ท่วงทำนองที่ถูกขโมย, รักทรยศ

ท่วงทำนองที่ถูกขโมย, รักทรยศ

Gavin

5.0
ความคิดเห็น
ชม
11
บท

เจค คู่หมั้นของฉัน กับบริทนีย์ น้องสาวของฉัน ขโมยเพลงที่ฉันทุ่มเททั้งชีวิตและจิตวิญญาณสร้างมันขึ้นมาตลอดสามปีไป มันคือผลงานชิ้นเอกของฉัน เพลงที่จะเป็นตัวกำหนดเส้นทางอาชีพของเราสองคน ฉันได้ยินแผนการทั้งหมดของพวกเขาผ่านประตูห้องอัดเสียงที่แง้มอยู่ “มันเป็นทางเดียวที่แกจะชนะรางวัล Vanguard Award ได้นะบริท” เจคยืนกราน “นี่เป็นโอกาสเดียวของแกแล้ว” ครอบครัวของฉันเองก็ร่วมมือด้วย “พี่เขามีพรสวรรค์ ฉันรู้ แต่พี่เขารับแรงกดดันไม่ไหวหรอก” บริทนีย์พูด พลางอ้างคำพูดของพ่อกับแม่ “แบบนี้ดีที่สุดแล้ว เพื่อครอบครัวของเรา” พวกเขามองฉันเป็นแค่เครื่องจักร เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่ลูกสาว หรือผู้หญิงที่เจคกำลังจะแต่งงานด้วยในอีกสามเดือนข้างหน้า ความจริงเปรียบเหมือนยาพิษที่ค่อยๆ แช่แข็งหัวใจฉันอย่างช้าๆ ผู้ชายที่ฉันรัก ครอบครัวที่เลี้ยงดูฉันมา พวกเขากำลังกัดกินพรสวรรค์ของฉันตั้งแต่วันที่ฉันลืมตาดูโลก และลูกที่ฉันกำลังอุ้มท้องอยู่ล่ะ? มันไม่ใช่สัญลักษณ์แห่งอนาคตของเรา แต่มันเป็นเพียงกุญแจดอกสุดท้ายที่ใช้ล็อกกรงขังที่พวกเขาสร้างขึ้นรอบตัวฉัน ต่อมา เจคเจอฉันนอนตัวสั่นอยู่บนพื้นอพาร์ตเมนต์ของเรา เขาแสร้งทำเป็นห่วงใย ดึงฉันเข้าไปกอด พลางกระซิบข้างหูว่า “เรามีเรื่องดีๆ รออยู่ข้างหน้านะ เราต้องคิดถึงลูกของเรา” วินาทีนั้นเองที่ฉันรู้ว่าต้องทำอะไร วันต่อมา ฉันโทรออกไปสายหนึ่ง ขณะที่เจคแอบฟังอยู่อีกสาย เสียงของเขาสั่นเครือด้วยความตื่นตระหนกที่ในที่สุดก็เป็นของจริง ฉันพูดลงไปในโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “ค่ะ สวัสดีค่ะ ฉันอยากจะยืนยันนัดสำหรับวันพรุ่งนี้ค่ะ” “นัดสำหรับ... การทำหัตถการน่ะค่ะ”

บทที่ 1

เจค คู่หมั้นของฉัน กับบริทนีย์ น้องสาวของฉัน ขโมยเพลงที่ฉันทุ่มเททั้งชีวิตและจิตวิญญาณสร้างมันขึ้นมาตลอดสามปีไป

มันคือผลงานชิ้นเอกของฉัน เพลงที่จะเป็นตัวกำหนดเส้นทางอาชีพของเราสองคน

ฉันได้ยินแผนการทั้งหมดของพวกเขาผ่านประตูห้องอัดเสียงที่แง้มอยู่

“มันเป็นทางเดียวที่แกจะชนะรางวัล Vanguard Award ได้นะบริท” เจคยืนกราน “นี่เป็นโอกาสเดียวของแกแล้ว”

ครอบครัวของฉันเองก็ร่วมมือด้วย “พี่เขามีพรสวรรค์ ฉันรู้ แต่พี่เขารับแรงกดดันไม่ไหวหรอก” บริทนีย์พูด พลางอ้างคำพูดของพ่อกับแม่ “แบบนี้ดีที่สุดแล้ว เพื่อครอบครัวของเรา”

พวกเขามองฉันเป็นแค่เครื่องจักร เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่ลูกสาว หรือผู้หญิงที่เจคกำลังจะแต่งงานด้วยในอีกสามเดือนข้างหน้า

ความจริงเปรียบเหมือนยาพิษที่ค่อยๆ แช่แข็งหัวใจฉันอย่างช้าๆ ผู้ชายที่ฉันรัก ครอบครัวที่เลี้ยงดูฉันมา พวกเขากำลังกัดกินพรสวรรค์ของฉันตั้งแต่วันที่ฉันลืมตาดูโลก และลูกที่ฉันกำลังอุ้มท้องอยู่ล่ะ? มันไม่ใช่สัญลักษณ์แห่งอนาคตของเรา แต่มันเป็นเพียงกุญแจดอกสุดท้ายที่ใช้ล็อกกรงขังที่พวกเขาสร้างขึ้นรอบตัวฉัน

ต่อมา เจคเจอฉันนอนตัวสั่นอยู่บนพื้นอพาร์ตเมนต์ของเรา เขาแสร้งทำเป็นห่วงใย ดึงฉันเข้าไปกอด พลางกระซิบข้างหูว่า “เรามีเรื่องดีๆ รออยู่ข้างหน้านะ เราต้องคิดถึงลูกของเรา”

