เหตุของความแค้น เป็นผลให้เขาทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้น! “ว้าว... มีสาวสวยแล่นมานอนให้ทับถึงที่เลยวุ้ย” หยอกกระเซ้าอีกฝ่ายที่หน้าแดงแป๊ด ดวงตาเขียวปั้ดด้วยความโกรธและแค้น “แหม...อยากมีอะไรกับฉันมากจนรอไม่ไหวเลยหรือกระต่าย ถึงได้แล่นมาหากันแบบนี้เลยน่ะ แต่ตอนนี้ฉันยังไม่มีอารมณ์เลย ถ้าอยากให้ฉันบำบัดความต้องการให้ เธอคงจะต้องยั่วยวนฉันมากๆ หน่อยละยาหยี” เพราะต้องการปกป้องพี่สาวและช่วยเหลือผู้มีพระคุณทำให้เธอยอมตกอยู่ในเงื้อมือศัตรู จะเจ็บปวดอับอายแค่ไหนไม่หวั่น เมื่อถึงวันจะเอาคืนให้สาสม! “อะไรที่ผ่านมาแล้ว ก็ปล่อยให้มันผ่านไป ไม่เก็บเอามาใส่ใจให้หงุดหงิดรำคาญ ไม่อยากจะชายตาเหลียวแล แล้วยิ่งผู้ชายอย่างคุณ...” กวาดตามองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “หลงตัวเองก็เท่านั้น ปากก็จัดยังกับอมสุนัขเน่าเข้าไป ให้พร้อมแถมขาวสารสักสิบกระสอบ ฉันยังไม่เอาเลยค่ะ ไม่รู้จะเอาไปทำไมให้มันเกะกะสายตา”
“พ่อล่ะครับแม่”
ไม่ทันจะได้หย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาใกล้กับมารดา เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ซึ่งแม้ตอนนี้จะยังโตไม่เต็มวัยแต่สัดส่วนความสูงก็ปาไปถึง 160 ซม. อกไหล่กว้างผึ่งผายและมีเค้าว่าหากโตเต็มวัยจะสูงและใหญ่กว่านี้อีก เค้าหน้าตาคมสันด้วยคิ้วหนาเป็นปื้นเส้นขนเรียงกันอย่างสวยงามตวัดโค้งขึ้นด้านบนเล็กน้อย ดวงตาสีสนิมคมกริบเหมือนกับพญาเหยี่ยวรับกับจมูกโด่งได้รูปและริมฝีปากหนาหยักเอ่ยถาม เมื่อกวาดสายตาไปทั่วห้องแล้วก็ยังไม่เห็นบิดาที่นัดกับเขาไว้ว่าวันนี้จะพาไปซื้ออุปกรณ์สำหรับหัดยิงปืน ตวัดสายตามองไปยังนาฬิกาผนังแบบโบราณด้วยลูกตุ้มห้อยแกว่งไปมาบอกเวลายามบ่ายย่ำเกือบจะเย็นแล้ว
“มีอะไรหรือเปล่าครับแม่”
เด็กหนุ่มถามอย่างสงสัย ขมวดคิ้วเข้มเข้าหากัน เมื่อเห็นสีหน้าของมารดาดูไม่สู้ดีนัก หน้านวลแม้จะล่วงเลยวัยห้าสิบปีไปแล้วแต่ยังสวยเปล่งปลั่งเหมือนยังมีวัยเพียงแค่สามสิบปลายๆ เท่านั้น ในวันนี้มีริ้วรอยของความกังวลและขลาดกลัว ข้างขมับมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมา แม้จะแอบยกมือขึ้นซับแบบเลี่ยงๆ ไม่ให้เขาทันจับพิรุธได้ แต่มันกลับผุดขึ้นมามากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
