ฉากรักในคืนฝนโปรย

ฉากรักในคืนฝนโปรย

วรนิษฐา / Miss sexy

5.0
ความคิดเห็น
1.9K
ชม
48
บท

เธอ…คือแม่หม้ายป้ายแดง ส่วนเขา…คือหนุ่มหล่อผู้หลงรักแม่หม้าย เธอใจแข็งเป็นหิน ส่วนเขาก็ตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก -------------------------------------- ณาณีมเปิดและส่งรูปของราฮีมที่เธอแอบถ่ายชายหนุ่มไว้ไปให้ทั้งสองได้ดูผ่านไลน์ ณิการ์และธัญมณกรี๊ดกร๊าดเป็นการใหญ่ เพราะราฮีมหล่อและดูดีกว่าที่คิดไว้มาก “แกจะปิดกั้นตัวเองทำไมยะ ในเมื่อมีผู้ชายดีๆ เดินเข้ามา แกก็รับเขาไว้พิจารณาสิ” ณิการ์ที่ได้ฟังเรื่องราวทุกอย่างเอ่ยขึ้น “แต่ฉันไม่อยากวนกลับไปใช้ชีวิตแต่งงานอีกนี่แก” แม้จะอยากเปิดใจให้ราฮีม แต่สิ่งที่ณาณีมกลัวคือการแต่งงาน การต้องใช้ชีวิตด้วยกันทั้งวันทั้งคืน “ก็อยู่กันไปแบบนี้ ไม่ต้องแต่ง” “ก็คิดว่าจะไม่แต่ง แต่ฉันกับเขาก็ต้องมีเซ็กซ์กัน ฉันจะทำได้เหรอ ในเมื่อสิบสามปีที่ผ่านมาของฉัน มีแค่พี่แดนคนเดียว” นี่คืออีกเรื่องที่ณาณีมกังวล “ของใหม่ๆ คนใหม่ มันอาจทำให้อารมณ์แกซู่ซ่าก็ได้ ชีวิตเป็นของแก แล้วตอนนี้แกก็โสดแล้ว” ธัญมณเอ่ยขึ้นบ้าง นั่นทำเอาณิการ์ที่ปกติลุคจะแรงที่สุดของกลุ่มถึงกับอุทานออกมา “หืม…” “แกเป็นเจ้าของจิ๊มิแต่เพียงผู้เดียวยัยณา แกจะใช้กับใครมันก็สิทธิ์อันชอบธรรมของแก เพราะแกโตแล้ว...เข้าใจ๋” ประโยคนี้ยังเป็นของธัญมณ แต่ดูเหมือนณาณีมจะเข้าใจอะไรยาก “ไม่เข้าใจ” “โอ๊ย! ยัยณา ชีวิตนี้แกจะเจอดุ้นแค่อันเดียวเหรอยะ เลิกกับพี่แดนแล้วแกจะเอาปูนมาโบกจิ๊มิ ไม่ยอมให้ดุ้นอันอื่นผ่านเลยก็ใช่เรื่อง แก่จนอายุจะสามสิบห้า แถมยังมาเป็นหม้ายเอาตอนนี้อีก มดลูกก็ฝ่อลงไปทุกวัน มีของดีติดอยู่กับตัวเอง ทำไมไม่ใช้ กลัวอะไร” ณิการ์เริ่มตามธัญมณทัน และยุณาณีมมันเสียเลย “กลัวสารพัดสิ่งอ่ะ กลัวจนไม่กล้าไปหมด” “งั้นวันไหนที่คุณราฮีมกลับมาเมืองไทย ให้ฉันไปทดสอบความฟิตและความอึดให้เอาไหม งานนี้ฟรี ไม่คิดค่าเสียหาย” “ยัยปุ้ยบ้า เดี๋ยวผัวแกก็เอาปืนมายิงแสกหน้าคุณราฮีมกันพอดี” ณาณีมแหวใส่ความคิดบ้าๆ ของเพื่อน “เท่าที่แกเล่ามา ดูเหมือนยัยพราวก็ทำท่าจะชอบคุณราฮีมอยู่ไม่น้อย วันดีคืนดีพราวคาบไปกิน จะมานั่งเสียใจไม่ได้แล้วนะยะ” “โอ๊ย!...