ย้อนเวลาไปในยุค80เพื่อร่ำรวยในอนาคต

ย้อนเวลาไปในยุค80เพื่อร่ำรวยในอนาคต

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
202
ชม
10
บท

จ้าวหมิงหมิงได้รับเป็นวิทยากรสัมภาษณ์ นักธุรกิจค้าหยกที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ เมื่อพบหน้ากันอีกฝ่ายก็บอกว่าเธอภรรยาของเขาในอดีต จ้าวหมิงหมิงคิดว่าเป็นเรื่องตลก จนกระทั่งตัวเองได้ย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง เธอจะสามารถแก้ไขชะตาของตัวเองที่ได้รู้ล่วงหน้าหรือไม่ หรืออาจจะไม่อาจทำอะไรได้เลย

บทที่ 1 No.1

เมืองเทียนจิน มหาวิทยาลัยนานไค

จ้าวหมิงหมิง เป็นนักศึกษาคณะอัญมณีศาสตร์ชั้นปีที่ 3 เธอเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการดูหยกและแกะสลักหยกเป็นพิเศษ อีกทั้งยังเป็นตัวเต็งในบรรดานักศึกษาทั้งหมดในชั้นปีที่จะได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทองเมื่อจบการศึกษาหากยังสามารถรักษาผลการเรียนเช่นนี้ได้ในอีกหนึ่งปีข้างหน้า

ส่วนอีกสิ่งหนึ่งที่จ้าวหมิงหมิงเชี่ยวชาญคือการส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ ด้วยความเป็นคนสมองดีทำให้ไม่ว่าตรอกซอกซอยเล็กน้อยตรงจุดไหนในเมืองเทียนจินเธอล้วนจำได้จนขึ้นใจทั้งสิ้นคล้ายมีแผนที่อยู่ในหัว การส่งอาหารของหญิงสาวจึงเร็วกว่าพนักงานส่งเจ้าอื่น ประกอบกับเจ้าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสีเขียวสดคู่ใจที่เธอตั้งชื่อให้ว่าเจ้า ‘ไป๋ช่าย’[ ผักกาดขาว (Chinese cabbage)] นั้นมีขนาดกะทัดรัดจึงทำให้สามารถเดินทางได้คล่องตัว

วัน ๆ หนึ่งจ้าวหมิงหมิงจึงหาเงินจากการส่งอาหารได้หลายร้อยหยวน หญิงสาวถือคติว่า

‘ขอเพียงตัวเราขยันขันแข็ง โชคชะตาย่อมรับใช้เรา’ [ มาจากสุภาษิตจีน 只要自己努力, 命运会为你效劳的。]

ซึ่งเป็นคำสอนของทวด ทวดสอนพ่อ พ่อก็จำเอามาสอนเธอออีกทีเป็นทอด ๆ

วันนี้จ้าวหมิงหมิงจึงออกมาวิ่งงานในช่วงเช้าก่อนกลับเข้าคณะเพื่อไปเป็นพิธีกรในงานประชุมวิชาการประจำปีของมหาวิทยาลัย

วันนี้เธอได้รับหน้าที่ให้สัมภาษณ์คุณ เซิ่นหวินเผิง นักธุรกิจชื่อดังระดับโลกที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการอัญมณีตั้งแต่ยุค 70 เขาประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเครื่องประดับโดยเฉพาะการส่งออกหยกจนหินชนิดนี้กลายเป็นสินค้าสำคัญของประเทศตั้งแต่อายุเพียงสามสิบเท่านั้น และใช้ชีวิตอย่างยาวนานจนอายุย่างเข้าเจ็บสิบในปีนี้

จ้าวหมิงหมิงตื่นเต้นมากที่จะได้สัมภาษณ์คนที่เธอยกให้เป็นต้นแบบในการทำงาน อีกทั้งผลงานของเขายังเป็นแรงบันดาลใจให้เธอมาเรียนที่คณะอัญมณีศาสตร์แห่งนี้ด้วย

หญิงสาวทำการบ้านเกี่ยวกับประวัติของเซิ่นหวินเผิงโดยละเอียดและเตรียมคำถามจนดึกดื่น วันนี้เช้าจึงต้องซัดกาแฟไปถึงสองแก้วกว่าจะขุดตัวเองขึ้นจากเตียงออกมาส่งอาหารได้

อีกหนึ่งชั่วโมงจะต้องขึ้นเวทีจ้าวหมิงหมิงจึงรีบบึ่งเจ้าไป๋ช่ายน้อยไปทางหอประชุมใหญ่ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางมหาวิทยาลัย แต่แล้วหางตาของเธอก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนเธอไม่ผิดเพี้ยนราวกับเป็นคนคนเดียวกัน!

