Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ดอกไม้สีเขียวของมาเฟีย l YAOI

ดอกไม้สีเขียวของมาเฟีย l YAOI

ElGSi

5.0
ความคิดเห็น
1.3K
ชม
15
บท

“เจ้าชายผู้สง่างาม ซ่อนความเร่าร้อนไว้ใต้รอยยิ้ม” “มาเฟียผู้โหดเหี้ยม กลับอ่อนโยนเพียงกับเจ้าชายในคราบเจ้าสาว” “รักต้องห้ามที่ผลิบาน ท่ามกลางไฟสงครามและเงาดำของอำนาจ” “เมื่อรัชทายาทผู้เลอโฉม ต้องสลับตัวกับเจ้าสาวมาเฟีย ชะตากรรมของทั้งคู่จึงพลิกผัน” “หนึ่งคือเจ้าชายผู้เรียบร้อย อีกหนึ่งคือมาเฟียผู้โหดเหี้ยม รักครั้งนี้จะเป็นไปได้หรือไม่?” “ติดตามเรื่องราวความรักสุดอลหม่าน ชวนให้ลุ้นระทึก ไปพร้อมกับความฟินจิกหมอน ใน ‘ดอกไม้สีเขียวของมาเฟีย’”

บทที่ 1 จุดเริ่มต้น

Prologue

งานรื่นเริงที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก เพราะสถานที่จัดงานไม่ใช่สถานที่ที่ตาสีตาสาจะเข้ามาวิ่งเล่นได้ ต่อให้มีเงินเป็นแสนล้านก็ถูกโยนออกไปได้ง่ายๆ

วงออร์เคสตรามือหนึ่งกำลังบรรเลงเพลงแจ๊ซพอให้ได้เต้นรำหรือขยับตัวเล็กน้อย แสงไฟสว่างทำให้เห็นความหรูหราของเครื่องใช้และสถานที่ระดับลักชัวรี่ที่ประดับตกแต่งด้วยสีเขียวอ่อน ผู้คนที่มียศถาบรรดาศักดิ์ทั้งหญิงชายแต่งกายด้วยชุดสูทชุดราตรีสีไข่ไก่และสีใบตอง

ห้องโถงโอ่อ่าตามแบบพระราชวังตะวันตก ตามพนังมีตราสัญลักษณ์ ธงชาติสีเขียวล้วนมีรูปหนังสือกางออกสีน้ำตาลตรงกลางเป็นเครื่องแสดงเอกราชของ 'รัฐชรัล’

“เราขอขอบใจพวกท่านทั้งหลายที่พร้อมใจกันมาเพื่อต้อนรับเราในวันนี้…” เจ้าของเสียงนุ่มถือไมค์โครโฟนด้วยท่าทีสง่างามสมกับที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

บันไดวนที่มีทางแยกสองทางด้านบน จุดดึงดูดสายตาติดป้ายต้อนรับการกลับมาขององค์รัชทายาทจากอังกฤษ ณ จุดกึ่งกลางบันไดปรากฏร่างเจ้าของผมดำเงา ระดับความยาวเหนือใบหู ดวงตาเล็กแบบคนจีนสีดำประกาย จมูกเล็กที่ไม่ค่อยมีสันแต่ก็รับกับใบหน้ารูปไข่ได้อย่างเหมาะเจาะ ปากจิ้มลิ้มสีเชอร์รี่ที่เป็นทรงเด่นชัด ผิวขาวเนียนละเอียดอมชมพูราวกับกินคอลลาเจนแทนข้าวเป็นอาหารหลัก เสื้อผ้าแบรนด์เนมสไตล์เจ้าชายที่ถูกตัดเย็บมาเป็นอย่างดีทั้งเสื้อเชิ้ตด้านในสีครีมขาวและเสื้อกั๊กตัวนอกสีตองอ่อน กางเกงทรงกระบอกสีนวลที่ถูกรีดให้เรียบจนขึ้นเส้น กับรองเท้าขาวขัดเงา และนาฬิกาข้อมือเรือนหลายร้อยล้าน บ่งบอกว่าผู้สวมใส่ไม่ธรรมดา