วินาทีนั้นเองที่ฉันรู้ว่าต้องทำอะไร วันต่อมา ฉันโทรออกไปสายหนึ่ง ขณะที่เจคแอบฟังอยู่อีกสาย เสียงของเขาสั่นเครือด้วยความตื่นตระหนกที่ในที่สุดก็เป็นของจริง ฉันพูดลงไปในโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง

“ค่ะ สวัสดีค่ะ ฉันอยากจะยืนยันนัดสำหรับวันพรุ่งนี้ค่ะ”

“นัดสำหรับ... การทำหัตถการน่ะค่ะ”

บทที่ 1

Juliette Edwards POV:

ท่วงทำนองที่ฉันทุ่มเททั้งชีวิตและจิตวิญญาณสร้างขึ้นมาตลอดสามปี กลายเป็นเพลงประกอบฉากการทรยศครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของฉัน และฉันได้ยินเรื่องราวทั้งหมดผ่านประตูห้องอัดเสียงที่แง้มอยู่ ที่ซึ่งฉันใช้ชีวิตอยู่แทบจะตลอดเวลา

“แกแน่ใจนะว่าพี่เขาจะไม่สงสัยอะไรเลย?” เสียงของบริทนีย์กระซิบแผ่วเบาและสั่นเครือ แตกต่างจากน้ำเสียงทรงพลังและเปี่ยมอารมณ์ที่เธอควรจะใช้ตอนร้องเพลงโดยสิ้นเชิง

ความเงียบเข้าปกคลุมชั่วขณะ ฉันจินตนาการภาพเจค คู่หมั้นของฉัน กำลังเสยผมสีเข้มที่จัดทรงมาอย่างดีของเขา หน้าผากขมวดเข้าหากันด้วยสีหน้าครุ่นคิดอย่างห่วงใย ซึ่งเป็นสีหน้าที่เขาเก็บไว้ใช้จัดการกับความวิตกกังวลของเธอโดยเฉพาะ

“ฉันแน่ใจ” เขาพูด น้ำเสียงทุ้มต่ำและมั่นใจที่เคยทำให้หัวใจฉันรู้สึกปลอดภัย “จูลี่เชื่อใจฉัน และเธอก็เชื่อใจแก”

“แต่มันเป็นผลงานชิ้นเอกของพี่เขานะเจค ใครๆ ก็รู้ ถ้าเกิดมีคนในค่ายสงสัยขึ้นมาล่ะ?”

“ไม่มีใครสงสัยหรอก” เขายืนกราน น้ำเสียงแข็งขึ้น “เราแค่ต้องการไฟล์มาสเตอร์สุดท้าย พอเราได้มันมา ที่เหลือฉันจัดการเอง ฉันจะทำให้คนที่ควรจะรู้ได้รู้ว่าเพลงนี้มาจากแก มันเป็นทางเดียวที่แกจะชนะรางวัล Vanguard Award ได้นะบริท นี่เป็นโอกาสเดียวของแกแล้ว”

อลินา เพื่อนสนิทของฉันซึ่งเป็นซาวด์เอนจิเนียร์ เพิ่งส่งข้อความมาหาฉันเมื่อชั่วโมงก่อน “เจคกับบริทนีย์มาที่นี่ ทำตัวแปลกๆ เขาถามหาไฟล์มิกซ์สุดท้ายของเพลง ‘Echoes of Us’ ตลอดเลย บอกว่าแกอนุมัติแล้ว จริงเหรอ?”

ฉันยังไม่ได้อนุมัติ

ฉันบอกเธอไปว่ากำลังไปที่นั่น อยากจะเห็นกับตาตัวเองว่ามันมีเรื่องด่วนอะไรนักหนา

“พี่เขา... เปราะบางจะตาย” บริทนีย์พึมพำ น้ำเสียงเจือปนด้วยความสงสารที่น่ารังเกียจอย่างประหลาด “พี่เขามีพรสวรรค์ ฉันรู้ แต่พี่เขารับแรงกดดันไม่ไหวหรอก แบบนี้ดีที่สุดแล้ว เพื่อครอบครัวของเรา พ่อกับแม่ก็คิดแบบนั้น”

“ใช่เลย” เจคเห็นด้วย น้ำเสียงของเขาอ่อนลงอีกครั้งเพื่อเกลี้ยกล่อม “จูลี่เป็นเหมือนเครื่องจักร แต่แกคือดาวเด่นนะบริทนีย์ แกมีความสวย มีเสน่ห์ พี่เขาไม่เหมาะกับแสงสีอยู่แล้ว เพลงนี้จะเปิดตัวโดยแก แล้วพี่เขาก็จะพอใจที่ได้รู้ว่าตัวเองช่วยน้องสาวคนเล็กของตัวเอง เดี๋ยวพี่เขาก็ทำใจได้เองแหละ”

เขาทำให้เสียงของฉันเป็นแค่บันไดให้คนอื่นเหยียบย่ำ เป็นแค่เครื่องมือ ไม่ใช่น้องสาว ไม่ใช่คู่ชีวิต ไม่ใช่ผู้หญิงที่เขากำลังจะแต่งงานด้วยในอีกสามเดือนข้างหน้า

ความจริงเกี่ยวกับแผนการสมคบคิดของพวกเขาไม่ได้ซัดเข้ามาเหมือนคลื่นยักษ์ แต่มันค่อยๆ ซึมเข้ามา เหมือนยาพิษร้ายที่แช่แข็งทุกอย่าง เริ่มจากในท้อง แล้วลามไปทั่วร่าง จนฉันรู้สึกเหมือนกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง

ฉันยืนอยู่ในโถงทางเดินที่มีแสงสลัว มือยังคงวางอยู่บนขอบประตูโลหะเย็นเฉียบ ข้อนิ้วของฉันขาวซีด ขอบประตูที่คมกริบกำลังบาดลึกเข้าไปในฝ่ามือ เป็นความเจ็บปวดเล็กๆ ที่ช่วยดึงสติฉันไว้ในโลกที่เพิ่งแตกสลายเป็นล้านชิ้น

หน้าอกของฉันไม่ได้เจ็บปวด มันแค่... ว่างเปล่า เป็นโพรงโบ๋ที่ซึ่งหัวใจของฉันควรจะอยู่

ฉันมาที่นี่เพื่อจะเซอร์ไพรส์เขา ฉันซื้อกาแฟแก้วโปรดของเขากับขนมอบจากร้านเบเกอรี่เล็กๆ ใกล้อพาร์ตเมนต์ของเรามา เป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เพื่อฉลองที่เพลงซึ่งฉันคิดว่าจะกำหนดเส้นทางอาชีพของเราใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้กาแฟในมือฉันเย็นชืดหมดแล้ว

อากาศฤดูใบไม้ร่วงข้างนอกสดชื่น แต่ตอนนี้ความหนาวเย็นที่ฉันรู้สึกไม่ได้เกี่ยวกับสภาพอากาศเลยแม้แต่น้อย

ฉันควรจะกังวลว่าบริทนีย์จะเป็นหวัดในตึกที่ลมโกรกแบบนี้ ฉันควรจะคิดถึงท่อนบริดจ์สุดท้ายของเพลง ท่อนที่ฉันอดหลับอดนอนทั้งคืนเพื่อแก้ไขให้สมบูรณ์แบบ

แต่กลับมีความเข้าใจอันโหดร้ายเพียงหนึ่งเดียวผุดขึ้นมาในความรู้สึกชาด้าน

การทรยศ

มันไม่ใช่ความเจ็บปวดที่แหลมคม มันคือภาระหนักอึ้งที่กดทับฉันอยู่ บดขยี้อากาศออกจากปอด มันคือรสชาติของเถ้าถ่านในปาก มันคือใบหน้าของแม่ พ่อ น้องสาว และผู้ชายที่ฉันรัก ทั้งหมดพร่ามัวรวมกันเป็นอสูรกายตนหนึ่งที่กัดกินพรสวรรค์ ความหวัง และความรักของฉันมาตั้งแต่วันที่ฉันลืมตาดูโลก

ฉันจำไม่ได้ว่าเดินกลับบ้านได้อย่างไร การเดินทางพร่าเลือนไปด้วยแสงไฟถนนที่สาดส่องผ่านม่านฝนที่เริ่มโปรยปราย เท้าของฉันก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว เป็นการกระทำเชิงกลไกที่ไม่เชื่อมโยงกับความคิดในหัวเลย

ฉันไม่ทันสังเกตว่ากุญแจไขเข้าประตูอย่างทุลักทุเล หรือน้ำหนักของเสื้อโค้ตที่เปียกโชกตอนที่ฉันถอดมันออกเมื่อเข้ามาในอพาร์ตเมนต์ที่ฉันกับเจคอยู่ด้วยกัน

ร่างกายของฉันทรุดลงก่อนที่สมองจะตามทัน ฉันไถลตัวลงกับกำแพง แผ่นหลังครูดไปกับปูนเย็นๆ แล้วร่วงลงไปกองกับพื้นไม้เนื้อแข็ง

ฉันขดตัวเป็นก้อน แขนกอดเข่าไว้แน่น แล้วเริ่มตัวสั่นเทา ความเย็นจากพื้นซึมผ่านกางเกงยีนส์ เป็นความหนาวเย็นที่แทรกซึมลึกเข้าไปในกระดูก

ท้องของฉันปั่นป่วนด้วยความรู้สึกคลื่นไส้ กาแฟที่ฉันถือมาคงถูกทิ้งไปไหนสักแห่งระหว่างทางกลับ แต่รสขมยังคงติดอยู่ที่ลิ้น

น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้มอย่างเงียบๆ เป็นทางร้อนๆ บนผิวที่เย็นเฉียบ ฉันไม่มีแรงแม้แต่จะเช็ดมันออก มันแค่ไหลลงมา หยดจากคางลงบนกางเกงยีนส์ เกิดเป็นรอยด่างดำเล็กๆ บนเนื้อผ้า

เสียงลูกบิดประตูหมุนทำให้ร่างกายของฉันแข็งทื่อ

เสียงรองเท้าหนังราคาแพงของเขากระทบพื้นดังสะท้อนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

เขาคุกเข่าลงข้างๆ ฉัน เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ และอ่อนโยน “จูลี่? ที่รัก มาทำอะไรบนพื้นเนี่ย?”

น้ำเสียงของเขาคือผลงานชิ้นเอกของการแสร้งทำเป็นห่วง

“หนาวเหรอ? ตัวเปียกหมดเลย” ฉันรู้สึกถึงมือของเขาบนไหล่ อบอุ่นและหนักอึ้ง อลินาคงโทรหาเขา เธอออกจากที่ทำงานก่อนเวลา บอกว่ารู้สึกไม่สบาย

“ไม่สบายเหรอ?” เขาถาม นิ้วโป้งลูบแขนฉันเบาๆ ในแบบที่เขารู้ว่ามันทำให้ฉันสงบลงได้เสมอ

ฉันรู้สึกถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเขาขณะที่เขาขยับเข้ามาใกล้ กลิ่นไม้จันทน์หอมและผ้าลินินสะอาดอันคุ้นเคยของเขาอบอวลไปทั่วประสาทสัมผัส เขาปัดปอยผมที่เปียกชื้นออกจากใบหน้าฉัน