ดูเหมือนว่ามารดาจะเคร่งเครียดวิตกกังวลจนไม่อาจปกปิดเขาได้ ท่าทางการนั่งที่ลุกลี้ลุกลนหันรีหันขวางพลางแอบปรายสายตาไปมองห้องทำงานของบิดาซึ่งอยู่มุมขวาของบ้านที่ตอนนี้มีเสียงทะเลาะของผู้ชายสองคนดังออกมาให้คนนอกห้องได้ยินยิ่งทำให้เด็กหนุ่มสนใจมากขึ้น
เกิดอะไรขึ้น…ในใจเด็กหนุ่มเกิดคำถาม ทั้งที่ห้องทำงานของบิดานั้นปิดสนิท แต่คงจะเป็นเพราะคนที่อยู่ภายในห้องนั้นกำลังโกรธอย่างรุนแรง จนถึงกับระเบิดอารมณ์เอากับข้าวของในห้องอยู่บ่อยครั้งทำให้เสียงเล็ดลอดออกมาจนคนที่อยู่ด้านนอกได้ยิน
รอฟังคำตอบอยู่เป็นนาน แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ยินเสียงจากปากคนเป็นแม่ ชินกฤตลุกขึ้นจากจุดเดิมที่นั่งอยู่ไปหย่อนสะโพกลงใกล้ๆ เอื้อมไปจับมือเล็ก พอสัมผัสก็รับรู้ถึงความเย็นจนเหมือนกับจับก้อนน้ำแข็ง
“แม่ครับ…มีอะไรหรือเปล่าครับ” ชินกฤตถามเสียงอบอุ่น บีบกระชับมือมารดาเบาๆ ก่อนวงแขนแข็งแกร่งจะเปลี่ยนเป็นโอบรอบกายเล็ก หันหน้าไปยังห้องทำงานของบิดาที่ยังคงมีเสียงดังเล็ดลอดออกมาไม่ขาด แต่จับคำพูดให้ปะติดปะต่อเป็นประโยคไม่ได้
“แม่ครับ” ชินกฤตเอ่ยเรียกชื่อมารดาดังๆ เพราะแม้เขาจะใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัวแล้ว แต่ก็ยังไม่มีเสียงหรือปฏิกิริยาตอบรับจากคนเป็นแม่ ทำให้เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดี หลายครั้งหลายคราในช่วงนี้ดูเหมือนจะมีสิ่งผิดปรกติเกิดขึ้นในบ้าน แต่แม่และพ่อพยายามปกปิดเขา พยายามปั้นหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสต่อหน้าเขา ชวนพูดชวนคุยทำอะไรให้เป็นปกติ แต่ยามเผลอจะหลุดสีหน้าทุกข์ระทม ในดวงตาเหมือนกำลังหนักอกหนักใจอะไรสักอย่าง ตามรอบดวงตาดำคล้ำเหมือนกับคนอดหลับอดนอน บางครั้งบางคราวยังจะมีเสียงพูดงึมงำหลุดออกมาจากปากบ่อยครั้ง
พ่อกับแม่มีอะไรปิดบังเขาอยู่ใช่ไหม?
แล้วตอนนี้แม่ก็ยังพยายามหลบสายตาเขาด้วย แต่เพราะเป็นห่วงบิดาที่อยู่ในห้องทำงาน แม่เลยเผลอเหลือบมองอย่างไม่ตั้งใจอยู่บ่อยครั้ง
มีใครอยู่ในนั้นกับบิดา เป็นคนที่แม่ไม่อยากให้มาเยี่ยมบ้านใช่ไหม?
