Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
188
ชม
13
บท

‘เดียร์ มายลอร์ด’ เรื่องรักผ่านจดหมายระหว่างภรรยาคืนเดียวกับท่านดยุคผู้สูงศักดิ์ โปรย ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ มือสากล้วงเข้ามาในคอเสื้อ เธอดิ้นหนี เขาใช้ทั้งตัวทับตรึงเธอเอาไว้ ‘นายท่านปล่อยข้าไปเถอะ ได้โปรด...’ เสียงวอนหายไปในลำคอ เมื่อริมฝีปากเขาไล่เล็มเรื่อยลงมาถึงปทุมถัน จมูกซุกไซ้สำรวจ ‘อา...’ เฟรยาคราง อุณหภูมิในร่างสูงขึ้น กายบิดด้วยรสหวามตึงแน่นที่กลางปทุมด้วยฤทธิ์ลิ้นร้าย ก่อนที่จะหวีดร้องเมื่อมีการล่วงล้ำด้านล่าง แม้ดิ้นรนหนีแต่คนด้านบนก็รั้งไว้ สอดวงแขนโอบอุ้มดันให้เธอกอดตนไว้ จากนั้นก็สอดประสานบทเพลงแห่งกามารมณ์ระหว่างชายหญิง เธอครางเหมือนตกอยู่ในความฝัน บางสิ่งผ่านรวดเร็วจากส่วนล่างขึ้นสู่สมอง ความรู้สึกที่เหมือนมีพายุใหญ่แล่นผ่านกาย แขนบางของเฟรยาโอบรอบร่างแกร่งของเขา ยึดไว้จากความซ่านด้วยฤทธิ์แรงปรารถนาซ่อนเร้น ‘จงเชื่อฟังข้า เจ้าเป็นสิทธิ์ของข้าแล้ว เรียกข้าว่ามายลอร์ดสิ’ เขากระซิบขณะยังค้างคาอยู่ในตัวเธอ ‘ค่ะ มายลอร์ด’ ริมฝีปากเฟรยาสั่น แรงสะเทือนจากเขาส่งตรงสู่เธอเรื่อยราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ‘ดีแล้ว ข้าชอบคนเชื่อฟัง ชอบคนซื่อสัตย์ สาบานสิว่าเจ้าจะไม่ทรยศ’ ‘ข้า...’ ‘สาบานสิ! ว่าเจ้าจะจงรักภักดีกับข้าปานประหนึ่งทาสซื่อสัตย์ต่อผู้เป็นนาย’ เขาเร่งเร้าพร้อมกับการกระแทกที่หนักหน่วงขึ้น ‘ข้าสาบาน’ เขากัดฟันแน่นครางเมื่อการทาบทับครั้งสุดท้ายสู่ตัวเธอจบลง เชิดหน้าสูง ตัวสั่นเทิ้ม ก่อนทิ้งร่างนอนคว่ำลงข้างกายเฟรยา หอบหายใจแรง แขนพาดเอวเธอ ก่อนจะไปวนเวียนคลึงเคล้าหน้าอก เฟรยาไม่ขัดขืน เธอเหนื่อยมากแล้วในคราวแรก กลิ่นเหล้าคลุ้งปนกับเหงื่อของเขา อำนาจแห่งเพศรสให้ความสุขเช่นนี้เอง ++++++++++++++++++++++++++

บทที่ 1 1

เดียร์ มายลอร์ด

อากาศที่โดเนวิลล์เป็นอย่างไรบ้างคะ ลอนดอนตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงเกือบหมดแล้วค่ะ กลางวันอากาศดีพอใช้ แต่กลางคืนเริ่มหนาว

ฉันดูแผนที่ประเทศของเราแล้วพบว่าโดเนวิลล์อยู่ใกล้หุบเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ อากาศน่าจะหนาวกว่า

ฉันจึงลองทอเสื้อกันหนาวมาให้ อาจไม่สวยงามเท่าเสื้อผ้าหรูหราที่ท่านเคยสวม แต่ฉันเชื่อค่ะ ว่าจะบรรเทาความหนาวให้ได้แน่ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ

ขอพระเจ้าจงอวยพรให้ท่านมีชัยในการรบครั้งนี้

เฟรยา

เดวิสนิ่วหน้าเมื่ออ่านจดหมายจบ ใบหน้าคมสันมีไรหนวดจางๆ นัยน์ตาสีมรกตเพ่งครุ่นคิดถึงเจ้าของจดหมาย ใครกัน... เขาจำผู้หญิงชื่อนี้ไม่ได้เลย