ดวงตาของเขา สีเหมือนวิสกี้อุ่นๆ ที่ฉันเคยหลงใหล เต็มไปด้วยความกังวลที่สร้างขึ้นอย่างแนบเนียน “จูลี่ เป็นอะไรไป? คุยกับฉันสิ”

เขาอยู่ใกล้จนฉันเห็นประกายสีทองเล็กๆ ในม่านตาของเขา เขาประคองใบหน้าฉันไว้ในมือ สัมผัสของเขาอ่อนโยน

“ต้องระวังตัวหน่อยนะ” เขากระซิบ เสียงนุ่มราวกำมะหยี่ “โดยเฉพาะตอนนี้”

ฉันจ้องเข้าไปในดวงตาของเขา และเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นทุกอย่างชัดเจนจนน่าสยดสยอง

การหลอกลวงไม่ใช่เรื่องใหม่ มันคือรากฐานของความสัมพันธ์ของเรา

ห้าปีที่แล้ว เรื่องอื้อฉาวที่ถูกกุขึ้นมาเกือบจะทำลายเส้นทางอาชีพที่กำลังรุ่งโรจน์ของฉันก่อนที่มันจะเริ่มต้นด้วยซ้ำ นักดนตรีคู่แข่งคนหนึ่งที่อยากได้สัญญาอัดเสียงจนตัวสั่น กล่าวหาฉันอย่างผิดๆ ว่าลอกเลียนผลงาน กระแสสื่อโหมกระหน่ำอย่างไม่หยุดยั้ง นิสัยเงียบขรึมและเก็บตัวของฉันถูกบิดเบือนให้กลายเป็นการยอมรับผิด

ครอบครัวของฉัน แทนที่จะปกป้อง กลับมองเห็นโอกาส พวกเขากดดันให้ฉันถอยออกมา อยู่เบื้องหลัง “เพื่อชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล” พวกเขาบอกว่าบริทนีย์ที่มีเสน่ห์และพร้อมออกกล้อง เหมาะสมกับสายตาสาธารณชนมากกว่า

เจค โปรดิวเซอร์และแฟนของฉันในตอนนั้น เป็นคนเสนอทางออก เขาประกาศให้โลกรู้ว่าเพลงเหล่านั้นเป็นผลงานร่วมกัน ฉันเป็นนักแต่งเพลงขี้อาย และเขาคือโฉมหน้าของความร่วมมือของเรา เขารักษาชื่อเสียงของฉันไว้ แต่ต้องแลกมาด้วยการที่ฉันกลายเป็นนักแต่งเพลงเงาในชีวิตของตัวเอง

จากนั้นก็มีการขอแต่งงานต่อหน้าสาธารณชน เป็นการแสดงความรักที่ยิ่งใหญ่และโรแมนติกในงานประกาศรางวัลของวงการ ซึ่งตอกย้ำภาพลักษณ์คู่รักทรงอิทธิพลของเรา มันให้ความรู้สึกเหมือนการไถ่บาป ฉันเชื่อว่าเขาคือผู้ช่วยชีวิตของฉัน เป็นคนเดียวที่เห็นคุณค่าในตัวฉันอย่างแท้จริง

ฉันคิดว่าเขากำลังสร้างโลกของฉันขึ้นมาใหม่ แต่ในความเป็นจริง เขาแค่กำลังสร้างกรงที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

ในช่วงหลายปีต่อมา ฉันทุ่มเทพรสวรรค์ทุกหยาดหยดให้กับบริษัทโปรดักชั่นของเขา ฉันเขียน ฉันแต่ง ฉันเรียบเรียงดนตรี เพลงของฉันที่ถูกกรองผ่านชื่อและแบรนด์ของเขา ทำให้เขากลายเป็นดาวรุ่งในวงการ บริษัทของเขาเติบโตจากค่ายอินดี้เล็กๆ กลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ เซ็นสัญญากับศิลปินใหม่ๆ และคว้ารางวัลมากมาย

เราเป็นทีมเดียวกัน ฉันเชื่ออย่างนั้น เราซื้ออพาร์ตเมนต์สวยๆ ที่มองเห็นวิวเมือง เราพูดถึงอนาคต ถึงลูก ถึงการแก่ไปด้วยกัน

ฉันคิดว่าเรามีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ

ตอนนี้ เมื่อมองไปที่เขา ฉันรู้แล้ว ฉันเป็นแค่สินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดที่เขาครอบครอง

เขาดึงฉันเข้าไปกอด แขนของเขารอบไหล่ที่สั่นเทาของฉัน เขาวางคางลงบนศีรษะของฉัน

“ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร เราจะผ่านมันไปด้วยกัน” เขากระซิบข้างหู “เรามีเรื่องดีๆ รออยู่ข้างหน้าอีกเยอะ อีกไม่นานก็จะไม่ได้มีแค่เราสองคนแล้วนะ เราต้องคิดถึงลูกของเรา”

รอยยิ้มของเขา รอยยิ้มที่เคยทำให้ฉันเข่าอ่อน มันคือคำโกหกที่สวยงามและสมบูรณ์แบบ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Gavin

