Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ช่วยด้วย น้องสาวผมเป็นมาเฟีย

ช่วยด้วย น้องสาวผมเป็นมาเฟีย

nugkeanransawat

5.0
ความคิดเห็น
175
ชม
12
บท

แนวลูกสาวมาเฟีย นางเอกร้ายกาจ สายบาป ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน

บทที่ 1 โดนฟัด

ช่วยด้วยน้องสาวผมเป็นมาเฟีย

ตอน โดนฟัด

อายูมิเป็นสาวลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น แม่ของเธอเป็นเพื่อนกับคุณแม่ของเจย์แต่พ่อของเธอเป็นมาเฟียญี่ปุ่น

ด้วยความที่แม่ของเธอกลัวว่าพ่อจะให้เธอสืบทอดวงการมาเฟีย แม่จึงหอบเธอหนีมาไทยตั้งแต่ที่ยังแบเบาะ

ซ้ำร้ายคุณแม่ของเธอเกิดป่วยด้วยโรคประหลาด ก่อนตายแม่ฝากฝังอายูมิไว้กับแม่ของเจย์ วันนี้เธอก็อายุครบสิบแปดปีพอดี หนุ่มเจย์ก็อายุยี่สิบปีเศษๆ

ในบ้านเดี่ยวหลังย่อมสองชั้น มีคุณแม่ เจย์ และอายูมิอาศัยอยู่ด้วยกันสามคน แม่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจวัย45 เจย์เป็นนักศึกษา ส่วนน้องสาวบุญธรรมของเธอเป็นนักเรียน

ฮ้าว! ๆ ๆ "กลับมาแล้วครับคุณแม่ อายูมิจัง" หนุ่มหล่อตัวสูงเฟี้ยวเดินเข้าบ้าน

เขาวางกระเป๋าสะพายลงแล้วนั่งที่โต๊ะอาหาร

คุณแม่เดินออกจากครัวมาพอดี ท่านถือถาดอาหารมาวางเรียงรายบนโต๊ะและยังอยู่ในชุดทำงานแบบเสื้อเชิ๊ตกระโปรงยาว

"เฮ้อผมปวดหลังจังเลยครับแม่ เอ้อนี่แม่เป็นเหมือนกันรึเปล่า" เจย์เงยหน้าหล่อๆถามแม่แล้วหยิบปีกไก่ขึ้นมากัดแทะกิน

"ไม่นะ นี่แม่บอกแล้วไงว่าไม่ไหวก็เรียนอย่างเดียวพอ" แม่ตอบแล้วบ่น (เจย์ทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่คลังเก็บสินค้าใกล้ๆมหาลัย

"ไม่เป็นไรครับ ผมหาเงินใช้เองได้ น้องก็จะขึ้นมหาลัยแล้วด้วยนี่นา" เจย์นั้งบิดเอวไปมาแล้วตอบอย่างอารมณ์ดี

ใบหน้าหล่อๆของเขาเรียวคมขาวใสยังกับหน้าพระเอกหนังเกาหลี

"เอ้าแม่ลืมไปเลยว่าน้องอ่านหนังสืออยู่ในห้อง" แม่ตอบ

"พี่มาแล้ว มากินข้าวกันอายูมิ" แม่เรียกเสียงดัง

พรึ่บ! อายูมิตาโตทันที เธอยกหนังสือการ์ตูนที่วางทับไว้บนหน้าออกแล้วกลิ้งจนตัวหล่นตุ๊บลงข้างๆเตียง

"พี่เจย์หล่อมาแล้ว ฮิ ๆ" สาวน้อยวิ่งกระโปรงปลิวออกจากห้อง

ตุ๊บ! ๆ ๆ เธอลงมาชั้นล่างแล้วกระโดดเข้ามาล็อคคอเจย์จากด้านหลัง เธอตัวเล็กขาวสูงเพียง155กำลังยืนอยู่ข้างหลังพี่ชาย

ฟ่อด! ๆ อายูมิหอมแก้มซ้ายแก้มขวาของเจย์ต่อหน้าคุณแม่

"เอ้ย อายู" เจย์ตกใจสะดุ้งตัวโก่ง จมูกโด่งๆปลายเรียวแหลมของน้องจิ้มแก้มของเขาจนเจ็บ

"เอ้าอายูมิ นี่โตเป็นสาวแล้วนะยังจะมากอดพี่อีก" คุณแม่ดุลูกสาวแสนสวย

ฮิ! ๆ ๆ สาวน้อยส่งยิ้มให้คุณแม่แต่ยังยืนล็อคคอพี่ชายอยู่

"ก็คิดถึงนี่คะ พี่เจย์ได้ซื้อมาไหม" อายูมิแบมือรอ เธอยื่นหน้าเรียวเล็กพบาดบนบ่าของเจย์

