Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เพื่อนพ่อหนูขอนะ

เพื่อนพ่อหนูขอนะ

อัณณากานต์

5.0
ความคิดเห็น
6.3K
ชม
15
บท

รุ่นใหญ่ใจถึง…ขี้หึงด้วย

บทที่ 1 ตอนที่ 1 หลานสาว

“เจ้าหญิงของอา น่ารักที่สุดเลยค่ะ” เมธีนั่งคุกเข่าเพื่อชื่นชมหลานสาวตัวน้อยที่อยู่ในชุดนักเรียน ผมยาวสีน้ำตาลอ่อนถักเป็นเปียสองข้างผูกด้วยโบขาว เธอตื่นเต้นจนแก้มนุ่มนิ่มขึ้นสีระเรื่อ

“คิดว่าอาธีจะไม่มาซะแล้วค่ะ”

“มาแน่นอนค่ะ เจ้าหญิงของอาจะไปโรงเรียนวันแรก อาก็ต้องมาส่งสิคะ”

“หนูกลัวจังเลยค่ะอาธี”

“ทำอะไรครั้งแรก เมลก็ตื่นเต้นแบบนี้ทุกครั้งแต่ก็ผ่านมาได้ตลอด ความกลัวความตื่นเต้นเป็นเรื่องปกติ พอได้เจอเพื่อนเจอคุณครู เรียนเรื่องสนุกๆ เมลก็จะลืมความกลัวไปเอง เมลจำตอนที่เล่นน้ำทะเลครั้งแรกได้ไหมคะ”

เมธีถามเด็กสาวตัวน้อย ไม่รู้ว่าเธอจำได้ไหมแต่เขาจำได้ขึ้นใจ

วันนั้นที่ชายหาด เธอจ้องคลื่นลูกโตที่ซัดเข้าหาฝั่ง เมื่อเทียบกับตัวเล็กจ้อยของตัวเองเธอจึงกลัวจับใจ ทะเลกว้างใหญ่เหลือเกินแถมคลื่นยังส่งเสียงดังโครมคราม

“เมลอยากลงไปเล่นไหมคะ” เมธีถามหลานสาวที่ยังยืนนิ่งไม่ไหวติง

“อาธีจะลงไปกับหนูไหมคะ พ่อล่ะคะ”

“แน่นอนค่ะ” เมธีกับภูวนัยตอบพร้อมกัน เมื่อข้างกายขนาบด้วยคนที่รักและไว้ใจ คาเมเลียจึงออกเดิน ผ่านไปไม่กี่นาทีความกลัวก็หายหมดสิ้น เหลือไว้แค่ความสนุก

“ได้ค่ะอาธี” คาเมเลียตอบแล้วหวนนึกถึงวันอันแสนสุขที่ได้วิ่งเล่นท่ามกลางหาดทราย สายลม แสงอาทิตย์สดใส

“คุยอะไรกันอยู่ อาหลาน” ภูวนัยมาสมทบ อีกไม่กี่นาทีรถคงมาถึง

“คุยเรื่องที่ไปทะเลวันแรกน่ะ” เมธีตอบ

“วันนี้ก็วันแรกเหมือนกัน นางฟ้าของพ่อ เก่งอยู่แล้ว”

“ค่ะพ่อ” คาเมเลียรับปากแต่ไม่ค่อยแน่ใจนัก ถ้าเธอร้องไห้ขอกลับบ้านตั้งแต่ไปถึงโรงเรียน พ่อจะมารับไหม อาธีจะคิดว่าเธอเป็นเด็กไม่น่ารักรึเปล่า

“วันหยุดนี้เราไปทะเลกันดีไหมคะ” เมธีชวน อย่างน้อยหลานสาวจะได้มีเรื่องให้ตั้งตาคอย

“ดีค่ะ สัญญานะคะ”

“สัญญาค่ะแต่ต้องขอพ่อก่อนนะ”