ข้อมูลเพิ่มเติม
รักต้องห้าม  โทสะของผู้ปกครอง

รักต้องห้าม โทสะของผู้ปกครอง

วัยรุ่น

5.0

สิบปีเต็มที่ฉันแอบรักภาคิน วงศ์วรานนท์ ผู้ปกครองของฉัน หลังจากครอบครัวของฉันล้มละลาย เขาก็รับฉันไปดูแลและเลี้ยงดูฉันจนโต เขาคือโลกทั้งใบของฉัน ในวันเกิดอายุสิบแปดปี ฉันรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อสารภาพรักกับเขา แต่ปฏิกิริยาของเขากลับเป็นความเกรี้ยวกราดอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เขาปัดเค้กวันเกิดของฉันตกพื้นแล้วคำรามลั่น “สติแตกไปแล้วเหรอ? ฉันเป็นผู้ปกครองเธอนะ!” จากนั้นเขาก็ฉีกภาพวาดที่ฉันใช้เวลาวาดเป็นปีเพื่อเป็นคำสารภาพรักของฉันจนไม่เหลือชิ้นดี เพียงไม่กี่วันต่อมา เขาก็พาโคลอี้ คู่หมั้นของเขากลับมาบ้าน ผู้ชายที่เคยสัญญาว่าจะรอฉันโต ที่เคยเรียกฉันว่าดวงดาวที่สว่างไสวที่สุดของเขา ได้หายไปแล้ว ความรักที่ร้อนแรงและสิ้นหวังตลอดสิบปีของฉันทำได้เพียงแผดเผาตัวเอง คนที่ควรจะปกป้องฉันกลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายฉันเจ็บปวดที่สุด ฉันก้มมองจดหมายตอบรับจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในมือ ฉันต้องไปจากที่นี่ ฉันต้องถอนรากถอนโคนเขาออกจากหัวใจ ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ของพ่อ “พ่อคะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “เอวาตัดสินใจแล้ว เอวาอยากไปอยู่กับพ่อที่กรุงเทพฯ ค่ะ”

การคิดบัญชีอันขมขื่น ของภรรยา

การคิดบัญชีอันขมขื่น ของภรรยา

นิยายสั้น

5.0

ฉันกับภวินท์ สามีของฉัน เราคือคู่รักที่สมบูรณ์แบบที่สุดในกรุงเทพฯ ใครๆ ก็เรียกเราว่าคู่รักทองคำ แต่ชีวิตแต่งงานที่ใครๆ ต่างอิจฉากลับเป็นเรื่องหลอกลวง เราไม่มีลูก เพราะเขามีภาวะทางพันธุกรรมที่หายากมาก เขาอ้างว่าผู้หญิงคนไหนก็ตามที่อุ้มท้องลูกของเขาจะต้องตาย เมื่อพ่อของเขาที่กำลังจะสิ้นใจเรียกร้องทายาท ภวินท์ก็เสนอทางออก...แม่อุ้มบุญ ผู้หญิงที่เขาเลือกคืออารยา เธอคือฉันในเวอร์ชันที่เด็กกว่า สดใสกว่า ทันใดนั้น ภวินท์ก็ยุ่งตลอดเวลา เขาต้องคอยดูแลเธอระหว่าง "กระบวนการทำเด็กหลอดแก้วที่ยากลำบาก" เขาลืมวันเกิดฉัน เขาลืมวันครบรอบของเรา ฉันพยายามจะเชื่อเขา จนกระทั่งฉันบังเอิญได้ยินเขาคุยกับเพื่อนๆ ที่งานเลี้ยง เขาสารภาพกับเพื่อนว่าความรักที่เขามีให้ฉันคือ "ความผูกพันที่ลึกซึ้ง" แต่กับอารยา มันคือ "ไฟ" และ "ความเร่าร้อน" เขากำลังวางแผนจัดงานแต่งงานลับๆ กับเธอที่ภูเก็ต ในวิลล่าสุดหรูที่เขาเคยสัญญาว่าจะพาฉันไปฉลองวันครบรอบ เขากำลังจะมอบงานแต่งงาน ครอบครัว และชีวิตให้เธอ...ทุกสิ่งที่เขาปฏิเสธฉัน โดยใช้คำโกหกเรื่องภาวะทางพันธุกรรมร้ายแรงเป็นข้ออ้าง การทรยศหักหลังมันสมบูรณ์แบบเสียจนฉันรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าอย่างแรง คืนนั้นเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน พร้อมกับคำโกหกเรื่องไปทำงานต่างจังหวัด ฉันยิ้มและสวมบทบาทภรรยาที่แสนดีต่อไป เขาไม่รู้ว่าฉันได้ยินทุกอย่าง เขาไม่รู้ว่าในขณะที่เขากำลังวางแผนชีวิตใหม่ ฉันก็ได้วางแผนหนีของฉันไว้แล้ว และที่แน่ๆ เขาไม่รู้ว่าฉันเพิ่งโทรหาบริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องเดียว...การทำให้คนหายตัวไป