ลมหายใจของเธอพ่นรดใบหูของเขาจนเสียวซี๊ดขนลุกซู่ซ่าไปหมด แก้มนิ่มๆของน้องบดหน้าหล่อๆของเจแนบแน่น เขาร้อนรุ่มจนหน้าชาเหมือนกับว่าโดนตบด้วยฝ่ามือใหญ๋ ๆ

"นี่ตกลงเราคิดถึงพี่หรืออยากได้ไอแพดกันแน่เนี่ย" เจย์บ่นแล้วหยิบกระเป๋าล้วงกล่องไอแพดออกมาให้น้องสาวแสนสวย

"เย้ขอบคุณค่ะ" อายูมิกอดไอแพดแล้วกระโดดดีใจ กระโปรงของเธอปลิวไหวๆจนเห็นขาที่เรียวเล็กและกางเกงในสีชมพู

ผมสั้นหน้าม้าสีดำปลิวไหวๆ สาวน้อยกอดคอเจย์อีกรอบแล้วกระแทกปากสีชมพูใส่ปากพี่

จุ๊บ! เจย์ตาค้างสะดุ้งตัวโก่ง ริมฝีปากสีชมพูเล็กของน้องกระแทกปากแดงๆของเขาจนบู้บี้

เธอยังเอามือขวาจิกแก้มของเจย์แล้วบีบหน้าหล่อๆเขย่า เธอทำปากจู๋แนบปากของเจย์เอาไว้ไม่ยอมดึงหน้าสวยๆกลับเลย

ปั้ง! แม่เอามือฟาดลงบนโต๊ะจนเสียงดังโครมคราม

"นี่อายูมิ" แม่ดุลูกสาวจนเธอสะดุ้งหันมายิ้มหวานใส่แม่อีกคน

"แฮร่ๆ ก็ของขวัญวันเกิดหนูนี่คะ สัญญากันไว้แล้ว" อายูมิตอบแม่แล้วลงมานั่งยิ้มแฉ่ง

"กินกันก่อนจ๊ะ แม่ก็มีของขวัญให้หนูแหละ" แม่เปลี่ยนสีหน้ามายิ้มแล้วลูบหัวสาวน้อยอย่างน่าเอ็นดู

ฮิ! ๆ ๆ เธอหัวเราะแล้วเอนตัวพิงคุณแม่ ตาโตๆกลมแป๋วของเธอมองหน้าหล่อๆของเจย์และฉีกยิ้มหวานให้เขา

เจย์อายจนหน้าแดงตัวร้อนไปเสียหมด เขาไม่เคยโดนสาวคนไหนยิ้มกว้างและจิกตาแป๋วใส่แบบนี้เลย เหงื่อของเขาซึมออกมือเนื้อตัวเปียกโชกยิ่งกว่าตอนทำงานเสียอีก

หัวใจหนุ่มน้อยเต้นตึกตั่ก ๆ จนเหมือนหน้าอกจะทะลุออกมา

"กิน กินกันเถอะครับ" เจย์เอ่ยแล้วลงมือกินอาหารที่หลากหลายเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะ พออิ่มหนำสำราญแม่ก็เอาเค้กมาจุดเทียนและมอบสร้อยทองให้อายูมิ

ทุกคนร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์กันเสียงดังสนุกสนาน

"พี่หล่อปวดหลังอีกไหมล่ะ หนูนวดให้คิดห้าสิบบาทพอ" อายูมิเดินมาถามเจย์ที่นั่งบนโซฟาดูทีวี

หมับ! ๆ ๆ สองมือน้อยๆของเธอบีบหัวใหล่และกล้ามแน่นๆของพี่ชาย

"หยุดเลย ๆ ไม่ต้องพี่ไม่มีตังจะเปย์หนูแล้ว" เจย์บ่น

"งั้นหนูนวดให้ฟรี ฮิ ๆ" อายูมิกระซิบหลังใบหูและบีบนวดต่อ เธอยืนมองทีวีแล้วเอาคางวางไว้บนหัวของเจย์ใช้สองมือบีบนวดเขาที่นั่งอยู่บนโซฟา

หน้าอกหน้าใจของเธอบดชนท้ายทอยของเจย์ ลมหายใจของเธอพ่นออกมาใส่ผมหน้าของเขาจนสั่นไหวๆ

เต้าน้อยๆที่อัดชนหัวนั้นบอกได้เลยว่าไม่ใช่เด็กๆเสียแล้ว

อูยยย! เจย์นั่งตัวเกร็งแข็งเป็นหิน เขาเสียวจนท่อนเอ็นแข็งขึ้นมาจริงๆ ทั้งๆที่ไม่ได้คิดอะไรแต่มือเล็กๆกับกลิ่นตัวหอมๆของอายูมินั้นเย้ายวนจริงๆ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ nugkeanransawat

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