“ขอให้ทุกท่าน…” องค์รัชทายาทพูดไปยิ้มไปเห็นฟันขาวเรียงสวย สะกดทุกสายตา

“เจ้าชาย!!!” เสียงแหลมของแขกสาวนิรนามที่ยืนมองอยู่ด้านล่าง ตะโกนโพล่งขึ้นมากลางวง ไม่สนใจว่าเจ้าของงานจะกล่าวจบไหม

กึก!

บรรยากาศอันน่าภิรมย์ในงานเลี้ยง แปรเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจ ทหารและองครักษ์น้อยใหญ่โดยรอบ จับจ้องเจ้าของเสียงแผดแหลมเป็นตาเดียว

“ไม่สิ องค์รัชทายาท ‘กรีน’ ...” สาววัยกลางคนในชุดราตรีขาว รอยยิ้มแสยะร้ายยกขึ้นเหนือริมฝีปากแดง

…………………..

กรีน พาร์ท

“เราขอขอบใจพวกท่านทั้งหลายที่พร้อมใจกันมาเพื่อต้อนรับเราในวันนี้…”

บทพูดเดิมๆย้ำๆที่หลับตาเอ่ยร้อยรอบก็เหมือนเดิมเป๊ะๆ ผมส่งยิ้มการเมืองกระจายไปในอากาศอย่างทั่วถึง สายตาและบรรยากาศอันน่าอึกอัดและสะอิดสะเอียดที่ต้องเห็นจากเหล่าขุนนางพวกนี้ช่างไร้ประโยชน์

ผู้รากมากดีที่วันวันเอาแต่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล พวกนั้นมองมาอย่างชื่นชมราวกับผมกำลังยิงฟ้ายิงตะวันให้พวกเขาดูอย่างนั้นแหละ

ผมจับไมค์โครโฟนในมือมั่น พูดฉะฉานไร้ซึ่งอาการประหม่าใด จนสามารถกล่าวได้ว่า ง่ายเหมือนปอกกล้วย ก็นะ...ผมเรียนวิชาบุคลิกภาพกับวิชาภาษา บ่อยกว่าวิชาเช็ดก้นอย่างวิชาบริหารเสียอีก

.

.

.

8ปีที่แล้ว...

“หลังตรงเพคะ”

คุณนายท่านทูตที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระราชาให้เป็นคนสอนวิชาบุคลิกภาพทำหน้าที่ได้ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ตั้งแต่ผมอายุได้ 8 ปี ถึงตอนนี้ จนได้ฉายาว่า...

"ยัยป้าโหด" ผมบ่นพึมพำ หลังจากที่ถูกฝึกมากว่าสองชั่วโมง

"องค์ชายตรัสว่ากระไรนะเพคะ"

"..."ยิ้มน้อยๆ แล้วส่ายหัวด้วยสีหน้าเด็กน้อยใสซื่อ

"หลังตรงเพคะ"

“ครับ” หน้าเชิด ยืดหลังยืนตรง แววตามุ่งมั่นสะท้อนผ่านตาคมในกระจกบานใหญ่

“ยิ้มมากกว่านี้เพคะ รอยยิ้มห้ามตกเพคะ”

ยัยป้าโหดยืนซ้อนหลังมองผมฝึกกล่าวปราศรัยที่สะท้อนผ่านกระจกเงาในห้องซ้อมส่วนพระองค์

“ครับ”

ฟุ่บ!