ถูกอัลฟ่าแผดเผา  เพลิงแค้นของฉัน  วันชำระของเขา

ถูกอัลฟ่าแผดเผา เพลิงแค้นของฉัน วันชำระของเขา

นิยายสั้น

5.0

คีรินคือพรหมลิขิตของฉัน อนาคตอัลฟ่าของฝูง รักแรกในวัยเยาว์ และคู่แท้แห่งโชคชะตาของฉัน แต่คืนหนึ่ง ฉันได้กลิ่นผู้หญิงคนอื่นบนตัวเขา กลิ่นโอเมก้าที่หอมหวานจนน่าคลื่นไส้ซึ่งฉันรู้จักดีเกินไป ฉันตามเขาไปและพบพวกเขาสองคนใต้ต้นไทรใหญ่ กำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม การทรยศของเขาเปรียบเสมือนยาพิษที่ค่อยๆ ซึมลึกอย่างเชื่องช้า เมื่อไลลา โอเมก้าคนโปรดของเขาแกล้งทำเป็นหกล้ม เขาก็ประคองเธอราวกับว่าเธอทำจากแก้วเจียระไน แต่ตอนที่เขาแอบตัดสายรัดอานม้าของฉันระหว่างการกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางสุดอันตราย จนทำให้ม้าสะบัดฉันตกลงมาขาหัก เขากลับเรียกมันว่า "คำเตือน" ที่ห้ามไปแตะต้องเธอ การดูแลฉันหลังจากนั้นเป็นเพียงการสร้างภาพเพื่อไม่ให้พ่อของฉันสงสัย ในงานประมูลสาธารณะ เขาใช้เงินของครอบครัวฉันเพื่อซื้อเพชรล้ำค่าให้เธอ ทิ้งให้ฉันต้องอับอายและไม่มีเงินจ่าย ในที่สุดฉันก็เข้าใจสิ่งที่ได้ยินผ่านจิตสื่อสารของฝูงเมื่อหลายวันก่อน สำหรับเขาและพี่น้องร่วมสาบานของเขา ฉันเป็นเพียง "คุณหนูเอาแต่ใจ" เป็นรางวัลที่ต้องไขว่คว้ามาเพื่ออำนาจ ส่วนไลลาคือคนที่พวกเขาปรารถนาอย่างแท้จริง เขาคิดว่าจะทำลายฉันได้ บังคับให้ฉันยอมรับการเป็นที่สอง เขาคิดผิด ในคืนวันเกิดครบรอบ 20 ปีของฉัน คืนที่ฉันควรจะผูกพันธะกับเขา ฉันกลับยืนอยู่ต่อหน้าสองฝูงและเลือกทางที่แตกต่างออกไป ฉันปฏิเสธเขาและประกาศการแต่งงานกับอัลฟ่าคู่แข่ง ชายผู้มองฉันเป็นราชินี ไม่ใช่ของรางวัลปลอบใจ

ถูกอัลฟ่าของฉันปฏิเสธ แต่ถูกมงกุฎของฉันทวงคืน

ถูกอัลฟ่าของฉันปฏิเสธ แต่ถูกมงกุฎของฉันทวงคืน

นิยายสั้น

5.0

คู่แท้ของฉัน อัลฟ่าธาม กำลังจัดพิธีตั้งชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ให้ทายาทของเขา ปัญหามีอยู่เรื่องเดียว... เขากำลังฉลองให้กับลูกที่เกิดกับลิตา หมาป่าไร้ฝูงที่เขาพาเข้ามาในฝูงของเรา ส่วนฉัน คู่แท้ตัวจริงของเขาที่กำลังตั้งท้องทายาทของเขาได้สี่เดือน กลับเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับเชิญ เมื่อฉันไปเผชิญหน้ากับเธอ เธอกลับใช้เล็บข่วนแขนตัวเองจนเลือดออก แล้วกรีดร้องว่าฉันทำร้ายเธอ ธามเห็นการแสดงของเธอก็ไม่แม้แต่จะมองฉัน เขาคำรามลั่น ใช้คำสั่งอัลฟ่าบีบบังคับให้ฉันจากไป พลังแห่งสายใยผูกพันของเราถูกบิดเบือนให้กลายเป็นอาวุธที่หันกลับมาทำร้ายฉันเอง ต่อมา เธอทำร้ายฉันจริงๆ จนฉันล้มลง ขณะที่เลือดเริ่มซึมออกมาจากชุดของฉัน คุกคามชีวิตลูกของเรา เธอกลับเหวี่ยงลูกของตัวเองลงบนพรมแล้วกรีดร้องว่าฉันพยายามจะฆ่าลูกของเธอ ธามพุ่งเข้ามา เขาเห็นฉันจมกองเลือดอยู่บนพื้น แต่เขากลับไม่ลังเลเลยสักนิด เขาช้อนลูกของลิตาที่กำลังร้องลั่นขึ้นมาในอ้อมแขน แล้ววิ่งออกไปตามหมอทันที ทิ้งให้ฉันกับทายาทที่แท้จริงของเขานอนรอความตาย แต่ขณะที่ฉันนอนอยู่ตรงนั้น เสียงของแม่ก็ดังขึ้นในหัวผ่านกระแสจิตของเรา คนของครอบครัวกำลังรอฉันอยู่นอกเขตแดนแล้ว เขากำลังจะได้รู้ว่าโอเมก้าที่เขาเขี่ยทิ้ง แท้จริงแล้วคือเจ้าหญิงของฝูงที่ทรงพลังที่สุดในโลก