นั่นยิ่งไม่ได้ใหญ่” คนมาปรึกษาเริ่มหัวเสีย ส่วนคนให้คำปรึกษาก็ชักจะสนุก ที่สามารถแหย่จนณาณีมเผยความรู้สึกของตัวเองออกมาแบบนี้ “นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ยอมรับมาเถอะ ว่าแกเองก็ชอบคุณราฮีมอยู่” “แกว่าถ้าฉันจะรักใครใหม่ มันไม่เร็วไปเหรอ ทั้งๆ ที่ฉันเพิ่งหย่า” นี่คือสิ่งที่ณาณีมกังวลอยู่เหมือนกัน เธออยากเป็นโสดให้นานกว่านี้ สองสามปี หรือมากกว่านี้ก็ได้ “ไม่เร็ว ช้าไปด้วยซ้ำ เพราะชีวิตมันต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่จมปลัก เอาอดีตมาเป็นกำแพง” ----------------------------------------- “ผมรู้สึกแปลกๆ อยากให้คุณช่วย” เสียงอู้อี้ของราฮีมเอ่ยตอบ เพราะยังคงเอามือปิดปากไว้อยู่ “ช่วยอะไรคะ?” สีหน้าของณาณีมเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม นั่นเพราะยังไม่เข้าใจว่าราฮีมเป็นอะไร และเขาอยากให้เธอช่วยอะไร “ช่วยถอนพิษให้ผมหน่อย” “ถอนพิษ พิษอะไร” ตอนนี้สีหน้าของณาณีมยิ่งงงเข้าไปใหญ่ “ก็พิษจากลิปสติกสีแดงๆ ของคุณพราวที่มันติดอยู่บนปากของผมตอนนี้ไง” “คุณราฮีม…อื้อ…” พอฟังจบณาณีมก็ทำท่าจะขยับหนี แต่ราฮีมกลับไวกว่ามาก ชายหนุ่มใช้มือที่ปิดปากตัวเองไว้เมื่อครู่ เอื้อมมารวบตัวณาณีมเข้าไปกอด จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงมาจูบเธออย่างรวดเร็ว และนี่คือวิธีถอนพิษที่เขาเอ่ย ณาณีมอึ้ง ทำตัวไม่ถูก สมองสั่งงานให้ผลักราฮีมออกห่าง แต่ร่างกายกลับตรงกันข้าม เพราะมันไม่ทำตามที่เธอสั่งเลย ตั้งแต่เกิดมาเธอเคยจูบกับผู้ชายแค่คนเดียวนั่นคือดาวิน เธอจำไม่ได้ว่าจูบครั้งล่าสุดกับดาวินเมื่อไหร่ และเพราะจำไม่ได้ จึงลืมเลือนรสจูบของอดีตสามีไปจากความรู้สึกเช่นกัน เวลานี้หัวใจของณาณีมเต้นแรงมาก รู้สึกวาบหวามกับจูบที่ราฮีมมอบให้จนควบคุมตัวเองไม่ได้ จูบที่ทำให้เธอขนลุกซู่ ร่างกายไหวระริกเหมือนเด็กสาว และนั่นก็ทำให้ณาณีมเผลอจูบชายหนุ่มกลับไปเช่นกัน ถ้าไม่ติดว่านี่มันริมถนน ราฮีมคงอุ้มณาณีมไปบนเตียงแล้วก็ทำตามที่ใจเขาเรียกร้องแล้ว “คุณจูบเก่งกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก” เขาจำเป็นต้องถอนจูบออก และรู้สึกว่าตอนนี้ ฝนกำลังโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า “ก็ฉันผ่านเรื่องพวกนี้มาแล้วนิ” “แล้วทำไมใจต้องเต้นแรงแบบนี้ด้วย ลมหายใจคุณก็ร้อน” เพราะความใกล้ชิด ทำให้ราฮีมได้ยินเสียงเต้นของหัวใจณาณีมชัดมาก มิหนำซ้ำเวลานี้ตัวเธอก็ร้อนผ่าวเหมือนคนมีไข้