“เฮ้อ…”

ผมในวัยสิบสี่ทรุดลงไปนอนกองกับพื้นไม้ทันทีที่ยัยป้าโหดปิดประตูเดินออกจากห้องไป ใบหน้าแสดงอาการเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ทว่าแม้จะอยากต่อต้านไปก็เปล่าประโยชน์ อะไรที่ต้องทำเพื่อมีชีวิตรอดก็ต้องทำ…

“ถ้าเสด็จพ่อผิดหวังคงสั่งขังให้อดอาหารอีกแน่ วิชาบุคลิกภาพจบตอนบ่ายสอง วิชากฎหมายตอน สี่โมงเย็น งั้นก็แปลว่า…”

ผมผุดความคิดดีๆ ตาเป็นประกายราวกับสีหน้าเหนื่อยล้าไม่เคยปรากฏมาก่อน เรี่ยวแรงที่น่าจะหมดไปแล้ว กลับเต็มเปี่ยม แขนทั้งสองหยัดพื้นลุกขึ้นวิ่งออกไปจากห้องด้วยความเร็วแสง แต่ก็ไม่วายคอยสอดส่องซ้ายขวาไม่ให้มีใครเห็น

หมับ!

ผมวิ่งหอบหลบหลังเสาปูนต้นใหญ่ แอบมองสถานการณ์ที่ลานกว้างกลางแดดตาเป็นประกาย ชายฉกรรจ์ สิบสองคน กำลังส่งเสียงอย่างห้าวหาญ ไม่มีอาการต้องการจิบชามะนาวสักนิด

“ทุกคนจับคู่สอง ฝึกด้วยดาบจริง ใครแพ้หรือมีรอยขีดข่วน งดข้าวเย็น!” ครูฝึกตะโกน

“รับทราบครับ!” เหล่าองครักษ์ตอบรับเสียงแน่น ก่อนจะแยกกันไปฝึกตามคำสั่ง

"หึหึ เรียนที่นี่จริงๆ ด้วย เรานี่จำแม่นจริง นั่นไง...สมกับที่เราแอบตั้งฉายาให้ว่าครูฝึกตุ๊ต๊ะ ขนาดสอนฟันดาบ ไขมันรอบเอวยังออกมาวิ่งเล่นเลย ฮ่าๆ" ทำสีหน้าสิ้นหวัง "ว่าแต่...เราจะมีโอกาสได้เรียนวิชาพวกนี้บ้างไหมน้า~"

ผมจำตารางเรียนต่อสู้กับฟันดาบของพวกองครักษ์ได้แม่นเสียยิ่งกว่ากฎหมายกับข้อมารยาทเสียอีก ถ้าวันไหนว่างแว็บได้สักครึ่งชั่วโมง ผมไม่มีทางพลาดแน่นอน

ผมเองก็อยากเรียนฟันดาบบ้างจังเลย อย่างเท่!

แต่แล้วทุกอย่างในวันวานก็เปลี่ยนไป…

.

.

.

“ขอให้ทุกท่าน…”

ผมเพิ่งบินกลับมาจากอังกฤษหลังเสร็จพิธีรับปริญญา ไม่กี่ชั่วโมง ก็ต้องถ่อมาปั้นหน้าในงานเลี้ยง มิน่าล่ะ เจ้าน้องชายที่จะเรียนจบปีหน้ามันถึงทิ้งท้ายคำลาว่า โชคดีนะพี่

ผมมองบรรยากาศในงานและผู้คนแปลกหน้าเกินครึ่งที่ไม่ได้รู้จักมักจี่แต่อย่างใด

มาทำไมกันก็ไม่รู้ ไม่เห็นรู้จักสักคน มาเดินลอยหน้าลอยตาเป็นงานรับถุงยังชีพไปได้

ผมเก็บอารมณ์ไว้ในใจเหมือนการเข้าสังคมทุกครั้ง แค่ยิ้มตามที่เรียนมา พูดจาตามมารยาท ต้อนรับและเฟรนลี่กับทุกคน แค่นี้ก็เรียบร้อย

เอ๊ะ...ทำไมตาขวากระตุกถี่ๆ

กึก!