ในสมองเขาล้วนแต่เต็มไปด้วยคำถามแต่หาทางออกไม่ได้ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างถูกปกปิดไว้ไม่ให้เขาไปยุ่ง
“แม่ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ” ชินกฤตถามซ้ำอีกครั้งและเขย่าร่างบอบบาง พอให้แม่รับรู้ว่ามีเขานั่งอยู่ด้วย
“ปะ...เปล่าลูก ไม่มีอะไร” เอรียาสะดุ้งรีบตอบปฏิเสธอย่างคนมีอาการลุกลี้ลุกลน หลบหน้าหลบตาลูกชายที่มองมาอย่างคาดคั้นเหมือนจะรับรู้สึกสิ่งผิดปรกติ
“หนูมาตั้งแต่เมื่อไหร่ลูก” คนเป็นมารดาเอ่ยปากถามไปโดยใบหน้ายังก้มมองพื้น มีเพียงสายตาแอบเหลือบขึ้นมองชินกฤตและประตูห้องทำงานสามีด้วยสีหน้าหม่นหมองเศร้าเป็นระยะ
“ไม่จริง...แม่ต้องมีอะไรปิดผมแน่เลย” ชินกฤตตอบกลับอย่างไม่เชื่อ เพราะความที่เขาอยู่ใกล้ชิดกับบิดามาก แล้วยังถูกสอนให้เป็นคนช่างสังเกต ละเอียดถี่ถ้วนในทุกเรื่องที่ทำและมีความรับผิดชอบ แม้จะยังเป็นเด็กแต่ความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุ อีกทั้งความเฉลียวฉลาดที่มีทำให้หนุ่มน้อยสามารถมองออกได้ว่าสถานการณ์ภายในบ้านตอนนี้ไม่สู้จะปกติสุขนัก ยิ่งได้เห็นใบหน้ามารดาที่ซีดเผือดจนแทบจะไม่มีสีเลือดหลงเหลืออยู่ก็ยิ่งให้เกิดความอยากรู้ระคนกังวลใจขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
“ผมไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะครับแม่ ทำไมมีอะไร ทำไมถึงไม่บอกให้รู้บ้าง จะได้ช่วยๆ กันแก้ไข” เขารับรู้สิ่งผิดปรกตินี้มาตั้งแต่วันที่บิดาเริ่มจะมีอาการป่วยกระเสาะกระแสะแล้วล่ะ พยายามจับพิรุธ คอยเลียบเลียงเคียงถามก็ตั้งหลายครั้งหลายหนแต่บิดาและมารดาก็ปิดปากเงียบสนิท
น้ำเสียงนุ่มทุ้มและอบอุ่นเอ่ยออกจากปากเขามันคงจะซึมเข้าไปถึงหัวใจของแม่ ใบหน้าซีดเหมือนกระดาษถึงได้ดูใสขึ้นแม้จะไม่มากก็ตาม รอยยิ้มละมุนละไมอบอุ่นเคลือบบนริมฝีปากสีชมพูจางๆ ระเรื่อ สัมผัสจากมือและแขนลำสั่นโอบรัดรอบกายอรชร เรียกน้ำตาอุ่นๆ เอ่อล้นคลอเบ้าและหยดลงมาจากสองเบ้าตาของแม่
สิ่งที่เขาเห็นและรู้สึกในตอนนี้คือ แม่พยายามอดทนเก็บกลั้นเก็บงำอารมณ์ทุกอย่างเอาไว้ภายใน ไม่ว่าเหตุการณ์จะเลวร้ายสักแค่ไหน แม่และพ่อไม่เคยให้ลูกคนนี้ได้ล่วงรู้
เอรียาละสายตาจากบานประตูห้องทำงานสามีมาคลี่ยิ้มหวานๆ เห็นเขี้ยวทั้งสองฝั่งของมุมปาก ประกายในดวงตายังคงอ่อนโยนและเย็นใจอยู่เป็นเนืองนิตย์ให้ลูกชาย
“ไม่มีอะไรจริงๆ ลูก” คนเป็นแม่ตอบปฏิเสธเสียงนุ่ม บีบกระชับตอบกลับมือใหญ่เบาๆ
“พ่อของลูกเก่ง แม่เชื่อไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พ่อจะต้องจัดการและพาเราสองคนแม่ลูกผ่านพ้นวิกฤติไปได้จ้ะ” เอรียาบอกออกไปด้วยน้ำเสียงมั่นคงด้วยความมั่นใจในความสามารถของสามีผู้อันเป็นที่รัก แต่พูดยังไม่ทันจะขาดคำดี…
ปัง!!!