บทที่ 1 ของขวัญวันเกิด

ของขวัญวันเกิด อายุครบยี่สิบสองปีของณาณีมปีนี้ช่างแสนพิเศษ เพราะแฟนหนุ่มที่คบหากันมาได้สี่ปี จัดเซอร์ไพรส์วันเกิดให้เธออย่างโรแมนติกจนใจนั้นเต้นแรงไปหมด

ดาวินซื้อดอกไม้แสนสวยและลูกโป่งนับร้อยๆ ลูก มาประดับประดาในห้องภายในคอนโดมิเนียมของเขาเองจนดูเหมือนฉากในละครโรแมนติก

ไหนจะโคมไฟสีรุ้ง ที่ระยิบระยับราวกับดาวบนท้องฟ้านั่นอีก เมื่อเจ้าของวันเกิดเดินผ่านประตูเข้ามา เขาก็ถือเค้กที่สั่งทำพิเศษออกมาเซอร์ไพรส์ เรียกทั้งรอยยิ้มและน้ำตาจากณาณีม เธอซึ้งและตื้นตันกับความรักที่ดาวินมีให้มาตลอดหลายปี

“อธิษฐานก่อนค่อยเป่าเทียนนะครับ”

“ค่ะ” ณาณีมเอ่ยรับ ก่อนจะประสานมือทั้งสองข้าง หลับตาแน่นจนมองเห็นแพขนตางอน อธิษฐานขอพรจากเค้กวันเกิด ที่ตอนนี้เทียนกำลังสว่างไสว จากนั้นก็เป่าเค้ก

“สุขสันต์วันเกิดครับณา”

“ขอบคุณค่ะพี่แดน” เอ่ยจบ ณาณีมก็เข้าไปสวมกอดดาวิน ขอบคุณสำหรับเซอร์ไพรส์ที่ชายหนุ่มเตรียมไว้ให้ นี่คือปีที่สี่ที่ได้ฉลองวันเกิดกับดาวิน และนี่คือปีที่สามที่เธอกับเขาคบหากันในฐานะแฟน

ความสัมพันธ์ของเธอกับดาวิน เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อน ตอนนั้นเธอเป็นนิสิตปีสอง และดาวินคือรุ่นพี่ปีสาม จากรุ่นน้องก็ค่อยๆ ขยับสถานะมาเป็นคนสนิท จากความชอบก็แปรเปลี่ยนมาเป็นความรัก ดาวินคอยดูแลณาณีมเป็นอย่างดีตั้งแต่เจอกันแรกๆ แม้กระทั่งเวลานี้ชายหนุ่มจะเรียนจบปริญญาโท มีหน้าที่การงานที่ดีทำแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังคอยดูแลณาณีมมาตลอด กระทั่งปีนี้ เธอเองก็เรียนจบระดับปริญญาโทแล้วเช่นกัน

แม้จะคบกันมาสี่ปี และโตในระดับที่สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว แต่จูบแรกของทั้งคู่กลับเกิดขึ้นเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ซึ่งนั่นก็คือเมื่อสองอาทิตย์ก่อน จูบแรกครั้งนั้นทำเอาณาณีมที่ปีนี้ก็อายุยี่สิบสี่ ถึงกับนอนไม่หลับไปตั้งหลายวัน เพราะสัมผัสจากริมฝีปากของดาวินมันตามหลอกหลอนจนเธอไม่เป็นอันทำอะไร คิดถึงจูบนั้นขึ้นมาทีไร ณาณีมก็วาบหวาม หน้าแดงก่ำไปเสียทุกที

“พี่มีของขวัญพิเศษให้ ไม่รู้ว่าณาจะอยากได้ไหม”

“อะไรคะ”

“ยืนรอตรงนี้ เดี๋ยวพี่มา” ดาวินยิ้มให้ ก่อนจะหมุนตัวเข้าไปยังห้องนอนและกลับออกมาในเวลาไม่นาน พร้อมกับมีโบว์ขนาดใหญ่ผูกติดไว้ตรงคอ

“ของขวัญชิ้นนี้อาจไม่มีราคา แต่มันจะมีความรักให้ณาไปตลอดชีวิต”

“พี่แดน” ใจของณาณีมเต้นแรงมาก นั่นเพราะเธอโตพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร และเธอเองก็เตรียมใจพร้อมกับความวาบหวามที่จะเกิดขึ้น