“เจ้าชายกรีน!"

ว่าแล้วว่าทำไมตาขวากระตุกดิ้กๆ

หญิงสาวในชุดราตรีสีไข่ไก่ แต่กระเป๋าที่มือขวากำลังถืออยู่สีแดงสด ราวกับไม่ได้อ่านไลน์กลุ่มกำลังมองซ้ายมองขวาอย่างภูมิอกภูมิใจ

ผมหยุดพูดสคริปต์ที่ท่องมาเพียงเท่านั้นแล้วหันมองคนอยากได้ซีนอย่างตั้งใจ

"ไม่สิ…ตอนนี้องค์รัชทายาทกรีนก็จบการปกครองจากอังกฤษแล้ว องค์รัชทายาทมีแพลนจะทำสิ่งใดต่อไปหรือเพคะ คงไม่ได้จะไปเข้าพวกกับไอ้ชั้นต่ำใช่ไหมเพคะ”

ผมยิ้มสงบอย่างเป็นมิตร รับฟังอย่างผู้ดีมีมารยาทดีเลิศ ไม่แย่งพูด ไม่โต้แย้ง รับฟังอย่างใจเย็น แม้จะแอบจิกนิ้วโป้งตัวเองอยู่ก็ตาม

ยัยป้า ยัยมนุษย์ป้า เบ้าหน้าอย่างกับขูดแป้งทั้งโลกไปพอกไว้ แต่งตัวไม่เหมาะกับวัยเลยนะป้า คิดว่าตัวเองเป็นสาวสวยเหรอ แล้วปากกับมารยาทแย่ๆ นั่นน่ะ รับหมัดซ้ายกับหมัดขวาเป็นการสั่งสอนหน่อยไหม เผื่อนิสัยจะดีขึ้น

“ท่านพ่อของพระองค์เป็นผู้ปกครองที่แสนสง่า สุภาพ และอ่อนโยน ทักษะการทูตและการเจรจาของท่านล้วนเป็นที่กล่าวขาน ทำให้รัฐของเราเข้าสู่ยุคทองจนถึงบัดนี้ ไอ้พวกชั้นต่ำนั่น…”

ยิ้มฟังต่อไป ผู้คนในงานหันมามองหน้าผมเป็นระยะ คงหมายจะให้ผมแสดงอารมณ์โกรธเกรี้ยวไม่พอใจออกไป แต่เสียใจด้วย ผมไม่หลุดคาแรกเตอร์แน่นอน แม้ว่า…

หน็อยยัยป้า กล้าเอ่ยถึงเสด็จพ่อ ป้าเคยทำอะไรให้ประเทศบ้าง โมโห! สีปากนั่นน่ะ แดงน้อยไปไหม อยากให้แดงเลือดข้างในด้วยหรือเปล่า ผมช่วยได้นะป้า

ยิ้ม.

“องค์รัชทายาทคงไม่ใช่ว่า จะขึ้นครองบัลลังก์เพียงเพราะเกิดก่อน เจ้าชายเดย์ผู้น้องอย่างที่ร่ำลือใช่หรือไม่”

ผมยิ้มส่งให้หญิงสาวที่กล้าเสียมารยาทราวกับมันเป็นคำถามสุดแสนธรรมดา แม้ว่าในใจ…

ป้า! เข้างานมาได้ไงเนี่ย สาบานไหมว่าใช้ปากพูด แหม กล้าที่จะบอกว่าผมเป็นรัชทายาทเพราะเกิดก่อน ป้าละเป็นขุนนางเพราะเอาอะไรไต่มา เพราะดูแล้วเต้าป้าไม่น่าจะไต่ได้นะ ยานขนาดนั้น.... ผมมีบริการช่วยทำนมโดยไม่ต้องไปหาหมอนะ เตะสักปาบ ซ้ำด้วยปืนอีกสักสองนัด ก่อนเกิดใหม่ป้าปัดซ้ายปัดขวาเลือกเอาเลยว่าอยากได้นมไซซ์ไหน

“หรือเพราะข่าวลือนั่น! พวกชั้นต่ำ”

พวกชั้นต่ำที่ยัยป้านี่เอาแต่พล่ามมาตั้งแต่เมื่อกี้ก็คือพวกกลุ่มคนที่มีอิทธิพลมืดในข่าวลือ ว่ากันว่ากลุ่มคนพวกนี้เกิดขึ้นมาเพราะการหนุนหลังของผม…ไร้สาระ!