ต่างกันแค่เพียงผู้หญิงคนนั้นสวมชุดฉีผาว หรือชุดกี่เพ้าสีเขียวใบไผ่ ผมที่ยาวถึงกลางหลังเปียแกละสองข้างพาดอยู่บนหน้าอก เธอยิ้มอ่อนให้จ้าวหมิงหมิงพร้อมชี้ไปทางหอประชุม

แต่พอจ้าวหมิงหมิงกะพริบตาผู้หญิงคนนั้นก็หายไปแล้วเหลือเพียงเจ้าหมาน้อยตัวขาวขนปุยที่ยืนหน้าแป้นอยู่กลางถนนทำเอาเธอหักรถหลบเกือบไม่ทัน

“ว๊าย!”

โครม!

รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของจ้าวหมิงหมิงล้มเค้เก้อยู่บนพื้นทับขาข้างซ้ายของเธอเต็ม ๆ จนเป็นแผลบาดยาวเลือดไหลเป็นทาง หญิงสาวกัดฟันยกรถขึ้นเธอรู้สึกเจ็บจี๊ดจนหน้าเบ้

“เธอเป็นอะไรไหม ฉันขอโทษจริง ๆ นะที่ปล่อยให้หมาหลุดมายืนอยู่กลางถนน” นักศึกษาสาวที่คงเป็นเจ้าของหมาน้อยตัวนั้นรีบมาขอโทษขอโพย

“ไม่เป็นไร” แม้ขาจะเต็มไปด้วยเลือดแต่จ้าวหมิงหมิงก็ยังไม่โกรธตามนิสัยที่เป็นคนโกรธยาก หายง่ายมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

“ให้ฉันพาไปทำแผลที่ห้องพยาบาลนะ”

“ไม่เป็นไร ฉันมีสัมภาษณ์นักธุรกิจที่หอประชุมต้องรีบไป” พิธีกรสาวปฏิเสธ

“แต่เธอก็ไม่สามารถขึ้นเวทีทั้ง ๆ ที่ขาโชกเลือดแบบนี้ได้อยู่ดีไม่ใช่เหรอ คนในหอประชุมคงตกใจกันแย่เลย”

...ก็จริงของเพื่อนนักศึกษา

สุดท้ายจ้าวหมิงหมิงก็จำต้องให้เจ้าของสุนัขตัวน้อยประคองไปทำแผลที่ห้องพยาบาลแต่โดยดี กว่าหญิงสาวจะมาถึงเวทีก็เหลือเวลาอีกเพียงห้านาทีเท่านั้นก็จะถึงคิวของเธอ เธอจึงไม่มีเวลาพอที่จะตระเตรียมซักซ้อมคำถามกับแขกที่จะสัมภาษณ์เหมือนที่เคยทำกับท่านอื่น ๆ ที่เธอเคยผ่านมา

“ฉันนึกว่าเธอจะมาไม่ทันแล้วหมิงหมิง ทีมงานใจหายใจคว่ำกันหมด” เพื่อนชายที่รับหน้าที่เป็นผู้กำกับเวทีพูดอย่างโล่งใจ “ว่าแต่ขาของเธอเป็นอะไรมากไหม เดินขึ้นเวทีไหวหรือเปล่า”

“ไหวสิ โชคดีที่วันนี้เป็นการนั่งสัมภาษณ์ ฉันจึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร...แล้วคุณเซิ่นหวินเผิงล่ะอยู่ที่ไหน” พิธีกรสาวถามเมื่อไม่เห็นว่าแขกมาสแตนบายที่ข้างเวทีด้วยกัน

“คุณหวินเผิงอายุมากแล้ว ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเลยให้รออยู่ที่ห้องพักด้านในกับผู้ดูแล ระหว่างที่ท่านยังเดินมาไม่ถึงเธอก็ช่วยพูดถ่วงเวลาไปก่อนแล้วกัน”

“ได้สิ”

เมื่อได้รับสัญญาณจ้าวหมิงหมิงก็ก้าวขึ้นเวทีอย่างมั่นใจด้วยท่าทางไม่ต่างจากพิธีกรมืออาชีพในรายการโทรทัศน์

“สวัสดีค่ะ คณาจารย์และเพื่อนนักศึกษาทุกท่าน” เธอกล่าวทักทายเสียงดังฟังชัดเพื่อเรียกความสนใจของผู้ชมทุกคนให้มารวมอยู่ที่เธอเป็นจุดเดียว “ดิฉันจ้าวหมิงหมิง รับหน้าที่เป็นพิธีกรของทุกท่านในช่วงสัมภาษณ์อันมีค่านี้ค่ะ”

เสียงปรบมือดังกระหึ่มขึ้นทั่วทั้งห้องประชุมหญิงสาวก้มหัวรับ ก่อนเล่าประวัติคร่าว ๆ ของแขกที่เธอศึกษามาเพื่อซื้อเวลาจนกว่าเขาจะเดินมาถึง

