการแทนในทันที ขณะที่ทุกคนรอให้ลี่จิ่งเหยียนถีบลู่ซิงหลานออกไปนั้น ลู่ซิงหลานก็เริ่มเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงอย่างใจเย็น มันมีแต่เรื่องที่ทำให้ประหลาดใจเท่านั้น แต่สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือบรรดาผู้ทรงอิทธิพลต้องคุกเข่าต่อหน้าเธอเป็นแถว สามีเก่าที่เป็นคนไม่ดีอยากกลับมาง้อขอคืนดี ลู่ซิงหลานก็จัดการเขาทิ้งทันที และกลับยิ้มให้สามีใหม่แล้วพูดว่า "ที่รัก คุณสามารถพึ่งพาฉันได้นะ" ใครจะคิดว่าลี่จิ่งเหยียนเองก็เป็น ผู้ทรงอิทธิพลไม่เบา พร้อมยิ้มแย้ม "แต่ที่รัก ผมอยากครองใจคุณมากกว่า" องค์กรระหว่างประเทศเพิ่งเผชิญกับสามเหตุการณ์สำคัญ หนึ่งคือการที่ลู่ซิงหลานหย่าร้าง สองคือการที่ลี่จิ่งเหยียนแต่งงาน และสามคือคู่รักที่มีตัวตนลับมากมายที่แกล้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อหลอกลวง ทั้งสองสมคบคิด ทำอะไรไม่ดี

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.8

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

แสงสว่าง ณ ทางแยกใหม่

แสงสว่าง ณ ทางแยกใหม่

Fritz Lagerquist
5.0

เจียงหยวนชอบเสิ่นตู้มาเป็นเวลาสี่ปี แม้จะต้องเผชิญความรังเกียจจากตระกูลเจียง แต่เธอก็ยังเลือกยืนหยัดเคียงข้างเขา กระทั่งวันหนึ่ง เสิ่นตู้เพื่อพี่สาวของเขา ยอมยกให้เธอไปมีอะไรกับคนอื่น ในที่สุด เธอถึงได้เข้าใจว่าคนที่ไม่ใช่ยังไงก็คือไม่ใช่ ในเมื่อไม่ใช่คนที่ใช่ งั้นเธอยอมตัดทิ้งแล้วกัน เธอหันไปให้ความสำคัญกับการทำงานจนกลายเป็นนางแบบระดับโลก ทำให้คนทั้งโลกตะลึง ผู้ชายที่ทำร้ายเธอรู้สึกเสียใจ“หยวนหยวน โลกของฉันขาดเธอไม่ได้ กลับมานะ” ตลกสิ้นดี ผู้ชายมันจะเทียบกับอาชีพการงานได้ที่ไหน ! ** เจี่ยงเฉินโจว ผู้นำของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหรงเฉิง เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเป็นคนแสนเย็นชา แต่อยู่ลับหลังกลับเป็นคนคลั่งรัก เขาชอบความงามของเจียงหยวน เห็นเธอเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่น่ารักและเชื่อง ต่อมา บนพรมแดงท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์ ชายผู้ก้าวลงจากเวทีคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าสาธารณะ“ถึงแม้จะไม่มีฐานะอะไร ฉันก็ยินยอม”

เรือนนี้ผีไม่หลอก

เรือนนี้ผีไม่หลอก

ฺBorbee
5.0

เรือนนี้ผีไม่หลอก : นามปากกา บ.บี อู่หลิงเยว่หญิงสาววัย 17 ปี ตายเพราะแผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 21 แต่ยังไม่ทันได้ผุดได้เกิด กลับตื่นขึ้นในร่างหญิงโบราณที่ชื่อแซ่เดียวกันท่ามกลางภาวะสงคราม โลกใหม่ที่นางมาเยือนคือแคว้นเหยียน ดินแดนที่เพิ่งถูกตีแตกและกำลังจะล่มสลาย นางไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน ไม่มีครอบครัวหลงเหลือ มีเพียง “ห้างสรรพสินค้าส่วนตัว” พร้อมระบบแลกแต้มที่ยังไม่เสถียร และกฎเหล็กข้อเดียว: จะใช้ของในห้างสรรพสินค้าได้ ต้องทำความดีเพื่อสะสมแต้ม! แต่ในยุคที่ผู้คนกำลังอดอยากและถูกไล่ล่าจากศัตรู หากนางเผลอหยิบเอาอาหารออกมาจากอากาศแล้วมีคนพบเห็นเข้า นางคงถูกตีตราว่าเป็นแม่มดนอกรีตเป็นแน่ เพื่อเอาตัวรอด อู่หลิงเยว่หนีเข้าเรือนร้างเก่าแก่ของตระกูลเกา เรือนที่คนทั้งหมู่บ้านร่ำลือว่ามีผีเฮี้ยน เพราะเจ้าของเรือนกับบ่าวไพร่สิบสองชีวิต เคยถูกฆ่าตายยกหลังในคืนเดียว นางจึง "แกล้งเป็นผี" แจกจ่ายข้าวของกลับไปเป็นข้าว ยา และของใช้ ชาวบ้านได้ของกินนางได้แต้ม ระบบได้ทำงาน วิน วิน!!! แต่เรื่องกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด... แม่ทัพเซี่ยโม่เหวิน นำทหารสามร้อยนายเข้ามาตั้งค่ายในหมู่บ้านหานเฉิง เพื่อดูแลชาวบ้านและทหารหนีตายจากทั่วสารทิศ เมื่อเขาค้นพบว่าองค์ชายแห่งแคว้นยังมีชีวิตอยู่พร้อมกองกำลังขนาดใหญ่ที่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการกอบกู้บ้านเมือง เขาจึงวางแผนพาชาวบ้านและทหารที่เหลือทั้งหมดไปรวมกำลังกับองค์ชาย ทว่า..ชาวบ้านกลับปฏิเสธ พวกเขาไม่เชื่อในกองทัพ แต่กลับเชื่อมั่นใน "ผีเรือนร้าง" ผีที่ไม่เคยหลอกใคร แต่แจกข้าว แจกยา และความหวัง เมื่อทางเลือกหมดลง..เซี่ยโม่เหวินจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีแม่ทัพคนใดเคยคิดจะทำมาก่อน เขาจะไปเชิญ “ผี” ร่วมเดินทางไปด้วย และสิ่งที่เขาได้พบในเรือนร้าง จะเปลี่ยนทุกอย่างที่เขาเคยเชื่อไปตลอดกาล

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