5.0
ความคิดเห็น
4.4K
ชม
38
บท

ความเจ็บช้ำกว่าการ “หย่า” ยังมีอะไรอีก นอกจากถูกคนที่รักหลอกไป “ฆ่า” ให้ตายทั้งเป็น **************** โง่แล้วยังทำเหมือนเดิม เขาเรียกว่าโง่ไร้สติ โง่แล้วกลายเป็นความแค้น เขาถึงเรียกว่าฉลาด มาดูกันว่าการกลับมาของเธอในครั้งนี้ จะทำให้เขาจดจำเธอในรูปแบบไหน ภรรยาที่ดี หรือ ภรรยาที่ตอบแทนอย่างสาสม!! ************************* รมินตามองไปยังรูปภาพแต่งงานบนฝาผนัง ภาพที่มีรอยยิ้มและ แววตาความรักนั้น เหตุใดวันนี้ถึงได้เศร้านักก็ไม่เข้าใจ เธอนั่งรอเขาราวครึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงรถที่ขับมาอย่างรวดเร็ว และเสียงเบรกกะทันหันทำให้เธอเดินไปที่หน้าต่างแล้วชะโงกมอง เมื่อเห็นว่าเป็นธาวินผู้เป็นสามีเธอก็รีบลงจากชั้นสอง “ทำไมขับรถเร็วขนาดนั้นคะ ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำยังไง” “นี่คุณแช่งผมให้ตายเหรอ” คิ้วรมินตาขมวด “ตาไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่ตาเป็นห่วงคุณต่างหาก” “คุณห่วงชีวิตคุณเองจะดีกว่า ว่าคืนนี้คุณจะนอนไหน” แววตาคนเป็นภรรยาไม่แน่ใจว่าได้ยินผิดหรือเปล่า จึงถามเขาย้ำอีกครั้ง “คุณว่าอะไรนะคะ ตาไม่เข้าใจ” “โธ่เว้ย ทำไมถึงโง่ขนาดนี้ ผมกำลังขอหย่ากับคุณยังไงเล่า” ไม่พูดเปล่า อีกฝ่ายยังยกนิ้วขึ้นชี้หน้าผากเธอ จนเธอที่ตั้งสติไม่ได้เซถอยหลังจนล้มลง “รีบเซ็นใบหย่าแล้วออกไปจากบ้านของฉัน” “คุณหมายความว่ายังไง” “ก็หมายความว่าบ้านหลังนี้ หุ้นที่บริษัท โรงแรม ล้วนเป็นของผมหมดแล้ว ดังนั้นคุณก็หมดความหมาย รีบไสหัวไปซะ ก่อนที่ผมจะแจ้งข้อหาบุกรุกกับคุณ” “คุณ คุณทำกับตาแบบนี้ได้ยังไงกัน”

บทที่ 0 บทนำ

ณ เบส คอฟฟี

เสียงกระดิ่งตรงประตูทางเข้าดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อก้าวเข้ามาในร้านกาแฟร้านโปรดที่ไม่ได้มาเยือนนานแล้ว กี่ปีแล้วนะ หกปีแล้วเห็นจะได้ ดวงตาที่เอ่อด้วยน้ำตากะพริบถี่ พยายามเก็บความรู้สึกตัวเองที่ได้เจอมา เมื่อชั่วโมงก่อนเอาไว้

เป็นหกปีที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่แสนเจ็บปวด และยากที่จะลืม หากเพียงก้าวเข้ามาในร้านแห่งนี้ ความสุขก็กลับคืนมาชั่วขณะหนึ่ง

รมินตาหันมองร้านกาแฟซึ่งเคยเป็นสถานที่รวมตัวของสามสาว เพื่อนสนิท ไม่ว่าวันนั้นจะสุขหรือทุกข์ บรรยากาศการตกแต่งภายในร้าน ซึ่งประดับด้วยต้นไม้และดอกไม้แปลกตา กลิ่นหอมกรุ่นอบอุ่นของกาแฟ ก็ช่วยให้หัวใจของหญิงสาวทั้งสามเบิกบานอยู่เสมอ

รมินตา เอวา และแสนดี หญิงสาวที่มีบุคลิกต่างกันสุดขั้ว แต่กลายเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่ที่ยังเป็นนักศึกษาชั้นปีหนึ่งของมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง แม้จะเรียนกันคนละสาขา แต่มารู้จักกันได้เพราะอยู่หอพัก ห้องเดียวกัน ทั้งสามมักจะมารวมตัวกันที่ร้านเบสคอฟฟี แบ่งปันเรื่องราวทั้งดีและร้ายในรั้วมหา’ลัย

รมินตามองไปยังมุมซ้ายของร้านที่เป็นโต๊ะสุดโปรดของพวกเธอ แสนดีกำลังยกมือโบกทักทาย เป็นเช่นนี้เสมอสำหรับแสนดีที่ตรงเวลาเสมอ

“ตา!”