เวลานี้เธอเรียนจบแล้วและกำลังจะทำงาน เธอบรรลุนิติภาวะและพร้อมจะรับกับการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่เกิดจากความเต็มใจของเธอเอง เมื่อเห็นว่าณาณีมเอาแต่ยืนอึ้ง ดาวินจึงเอ่ยขึ้น

“จะไม่แกะของขวัญออกดูหน่อยเหรอครับ ว่ามันบุบสลายตรงไหนหรือเปล่า เพราะถ้ามีพี่จะได้เอากลับไปเคลม” ดาวินรั้งมือเล็กๆ ของณาณีมขึ้นมาวางบนหน้าอก สบตาเธอให้รู้ความหมายว่าต้องการอะไร นั่นเพราะเขารอเวลานี้มาตลอด รอให้อะไรๆ พร้อม เพราะไม่อย่างนั้น เขาคงรวบหัวรวบหางเธอไปตั้งนานแล้ว

ทันทีที่ได้สัมผัสร่างกายของดาวิน ณาณีมถึงได้รู้ว่าใจของชายหนุ่มนั้นเต้นแรงมาก มากพอๆ กับใจของเธอตอนนี้

“งั้น…จะแกะของขวัญชิ้นนี้แล้วนะคะ” พูดไปณาณีมก็เขินจนหน้าแดงก่ำ เธอกระตุกโบว์ตรงคอของดาวินเพียงเบาๆ โบว์ก็คลายปมหลุดออกจากกัน

แต่ดูเหมือนของขวัญชิ้นพิเศษนี้จะไม่ได้ต้องการให้ณาณีมแกะแค่โบว์เท่านั้น เพราะดาวินยกมือมากุมมือเล็กๆ ของณาณีมไว้แล้วค่อยๆ ใช้มือนั้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวที่สวมอยู่ออกไปด้วย

เวลาที่กระดุมหลุดออกจากรังดุมคราใด ก็จะเปิดเผยร่างกายของดาวินไปด้วยครานั้น และชายหนุ่มก็ทำแบบนี้กระทั่งถึงกระดุมเม็ดสุดท้าย พร้อมกับรั้งมือของณาณีมให้ขึ้นมาลูบร่างกายของเขาอย่างจงใจ มือนุ่มๆ สัมผัสกับกล้ามเนื้อแน่นๆ ลากผ่านลงมาจากหน้าอกจนถึงซิกแพคลอนสวยที่ณาณีมแทบไม่เคยเห็น และนี่คือครั้งแรกที่ได้เห็นเรือนร่างของผู้ชาย

ทันทีที่ทั้งคู่สบตากัน มันเหมือนแรงดึงดูดที่พร้อมจะดูดดึงทั้งสองให้เข้าหากัน และเสน่หาของชายหญิงก็ยากเกินกว่าจะต้านทานได้ ดาวินครอบครองณาณีม ทุกอย่างบนร่างกายเธอตกเป็นของเขา และเธอก็เต็มใจให้เป็นแบบนั้น แม้จะเจ็บปวดเมื่อถูกเขาครองครองความสาวแรก แต่ทว่าความเจ็บปวดนั้นกลับถูกแทนที่ด้วยความวาบหวาม

ความอ่อนเพลียเพราะถูกของขวัญอย่างดาวินรังแกเกือบทั้งคืน ทำให้ณาณีมตื่นสาย แต่ทว่าเมื่อลืมตาขึ้นมอง เธอกลับเจอเซอร์ไพรส์อีกชุด

“แต่งงานกับพี่นะณา” ดาวินที่ตอนนี้สวมชุดทักซิโด้สีดำเต็มยศ แถมยังจัดผมมาเสียหล่อ กำลังนั่งคุกเข่าพร้อมกับถือแหวนเพชรเม็ดงามในมือขอณาณีมแต่งงาน ซึ่งว่าที่เจ้าสาวนั้น ได้แต่นั่งอึ้ง มิหนำซ้ำผมเผ้ายังกระเซอะกระเซิง หน้าก็ยังไม่ได้ล้าง ฟันก็ยังไม่ได้แปรง แถมยังอยู่ในชุดวันเกิด มีเพียงผ้านวมที่คลุมร่างกายเปลือยเปล่าไว้เท่านั้น