“ถ้าเมลอยากไป พ่อก็อยากไปค่ะ … รถมาแล้ว”

เมธีกับภูวนัยเดินไปส่งสาวน้อยขึ้นรถโรงเรียน ทั้งสองมองจนรถหายไปจากสายตา

“คุณเมธีคะ ได้ยินไหมคะ” ชมนาดถามหัวหน้างานที่ไม่รู้ใจลอยไปถึงไหน

“ขอโทษทีครับ คิดเรื่องงานเพลินไปหน่อย คุณชมมีอะไรให้ผมช่วยครับ”

“เที่ยงแล้วค่ะ วันนี้คุณเมธีกินข้าวกับชมได้ไหมคะ”

“ได้ครับ คุณชมอยากไปกินที่ไหนครับ ร้านข้างนอกใช่ไหมครับ”

“โรงอาหารในบริษัทนี่แหละค่ะ ชมยังไม่เคยกินข้าวพร้อมคุณเมธีเลย”

“ไปกันเลยไหมครับ” เมธีผายมือให้สุภาพสตรีเดินนำไปก่อน เขาแอบถอนหายใจเพราะอึดอัดนิดหน่อย

เมธีคือพนักงานระดับสูงด้านวิเคราะห์ความเสี่ยงเกี่ยวกับการลงทุนแต่แน่นอนว่ายังมีตำแหน่งสูงกว่า นั่นก็คือเจ้าของบริษัทซึ่งก็คือชานนท์ มันคงเป็นข้อมูลธรรมดาเหมือนบริษัททั่วๆ ไป ถ้าชานนท์ไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของชมนาด นักศึกษาที่มาฝึกงานและเมธีรับหน้าที่เป็นคนดูแล

เมธีก็งานล้นมืออยู่แล้วแต่เมื่อเจ้าของบริษัทออกปากให้ช่วยฝึกงานลูกสาวใครจะกล้าปฏิเสธ เขาไม่เคยสอนงานใคร ทำงานมาเป็นสิบปีก็ไม่เคยต้องยุ่งเกี่ยวกับเด็กใหม่หรือเด็กฝึกเพราะไม่ใช่หน้าที่

“ผมอยากให้ลูกชมได้เรียนรู้งานจากคนที่เก่งที่สุด” ชานนท์บอกในวงร่ำสุราเมื่อหลายเดือนก่อน

“คุณชาพูดเกินไปแล้วครับ มีคนเก่งกว่าผมตั้งหลายคน ไอ้ภูนี่ไง ไอ้แวนอีก” เมธีบอก

“ผมไม่เถียงหรอกว่าภูกับแวนก็เก่งไม่แพ้กันแต่สองคนนั้นเขามีครอบครัวแล้ว มีลูกมีเมียต้องดูแล ไม่เหมือนคุณที่ยังโสดไร้พันธะ”

“ถึงไอ้ภูจะมีลูกแต่มันก็สอนงานได้นะครับคุณชา”

“สอนน่ะสอนได้อยู่แล้วแต่ผมไม่อยากรบกวน หนูเมลก็มีแค่พ่อ ส่วนแวนลูกก็ยังแบเบาะ คนใกล้ตัวที่ผมไว้ใจก็อยู่ในวงนี้แหละซึ่งคุณเหมาะสมที่สุดเมธี”

“ผมจะทำให้ดีที่สุดครับคุณชา” เมธีรู้ว่าไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้เพราะได้รับความไว้วางใจ เขาจึงต้องทำหน้าที่พี่เลี้ยง คอยสอนงานให้ลูกสาวเจ้าของบริษัทเป็นเวลาสามเดือน

ลำพังแค่เรื่องงานไม่ใช่ปัญหาเลยแต่เมธีกำลังกลุ้มใจกับเรื่องส่วนตัวที่รุงรังขึ้นเรื่อยๆ