“เราขอขอบคุณในความเสียสละและความรักชาติทุกลมหายใจของท่าน ขอให้ทุกท่านชื่นชมคุณผู้หญิงท่านนี้เช่นเดียวกับเรา สำหรับคำตอบของข้อนี้ เราเองก็รักรัฐชรัลเช่นเดียวกับท่าน เสด็จพ่อเป็นผู้ปรีชาและนอบน้อม แลพระองค์ก็มีทักษะการเจรจาหาผู้ใดเทียบ เราสัญญาด้วยเกียรติของเราว่า นับจากท่านพ่อลงมา เรา…เป็นผู้ถวายทุกลมหายใจเพื่อให้รัฐชรัลไปสู่สิ่งที่ดีกว่ายุคทอง นั่นคือ อิสระบนความมั่นคง”

แปะๆๆๆๆ

เสียงปรบมือจากแขกในงานดังเกรียวกราว สีหน้าของคนถามดูจะออกไปในทางผิดหวังก่อนจะเดินโทงๆ ออกจากงาน ผมมองเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรจากด้านบน

ผมย้ำกับตัวเองว่าต้องคีพลุคไว้จนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่ผมได้เป็นพระราชา ห้ามให้ใครจับได้ว่า ผมชอบยิงปืนหรือต่อสู้มากว่าวิชานักการทูต ผมต้องยิ้มรับนิ่งสงบกับทุกสถานการณ์ และตอบกลับอย่างสุภาพที่สุด รวมถึง…อยู่ให้ไกลข่าวลือไร้สาระที่กระพือปีกแบบไม่มีมูลพวกนั้น!

“วันนี้องค์รัชทายาทแก้สถานการณ์ได้ยอดเยี่ยมมากพะยะค่ะ” หลังลงจากกล่าวเปิดพิธี องครักษ์ส่วนพระองค์ก็เข้าประกบด้านข้าง

“ขอบใจนนท์”

“ผู้หญิงเมื่อสักครู่ นางเกี่ยวข้องกับวงการมาเฟีย หากครั้งหน้ามีเหตุพบเจอ พระองค์ทรงระวังให้มากนะพะยะค่ะ”

“มาเฟียเหรอ”

“พระเจ้าค่ะ พวกมาเฟียทำทุกอย่างนอกกฎหมาย ไม่สนใจขนมประเพณีหรือวิธีการ ในรัฐของเรามีกลุ่มมาเฟียใหญ่ใช้สัญลักษณ์เป็นรูปงูคาบดอกกุหลาบ เป็นพวกชอบบงการทุกอย่างตามอำเภอใจพะยะค่ะ”

“อืม เราไม่เข้าไปยุ่งหรอก” เดินหนี

มาเฟีย…คำๆนี้เป็นทั้งคำที่ทรงเกียรติและเลวร้ายสำหรับผม ตอนอายุ8ขวบ ผมจำได้ว่าถูกคนร้ายเข้ามาลอบสังหารถึงในวัง พวกมันถูกตั้งรหัสว่าเป็น พวกมาเฟียการเมือง โชคดีที่มีคนมาช่วยเอาไว้ เข้าแต่ตัวในชุดเครื่องแบบองค์รักษ์ ทว่ากลับยังเป็นเด็กคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น

“ปลอดภัยแล้วนะ” เด็กชายตัวโตพาเขามาหลบกระสุนหลังเสาต้นใหญ่ ก่อนจะพยายามล่อพวกคนร้ายไปอีกทาง

“เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งไป เธอชื่ออะไร”

“มาเฟียไม่เผยตัวกับคนแปลกหน้าหรอกพะยะค่ะ”

มาเฟีย?

นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนที่แผ่นหลังอันกล้าหาญนั่นจะวิ่งหายลับตาไป

แม้ว่าหลังจากกลายเป็นรัชทายาทแล้วจะใช้อำนาจที่มีตามหาคนคนนั้นเท่าไหร่ก็ไม่พบเจอ ราวกับว่าหายไปจากโลกนี้โดยสมบูรณ์

ทหารคนที่ช่วยผมเอาไว้ตอนนั้น ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

.........................................

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

ผมเดินมาเข้าห้องน้ำที่ดูโล่งราวกับไม่เปิดใช้บริการ หลังเสร็จกิจก็กดปั๊มน้ำโถสุขภัณฑ์ให้เรียบร้อยก่อนจะเอ่ยระบายอย่างอดรนทนไม่ไหว

“โอ๊ย เบื่อ เหนื่อย อยากยิงปืนอ่า! ยัยป้าปากแดงนั่นน่าหงุดหงิดชะมัด อยากจะจับมาเป็นเป้าซ้อมยิงปืนไม่ก็กระสอบทรายจริงๆ อย่าโลกสวยได้ไหม อิสรภาพบ้าบออะไร ตัวผมเองยังไม่มีเลยเหอะ ไม่เอียนตายเพราะปั้นหน้าเข้าสังคมก็เก่งแล้ว ถ้าไม่ต้องเป็นคิงคนต่อไปจะต้องมาทนกับยัยป้ามหาภัยแบบวันนี้ไหมห้ะ!” บ่นเสร็จก็เปิดประตูออกจากห้องสุขา

!!!

“เธอ!”

“เอ่อ….องค์รัชทายาท ขะ...ขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉันไม่ทราบว่าพระองค์จะทรงโปรดการใช้ห้องน้ำสตรี” ก้มหน้าก้มตาเอ่ยเสียงแผ่ว

ห้องน้ำสตรี!

ผมมองซ้ายขวา พอเห็นว่า ไม่มีโถปัสสาวะของผู้ชายก็แน่ใจแล้วว่า….

ตายแล้ว!!

อยากยิงตัวเองตายเดี๋ยวนี้จริงๆ

ผมหันกลับไปมองใบหน้าหญิงสาวพยายามสังเกตให้ชัดว่านางเป็นลูกหลานขุนนางท่านใด เพราะเธอดวงถึงฆาตแล้วที่มาได้ยินความลับของผม จะปล่อยให้แผนทุกอย่างพังไม่ได้ ต้องจัดการหล่อนซะ!

ถึงจะรู้ว่าคนที่เข้ามาที่นี่ได้ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา และหญิงสาวตรงหน้าก็คงเป็นบุคคลสำคัญ แต่ปัญหาที่จะตามมาหลังจากที่หล่อนหายไปกับปัญหาหลังจากที่หล่อนไม่หายไป มองไปทางไหนก็ร้ายแรงไม่แพ้กัน

เดี๋ยวนะ

“พาย...พายใช่ไหม พายที่เคยมาเล่นกับเราตอนเด็กๆ ใช่ไหม”

“เพคะ”

ให้ตายเถอะ ทำไมต้องเป็นตอนนี้ ทำไมต้องเป็นคนคนนี้ด้วย ขืนเป็นแบบนี้ผมจะทำอะไรได้

'พาย' เพื่อนเล่นคนเดียวในวัยเยาว์ของผมที่หายไปหลังจากพี่เลี้ยงไปกราบทูลเสด็จพ่อว่าพายชวนผมปีนต้นมะม่วงในเขตพระราชฐาน

หมับ!

