มนตราจอมพยศ
5.0
ความคิดเห็น
371
ชม
37
บท

“แล้วใครกันที่เมื่อกี้พูดว่า...คุณต้องช่วยฉันนะ” “ใคร้...ใครพูด ฉันไม่ได้พูดสักหน่อย” ถึงจำได้ แต่ทำไมละ จะทำตัวเป็นพวกความจำปลาทองในตอนนี้ ดาราเนตรเชิดหน้าไปฝั่งที่ไม่มีดวงคมพราวระยิบระยับที่ทำให้หัวใจหวั่นไหว “ใครเป็นคนพูดกันนะ ใช่คนนี้หรือเปล่า” ปรมัตถ์ดึงเอาผ้าห่มที่หญิงสาวใช้ห่อตัวจนแทบจะเป็นดักแด้ออกมาได้เล็กน้อย นิ้วยาวลากไล้ลำคอระหงเคลื่อนไปถึงปลายคางมน “อืม...เอายังไงกับคนขี้ลืมดีนะ ขอรางวัลเป็นจุ๊บหนึ่งที หรือว่าจะจับลอกเปลือกแล้วกินจนหมดทั้งตัวดีนะ” ถามพร้อมมองไปทั่วกายกลมกลึงที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่ม แต่ฝังตรึงอยู่ในสมองเขาจนแกะไม่ออก “งั้นฉันหอมแก้มคุณก็ได้” รีบตอบดักคอไปก่อนด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ เมินหน้าหนีนัยน์ตาพราวระยับจึงไม่ทันได้เห็นความเจ้าเล่ห์ที่แฝงอยู่ “ไม่ละ เปลี่ยนใจแล้ว ขอเป็นหนึ่งจูบและผมเป็นคนจูบด้วย” “อืม...งั้น ให้สองจูบเลย แต่...” คิดว่าเธอรู้ไม่ทันใช่ไหม ถึงจะฉลาดไม่มากนัก แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เอาตัวรอดได้ล่ะกัน ดาราเนตรแขนกลมกลึงยื่นออกมาโอบรัดรอบลำคอแกร่ง ปลายนิ้วลากไล้บนแผ่นหลังกว้าง ซอกซอนไปพัวพันจิกทึ้งกับเส้นผมหนานุ่ม “แต่ขอเป็นพรุ่งนี้ ตกลงไหม แบบว่าตอนนี้ฉันเหนื่อย อยากที่จะนอนแล้ว” “อืม...ก็ได้ แต่ว่า...” เอาสิเขาเองก็มีข้อแม้เหมือนกัน

บทที่ 1 ตอนที่ 1

ตอนที่ 1

ลับร่างชายหนุ่มคนสุดท้ายที่เดินออกจากห้องทำงานของเพื่อนรัก จารุชาก็รีบเดินปรี่ไปหาอย่างเร็วรี่ด้วยอยากรู้คำตอบ โดยไม่แม้แต่จะเคาะประตูบอกให้รู้

“เป็นไงบ้างยายเนตร พอมีใครบอกเข้าตาแกบ้าง” ว่าแล้วหญิงสาวร่างอวบค่อนไปทางเจ้าเนื้อก็นั่งลงบนโต๊ะทำงาน พลางมองเพื่อนตาไม่กะพริบเพราะความอยากรู้ แต่ยายเพื่อนตัวดีกลับไม่ยอมพูดอะไรเลย

“ว่าไง ไหนบอกมาเร็ว ๆ สิ ฉันอยากรู้นะ”

ดาราเนตรเบะปาก สีหน้าเบื่อหน่ายพร้อมส่ายศีรษะอย่างระอาใจ ไม่มีใครเข้าตาเลยสักคน แม้กระทั่งคนสุดท้ายตอนที่เห็นหน้าตาก็ให้รู้สึกว่าใช้ได้อยู่ รูปร่างสูงใหญ่ ท่วงท่าเดินเหินมีสง่าราศี การศึกษาก็ดีอยู่ ใบรับรองทางการแพทย์ที่ยื่นส่งมาก็บ่งบอกถึงสุขภาพทางร่างกายอันสมบูรณ์แข็งแรง พอที่จะเป็นพ่อพันธุ์ได้ แต่...