สองแม่ลูกสะดุ้งรีบหันไปมองประตูห้องทำงานของผู้เป็นประมุขของบ้านที่เปิดออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยพร้อมกับเสียงที่ดังลั่นสนั่นสะเทือนไปทั้งบ้าน
“ผมให้โอกาสพี่แล้วนะ แต่พี่เลือกที่จะปิดทางนั้นเอง ถ้าเกิดอะไรร้ายแรงกว่านี้พี่ก็เตรียมตัวรับให้ดีแล้วกัน แล้วจะมาโทษว่าผมใจจืดใจดำไม่ได้!”
ชายวัยกลางคนในชุดสูทสากลมาดเนี้ยบตั้งแต่ศีรษะ แม้พายุลมจะแรงแต่ผมบนศีรษะทุยก็ยังไม่แม้แต่จะกระดิก เสื้อผ้าเรียบและหรูถ้าไปยืนใกล้ๆ คงจะถูกกลีบของผ้าบาดเข้าไปในเนื้อให้เป็นแผลเลือดไหล หันไปตวาดเสียงแข็งกร้าวและดุร้ายใส่คนยืนนิ่งเฉยเหมือนกับไม่ยินดียินร้ายอะไรเลย ด้วยความโกรธกรุ่นระคนหงุดหงิด ช่วยคิดหาทางออกให้ทุกทางแล้ว แต่คนที่เขานับถือเสมือนพี่ชายคนหนึ่งก็ยังดื้อรั้นดันทุรังไม่ยอมรับรู้อะไรเลยสักนิด
บทที่ 1 ตอนที่ 1
25/02/2022
บทที่ 2 ตอนที่ 2
25/02/2022
บทที่ 3 ตอนที่ 3
25/02/2022
บทที่ 4 ตอนที่ 4
25/02/2022
บทที่ 5 ตอนที่ 5
25/02/2022
บทที่ 6 ตอนที่ 6
25/02/2022
บทที่ 7 ตอนที่ 7
25/02/2022
บทที่ 8 ตอนที่ 8
25/02/2022
บทที่ 9 ตอนที่ 9
25/02/2022
บทที่ 10 ตอนที่ 10
25/02/2022
บทที่ 11 ตอนที่ 11
02/06/2022
บทที่ 12 ตอนที่ 12
02/06/2022
บทที่ 13 ตอนที่ 13
02/06/2022
บทที่ 14 ตอนที่ 14
02/06/2022
บทที่ 15 ตอนที่ 15
02/06/2022
บทที่ 16 ตอนที่ 16
02/06/2022
บทที่ 17 ตอนที่ 17
02/06/2022
บทที่ 18 ตอนที่ 18
02/06/2022
บทที่ 19 ตอนที่ 19
02/06/2022
บทที่ 20 ตอนที่ 20
06/04/2023
บทที่ 21 ตอนที่ 21
06/04/2023
บทที่ 22 ตอนที่ 22
06/04/2023
บทที่ 23 ตอนที่ 23
06/04/2023
บทที่ 24 ตอนที่ 24
06/04/2023
บทที่ 25 ตอนที่ 25
06/04/2023
บทที่ 26 ตอนที่ 26
08/04/2023
บทที่ 27 ตอนที่ 27
08/04/2023
บทที่ 28 ตอนที่ 28
08/04/2023
บทที่ 29 ตอนที่ 29
08/04/2023
บทที่ 30 ตอนที่ 30
08/04/2023
บทที่ 31 ตอนที่ 31
09/04/2023
บทที่ 32 ตอนที่ 32
09/04/2023
บทที่ 33 ตอนที่ 33
09/04/2023
บทที่ 34 ตอนที่ 34
09/04/2023
บทที่ 35 ตอนที่ 35
09/04/2023
บทที่ 36 ตอนที่ 36
10/04/2023
บทที่ 37 ตอนที่ 37
10/04/2023
บทที่ 38 ตอนที่ 38
10/04/2023
บทที่ 39 ตอนที่ 39
10/04/2023
บทที่ 40 ตอนที่ 40
10/04/2023
หนังสืออื่นๆ ของ ปูริดา
ข้อมูลเพิ่มเติม