จากเบี้ยของเขา สู่ควีนของเธอ

จากเบี้ยของเขา สู่ควีนของเธอ

นิยายสั้น

5.0

ฉันคือคีรติ วรโชติ นักข่าวหัวขบถแห่งตระกูลนักการเมืองทรงอิทธิพล ทางรอดเดียวของฉันคือความสัมพันธ์ลับๆ อันร้อนแรงกับอธิป สุริยวงศ์ ซีอีโอผู้ทรงอำนาจที่ราวกับสลักขึ้นจากน้ำแข็งและตรรกะ เขาเรียกฉันว่า "หายนะที่งดงามของผม" พายุที่ถูกกักขังไว้ในกำแพงเพนต์เฮาส์ของเขา แต่ความสัมพันธ์ของเราสร้างขึ้นบนคำโกหก ฉันค้นพบว่าเขาเพียงแค่ "ทำให้ฉันเชื่อง" เพื่อเอาใจผู้หญิงอีกคน กมลา ลูกสาวผู้อ่อนแอของหัวหน้าคณะทำงานของพ่อฉัน ซึ่งเขาเป็นหนี้บุญคุณที่ไม่อาจชดใช้ได้ เขาเลือกหล่อนต่อหน้าสาธารณชน เช็ดน้ำตาให้หล่อนด้วยความอ่อนโยนที่เขาไม่เคยแสดงให้ฉันเห็น เขาปกป้องหล่อน ปกป้องหล่อน และเมื่อฉันถูกคนชั่วคุกคาม เขาก็ทอดทิ้งฉันเพื่อรีบไปอยู่ข้างหล่อน การทรยศที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นเมื่อเขาสั่งให้จับฉันเข้าคุกและซ้อม พร้อมกับคำรามว่าฉันต้อง "เรียนรู้บทเรียน" ฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นลงระหว่างอุบัติเหตุรถชน โดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว เขากระโจนไปขวางหน้ากมลา ใช้ร่างกายของตัวเองเป็นเกราะกำบัง ปล่อยให้ฉันเผชิญแรงกระแทกเพียงลำพัง ฉันไม่ใช่คนที่เขารัก แต่เป็นภาระที่เขาพร้อมจะสังเวย ขณะนอนร่างกายแหลกสลายบนเตียงในโรงพยาบาล ในที่สุดฉันก็เข้าใจ ฉันไม่ใช่หายนะที่งดงามของเขา แต่เป็นตัวโง่ของเขาต่างหาก ดังนั้นฉันจึงทำสิ่งเดียวที่ทำได้ ฉันเผาโลกอันสมบูรณ์แบบของเขาให้วอดวาย ตอบรับคำขอแต่งงานจากมหาเศรษฐีใจดีที่สัญญาสันติสุขให้ฉัน และเดินจากไปเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทิ้งเถ้าถ่านแห่งความรักของเราไว้เบื้องหลัง

ค่าของเจ้าแม่มาเฟีย

ค่าของเจ้าแม่มาเฟีย

นิยายสั้น

5.0

การแต่งงานของฉันกับมาคิน ภัทรธำรง คือสัญญาที่ลงนามด้วยเลือด คือคำมั่นที่จะหลอมรวมสองตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในกรุงเทพฯ เข้าไว้ด้วยกัน เขาคืออนาคตของฉัน คือราชันย์ที่ถูกเลือกมาให้ปกครองเคียงข้างฉัน ทุกคนต่างพูดว่าการรวมกันของเราคือพรหมลิขิต แต่เขากลับบ้านมาพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมราคาถูกและคำโกหกของผู้หญิงอีกคน มันคือกลิ่นของอัญญาริน เด็กกำพร้าผู้อ่อนแอที่ครอบครัวของเขารับมาเลี้ยงดู เด็กผู้หญิงที่เขาสาบานว่าจะปกป้องเหมือนน้องสาวแท้ๆ ฉันตามเขาไปที่ไพรเวทคลับแห่งหนึ่ง จากในเงามืด ฉันเฝ้ามองเขาดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนและมอบจูบที่หิวกระหายและสิ้นหวังให้เธอ...จูบที่เขาไม่เคยให้ฉันเลย ในวินาทีนั้น อนาคตทั้งชีวิตของฉันแหลกสลายลง ในที่สุดฉันก็เข้าใจเสียงกระซิบจากลูกน้องของเขาว่าฉันเป็นเพียงรางวัลทางการเมือง ในขณะที่อัญญารินคือราชินีตัวจริงของพวกเขา เขาต้องการอาณาจักรของฉัน แต่หัวใจของเขาเป็นของเธอ ฉันจะไม่เป็นของรางวัลปลอบใจ ฉันจะไม่เป็นรองใคร ฉันเดินตรงเข้าไปในห้องทำงานของพ่อ เสียงของฉันเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง "หนูจะยกเลิกงานแต่งงานค่ะ" เมื่อท่านค้าน ฉันจึงปล่อยหมัดเด็ดสุดท้าย "หนูจะรักษาความต้องการของตระกูลเราในเรื่องพันธมิตรไว้ค่ะ หนูจะแต่งงานกับเจ้าพ่อธาวิน วรไพศาล" แก้ววิสกี้ในมือพ่อร่วงแตกกระจายบนพื้น ธาวิน วรไพศาล คือคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คืนแต่งงานของฉัน สามีที่เย็นชาของฉันจู่ๆ ก็จูบฉันอย่างแรง

คืนแต่งงานของฉัน สามีที่เย็นชาของฉันจู่ๆ ก็จูบฉันอย่างแรง

Harper
5.0

เมื่อคุณหนูตัวจริงกลับมา, ฟางถี, คุณหนูปลอมตัวนี้ ถูกตระกูลฟางไล่ออกมาอย่างไม่เหลือเยื่อใย. ทุกคนต่างจับตามองการแสดงของเธอ, ทว่าฟางถีกลับหันไปแต่งงานกับตระกูลอันดับหนึ่ง — ตระกูลหยั่น, กลายเป็นคนที่พวกเขาเพียงแค่ได้แต่เงยหน้ามอง. “ได้ยินมาว่าฟางถีแต่งงานกับตระกูลหยั่นตอนกำลังตั้งครรภ์, คงจะเป็นเพราะเธอไม่อายวางแผนล่อลวงหยั่นสามน้อย, ใช้เด็กเป็นเครื่องมือบีบให้ขึ้นสู่ตำแหน่ง!” “ใครๆ ก็รู้ว่าหยั่นสามน้อยในใจมีแค่ผู้หญิงในฝัน, ถึงแม้จะใช้ลูกหลานเข้าไปในตระกูลหยั่น, เธอก็ต้องอยู่แบบถูกทอดทิ้งไปตลอดชีวิต!” ต่อมา— ในงานเลี้ยง, ทุกคนได้เห็นด้วยตาของตัวเอง, หยั่นสามน้อย, ที่เป็นคนดังในเมืองจิงตู้, ซึ่งมีชื่อเสียงในวงการธุรกิจในด้านความแข็งแกร่ง, ต้องเดินวนรอบตัวภรรยาของเขาทั้งคืน, สวมเสื้อคลุม, ยื่นเครื่องดื่ม, ป้อนผลไม้, นวดเท้าและบ่า... ไม่หยุดหย่อน, เอาใจดูแลอย่างสุดๆ! ทุกคนตกตะลึง, หยั่นสามน้อยที่เย็นชาราวกับคนสูงศักดิ์กลับกลายเป็นคนที่หลงรักภรรยาของเขาจนไม่เหลืออะไร! คนที่เคยซ้ำเติมเธอต่างก็เริ่มหวั่นใจ, ต่างพากันหลบไปในมุมที่มองไม่เห็น, กลัวว่าคุณนายหยั่นจะเห็นและจดจำ.