พอได้คุยนะสิ เสียงก็ดังลั่นอย่างกลัวว่าคนอื่นจะไม่ได้ยิน ชอบคุยโวโอ่ตัวเองจนน่าเกลียด ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าเป็นคนหยิบโหย่ง ไม่เอาการเอางาน หนักไม่เอาเบาไม่สู้เสียมากกว่า

“อะไร ผู้ชายเกือบสิบคนไม่เข้าตาแกสักคนเลยหรือเนตร” จารุชาถามอย่างข้องใจ

ในสายตาเธอ ก่อนหน้าคนที่จะออกไปเป็นคนสุดท้าย พอใช้ได้ เท่าที่คุยกัน ก็รู้สึกว่าจะเป็นคนอัธยาศัยดี ใจเย็น สุขุม น่าจะพอทำให้ดาราเนตรนั้นตกลงใจที่จะเลือกเป็นคนอยู่เคียงข้างในระยะเวลาสั้น ๆ พอให้ได้เจ้าตัวน้อยสมใจ

“ไม่เลย ไม่เข้าตาเลยสักคน” ดาราเนตรตอบอย่างหนักใจ เวลาก็งวดเข้ามาทุกที แต่เธอยังหาคนที่จะมาเป็นพ่อพันธุ์ปั๊มลูกไม่ได้เลย ครั้นจะให้เลือกโดยไม่คิด มันก็ไม่ได้อีก ก็คนที่เลือกคือคนที่จะต้องมีอะไรกับเธอนี่นา แล้วจะให้เลือกแบบไม่คิดได้ยังไงกันละ

เฮ้อ…หงุดหงิดโว้ย! อยากจะบ้าตายแล้วนะนี่

“แล้วแกจะเอาไง ยอมแต่งงานกับคนที่คุณตาเลือกไหม”

“ไม่!” ดาราเนตรตอบปฏิเสธทันควัน ใบหน้านวลผ่องที่ตอนนี้ดำคร่ำเครียดและบึ้งตึงโน้มลงมาตรงหน้าเพื่อนสาว ปลายนิ้วยาวเรียวยื่นมาสะบัดตรงหน้าจารุชา

“จำไว้เลยนะยายจา แกห้ามพูดแบบนี้เด็ดขาด คนอย่างดาราเนตรไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ยังไงก็ต้องมีคนที่เข้าตาฉันแน่นอน”

“แล้วมันเมื่อไหร่ล่ะ

“ก็...เอาเหอะน่า ของแบบนี้จะให้รีบได้ยังไงกันล่ะ มันต้องใช้เวลาหน่อยสิ” ดาราเนตรเน้นย้ำ เพื่อให้ตัวเองมั่นใจ จะทำอย่างที่คิดไว้ได้ทันเวลา ทั้งที่เธอนั้นไม่แน่ใจเลย

“พูดอย่างกับแกไม่ร้อนใจอย่างนั้นแหละ”

“แกจะซ้ำเติมหรือช่วยคิดให้ฉันหาคนที่ถูกใจได้กันล่ะ”

“ช่วยจ้า...คุณดาราเนตรเจ้าขา แต่อิฉันก็มิมีปัญหานี่เจ้าค่ะ”

ดาราเนตรอดหัวเราะกับท่าทางทะเล้นของเพื่อนรัก

“แล้วแกเคยเห็นสิ่งที่ฉันทำไม่ได้บ้างหรือเปล่า” ไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่ง แต่ทุกอย่างที่คิดทำ มักจะสำเร็จได้อย่างใจหวังตั้งใจเสมอ

จารุชาทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกไปว่า “เท่าที่จำได้ นับตั้งแต่ที่ฉันคบกับแกมา ไม่เคยมีอะไรที่แกทำไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละ แต่เรื่องนี้มันต่างไปนะเว้ย ที่เราทำอยู่คือเลือกผู้ชายมาเพื่อ...นอนกับแกนะเว้ย” แค่หลุดปากไปนิดเดียว ไม่คิดว่าดาราเนตรจะจริงจังกับคำพูดที่ว่า...