เธอยิ้มรับพร้อมกับขาเรียวที่ก้าวมาหาแสนรักด้วยท่าทางมั่นคง หกปีผ่านมาแล้วก็จริง แต่เพื่อนรักของเธอคนนี้ก็ยังคงให้ความรู้สึกสบายใจตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน

เมื่อรมินตาเดินมาถึงโต๊ะ ไม่ทันนั่งลงเสียงกระดิ่งของร้านก็ดังขึ้น อีกครั้ง

“แสนรัก! ตา!”

รมินตาหันมองเอวา เสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจนั้นมีเพียงแค่ คนเดียวก็คือ เอวา สาวสวยแซ่บ เพียงแค่ได้ยินเสียง ความสุขในอดีต ก็กลับมาอีกครั้ง

การพบปะครั้งนี้ก็เพื่อแบ่งปันเรื่องราวในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา สิ่งหนึ่ง ที่เหมือนกันสำหรับพวกเธอก็คือ “พวกเธอหย่าขาดจากสามีแล้ว”

เรื่องราวเป็นยังไงกันแน่ เหตุใดหญิงสาวสามคนถึงได้มาพบจุดจบเช่นนี้ ชีวิตในครอบครัวมันไม่ง่ายดายอย่างที่คิดจริงหรือ หรือว่าเป็นเพราะเหตุใดถึงได้พบเจอสิ่งที่ไม่อยากเจอ

ทุกอย่างถูกถ่ายทอดออกมา ก่อนที่ทั้งสามคนจะแบ่งปันเรื่องราวในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา

เกิดอะไรขึ้นกับเอวา หญิงสาวผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ และเพียบพร้อมในทุกด้าน

เกิดอะไรขึ้นกับแสนดี หญิงสาวที่ทุกคนกล่าวว่า อ่อนโยนและ บอบบางราวเจ้าหญิงน้อย รอบตัวโอบล้อมไปด้วยความรักที่งดงาม...

เกิดอะไรขึ้นกับรมินตา หญิงสาวผู้มีความอดทนสูงยิ่งกว่าขุนเขา และไหวพริบดีเยี่ยมที่สุดในรุ่น แต่วันนี้กลับหมดความอดทน ยอมหย่ากับสามี

แม้จะพูดคุยกันอยู่นาน แต่เธอกลับรู้สึกว่านั่นไม่ใช่ความจริงทั้งหมด มีบางสิ่งปิดบังความเจ็บปวดครั้งนี้เอาไว้ ไม่ทันรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของ เอวาและแสนดีได้ทั้งหมด

เมื่อถึงเวลาพวกเธอก็แยกย้ายกันไปตามทางของตนเอง เพราะชีวิตคนเราไม่ได้หยุดนิ่งอยู่ที่เดิม เช่นเดียวกับร้านกาแฟแห่งนี้...

เช่นเดียวกับเธอ แม้อยากจะทำตัวเป็นคนไร้ความรู้สึกเช่นเคย แต่บัดนี้ก็ไม่สามารถทำได้อีกแล้ว เมื่อความจริงที่พบเจอนั้นเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าอะไร

เสียงแห่งการอำลาเกิดขึ้นอีกครั้ง เธอหวังว่าครั้งหน้าที่พวกเธอ พบกันอีกครั้งจะมีแต่ความสุขมากกว่านี้ เธอก้าวขึ้นรถ จากนั้นก็ปิดประตู หยิบแว่นตาที่อยู่ใกล้ขึ้นมาสวม ในใจก็คิดถึงเรื่องในอดีตของชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “อดีตสามี”

“ธาวิน รังสิมันต์”

ชายที่ทำให้เธอจดจำ จนแม้วันตายก็ไม่อาจลืมได้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

สยบแค้นรักซาตาน

สยบแค้นรักซาตาน

มุกดารินทร์
5.0

กฤษณะต้องมาปกป้องนักโทษคนหนึ่งที่พัวพันกับเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ให้รอดพ้นจากการถูกตามล่า หากแต่เธอคนนี้คือน้องสาวของฆาตกรที่ ฆ่/หั่nศwแฟนสาวของเขาอย่างโหดเหี้ยม แต่ยังไม่ทันได้แก้แค้นมันก็ชิ่งต/ยก่อน ความแค้นทั้งหมดจึงมาลงที่เธอเพียงคนเดียว นานวันเข้าความใกล้ชิดและผ่านอุปสรรคมาด้วยกันตลอดทางความรู้สึกนั้นก็แปรเปลี่ยนจากความแค้นเป็นความรัก "ปากนายนี่มันเลี้ยงสุนัขไว้ในนั้นกี่ตัวกันฮะ! ว่างๆก็แวะไปให้หมอฟันง้างปากลากมันออกมาปล่อยบ้างนะ” “พูดมากอยู่นิ่งๆแล้วก็มาทายาให้ฉันด้วยเพราะเธอคนเดียวฉันถึงได้เจ็บตัวแบบนี้”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