นิลนารา เอกสกุล หญิงสาววัยเพียงแค่ยี่สิบปี หล่อนเดินทางมาจากเมืองไทยสู่ปารีส (Paris) เมืองใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส เพื่อมาทำงานส่งเงินกลับไปให้ทางบ้าน หล่อนทำงานในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า เดอริสโซ่ โฮเทล เป็นโรงแรมชื่อดังที่ดารานักแสดงฮอลลิวูดหลายต่อหลายคนต้องเข้ามาพักเมื่อยามเดินทางมาเยือนกรุงปารีส
หล่อนมาทำงานที่นี่ตามคำชักชวนของรุ่นพี่ในหมู่บ้านเดียวกัน ประกอบกับบริษัทที่ทำงานอยู่ปิดกิจการลงทำให้หล่อนไม่มีทางเลือก ต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาที่นี่เพื่อต่อสู้กับบททดสอบของชีวิตอีกครั้ง
สามเดือนผ่านไปอย่างเรียบง่าย เงินเดือนของหล่อนไม่ได้มากมายเมื่อเทียบกับคนที่นี่ แต่เพราะค่าเงินที่แพงกว่ากันหลายสิบเท่า ทำให้เม็ดเงินที่ส่งกลับไปยังครอบครัวมีค่ามหาศาล หล่อนตั้งใจจะทำงานที่นี่จนกว่าจะสามารถส่งเงินไปปลดหนี้ให้กับครอบครัว ไถ่ที่นาออกจากนายทุน มีเงินส่งน้องๆ เรียนหนังสือสูงๆ และรวมถึงมีเงินเก็บก้อนเล็กๆ สักก้อนสำหรับเปิดร้านเบเกอรี่ที่ตัวเองใฝ่ฝัน จึงจะเดินทางกลับเมืองไทย แม้ว่าจะไม่รู้อนาคตในวันข้างหน้าว่าจะเป็นเช่นไร แต่หล่อนก็เลือกที่จะทำทุกวันให้ดีที่สุด
หญิงสาวระบายยิ้มบางๆ ออกมา ตัดสินใจลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก้มลงมองสำรวจชุดทำงานของตัวเองอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยแล้ว จึงเดินออกไปนอกห้อง
“ไปทำงานแต่เช้าอีกแล้วนะยายปลานิล”
เสียงทักทายของจารุมาศ หรือจา รุ่นพี่ที่เป็นคนชักชวนหล่อนมาทำงานที่ปารีสดังขึ้น หล่อนระบายให้กับผู้มีพระคุณ
“ไม่เช้าเท่าไหร่หรอกค่ะพี่จา ว่าแต่พี่จาให้นิลรอไหมคะ”
เมื่อเห็นว่าจารุมาศยังอยู่ในชุดนอน หล่อนจึงอดที่จะเอ่ยปากไม่ได้
“วันนี้พี่ลาน่ะ”
สีหน้าของจารุมาศเคร่งเครียดขึ้นจนหล่อนสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน
“พี่จาเป็นอะไรไปคะ หน้าดูไม่ค่อยดีเลย”
จารุมาศมองหล่อน ก่อนจะถอนใจออกมาแรงๆ ความเคร่งเครียดยังเกาะติดอยู่ในดวงตาของคนพูดตลอดเวลา
“แม่พี่ป่วยหนักน่ะ ต้องใช้เงินมาก”
“ป้าเป็นอะไรคะ ก่อนเรามายังดีๆ อยู่เลย”
นิลนาราอุทานตกใจ ในขณะที่จารุมาศหน้าตาไม่สู้ดีนัก
“แม่หกล้มน่ะ หัวฟาดพื้นเมื่อวาน พ่อโทรมาบอกกับพี่เมื่อคืนนี้”
“แล้วป้าเป็นยังไงบ้างคะ” หล่อนถามอย่างเป็นห่วง
“ตอนนี้อยู่ในห้องไอซียูนะ แต่ไม่รู้ว่าต้องมีผ่าตัดอีกรอบหรือเปล่า เห็นพ่อบอกว่าแม่ยังมีเลือดคั่งอยู่ในสมองอยู่อีก ยังเอาออกไม่หมด”
นิลนาราใจหายไม่น้อย “นิลขอให้ป้าปลอดภัยนะคะ ขอให้คุณพระคุ้มครอง”
“ขอบใจนะ แต่คุณพระคงช่วยอะไรแม่พี่ไม่ได้หรอก หากไม่มีเงินน่ะ”
นิลนารายิ้มบางๆ อย่างเห็นด้วยกับคำพูดของคู่สนทนา
ถ้าไม่มีเงิน ทุกอย่างก็จบ...
เงินไม่ได้สำคัญที่สุด แต่ถ้าไม่มีเงินก็คงไม่สามารถมีชีวิตบนโลกใบนี้ได้ เพราะอย่างนี้ไง หล่อนถึงต้องดั้นด้นมาทำงานถึงที่ปารีส
“แล้วนี่พี่จาจะกลับเมืองไทยไหมคะ”
“จะเดินทางค่ำนี้แหละ”
“นิลอยากไปเยี่ยมป้าจัง แต่ทำงานไม่ถึงปีคงยังลาไม่ได้ ฝากความเป็นห่วงให้ป้าด้วยนะคะพี่จา”
“ขอบใจจ้ะ”
“งั้นนิล ไปทำงานก่อนนะคะ”