‘ถ้าไม่อยากแต่งงานกับคนที่คุณตาเลือกให้ แกก็หาเองสิ...พ่อของลูกชั่วคราวน่าจะหาได้ไม่ยาก”

“เออ...รู้แล้ว แกไม่ต้องย้ำมากก็ได้” ดาราเนตรสบถด้วยหงุดหงิด

“แกคิดบ้างหรือเปล่า คนที่คุณตาเลือกให้อาจจะเป็นคนดี สามารถดูแลแกและทำให้แกมีความก็ได้”

ฮึ! เสียงขลุกขลักดังจากลำคอดาราเนตร “แล้วแกไม่คิดบ้างเหรอ ผู้ชายดี ๆ ที่ไหนเขาให้คุณตาฉันบังคับให้มาแต่งงานกับฉันล่ะ อีกอย่างนะจา ฉันไม่เคยเจอผู้ชายดี ๆ อย่างที่แกว่าเลยสักคน อ๋อ...ยกเว้นคุณตาฉันไว้หนึ่งคน”

จารุชาส่ายศีรษะด้วยอิดหนาระอาใจแกมเหนื่อยใจ ไม่รู้จะสรรหาคำใดมาพูดเพื่อให้ดาราเนตรเปลี่ยนความคิด

“เชื่อเถอะยายจา ไม่ว่ายากแค่ไหน ฉันก็จะต้องทำได้แน่นอน”

มันต้องมีทางแน่นอน...สิ่งที่เธอหวัง จะต้องสำเร็จ เรื่องนี้ก็เช่นกัน...ครั้งนี้ไม่ได้ ก็ลองมันอีกครั้งสิ มันก็ไม่แน่ อยู่ดี ๆ โชคอาจจะแล่นเข้ามาหาแบบว่าไม่ต้องวิ่งตามไล่ล่าแต่ได้คนที่เธอพอจะรับได้มาทำรับตำแหน่งสามีชั่วคราวก็ได้ใครจะไปรู้ละ

ก่อนหน้านั่น 2 อาทิตย์

“แกจะเดินไปเดินมาให้ฉันปวดหัวด้วยอีกคนหรือไงกันจ้ะคุณดาราเนตรเจ้าขา” จารุชาเรียกชื่อจริงแทนชื่อเล่นของผู้เป็นเพื่อนที่เดินวนไปเวียนมาพาให้เธอเริ่มจะมีอาการวิงเวียนศีรษะ

“ก็คนมันกลุ้มใจนี่หว่า แกจะให้อารมณ์ดีหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังอย่างแกได้ยังไง” ดาราเนตรตอบเพื่อนเสียงขุ่น ใบหน้ารูปไข่หงิกงอบึ้งตึงจนริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อแทบจะติดปลายจมูกเล็กโด่งเป็นสันอยู่แล้ว ดวงตากลมโตล้อมกรอบด้วยขนตายาวงอนฉายแววเจิดจ้า ทั้งโกรธและอึดอัดคับแค้นใจ เธอข่มกัดฟันจนมีเสียงดังกรอด ๆ

‘เป็นเพราะคุณตากับไอ้พินัยกรรมบ้า ๆ นั่นแท้ ๆ เชียว ที่ทำให้เธอหงุดหงิด อึดอัดใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่แบบนี้ นำความมาบอกเล่าจารุชาว่าผู้เป็นตาได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ว่าให้เธอแต่งงานกับคนที่ท่านเลือกไว้หรือไม่ก็ตั้งท้องภายในเวลาที่ท่านกำหนด หากนอกจากจารุชาจะไม่ช่วยคิดหาทางออกให้แล้ว ยายเพื่อนตัวดีกลับหัวเราะจนท้องคับท้องแข็ง หน้าตาแดงเป็นตูดลิงไปได้’

“แกจะให้ฉันฉีกยิ้มอย่างกับโลกนี้ไม่มีความทุกข์ได้ยังไงกัน ก็รู้อยู่ว่าพินัยกรรมทำพิษนั่นกำลังจะทำให้ฉันประสาทกิน เพราะจะต้องแต่งงานกับใครก็ไม่รู้”

ดาราเนตรตวาดใส่เพื่อนเสียงแหลมอย่างไม่กลัวว่าจารุชาจะโกรธ ก็คนมันหงุดหงิดและกลุ้มใจอยู่นี่น่า คิดจนหัวแทบจะแตกแล้วแต่มันก็มองไม่เห็นทางออกของปัญหาเลย

“ไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นหน้าตาเป็นยังไงฉันก็ยังไม่เคยเห็นหน้าคาตามาก่อน ไม่เคยรู้จักมักจี่...แต่จะต้องมาแต่งงาน นอนร่วมเตียงเดียวกัน เป็นแกจะทำใจได้ไหม แล้วไอ้บ้านั่นยังจะแตะเนื้อต้องตัวฉันอีก อี๋...คิดแล้วขนลุก หยักแหยงจะตาย”

เพียงแค่พูดว่าจะมีใครมาแตะต้องร่างกายอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไร้ราคีคาว ดาราเนตรก็ขนลุกซู่ นึกอยากจะผูกคอตายวันละหลายรอบแล้ว ถ้าหน้าตาหล่อเหล่า หุ่นที่เห็นแล้วก็ขยี้ใจสาวแบบพระเอกละครไทยช่องน้อยสีที่กำลังมีผลงานจนโด่งดังเป็นพลุแตกอยู่ตอนนี้ก็ว่าไปอย่าง เธอพอจะทำใจได้บ้างอยู่หรอกนะ

แต่ถ้าคนที่เธอจะต้องร่วมหอลงโรงด้วยเป็นไอ้พวกโรคจิต ชอบทำให้เจ็บตัวก่อนที่จะมีอะไรด้วย หุ่นยังกับไม่เสียบผี หน้าตาอุบาทว์อย่างฟันเหยินออกมานอกปากหนา ๆ ตาปูดโปน จมูกยื่นออกมาราวกับปากเป็ดและงองุ้มอย่างกับแม่มดในนิทานล่ะ แค่กลางวันก็ยังชวนให้ขนหัวลุก เห็นตอนกลางคืนเธอไม่ช็อกตายก่อนจะได้ลูกหรือไงกัน แล้วไอ้ผู้ชายที่ต้องใช้ตัวช่วยแบบนี้นะ เชื่อได้เลยไม่ป่วยใกล้ตาย ก็หน้าตายิ่งกว่าผีเปรตแน่นอน!

‘คุณตานะคุณตา ไม่น่าหาเหามาใส่หัวให้หลานเลย ไม่ค่อยจะรักกันเธอก็ไม่ว่า แต่ดันเอาเหาตัวเท่าเป้งมาใส่หัวไว้อีกต่างหาก คิดแล้วมันกลุ้มจนหัวสมองแทบจะระเบิดแล้วนะนี่ โอ้ย! อยากจะบ้าเสียให้มันรู้แล้วรู้รอดไป’

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ปูริดา

ข้อมูลเพิ่มเติม
ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ

ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ

โรแมนติก

5.0

ก็ไม่ได้คิดหรอกนะว่าวันหนึ่งจะพบเจอกับเรื่องแปลก ๆ แต่เมื่ออยู่แล้วไร้ความหมายไม่มีคนที่รักและรักเรา เขาจึงเลือกที่จะแลกทั้งที่ไม่ได้มั่นใจเลยว่าจะได้พบกับคนที่รักจริงหรือเปล่า แต่ก็ตัดสินใจเลือกไปแล้ว... “อาซวงเป็นของข้าใช่หรือไม่” ก็มิค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่และคิดว่ามิน่าจะมีอะไรมากมาย เก้าเทียนรุ่ยจึงพยักหน้ารับ “ขอรับ” “ถึงเราจะมิได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขเช่นที่ท่านมีกับสหายที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ นอนกลางดินกินกลางทรายมาด้วยกันมาอย่างชิงชวนหรือคนอื่น ๆ หากนับตั้งแต่ที่เราได้พบรวมถึงอยู่ด้วยกัน ข้าก็คิดว่าเราผ่านอะไรมามากมายพอที่จะทำให้ข้ารู้ถึงความรู้สึกที่ตนเองมีต่อท่าน” เก้าเทียนรุ่ยมองสบสายตาเสวียนลิ่วหลางที่มองเขาด้วยความงุนงง ในดวงตามีความสับสนระคนมิแน่ใจ คล้ายจะมีคำถามตามติดมาด้วย ทำให้เขาเผลอยิ้มหวานออกไป เสวียนลิ่วหลางได้แต่ยิ้มด้วยความเขินอาย “ข้าก็มิรู้ว่าจะวางตัวเช่นไรดี พึงพอใจอยากให้เจ้าอยู่ชิดใกล้...หากก็มิอยากบังคับหากเจ้ามิเต็มใจ” “แต่ก็มิอาจทำใจได้หากจะต้องปล่อยมือ” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยอย่างเข้าใจ “เมื่อยังต้องรอให้อาซวงรู้สึกเช่นเดียวกัน นอกจากข้าจะทำให้ผู้อื่นรับรู้แล้วว่าคนนี้...” เสวียนลิ่วหลางจับมือเก้าเทียนรุ่ยมาจูบขณะมองสบเข้าไปในดวงตากลมใสก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มหากเต็มไปด้วยความหนักแน่น “ข้าจอง” “ตะเกียบยังต้องอยู่เป็นคู่ถึงจะใช้กินอาหารได้ หยินก็ยังคู่หยางถึงจะสมดุล เมื่อข้าพบคนที่ใช่ เหตุใดถึงต้องปล่อยมือเล่า”