“พระองค์ พระองค์กอดหม่อมฉันไม่ได้นะเพคะ หากมีใครเห็น…”

“พายเป็นไงบ้าง เราคิดถึงพายมากเลย ตอนนั้นเราแค่ปีนต้นไม้กันเอง ไม่คิดว่าเธอจะโดนเสด็จพ่อลงโทษ” ผมผละกอดจับไหล่เธอไว้ พอเห็นสีหน้าที่เศร้าสร้อยของอีกฝ่ายจึงถามต่อ “พายเป็นอะไรหรือเปล่า ไม่ดีใจที่เจอเราเหรอ”

ส่ายหัว "ดีใจเพคะ เพียงแต่..."

"แต่..."

“หม่อมฉันกำลังจะแต่งงานกับท่านฮวาเพคะ"

แต่งงาน!! รักแรกของผมกำลังจะแต่งงาน..

ไม่เจอกันตั้งนาน เจอทั้งทีก็จะมีข่าวดีซะงั้น แต่....ทำไมเจ้าสาวดูเศร้าจังเลย บอกว่าเจ้าบ่าวตายหรือเป็นขันทีโดนตัดจู๋ยังดูโอเคกว่า

“ฮวา ชื่อดีนี่ เธอ…ไม่ชอบเขาเหรอ” พายส่ายหัว

“การแต่งงานของหม่อมฉันเพียงเป็นการเปิดทางให้งานของคุณพ่อ หม่อมฉันมิอาจมอบหัวใจให้ชายใดได้หรอกเพคะ โดยเฉพาะพวกนอกกฎหมายเช่นนั้น” สีหน้าของพายเศร้าสร้อยราวกับขายวิญญาณให้ปีศาจไปแล้ว

ชีวิตของผู้หญิงแต่งงานออกไปก็เหมือนเป็นสมบัติของสามี ยิ่งชนชั้นแบบหล่อน แน่นอนว่าถึงตายก็อย่าร้างไม่ได้ ทั้งที่พายเป็นเพื่อนคนเดียวของผม แต่ตอนนี้่ผมกลับได้แต่เห็นเพื่อนกระโดดลงเหวที่ไม่รู้ว่าลึกแค่ไหน จริงอยู่ที่แม้แต่ตัวผมเอง การเลือกคู่ครองก็ไม่มีทางได้ใช้หัวใจตัดสิน ตามกฎของราชวงศ์แล้วผมเป็นแค่ตุ๊กตาที่ต้องทำตามคำสั่ง แต่ว่า…

ถ้าจะต้องเห็นคนใจดีอย่างเพื่อนสมัยเด็กคนนี้ไปตาย…ผมจะฉีกกฎบ้าๆนั่นซะ ยืนกำหมัดแน่นก่อนจะจับไหล่บางทั้งสองเอ่ย

“พาย…” ผมเม้มปาก ตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง “ถ้างั้น...เราจะแต่งงานแทนพายเอง”

“...” พายเงยหน้ามองอย่างไม่เข้าใจ

“เราจะเป็นเจ้าสาวให้เอง พายไม่ต้องกลัวนะ”

ใบหน้าของหญิงสาวที่เป็นรักแรก รอยยิ้มที่แย้มอย่างจริงใจไม่เสแสร้งตรงหน้ากำลังบอกผมว่า นี่เป็นทางที่ถูกต้อง ในเมื่อหัวใจของพวกเราไม่ได้มีไว้รักใคร งั้นก็อย่าไปจมอยู่กับใครก็พอ ไอ้การแต่งงานเสงเคร็งนี่น่ะตีลังกามองยังไงมันก็รังแกผู้หญิงชัดๆ ดูหญิงสาวตัวเล็กน่ารักคนนี้สิ

ผมจะพังมันเอง ไอ้ชีวิตสมรสสมรักของพวกโรคจิต!

...............................................

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ ElGSi

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