จะว่าเป็นการส่งผิดก็ไม่ใช่ บนซองจดหมายจ่าหน้าถึงดยุคแห่งซอมเมอร์เซ็ทที่สาม ซึ่งมีเพียงเขาคนเดียว เดวิส โบฟอร์ต

หากเป็นการเล่นตลกแล้วล่ะก็ ... นี่เป็นตลกร้ายเลยทีเดียวเชียว เขาทิ้งจดหมายลงกล่องใส่เครื่องเขียนกระจุกจิกรวมถึงเสื้อหนาวขนสัตว์นั่นด้วย

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือการรบมากกว่า อีกฟากหนึ่งของภูเขาหิมะอันหนาวเย็น ประเทศเพื่อนบ้านกำลังวางแนวรบกันอยู่

ทุกอย่างดูเงียบสงบแต่ซ่อนความไม่น่าไว้ใจไว้ หน้าที่ของเขาคือเฝ้าระวังและพร้อมรบเสมอ

แม้มีตำแหน่งยิ่งใหญ่เป็นถึงดยุค ทว่าเดวิสกลับชอบการออกรบมากกว่า ในสนามรบมีเพียงสองสิ่งที่ดำรงอยู่ ... คือความเป็นและความตาย

ไม่ต้องใส่ชุดหรูหรา ไม่มีงานเลี้ยง ไม่มีหญิงงาม ความรักจอมปลอม การแทงข้างหลังและขัดแข้งขัดขา บางครั้งเดวิสก็คิด เขาอาจจะไม่เหมาะกับชีวิตท่านดยุคผู้สูงศักดิ์ก็ได้

เดียร์ มายลอร์ด

ฉันมีเรื่องตื่นเต้นจะเล่าให้ฟัง ท่านจำเจ้าแอนโดรเมด้าได้ไหมคะ ม้าพยศที่บาดเจ็บจนไม่อาจไปร่วมรบกับท่านที่โดเนวิลล์ได้ ตอนนี้มันมีลูกแล้วค่ะ เป็นม้าสีขาวบริสุทธิ์

เจ้าแอนโดรเมด้าเลือกคู่เองด้วยนะคะ มันแอบหนีไปจากคอกตั้งหลายวัน แล้วจู่ๆ ก็พาม้าป่าสาวท่าทางปราดเปรียวกลับมาด้วย

ทอมคนเลี้ยงบอกอย่างหัวเสียนิดๆ ว่า ม้าก็เหมือนเจ้าของ เลือกคนรักได้ด้วยตัวเอง ฉันเห็นด้วยกับข้อนี้ค่ะ มนุษย์และม้าก็เป็นสิ่งมีชีวิต ... มีจิตใจ ชอบหรือไม่ชอบอะไรสักอย่างเหมือนกัน เพราะฉะนั้นสิทธิ์ที่จะเลือกคู่ สิทธิ์ที่จะรักก็สมควรมี

ฉันเพิ่งมารู้ทีหลังว่าที่เขาหัวเสียเพราะอยากจะให้เจ้าแอนโดรเมด้าเป็นพ่อพันธุ์ ให้กับม้าของบารอนท่านหนึ่ง แต่มันไม่ยอม

หากเจ้าแอนโดรเมด้าเป็นมนุษย์ล่ะก็ คงเป็นชายหนุ่มที่ยิ่งยโสเหลือเกิน ไม่สนใจเขาแล้วยังหนีหน้า

ขอพระเจ้าจงอวยพรให้ท่านมีชัยในการรบครั้งนี้

เฟรยา

เดวิสนิ่วหน้ากับจดหมายฉบับที่สอง เจ้าแอนโดรเมด้านั้นเขารู้จักเพราะเป็นม้าตัวโปรด ทอมคนเลี้ยงม้านี่ก็รู้นิสัยเสียอยู่ ... ชอบรับงานสองที่หารายได้เสริมเป็นประจำ

แต่ผู้หญิงที่ชื่อเฟรยานี่ต่างหาก เธอเป็นใคร ทำไมเนื้อความตอนท้ายจดหมายจึงกล้าตัดพ้อเขาขนาดนี้

“กุสตาฟ เจ้ารู้จักผู้หญิงชื่อเฟรยาไหม”

ชายหนุ่มเก็บความสงสัยไว้ไม่ได้จึงถามต้นห้องคนสนิทที่ติดสอยห้อยตามมาสนามรบด้วย

“ไม่นี่ขอรับนายท่าน ข้าไม่คุ้นชื่อนี้จากบรรดาท่านหญิงสูงศักดิ์ตระกูลใดเลย”

ต้นห้องร่างเล็กผมเกรียนสั้นตอบเสียงสุภาพ

“งั้นเหรอ”