ขอให้รักกลับคืนมาได้ไหม

ขอให้รักกลับคืนมาได้ไหม

โรแมนติก

5.0

ความรักไม่ผิด...เรารักเขา เขาไม่รักเรา ก็ไม่ผิด แต่การรอคอยมันย่อมมีระยะเวลาสิ้นสุดลงเมื่อ...ใจเราไม่อาจรอรักจากเขาได้อีกแล้ว มันก็ถึงเวลา...สิ้นสุดยุติการรอคอที่เลื่อนลอยไร้จุดหมาย “นั่นสิคะ หนูดาวก็งงอยู่ ทำไมถึงหนีพี่เหนือไม่พ้นสักที ตั้งแต่หนูดาวตัดสินใจทำแบบนั้นลงไป พี่เหนือทำให้หนูดาวแปลกใจจนงงและสับสนไปหมด” “หือ” “ปกติพี่เหนือจะผลักไสให้หนูดาวไปไกล ๆ ชอบใช้สายตาแบบว่า...ฉันรำคาญเธอนะ เห็นหน้าเธอแล้วมันหงุดหงิดใจมาก จะไปเองดี ๆ หรือจะให้ฉันเตะโด่งเธอไป...ประมาณนี้นะคะ แต่พอหนูดาวเอาแหวนหมั้นไปคืน กลับต้องเจอกับพี่เหนือทุกวัน...และยังอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดทั้งวันเลยด้วย ขนาดคิดหนีมาทำงานที่นี่ สุดท้ายยังหนีพี่เหนือไม่พ้นเลยด้วย” “เราคงเป็นคู่เวรคู่กรรมกันละมั้ง ทำยังไงก็หนีกันไม่พ้น เสร็จงานที่นี่ เห็นทีพี่คงจะต้องจับมัดเราให้หนักกว่าเดิม” พันดาวมองแดนเหนืออย่างตื่นตะลึง เรียวปากสีชมพูอ้าค้าง “นี่พี่เหนือ...”

ไฟรักไฟเชลย

ไฟรักไฟเชลย

โรแมนติก

5.0

เพื่อน้องสาว เขาจึงหลอกลวงนำตัวเธอมา “คุณโกรธอะไรใครก็ไปเอาคืนกับคนนั้นสิ มายุ่งกับฉันทำไม ปล่อยฉันนะไอ้วายร้าย!” “เผอิญว่าฉันดันอยากได้เธอด้วยผิง ก็เธอมันขาวอวบยั่วยวนราคะใช่ย่อยนิ แค่จับลูบไล้หน่อยเดียวก็พร้อมจะร้อนเป็นไฟแล้ว” ชายหนุ่มลูบไล้ฝ่ามืออุ่นร้อนบนลำตัวกลมกลึง สะกิดเอากระดุมหลุดออกจากรางทีละเม็ดจนหมด จูบอุ่นร้อนทาบทับซุกไซ้ซอกคอขาวผ่อง “ฉันขอร้องนะคุณใหญ่...ถ้าฉันผิดจริง ฉันยอมให้คุณลงโทษได้ทุกอย่าง คุณจะย่ำยีลงทัณฑ์ฉันยังไงก็ได้ ฉันจะไม่ร้องขอความปราณีแม้แต่นิดเดียว จะไม่หนีอย่างที่ทำอยู่ทุกวัน จะไม่คิดไม่เคียดแค้นคุณเลย แต่ถ้าฉันไม่ผิด คุณปล่อยฉันไปนะ...ได้โปรด” “รู้อะไรไหมผิง...ไม่มีผู้ชายคนไหนโง่ยอมปล่อยให้ผู้หญิงสวย ๆ เซ็กซี่ แล้วก็ปลุกเร้าอารมณ์ได้อย่างกับน้ำมันราดลงไปกองไฟให้หลุดรอดมือไปหรอกนะ” แต่ใครจะรู้ล่ะ...ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น จะนำสิ่งใดมาสู่เขาบ้าง เรื่องหัวใจก็ยังต้องจัดการ เรื่องการงานก็ต้องตรวจสอบหาความจริง