เมธีคบกับผู้หญิงคนหนึ่งทั้งสองเจอกันไม่บ่อย หากจะพูดให้ชัดเจนก็คือเจอกันแค่ตอนทำกิจกรรมก็ไม่ผิดนัก เมธีรู้ว่าเธอคบคนอื่นด้วยแต่ก็ไม่เดือดร้อนเพราะระหว่างเขากับเธอมีแค่เรื่องทางกายและเงินตรา ทุกครั้งที่เจอกันเธอจะได้เงินหรือสิ่งของเสมอ

นับเป็นความสัมพันธ์ที่ต่างพึงพอใจกันทั้งสองฝ่าย

แต่ตอนนี้เมธีร้อนรุ่มแทบบ้าแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจมันน่าละอายเหลือเกิน

เขาคิดว่าหัวใจกำลังคิดไม่ซื่อกับหลานสาวที่เลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่คาเมเลีย เจ้าหญิงน้อยของเขา

เธอเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เป็นสาวสะพรั่งอวบอิ่มที่ใครหลายคนหมายปองซึ่งมันก็เป็นแบบนี้มาเสมอเพราะเธอน่ารักสดใสใครเจอก็ต้องเหลียวมองแต่เมื่อก่อนมันไม่เป็นปัญหาเพราะเธอไม่เคยสนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ จนมาเป็นนักศึกษานี่แหละ

“ทำไมวันนี้คุณพ่อภูกลับดึกได้ครับเนี่ย” เมธีแซวเพื่อนสนิทที่นั่งดื่มอยู่ข้างกัน ปกติภูวนัยจะกลับบ้านไม่เกินสี่ทุ่มเพื่อไปเจอหน้าลูกสาวแล้วคุยกันก่อนนอนแต่วันนี้จะเที่ยงคืนแล้ว ภูวนัยยังอ้อยส้อยดื่มน้ำรสขมอย่างสบายใจ

“เมลไปทำรายงานกับเพื่อนน่ะ จะกลับดึกหน่อย สักตีสอง”

“รายงานบ้าอะไร !” เมธีโพล่งขึ้นมา

“ก็รายงานไง เป็นนักศึกษาก็ต้องทำงานส่งอาจารย์”

“เมลเป็นผู้หญิงนะไอ้ภู มึงปล่อยลูกให้กลับบ้านดึกๆ แบบนั้นได้ไง”

“มึงคิดว่ากุลืมรึไงว่าลูกสาวคนเดียวของกูเป็นผู้หญิง” ภูวนัยถามแล้วหัวเราะร่วน

“มึงไว้ใจลูกเหรอ”

“ไว้ใจสิ ต่อให้เมลจะโกหกกูก็ไม่โกรธหรอก เมลเป็นสาวแล้วนะไอ้ธี บรรลุนิติภาวะแล้ว จะทำอะไรก็ได้ จะหอบผ้าออกไปอยู่คนเดียวยังได้เลย ทำยังกับมึงไม่เคยเป็นวัยรุ่น”

“มันไม่เหมือนกัน มึงกับกูเป็นผู้ชาย เมลเป็นผู้หญิงมีแต่เสียกับเสีย”

“นี่มันยุคไหนแล้วไอ้ธี ไม่มีใครได้ใครเสียทั้งนั้นแหละ มีแต่เรื่องให้เรียนรู้ ศึกษากันไป สักวันเมลก็ต้องมีแฟน”

“เฮ้ย ! เร็วไป” เมธีตะโกนจนคอปูด

“มึงล่อหญิงตั้งแต่เท่าไหร่ สิบสามไหม เมลสิบแปดแล้ว ยังไม่เคยเลย”

“มึงเป็นพ่อ มึงต้องหวงลูกสิวะ” เมธีว้าวุ่นจนหน้าแดงก่ำ

“หวงมันก็หวงแหละแต่จะให้ทำไง ขังลูกไว้ในกรงตลอดชีวิตเหรอ”