“คุณเซิ่นหวินเผิง เป็นนักธุรกิจชาวจีนคนแรก ๆ ที่ก่อตั้งบริษัทเพื่อทำการส่งออกหยกเนื้อดี อันถือเป็นอัญมณีที่มีค่าควรเมืองของเราไปเป็นสินค้ายังต่างประเทศ ท่านทำหน้าที่เป็นดั่งตัวแทนทางวัฒธรรมของประเทศชาติเรา อีกทั้งยังเป็นหัวเรือใหญ่ที่ทำให้หยกได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ช่วยกอบกู้เศรษฐกิจที่ตกต่ำหลังสงครามให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง ดังนั้นท่านจึงถือว่าเป็นผู้มีคุณูปการกับวงการอัญมณีของเราเป็นอย่างมาก...

นอกเหนือไปจากนั้นคุณเซิ่นหวินเผิงยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ทำงานอย่างเต็มที่ไม่มีวันย่อท้อ สอดคล้องกับคำกล่าวที่ว่า...ขอเพียงตัวเราขยันขันแข็ง โชคชะตาย่อมรับใช้เรา...”

ชายชราที่แม้จะอายุมากแล้วแต่ท่าทางยังดูภูมิฐาน ใบหน้าเรียวเล็ก ดวงตายาวรีซ่อนอยู่ใต้กรอบแว่นทรงเหลี่ยมสีทอง แม้ผิวหนังจะเหี่ยวย่นตามเวลาที่ผันผ่านไปแต่ก็ยังเหลือเค้าความหล่อเมื่อวัยหนุ่ม

“เมื่อกี้แม่หนูบนเวทีเธอพูดว่าอะไรนะ” เซิ่นหวินเผิงถามเสียงเบาหวิว...ต่อให้เวลาผันผ่านไปนานแค่ไหนเขาก็ไม่มีวันลืมประโยคนั้นไปจากใจได้

“น่าจะพูดสุภาษิตเกี่ยวกับความขยันครับท่าน เมื่อกี้ผมไม่ได้ตั้งใจฟังเลยจำไม่ค่อยได้” บุรุษพยาบาลผู้รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยหนุ่มบอก

“ขอเพียงตัวเราขยันขันแข็ง โชคชะตาย่อมรับใช้เรา...เธอพูดแบบนี้ใช่ไหม” ชายชราถามย้ำ

“ใช่ครับใช่ ประโยคนี้เลย”

เซิ่นหวินเผิงน้ำตาคลอ ความหวังในใจกลับมาลุกโชน...ประโยคนั้นเป็นประโยคติดปากที่ภรรยาของเขามักหยิบยกขึ้นมาพูดเสมอเวลาเหนื่อยล้ากับการทำงานเพื่อให้กำลังใจทั้งเขาและตัวเธอเอง

ชายชราแทบรอเวลาที่จะขึ้นไปบนเวทีไม่ไหว กระทั่งพิธีกรสาวประกาศเรียกชื่อเขาให้ขึ้นไป

“ขอเสียงปรบมือต้อนรับคุณเซิ่นหวินเผิงค่า” จ้าวหมิงหมิงประกาศก่อนปรบมือรับ

ชายชราเกาะแขนผู้ช่วยเดินขึ้นไปบนเวทีกว้าง เขารู้สึกมีเรี่ยวแรงมากกว่าทุกวัน ยิ่งเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวที่ยืนรอเขาอยู่ใต้แสงไฟตรงกลางเวทีดวงใจที่แห้งแล้งมานานนับทศวรรษก็กลับมาเต้นแรงอีกครั้งหนึ่ง

เหมือน...ช่างเหมือนเหลือเกิน...เซิ่นหวินเผิงตะโกนก้องอยู่ในใจ

“สวัสดีค่ะคุณเซิ่นหวินเผิง เชิญนั่งค่ะ” พิธีกรสาวผายมือไปยังโซฟาตัวใหญ่ที่ดูนั่งสบาย

“หมิงหมิง เป็นคุณจริง ๆ เหรอ” ชายชราถามเหมือนคนละเมอ ดวงตาใต้กรอบแว่วจ้องไปที่พิธีกรสาวแทบไม่กะพริบ

“คะ?” หญิงสาวรับคำอย่างแปลกใจที่จู่ ๆ นักธุรกิจระดับโลกก็เรียกเธออย่างสนิทสนมทั้ง ๆ เพิ่งเคยพบกันครั้งแรก แต่ด้วยความเจนเวทีเธอจึงปรับสีหน้าและดำเนินรายการต่อได้อย่างไม่สะดุด “ค่ะดิฉันจะรับหน้าที่เป็นผู้สัมภาษณ์คุณเซิ่นในวันนี้ค่ะ”

“ขาของเธอ” เขาชี้ไปที่ผ้าปิดแผลสีขาวขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ตรงขาข้างซ้าย...เป็นบริเวณเดียวกันกับที่ภรรยาผู้ล่วงลับของเขามีแผลเป็นไม่มีผิดเพี้ยน!