นางไพรยั่วสวาท

นางไพรยั่วสวาท

โรแมนติก

5.0

กฎของหมู่บ้าน ทำให้สองศรีพี่น้องต้องเร่งหา...ผัว! ให้ได้ “ตัวสั่นเชียว กลัวหรือจ๊ะฟองจ๋า” “โถ...น่าสงสารจริง เมียของผัว” มือหนาลูบไล้ผิวเนื้อนวลนุ่มลื่นขณะเดียวกันก็เกี่ยวเอาชายเสื้อของหญิงสาวดึงมันออกไปจากกายสาวก่อนจะแนบฝ่ามือลงบนทรวงอกอวบใหญ่ เสียงหวานแหบพร่าดังออกมาจากกลีบปากเล็ก “ร้องได้เลยจ้ะฟองจ๋า ผัวอยากได้ยินเสียงหวาน ๆ ของฟองที่สุด” “โถ่...จะปิดทำไมละจ๊ะสร้อยจ๋า” แม่เจ้าโว้ย! ใหญ่ฉิบหายเลย ใหญ่จนเขาอยากเห็นใกล้ ๆ อยากได้ลิ้มลองรสชาติในตอนนี้เลย “เดี๋ยวเราสองคนจะไม่เพียงแค่ได้เห็นทุกซอก...ทุกมุมของสร้อยแล้ว เราสองคนจะทั้งจับ...ทั้งเลีย แล้วก็อัดกระแทกให้ร่องสวาทของสร้อยแทบพังไปเลยจ๊ะ” ตรวนสวาทนางไพร : ใครกันแน่ที่เป็นผู้ล่า ใครกันแน่ที่เป็นเหยื่อ แน่ใจหรือว่าแพรพลอยคือเหยื่อให้ห้าหนุ่มอย่างพวกเขาเสพสวาทอย่างเร่าร้อน “ไม่เอาอย่างนี้นะโรม...อย่าทำแพรเลยนะ” แพรพลอยร้องห้ามเสียงสั่นพร่าเมื่อรู้ว่าโรมรันจะทำอะไร ไหนจะหนุ่ม ๆ ทั้งสี่ที่ไร้อาภรณ์ปกปิด ทำให้เธอได้เห็นอาวุธของแต่ละคนที่มันช่าง...ใหญ่! ไหนจะคำพูดที่บอกก่อนหน้านี้ที่บอกว่า...จะอัดกระแทกเธอให้ยับ! ทำเอาเธอถึงกับกับหวาดหวั่นไม่ใช่น้อย ยิ่งตอนนี้ทุกคนได้มายืนล้อมรอบเธอแล้วด้วย “พี่ได้ยินไม่ผิดใช่ไหมจ๊ะ...ที่น้องแพรบอกว่าอย่าช้า ให้พวกเรารีบเอาน้องแพรเร็ว ๆ นะ”