เดวิสครางแต่เนื้อความในจดหมายบ่งบอกว่านางรู้จักเขา อยู่ในบ้านของเขา แล้วนางเป็นใครกันเล่า

“ท่านสงสัยสิ่งใดเกี่ยวกับจดหมายหรือเปล่าขอรับ”

กุสตาฟปรายตาไปทางกล่องใส่เครื่องเขียน เจ้านายส่ายศีรษะที่ปกคลุมด้วยผมสีทองไปมา

“ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรหรอก”

“ถ้าเช่นนั้นข้าจะให้นางทาสคนนั้นเลิกเขียนจดหมายถึงท่านก็แล้วกันนะขอรับ”

เดวิสสะดุดกึกกับคำพูดของต้นห้องทันที

“ไหนเจ้าบอกว่าไม่รู้จักผู้หญิงที่ชื่อเฟรยาไง”

“ใช่ขอรับ ผู้หญิงที่ชื่อว่าเฟรยาข้าไม่รู้จัก แต่รู้ว่าจดหมายมาจากนางทาสคนหนึ่ง”

“แล้วนางคนนั้นเกี่ยวอะไรกับข้า เจ้าละเลยหน้าที่หรือยังไงกุสตาฟถึงให้ใครก็ไม่รู้เขียนจดหมายมาล้อเล่นกับข้าได้”

กุสตาฟเงียบไปครู่ ส่งสายตาแปลกพิกล

“นายท่านจำไม่ได้เลยสินะขอรับ ว่านางคือคนที่ท่านหลับนอนด้วยในคืนก่อนออกเดินทางมาสนามรบ”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เฌอเลียร์

ข้อมูลเพิ่มเติม
พรางกุหลาบ

พรางกุหลาบ

โรแมนติก

5.0

ตั้งแต่ฉันได้กุหลาบสีม่วงมาอย่างบังเอิญ ฉันก็เริ่มฝันถึง อัศวินชุดดำ แม่มดในกระท่อม แมวดำ ความตายสีเพลิง ...และดวงตาสีฟ้าปริศนาที่ทำใจเต้นแรงคู่นั้น ++++++++++++++++++++++++ เราสบตากัน ดวงดาวสีฟ้าที่ฉันเคยใฝ่ฝัน ดวงดาวที่ฉันอยากเอื้อมให้ถึง "เจ้าเป็นเพื่อนที่ข้าไว้ใจที่สุด" เขาโกหกฉัน เหมือนที่ฉันก็โกหกเขา ตลอดมาฉันไม่เคยคิดว่าเขาเป็นเพียงเพื่อน ผู้คุมปลดโซ่ ทหารเข้ามาล้อมรอบตัวฉัน ผลักขึ้นสู่บันได ที่มีอีกคนยืนอยู่พร้อมขดเชือกหนา ร้อยรัดมัดร่างกายฉันไว้อย่างแน่นหนา ชายอ้วนเตี้ยพล่ามอะไรอีกแล้ว ฉันไม่ได้ยินเพราะเสียงร้องไห้ระงมของหลายคนบนเสาต้นข้าง ๆ บ้างก็ก่นด่า บ้างตะโกนบอกตนไม่ผิด ดวงดาวสีฟ้ายังส่องแสง ขณะในตาฉันกำลังเลือนรางด้วยน้ำสีแดง กลุ่มเส้นไหมสีทองซบลงที่ไหล่เขา ทันใดนั้นดวงดาวสีฟ้าก็กะพริบ หลุบมองเธอในชุดขาว "ประหารแม่มด" ท่านอาจารย์ที่รับเลี้ยงฉันเคยพูดไว้ หากแผลใดทำเราเจ็บมาก ถึงที่สุดแล้วมันจะชา กระทั่งไม่รู้สึกอะไรอีก "ไม่มีแผลใดที่ไม่มีวันหาย" ฉันยิ้ม นึกเยาะเย้ย อาจารย์โกหกเสียแล้ว ตอนนี้ฉันเจ็บมาก เจ็บปวดเหลือเกิน ทำไมยังไม่ชาอีกล่ะ +++++++++++++++++++++++++ ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์

