อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก
เจ็บแต่ไม่ยอมปล่อยมือ
ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย
ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง
เมียผมน่ารักจัง
เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ
โชคชะตาของพระชายา
ผู้บัญชาการรักซ้อนแค้น
คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว
เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ
ศกุนตลาวางจดหมายที่ป้องเขตฝากเอาไว้ลงบนเตียง หลังกลับจากโรงพยาบาล วันนี้เธอเข้ารับการตรวจสุขภาพเพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายสำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว โดยการดูแลของนายแพทย์ธนานนท์อย่างใกล้ชิด และเป็นบุคคลที่ป้องเขตฝากจดหมายของเขาเอาไว้ นายแพทย์ธนานนท์ บวรกิจ เป็นสูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านแผนกมีบุตรยากประจำโรงพยาบาลชื่อดัง และยังเป็นเพื่อนสนิทของป้องเขต
หญิงสาวอ่านทวนมานับสิบรอบจนสามารถจดจำทุกตัวอักษรและสลักจารึกลงในหัวใจ ทุกถ้อยคำล้วนกรีดแทงให้เจ็บช้ำ เหยียบย่ำราวกับเธอไม่มีชีวิตและหัวใจ ทั้งที่เขาไม่เคยรู้จักเธอด้วยซ้ำ
สองครากับความรู้สึกแบบนี้ ครั้งแรกที่ได้ยินจากปากของเขา เธอก็คิดว่าเขาเป็นผู้ชายปากร้ายพอสมควร แต่ก็ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะใจร้ายมากเพียงนี้ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนเป็นวันที่เธอจะจดจำเอาไว้ตลอดชีวิต หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ผ่านมาอีกหนึ่งสัปดาห์เขาก็หนีงานแต่งงานและทิ้งความอับอายเอาไว้ให้เธอ แต่ยังดีที่นางวรากุลสามารถแก้ไขสถานการณ์กู้หน้าของเธอเอาไว้ได้ทัน
มาวันนี้เขาก็มาตอกย้ำความรู้สึกย่ำแย่ของเธออีกหนผ่านข้อความสั้นๆ ในจดหมาย ในนั้นมีข้อกำหนดระบุถึงขอบเขตอย่างละเอียดชัดเจน อีกทั้งยังมีหนังสือสัญญาระหว่างเธอกับเขาแนบมาในซอง พร้อมชื่อที่อยู่สำหรับติดต่อทนายความและตราประทับของสำนักงานกฎหมายชื่อดัง
เขาป้องกันทุกอย่างเอาไว้อย่างครบถ้วน สอดรับกับข้อความและคำพูดของเขาเมื่อครั้งก่อนว่าเธอเป็นผู้หญิงหิวเงิน เอาตัวเข้าแลก เพื่อต้องการทรัพย์สมบัติของเขาเท่านั้น
โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าศกุนตลาก็คิดไม่แตกต่างจากเขา แต่เธอจำยอมเพราะคำขอร้องและคำว่ากตัญญูเท่านั้น
“ฉันจะฝังทุกตัวอักษรของคุณเอาไว้ในหัวใจ จะไม่มีวันเป็นเหมือนอย่างที่คุณพูดเด็ดขาด” หญิงสาวบอกกับจดหมายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ยิน แต่เธอคิดว่านี่คือคำสัญญาและเธอจะรักษาสัจจะของตัวเอง
ตามความต้องการของเจ้าของสเปิร์มที่ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน นายแพทย์ธนานนท์ บวรกิจ เป็นแพทย์เจ้าของไข้ของศกุนตลา พร้อมกับระบุรายละเอียดชัดเจนว่าเขาต้องการเพียงทายาทโดยไร้ข้อผูกมัดใดๆ กับเธอทั้งสิ้น เธอไม่มีสิทธิ์ในตัวเด็กหลังจากเธอคลอดบุตรออกมา พร้อมกับข้อตกลงอีกหลายรายการแนบท้าย