“พี่แดน”

“พี่รักณาคนเดียวและรักมาตลอด เรามาเป็นครอบครัวเดียวกันนะครับ” คำพูดของดาวินดังก้องอยู่ในหัวของณาณีม และเพราะรักที่มีให้เขา มีหรือเธอจะไม่ตอบตกลง

“ค่ะ” คำตอบรับของณาณีมทำให้ดาวินฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะเข้ามาสวมกอดและสวมแหวนที่เตรียมมาลงไปบนนิ้วนางข้างซ้ายของคนรัก

การแต่งงานของทั้งคู่เกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนต่อมา จากนั้นณาณีมกับดาวินก็ย้ายไปอยู่เรือนหอ ที่พวกเขาสร้างมันขึ้นมาด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ และยังสนุกกับการใช้ชีวิตกันสองคน จึงยังไม่พร้อมจะมีทายาท แม้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะรบเร้าก็ตามที

ครบรอบวันแต่งงานปีที่หนึ่ง ปีที่สอง สาม สี่ ห้าและปีนี้คือปีของการครบรอบแต่งงานปีที่เก้าและเป็นปีที่สิบสามที่ทั้งคู่รู้จักกัน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ วรนิษฐา / Miss sexy

ข้อมูลเพิ่มเติม
ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

มหาเศรษฐี

5.0

เธอคือ....นางโจร ส่วนเขาคือนายตำรวจ...มือหนึ่ง แต่พรหมลิขิตกลับชักพาให้นางโจรอย่างเธอปล้นความรักไปจากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่าง...เขา +++++ “ผมบอกไปหรือยังว่าผมรักคุณ” “ยังค่ะ” มีนาเอ่ยตอบด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อคืนเหมือนเธอจะได้ยินเมฆาบอกรัก แต่มันก็แผ่วเบาเสียจนคิดว่าเธอคงฝันหรือไม่ก็เพ้อไปเองคนเดียว “โอเค...ผมรักคุณ” เมฆาบอกรักคนในอ้อมกอด มันคือคำว่ารักที่แสนเรียบง่ายแต่ทว่ากลับตราตรึงอยู่ในความรู้สึก ทั้งจากคนพูดและคนที่ได้ยิน เพราะหากไม่แน่ใจว่ารักเมฆาหรือจะพูดคำนี้ออกมา “ผู้ชายเขาบอกรักกันง่ายๆ แบบนี้เหรอคะ” “ใครบอกว่าง่าย เมื่อคืนกว่าผมจะบอกรักคุณมีนด้วยภาษากายได้ก็ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเชียวนะ” “ทะลึ่ง” มีนามองค้อนมาให้ นั่นเพราะรู้ความหมายที่เมฆาเอ่ยว่าคืออะไร “ผมพูดเรื่องจริง” “แต่ฉันเป็นโจรที่เคยยกเค้าบ้านคุณนะคะ ถูกแจ้งจับอีก แบบนี้คุณยังจะรักฉันอย่างนั้นเหรอ” “มีกฎหมายข้อไหน ห้ามไม่ให้ตำรวจรักกับโจรบ้าง” “ก็...” คนฟังแย้งไม่ออก “ผมว่าความรักมันไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว รักก็คือรัก” “แต่เราต่างกันเกินไป ฉันคิดว่า...” “โลกนี้ไม่มีคำว่าต่าง ต่อให้มีเราก็ค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากันก็ได้นี่ครับ ผมขอแค่โอกาส” “ฉัน...” “ผมรักคุณมีน ต่อให้จะนอนคิดนั่งคิดหรือตีลังกาคิดก็ยังรัก” เมฆาเอ่ยคำว่ารักให้คนในอ้อมกอดได้ยินและได้รับรู้ถึงความรู้สึกของเขาอีกครั้ง “แล้วถ้าฉันปฏิเสธละคะ คุณจะว่ายังไง” “ผมคงเสียใจหนักมากแน่” เมฆาเสียใจจริงๆ แต่เขาคงไม่ถอดในจากเธอด้วยเรื่องแค่นี้แน่ แต่ทว่าคำพูดหลังจากนั้นของมีนากลับทำให้คนฟังยิ้มกว้างออกมา “แต่ฉันไม่อยากเห็นคุณเสียใจ” “งั้นก็รับรักผม ได้ไหม” “เฮ้อ! ไหนๆ ฉันก็ได้คุณแล้วก็คงต้องแมนๆ รับผิดชอบ ฉันรับรักคุณก็ได้อะ คุณจะได้ไม่ร้องไห้เสียใจเพราะฉัน” มีนาพูดติดตลก นั่นเพราะไม่อยากให้บรรยากาศตอนนี้อึดอัด คำพูดของเธอทำให้เมฆาถึงกับหัวเราะ ก่อนจะรั้งผ้าห่มขึ้นมาห่มคลุมโปงทั้งเธอและเขา แล้วเริ่มปฏิบัติการยืนยันว่าแท้จริงแล้วใครได้ใครกันแน่ และใครต้องรับผิดชอบใคร

แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

มนุษย์หมาป่า

5.0

‘เขาเป็นแวมไพร์ที่ปฏิเสธการดื่มเลือด แต่กลับไม่ปฏิเสธหากจะได้กลืนกินเธอ’ ------------ “วันนี้นายริทเป็นอะไร ดูเหม่อๆ” “นั่นนะสิ” คนงานอีกคนเห็นด้วย ก่อนจะหยุดการสนทนาใดๆ แล้วตัดดอกไม้ต่ออย่างขะมักเขม้น ส่วนคนที่พวกเขาเอ่ยถึงนั้น ตอนนี้ก็กำลังง่วนอยู่กับงานตรงหน้าเช่นเดียวกัน กระทั่งได้ดอกไม้ครบตามจำนวน เชโรมจึงเดินไปยังรถที่ตอนนี้มีดอกไม้แสนสวยอยู่ท้ายกระบะเต็มไปหมด แต่จังหวะนั้น สายตาของเชโรมกลับมองไปเห็นกระต่ายสีขาวที่เขาเลี้ยงไว้หลุดออกมาจากกรง จึงเดินไปอุ้มมันขึ้น ท่าทางเขาดูอ่อนโยนเสียจนมาศิตาที่ผ่านมาเห็น คิดว่าตัวเองตาฝาด จนต้องขยี้ตาแรงๆ สามสี่ครั้ง “ผู้ชายหน้าโหดกับกระต่ายสีขาว ดูยังไงก็ไม่เห็นจะเข้ากันสักนิด สงสัยจะเลี้ยงกระต่ายไว้กินแน่ๆ” “เลี้ยงไว้ดูจ้ะ นายริทชอบกระต่ายสีขาว ตรงนู่นเป็นกรงกระต่าย มีหลายสิบตัว” คนงานสาวคนหนึ่งเอ่ยแย้งให้ผู้เป็นเจ้านาย “ชีวิตดูมุ้งมิ้งกิงก่องแก้วขัดแย้งกับหน้าตาสุดๆ แวมไพร์ตนอื่นๆ มีแต่จะเลี้ยงกระต่ายไว้ดื่มเลือด นี่อะไร เลี้ยงไว้ดูเล่น โอ๊ย! พ่อมังสวิรัติ” มาศิตาบ่นคนเดียวอีกตามเคย ตามมาด้วยอีกประโยค “สอนแวมไพร์ให้ดื่มเลือด มันจะเหมือนสอนจระเข้ว่ายน้ำปะวะเนี่ย ของมันเป็น มันอยู่ในสายเลือด จะให้เรามาสอนเขาทำไม หืม” คนข้างๆ ที่เผลอได้ยินทั้งสองประโยคนี้เข้า กลับมีสีหน้างุนงงอย่างเห็นได้ชัด พอจะถามมาศิตาก็เดินตัวปลิวไปเสียแล้ว “ใครเป็นแวมไพร์หว่า หรือเราจะหูฝาดไป” คนงานสาวที่เพิ่งจะเอ่ยแก้ต่างเรื่องกระต่ายให้เชโรมไปเมื่อครู่ถึงกับคิ้วขมวด พูดกับตัวเองตามมาศิตาไปอีกคน ------------------ “แต่ศิตาไม่ยอมให้พี่ริทตายเด็ดขาด เพราะศิตารักพี่ริท” เอ่ยจบก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรม จูบที่ต่างฝ่ายต่างต้องการจากกันและกันมาโดยตลอด จูบที่ฝันว่าครั้งแรกมันต้องโรแมนติกและน่าจดจำ ไม่ใช่จูบที่ได้กลิ่นคาวเลือดจากริมฝีปากเขาเช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด เลือด! ใช่…เลือด คำๆ นี้ทำให้มาศิตานึกอะไรขึ้นมาได้ เธอคือผู้พิทักษ์ เลือดของเธอแวมไพร์ที่ยืนจ้องอยู่ตรงนั้นยังต้องการ แล้วทำไมเธอถึงไม่ให้เชโรมชิงดื่มเลือดของเธอเสีย ไม่แน่ว่า หากเขาได้ดื่มเลือดมนุษย์จริงๆ เชโรมอาจมีพลังขึ้นมาก็เป็นได้ มาศิตาถอนจูบออก แล้วแสร้งโอบกอดเชโรม ก่อนจะกระซิบให้เขาฝังคมเขี้ยวลงไปบนลำคอเพื่อจะได้ดื่มเลือดเธอ แต่เหมือนเชโรมกลับส่ายหน้าปฏิเสธกับแผนนี้ กระทั่งมาศิตาชิงลงมือก่อน เธอกัดริมฝีปากตัวเองสุดแรงจนเลือดไหล แม้จะเจ็บแต่ก็ยอมทน จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรมอีกครั้ง ทันทีที่ได้สัมผัสเลือดของผู้พิทักษ์ นั่นทำให้เลือดในกายของแวมไพร์หนุ่ม ผู้ที่ไม่เคยลิ้มรสชาติของเลือดใดๆ มาก่อน พลันพลุ่งพล่านราวกับเปลวไฟ “เจ้าทำอะไร” แดนเองก็ได้กลิ่นเลือดของมาศิตาเช่นเดียวกัน รวมทั้งจ้องมองความผิดปกติของเชโรมอย่างไม่กะพริบตา เลือดเพียงหนึ่งหยด กลับทำให้นัยน์ตาที่เคยเป็นสีน้ำตาลอ่อนแปรเปลี่ยนมาเป็นสีแดงเพลิงในทันที ร่างกายที่เคยเจ็บปวดกลับค่อยๆ หาย และรู้สึกถึงพลังที่ไม่เคยสัมผัสได้มาก่อนวิ่งพล่านไปทั่วร่าง “แววตาแบบนั้น เจ้าเป็นใครกัน หรือว่า…”