“กูไม่ยอม !” เมธีบอกแบบหัวเสียสุดๆ

“ไม่ยอมอะไร มึงแทบไม่คุยกับเมลแล้วด้วยซ้ำตั้งแต่มีโรซี่ ไหนจะคลิปหลุดสุดสยิวอีก มึงห้ามไม่ให้หลานมีแฟนแต่ตัวมึงเองล่อไปทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำเนี่ยนะ”

“มึงก็เว่อร์ไปไอ้ภู มันแค่คลิปนัวเนียในรถเฉยๆ ไม่ได้แก้ผ้าด้วยซ้ำแล้วกูก็ไม่ได้ล่อไปทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำด้วย ไม่ได้ว่างขนาดนั้น”

“กูเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่ามึงน่ะ ห้ามอะไรไม่รู้บ้าๆ บอๆ แต่ตัวเองก็ทำเรื่องที่ห้าม กูไม่มีปัญหาเลยถ้าเมลจะคบกับเจ้าบีม ไอ้หนุ่มนั่นมันโอเคนะ สุภาพ ไม่รุ่มร่าม เมลก็บอกว่านิสัยดีจริงๆ งานกลุ่มก็ช่วยทำ ไม่หายหัวเหมือนผู้ชายคนอื่น”

“ไอ้หน้าจืดนั่นอะน่ะ”

“หน้าจืดแล้วก็หนุ่มกว่ามึงเป็นสิบๆ ปีด้วย” ภูวนัยบอกแล้วกระดกเหล้าเข้าปาก

สรุปว่าตอนนี้เมธีกำลังว้าวุ่นกับหลานสาวตัวเอง ทั้งหึงทั้งหวงที่หลานสาวเริ่มเปิดใจกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ กับคนต่างเพศ

แค่นี้ก็ปวดประสาทจะแย่แล้วแต่ก็ยังมีเรื่องมาเพิ่มอีก … ก็ชมนาดนี่ไง

อยู่ด้วยกันแค่วันเดียวเมธีก็รู้แล้วว่าความต้องการจริงๆ ของชมนาดคืออะไร เธอไม่ได้อยากมาฝึกงานเธออยากเป็นเจ้าของคนฝึกงาน เมธีไม่ใช่เด็กอมมือที่จะไม่เข้าใจสายตาและท่าทางของชมนาดที่แสดงออกอย่างไม่ปิดบัง ไหนจะคำพูดของเธอที่ล่อแหลมสองแง่สองง่ามอีก เขาได้แต่บอกตัวเองว่าแค่สามเดือนเท่านั้นแล้วทุกอย่างจะกลับมาสงบสุขเหมือนเดิม

แต่นี่เพิ่งเดือนเดียวแล้วเขาก็คงอดทนเป็นพระอิฐพระปูนจนถึงวันสุดท้ายไม่ได้แน่ๆ

ชมนาดไม่ใช่คนขี้เหร่ เธอสวยคม ผิวสีน้ำผึ้ง ริมฝีปากรูปกระจับ มองเพลินๆ ก็เคลิ้มได้ง่ายๆ แต่มันจะเกินเลยไม่ได้

ตอนนี้ก็วุ่นวายกับลูกสาวเพื่อนที่อยู่บริษัทเดียวกันอยู่แล้วจะมาเพิ่มลูกสาวเจ้าของบริษัทอีกคนไม่ได้หรอก ตกงานตอนเฉียดสี่สิบไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

เมธีรู้ว่าไม่ว่าจะเลือกทางไหนหรือพลั้งพลาดทางใดก็เสียหายทั้งหมดแต่มันเลือกได้ว่าต้องการความเสียหายแบบไหน ระดับธรรมดาที่ยังพอมีทางแก้ไขหรือระดับวอดวายแก้ไขอะไรไม่ได้เลย

ไหนจะโรซี่อีก แม้จะเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางกายแต่ถ้าต้องจากกันจริงๆ คงใจหายพอดู

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ อัณณากานต์

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