หญิงสาวไม่สามารถคัดค้าน เพราะเธอเองก็ตกปากรับคำกับมารดาของเขาเรียบร้อย เมื่อเป็นอย่างนั้นหญิงสาวก็ไม่อยากปล่อยเวลาออกไปให้เนิ่นนาน เธอเข้ารับการตรวจในทันที แต่ถึงอย่างนั้นก็มีขั้นตอนทางการแพทย์และการตรวจเช็กร่างกายเป็นเวลาเกือบสามเดือนทีเดียว
ทุกอย่างระบุเอาไว้ เจ้าของสเปิร์มเลือกใช้วิธีการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย หรือที่เรียกกันเป็นภาษาอังกฤษสั้นๆ ว่า IVF (In-vitro Fertilization) เพื่อความสะดวกเพราะเป็นการนำไข่และสเปิร์มมาทำการปฏิสนธิภายนอกร่างกายในห้องปฏิบัติการ จากนั้นจึงจะนำไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิแล้ว (ตัวอ่อน) ย้ายกลับเข้าไปในมดลูกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ เพื่อความแน่ใจในการเลือกเพศบุตร
ร่างกายของศกุนตลาสมบูรณ์แข็งแรงและมีความพร้อมที่จะมีบุตร สามารถใช้วิธีการผสมเทียมวิธีอื่นได้ แต่เพราะนางวรากุลต้องการเลือกเพศเพราะอยากได้หลานชายไว้สืบสกุล ศกุนตลาไม่อยากเสี่ยงเพราะข้อตกลงที่กำหนดเอาไว้คือต้องมีหลานชายให้นาง วิธีการนี้จึงเป็นวิธีการที่ลงตัวและยินยอมพร้อมใจกันมากที่สุด
ศกุนตลามานอนรอบนเตียงของโรงพยาบาลในเวลาต่อมา หลังจากตรวจเช็กความพร้อมของร่างกายและผ่านขั้นตอนการดูแลสุขภาพมาครบทุกขั้นตอน แม้ว่าข้างเตียงจะมีมารดาและนางวรากุลมาให้กำลังใจ แต่ในแววตาของเธอมีความวิตกกังวล ทั้งกลัวและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน หญิงสาวสูดลมหายใจและถอนหายใจอยู่หลายครั้งจนนางวรากุลสังเกตเห็น
มืออันเหี่ยวย่นวางทับบนหลังมือของหญิงสาวและบีบเบาๆ อย่างปลอบโยน แววตาของนางเปี่ยมไปด้วยความหวังกับรอยยิ้มที่เกิดขึ้นบนใบหน้า
“มือเย็นเฉียบเชียว ไม่ต้องกังวลนะลูก” หลังจากผ่านพ้นพิธีการแต่งงาน แม้จะไม่ใช่พิธีการที่เกิดขึ้นจริง แต่นางก็เปลี่ยนสรรพนามเรียกขานระหว่างนางกับหญิงสาวทันที
หญิงสาวส่งยิ้มแห้งๆ ยกมืออีกข้างของเธอวางทับบนมือของนางวรากุล ตอบรับเบาๆ
“ค่ะ” ความกลัวเป็นส่วนหนึ่ง ความอายก็มีส่วนอยู่มาก เพราะศกุนตลายังอยู่ในวัยสาวซึ่งยังไม่มีสามี แต่กลับต้องให้ชายหนุ่มเห็นอวัยวะบางอย่าง แม้จะรู้ว่าเขาเป็นแพทย์ แต่เธอก็ยังรู้สึกอายอยู่ดี
เริ่มจากการตรวจภายในครั้งนั้น ซึ่งเธอก็ยังอายไม่หาย แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติในทางการแพทย์ที่ผู้หญิงทุกคนต้องตรวจในช่วงเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ก็ตาม
เธอเองก็ไม่สามารถเลือกหมอได้ เพราะทุกอย่างถูกระบุเอาไว้ชัดเจนหลังจากที่เจ้าของสเปิร์มได้ฝากไว้ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ และได้ระบุชื่อแพทย์เจ้าของไข้ไว้ชัดเจน เธอได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าไม่ใช่เธอคนเดียวที่ต้องเจอเรื่องราวน่าอับอายแบบนี้ ผู้หญิงทุกคนก็ต้องเจอทั้งนั้น