สามีมาเฟียคนนี้เป็นของคุณนะ

สามีมาเฟียคนนี้เป็นของคุณนะ

โรแมนติก

5.0

ชารีญา เปรียบเสมือนเจ้าสาวที่กลัวฝน เธอหนีงานแต่งมาด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง ทว่าเมื่อหลบซ่อนอยู่ในโรงแรมเธอกลับได้มาพบกับเขา มาเฟียร้ายจอมไร้อารมณ์ เดเมียน จัสติน วินด์ทรอฟ ไม่มีอารมณ์ใครและปรารถนาต่อผู้หญิงคนไหนมาก่อน กระทั่งได้มาพบเธอ ผู้หญิงที่มีดวงตาที่เป็นประกายและช่วยปลุกไฟสวาทของเขาให้ตื่นขึ้นมา ค่ำคืนพลาดพลั้งของทั้งคู่ก่อเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อวันใหม่มาเยือน เธอคนนั้นก็หนีจากไป จนทำให้เขาต้องใช้ทุกวิธีเพื่อตามเธอกลับมา เขายอมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ มากด้วยแผนการ ยินยอมเป็นมาเฟียที่ชั่วร้ายในสายตาของเธอคนนั้น เพียงเพื่อกักขังเธอไว้ให้อยู่เคียงข้างเขาตลอดไป สถานที่ที่เธอคนนั้นละอยู่ได้บนโลกใบนี้มีเพียงข้างกายเขาเท่านั้น!

ภริยา(ไม่)รักของนายหัว

ภริยา(ไม่)รักของนายหัว

โรแมนติก

5.0

วัชรมัยเคยทิ้งไผท ทิ้งลูก แล้ววันนี้กลับมาร้องขอความเป็นแม่อีกครั้ง ไผทจะไม่มีวันให้อภัย! ++++++++++++++++++++++++++ “ฉันไม่รังเกียจหรอกนะ ถ้าเธอจะเคยนอนกับผู้ชายคนอื่น แต่ต้องไม่ใช่ตอนอยู่กับฉัน” ขายาว ๆ ย่างสุขุมเข้ามา หญิงสาวทำตัวลีบเล็ก กระทั่งหลังติดแนบหัวเตียง “ฉันไม่ใช้ผู้หญิงร่วมกับใคร!” “พี่ป้อ...” เอ่ยยังไม่ทันจบ ริมฝีปากซีดก็ถูกประกบด้วยอวัยวะชนิดเดี๋ยวกัน “อื้อ...” ไร้ซึ่งความอ่อนหวาน มีแต่การบังคับดุดัน ไผทดูดดึงริมฝีปากบางจนฮ้อเลือด “เห็นเธอป่วย ว่าจะใจดีให้พักเสียหน่อย แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถอดเสื้อผ้าออก ฉันจะเช็คของ!” เมื่อจุมพิตอย่างไม่เต็มใจจบลง เสียงทุ้มต่ำดังแหวกเสียงหรีดเรไรข้างนอก ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศหนาวเหน็บชวนขนลุก ไผทแสยะยิ้มร้ายกาจให้คนบนเตียง “ทำสิ ไม่งั้นก็ไสหัวไปออกจากบ้านฉัน ออกไปจากชีวิตลูก” วัชรมัยกลืนทุกความรู้สึกกลับไปในอก มือสั่นถอดเสื้อผ้าออก “จะได้อยู่กับลูก...จะได้อยู่กับปราบ” เสียงในสมองดังก้องสะกดจิตตนเอง เพื่อได้อยู่กับลูก ต่อให้ต้องลงนรกขุมไหนเธอก็จะทน! +++++++++++++++++++++++++++++