เล่ห์รักฉบับ CEO

เล่ห์รักฉบับ CEO

มหาเศรษฐี

5.0

จูบแรกก็เป็นของเขา จูบครั้งที่สอง สาม สี่ ก็ยังคงเป็นของเขา แบบนี้โสภิตาจะหนีจาก CEO หนุ่มที่เธอบังเอิญผ่านไปช่วยชีวิตเขาไว้ได้อย่างไร ++++++++++++++++ **โปรย 1 “เท่าที่ได้คุยกันฉันว่านายเชนคนนี้นิสัยก็ใช้ได้” “อึนๆ มึนๆ นี่เหรอใช้ได้” โสภิตาอยากจะบอกเหลือเกินว่าบางครั้งราเชนก็กวนตีนเธอ “อื้อ...นายเชนเขาให้ความพิเศษกับแกนะ ขนาดปลายังแกะก้างออกให้ นี่ถามจริงๆ แกไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ” “ก็...” โสภิตาอ้ำๆ อึ้งๆ เธอนั้นไม่มีประสบการณ์เรื่องความรัก เรียกได้ว่าชั่วโมงบินน้อยมากๆ ใครมาดีหรือมาร้ายบางครั้งก็มองไม่ออกอย่างทะลุปรุโปร่ง อาศัยเพียงแค่สัญชาตญาณของตัวเองซึ่งบางครั้งมันอาจผิดพลาด “หรือคิดมากเรื่องฐานะที่นายเชนมีน้อยกว่าแก” “ไม่ใช่เรื่องนั้น ถามว่าฉันรู้สึกดีกับเขาไหมก็...อื้ม บางครั้งเวลาฉันอยู่กับเขาแล้วเหมือนตัวเองเป็นง่อย จากที่ทำอะไรได้เองก็เริ่มอยากให้เขาทำให้ อยากให้เขาช่วย” นั่นคือความเปลี่ยนแปลงที่โสภิตารู้ตัวเองดี “ไม่แปลกหรอก เพราะผู้หญิงเราต่อให้แข็งแกร่งยังไงลึกๆ ในหัวใจก็อยากมีใครสักคนมาดูแล” “แกก็เป็นเหรอ” “เป็นสิ บางครั้งฉันยังงอแงให้บอสจับแมลงสาบเลย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเห็นตอนไหนฉันกระโดดกระทืบตอนนั้น” คำพูดของรติชาทำให้โสภิตาหัวเราะออกมาเพราะนึกภาพออกทันที เวลานั้นปิลันธน์คงทั้งกลัวทั้งอยากกำจัดให้คนรักส่วนรติชาก็คงหัวเราะชอบใจแน่ๆ “นึกว่าฉันเป็นอยู่คนเดียว” “แกนะเข้มแข็งมากนะหวาน เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นหัวหน้าคนงาน รับผิดชอบเรื่องนั้นเรื่องนี้มากมาย