เกลียวรักคลื่นปรารถนา

เกลียวรักคลื่นปรารถนา

โรแมนติก

5.0

เพียงแค่เห็นหน้า เขาก็ถูกใจแล้ว แม้เธอจะมีลูกติดมา เขาก็ไม่คิดที่จะปล่อย ยังคงตามเอาใจลูกสาวตัวน้อยและจีบเธออย่างไม่ลดละ “เย้ เย้ แม่เอาอีกหนุก หนุก เอาอีก เอาอีก” โซดาเริ่มลุยน้ำลงไปกอบทรายที่เปียกน้ำใส่ศีรษะอันนิโต้เรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด สิมิลันหัวเราะจนท้องแข็ง อันโตนิโอ้เอาคืนคนอารมณ์ดีด้วยการกอบทรายเปียกใส่ร่างบางบ้าง “ว้าย! เล่นอะไรนะคุณสกปรกจะตาย” “อ้าวที่คุณกับลูกทำผมล่ะ นี่แนะ” มือใหญ่ขยี้ผมบนศีรษะสิมิลัน โซดาเริ่มเอาอย่างสองมืออวบขยี้ผมบนศีรษะมารดาและศีรษะตัวเองจนยุ่งเหยิงและเปียกชื่น แล้วยืนหัวเราะเสียงใสแจ๋ว ดวงตาเป็นประกายสดใส ยิ้มจนเห็นฟันในปากแทบทุกซี่ “ไม่เลิกใช่ไหมคุณเอ โซดารุมพ่อเอเลยลูก” สองมือเล็กเรียวผลักร่างใหญ่ลงนอนบนพื้นทราย พร้อมกอบทรายเปียกชื้นละเลงบนกายแข็งแกร่ง สองแรงแข็งขันสองมือรุมกอบทรายละเลงบนกายหนาใหญ่จนเปียกชื้น ยังไม่พอสองนิ้วเล็กๆ จี้ไปเอวหนาจนชายหนุ่มหัวเราะท้องแข็ง โซดาเองก็เอาอย่างคนเป็นแม่ มือใหญ่ทั้งห้านิ้วจี้เอวแข็งแกร่ง อันโตนิโอ้ก็ไม่ยอมแพ้ มือใหญ่จี้เอวสองแม่ลูกกลับบ้าง เสียงหัวเราะของสองผู้ใหญ่หนึ่งเด็กดังลั่นหาดทรายสีขาว

หนังสือที่คุณอาจชอบ

พระชายาของข้าคนเดียว

พระชายาของข้าคนเดียว

Daryl Tudge
5.0

เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

Critter
5.0

เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"

พระชายาสารพัดพิษ

พระชายาสารพัดพิษ

เกาะครีต
5.0

"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
มนตราจอมพยศ
1

บทที่ 1 ตอนที่ 1

25/02/2022

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2

25/02/2022

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3

25/02/2022

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4

25/02/2022

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5

25/02/2022

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6

25/02/2022

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7

25/02/2022

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8

25/02/2022

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9

25/02/2022

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10

25/02/2022

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11

28/05/2022

12

บทที่ 12 ตอนที่ 12

28/05/2022

13

บทที่ 13 ตอนที่ 13

28/05/2022

14

บทที่ 14 ตอนที่ 14

28/05/2022

15

บทที่ 15 ตอนที่ 15

28/05/2022

16

บทที่ 16 ตอนที่ 16

28/05/2022

17

บทที่ 17 ตอนที่ 17

28/05/2022

18

บทที่ 18 ตอนที่ 18

28/05/2022

19

บทที่ 19 ตอนที่ 19

28/05/2022

20

บทที่ 20 ตอนที่ 20

28/05/2022

21

บทที่ 21 ตอนที่ 21

28/05/2022

22

บทที่ 22 ตอนที่ 22

28/05/2022

23

บทที่ 23 ตอนที่ 23

28/05/2022

24

บทที่ 24 ตอนที่ 24

28/05/2022

25

บทที่ 25 ตอนที่ 25

28/05/2022

26

บทที่ 26 ตอนที่ 26

28/05/2022

27

บทที่ 27 ตอนที่ 27

28/05/2022

28

บทที่ 28 ตอนที่ 28

28/05/2022

29

บทที่ 29 ตอนที่ 29

28/05/2022

30

บทที่ 30 ตอนที่ 30

28/05/2022

31

บทที่ 31 ตอนที่ 31

28/05/2022

32

บทที่ 32 ตอนที่ 32

28/05/2022

33

บทที่ 33 ตอนที่ 33

28/05/2022

34

บทที่ 34 ตอนที่ 34

28/05/2022

35

บทที่ 35 ตอนที่ 35

28/05/2022

36

บทที่ 36 ตอนที่ 36

28/05/2022

37

บทที่ 37 ตอนที่ 37 (จบ)

28/05/2022