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก

โรแมนติก

5.0

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก ++++++++++++++++++ เมื่อคนอกหักมาวันไนต์แสตนด์กัน จากที่คิดว่าแค่วันไนต์ กลายเป็นมีภาคสอง หัวใจที่บอบซ้ำสองดวง จะเปลี่ยนไปอย่าไร ในเมื่อต่างฝ่ายต่างเข็ดกับความรัก ++++++++++++++++++++ "ลูกพี่ลูกน้องของคุณทำว่าที่สาวเจ้าของคุณท้องอย่างนั้นหรือคะ" สีหน้าของฤดีรัตน์ตกใจมาก ๆ เจ็บหัวใจแทนเขาเลย "ครับผม แต่ยังดีที่ยังไม่ได้ร่อนการ์ดเชิญ มันโคตรรู้สึกแย่เลยนะ สามเดือนมาแล้วนะ ทุกอย่างก็ยังไม่ดีขึ้นเลย รู้สึกเจ็บอยู่ข้างในเนี่ย" "ฉันเข้าใจคุณเลยค่ะ เพราะของฉันมากกว่าสามเดือน" "แล้วผมจะเป็นอย่างคุณไหม" "ไม่มั้งคะ เพราะคุณดูมีสติมากกว่าฉันเสียอีกค่ะ แค่หาคนใหม่" ชนิษฐากรอกหูเธอทุกวันเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ทำไม่ได้ แต่เอาคำปรึกษาของเพื่อนมาบอกเขา "หาคนใหม่ยังไง" คิ้วเรียวเลิกขึ้น "หนามยอกให้เอาหนามบ่งยังไงล่ะคะ" ฤดีรัตน์ทำเป็นยกมือป้องปากกระซิบ "ไม่เข้าใจครับ" "คุณก็แค่หาผู้หญิงคนใหม่ ไม่จำเป็นต้องคบก็ได้ค่ะ แค่มาคั่นกลางให้เรารู้สึกดีขึ้น" เธอยักไหล่ แสร้งทำเป็นช่ำชองเรื่องการหาคนใหม่มาดามใจ "แล้วทำไมคุณไม่ทำ" "ก็ฉันยังไม่ได้เจอคนที่ชอบนี่คะ อย่างน้อยก็ต้องชอบก่อน" "ถ้างั้นทฤษฎีนี้ก็ไม่ได้ผลนะ ที่จริงไม่ต้องชอบกันก็ได้มั้ง แค่รู้สึกไม่รังเกียจก็พอ" เขายกเบียร์ขึ้นจิบ ฉุนนิด ๆ ที่ต้องมาฟังทฤษฎีเพ้อเจ้อ "คุณรังเกียจฉันไหม" ฤดีรัตน์หรี่ตาปรือ "ถ้ารังเกียจผมจะให้คุณนั่งโต๊ะเดียวกันเหรอ" "ถ้าอย่างนั้นคืนนี้" หมอคชาจ้องหน้าเธอ "คืนนี้นอนกับฉันได้ไหมคะ วันไนท์สแตนด์ ไม่ผูกมัด ไม่ผูกพัน" +++++++++++++++++++++ มีตัวละครต่อเนื่องจากเรื่อง รักอย่า...หย่ารัก นะคะ อ่านแยกกันได้ค่ะ ไม่งง ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์

รักหย่า...อย่ารัก

รักหย่า...อย่ารัก

โรแมนติก

5.0

ชนิษฐารักคณิศร แต่เขารักอีกคน อ้อมกอดเขามีให้เธอ แต่ในใจเขาคิดถึงใคร ทำดีสักเท่าไร สุดท้ายคณิสรมองชนิษฐาเป็นเพียงเครื่องมือผลิตลูก การแต่งงานอันหลอกลวงต้องจบลง ถึงเวลาแล้ว ที่เธอจะหย่า! +++++++++++++++++++++++++++++ ชนิษฐาช็อกกับภาพตรงหน้า "ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นได้คนผลิตลูก แม่วัวยังไงล่ะคะดิน แต่สำหรับหวาย หวายคือนางในดวงใจของดิน อ้า อะ อะ อะ..." คงจะเป็นสามีของชนิษฐาด้วยที่เด้งเอวตอบกลับการกระทำของสุธาวี เคล้ง... ข้าวของในมือของชนิษฐาร่วงหล่น คณิศรยกหัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สายตาของเขาสบต้องสายตากับชนิษฐา ที่ในเวลานี้น้ำตาที่ไหลลงมากลบม่านตา ยืนปากคอสั่น สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของชนิษฐาในตอนนี้ คือหนีไปให้ไกลแสนไกล เธอวิ่งออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ตรงไปที่รถของเธอ แล้วขับออกไป คณิศรผลักตัวของสุธาวี "ออกไป พอได้แล้วหวาย หยุดเถอะ คุณกำลังทำให้ชีวิตผมพัง" "หวายทำพังเหรอคะ พังเหรอคะ ดิน... เราสองคนกำลังมีความสุขด้วยกันต่างหาก ดินยอมรับความจริงเถอะค่ะว่าคุณน่ะขาดหวายไม่ได้" ++++++++++++++++++++++++++++++ ติ๊ง... ติ๊ง... มีข้อความเข้า และทุกวันนี้จะเป็นข้อความจากสินเป็นส่วนใหญ่ คณิศรหยิบมือถือขึ้นมา เมื่อเปิดเข้าไปดู รูปที่บาดตาบาดใจ บาดหัวใจ ผู้ชายคนนั้นเปิดประตูให้กับชนิษฐา เธอหันมายิ้มให้เขา และขึ้นไปนั่ง คณิศรถึงกับทิ้งมือถือ และหลับตาลงทันที เขาเศร้าหม่นในหัวใจมาก ทำไมเป็นแบบนี้ มันจะลงเอยแบบนี้ไม่ได้ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

ห้ามหย่า

ห้ามหย่า

Bronson Heiss
5.0

ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