“อ้อ ฉันประสบอุบัติเหตุเล็กน้อยค่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ขอบคุณคุณเซิ่นที่เป็นห่วง...เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มพูดคุยกันเลยดีไหมคะ”

เซิ่นหวินเผิงไม่ได้ฟังคำถาม เขาเอาแต่พินิจใบหน้าของนักศึกษาสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าห่างกันเพียงเอื้อมมืออย่างละเอียด ไฝที่ใต้ตาขวาก็เป็นตำแหน่งเดียวกันกับอดีตภรรยา...เป็นเธอไม่ผิดแน่ เธอปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้งที่นี่ ในปีนี้อย่างที่เคยบอกเอาไว้จริง ๆ

ความรู้สึกโหยหา คิดถึงจนใจแทบขาดทำให้ชายชราลืมเลือนทุกอย่างรอบตัวไปสิ้น เขาค่อย ๆ พยุงตัวลุกขึ้นแล้วเดินช้า ๆ ไปกอดเธอเอาไว้แน่น

“หมิงหมิง เป็นคุณจริง ๆ ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน”

ทุกคนในหอประชุมต่างตกใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น ตัวจ้าวหมิงหมิงเองก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเช่นเดียวกัน แต่ก่อนที่เธอจะทันปัดป้องเซิ่นหวินเผิงที่ร่างกายไม่แข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็เป็นลมทรุดลงไปบนตักของหญิงสาวนั้นเอง!

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

จวนร้างแห่งนี้มีสตรีถูกทิ้ง

จวนร้างแห่งนี้มีสตรีถูกทิ้ง

pailinnaka591
5.0

ซ่งจื่อเหยียนถูกน้องสาววางแผนร้าย ในงานวันเกิดองค์หญิงหกกลับพบว่านอนกอดก่ายอยู่กับเว่ยเซียวหยาง แต่เขารังเกียจสตรี แต่งกับนางหรือฝันเฟื่องหรือไง นางจึงถูกไล่ไปอยู่จวนร้างไกลเมืองหลวงถึงห้าสิบลี้ หลี่จื่อเหยียนมาถึงทั้งทีก็สวมบทคุณแม่เลย  ซ่งจื่อเหยียนเจ้าของร่างเดิมจากไปขณะคลอดลูก  แล้วฉันทำไมต้องมาเบ่งแทนวะ ให้ไปแม่น้ำเหลืองเลยไม่ได้หรือไง มันเจ็บนะโว้ย ฮือๆๆๆ สาวใช้ของนางพยายามช่วย ป้าหูอายุห้าสิบแล้ว เป็นชาวบ้านครอบครัวเดียวที่อยู่แถวนั้น "คุณหนูเบ่งอีกนิดเจ้าค่ะ  ฮือๆที่นี่อยู่ไกลนักไม่มีหมอตำแยสักคน" "เอาน่าแม่นางเย่วเล่อ ข้าไม่เคยทำคลอดแต่ข้าก็เคยคลอดลูกแหละน่า นี่ๆอาซ้อซ่งเจ้าเบ่งอีกหน่อย แล้วอย่าสลบไปแบบเมื่อกี้เล่า อดทนหน่อย "อ๊ายย  โอ๊ยเจ็บโอ๊ยเวรกรรมฉิบหายยังไม่ทันมีผัว  ไม่ทันได้รู้รสชาติการป๊าบๆกับผู้ชายเลย  ก็ต้องมาเบ่งลูก  อื้อเจ็บ  อ๊ะ อ๊ายยย" "คุณหนู  ท่านเบ่งอีกนิด  น้ำร้อนเตรียมแล้ว  เย่วหลีกำลังไปเอาเจ้าค่ะ  เหตุใดท่านอ๋องพระทัยร้ายนักฮือๆๆ" "พอแล้ว ไอ้อ๋องสุนัขนั่นสมควรไปตายซะ อ๊าย ข้าเจ็บจะตายเจ้าจะมารำพึงรำพันอะไรเย่วเล่อ  ออกแล้วข้าคลอดแล้ว  อ๊ะ อ๊ายยย" หลี่จื่อเหยียนคลอดบุตรชายของร่างเดิมออกมาหนึ่งคน  จากนั้นนางก็เพลียจนหลับไป

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

รอยรักรอยร้าว

รอยรักรอยร้าว

Del Goodman
5.0

เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

test
4.5

เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