รักร้ายจอมทระนง

รักร้ายจอมทระนง

มาชาวีร์
5.0

“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)

เทพเจ้าแห่งอสูร: พิชิตทุกพิภพด้วยหมื่นภูตผี

เทพเจ้าแห่งอสูร: พิชิตทุกพิภพด้วยหมื่นภูตผี

Daniel
5.0

-- ในศตวรรษที่ 26 ทหารรับจ้างอันดับหนึ่งได้กลับชาติมาเกิดใหม่ กลายเป็นลูกเลี้ยงที่ไร้ค่าของตระกูลผู้มีชื่อเสียง แต่เมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง โลกก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ย่ำยีชายทรยศ ข่มเหงหญิงเลว จัดการกับพวกที่ทำให้ชีวิตติดขัด เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งตามใจปรารถนา ควบคุมเทพสัตว์นับพัน ถลุงยาวิเศษ วางข่ายศักดิ์สิทธิ์ วาดยันต์ผี ทุกอย่างนางทำได้อย่างชำนาญ อยู่เหนือกว่าอัจฉริยะทั้งห้าภพ โลกนี้นางครอบครอง ไม่สามารถบำเพ็ญตบะงั้นหรือ แต่นางเป็นผู้ครอบครองพลังครบทุกธาตุ ไม่มีคุณสมบัติมากพอบำเพ็ญลัทธิหรือ นางนอกจากบำเพ็ญลัทธิอสูรลัทธิเทพลัทธิวิญญาณลัทธิมารทั้งสีแล้ว ยังสร้างลัทธิภูตผีอีกด้วย ไร้ค่า ไม่มีความสามารถงั้นหรือ นางคือราชาผี ที่สืบทอดพลังหยินขั้นสูง แค่กระดิกนิ้ว พญาวิญญาณแค้นนับหมื่นก็พรั่งพรูมาปรนนิบัติ เพียงแต่ว่าจักรพรรดิผู้ลึกลับที่ตามตื้อนางนั้น มันคือยังไงกัน เฝิงอี้ "เพิ่งเจอหน้ากันก็ถอดเสื้อข้า เช่นนั้นเราสู้กันบนเตียงอีกรอบดีหรือไม่" เย่วเฉิงเฟิงยิ้มยั่ว "ผู้ชายมีแต่จะเป็นตัวถ่วงของข้า ท่านจักรพรรดิ ท่านเดินทางดีๆ ลาก่อนนะ"

สามีใหม่ของฉัน สุดยอดน่าดูเลย

สามีใหม่ของฉัน สุดยอดน่าดูเลย

Thaddeus Shore
5.0

ทั้งเมืองรู้กันดีว่า หลังจากที่ลู่ซิงหลานถูกเปิดเผยว่าเป็นลูกสาวปลอม เธอก็ถูกสามีขับไล่ออกจากชีวิต พ่อแม่ก็ทอดทิ้ง พี่ชายก็รังเกียจ ครอบครัวของสามีตัดสินใจไล่เธอออกจากบ้านอย่างเด็ดขาด แต่ใครจะคิดว่าเธอกลับไปพึ่งพา ลี่จิ่งเหยียน ผู้ทรงอิทธิพลในวงการแทนในทันที ขณะที่ทุกคนรอให้ลี่จิ่งเหยียนถีบลู่ซิงหลานออกไปนั้น ลู่ซิงหลานก็เริ่มเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงอย่างใจเย็น มันมีแต่เรื่องที่ทำให้ประหลาดใจเท่านั้น แต่สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือบรรดาผู้ทรงอิทธิพลต้องคุกเข่าต่อหน้าเธอเป็นแถว สามีเก่าที่เป็นคนไม่ดีอยากกลับมาง้อขอคืนดี ลู่ซิงหลานก็จัดการเขาทิ้งทันที และกลับยิ้มให้สามีใหม่แล้วพูดว่า "ที่รัก คุณสามารถพึ่งพาฉันได้นะ" ใครจะคิดว่าลี่จิ่งเหยียนเองก็เป็น ผู้ทรงอิทธิพลไม่เบา พร้อมยิ้มแย้ม "แต่ที่รัก ผมอยากครองใจคุณมากกว่า" องค์กรระหว่างประเทศเพิ่งเผชิญกับสามเหตุการณ์สำคัญ หนึ่งคือการที่ลู่ซิงหลานหย่าร้าง สองคือการที่ลี่จิ่งเหยียนแต่งงาน และสามคือคู่รักที่มีตัวตนลับมากมายที่แกล้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อหลอกลวง ทั้งสองสมคบคิด ทำอะไรไม่ดี

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