ที่ผ่านมาอาจเพราะแกยังไม่เจอใครที่สามารถฝากชีวิตเอาไว้ได้แกเลยไม่เปิดใจ แต่ถ้าตอนนี้แกเจอคนคนนั้นแล้วฉันแนะนำว่าแกควรฟังเสียงหัวใจของตัวเองให้มาก ว่าอยากอยู่แบบที่ผ่านๆ มาหรืออยากจับมือกับใครสักคนไปจนวันตาย” นั่นคือคำแนะนำจากใจของรติชาเพราะเธอเคยลังเลแบบนี้มาแล้ว หากเวลานั้นตัดสินใจผิดตอนนี้เธออาจโกนหัวบวชชีที่วัดป่าที่ไหนสักแห่ง “ฉันอยากจับมือใครสักคน” ++++++++++++++++ ***โปรย 2 “ฉันเกลียดที่สุดคือคนโกหก ที่ผ่านมาฉันรู้สึกดีกับนายเพราะเข้าใจมาตลอดมานั่นคือนาย แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นใครกันแน่ นายจะโกหกอะไรฉันอีกไหม ฉันต้องโง่ไปอีกกี่ครั้ง” น้ำเสียงของโสภิตานั้นสั่นเครือ “ผมสัญญาว่าจะไม่โกหกอะไรคุณอีกแล้ว สาบานให้ตาย...” จังหวะที่ราเชนกำลังจะสาบานให้ตัวเองตาย โสภิตาก็ยกมือขึ้นมาปิดปากของเขาไว้เสียก่อน “ลองตายดูสิ ฉันจะลากตัวนายขึ้นมาแล้วสับๆ” ราเชนอึ้งกับประโยคที่ได้ยินก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าโสภิตาไม่ยอมให้เขาตายง่ายๆ สินะ “โอเคๆ ผมไม่ตายแล้วก็ได้ ยกโทษให้ผมเถอะนะคุณหวาน ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” “นายนี่มัน ทำฉันทั้งสุขทั้งทุกข์เหมือนคนเป็นไบโพลาร์แบบนี้ได้ยังไง รับผิดชอบสติฉันมาเลย” “ถ้าผมรับผิดชอบจริงๆ คุณหวานจะตอบตกลงไหมครับ” “อื้อ” “จริงๆ นะ” ราเชนถามย้ำ ส่วนคนที่ตามความเจ้าเล่ห์ของเขาไม่ทันก็ไม่ได้เอะใจอะไรแม้แต่น้อยเช่นกัน “จะรับผิดชอบอะไรว่ามา” “แต่งงานกันไหม”

รักร้อนซ่อนใจรัก

รักร้อนซ่อนใจรัก

โรแมนติก

5.0

เขาคือพระเอกดาวค้างฟ้า เล่นละครเรื่องไหนเรตติ้งพุ่งแรงเสมอ ในขณะที่เธอก็เป็นแค่เอ็กตร้าในกองถ่าย ที่เอ๋อๆ เด๋อๆ เพราะไม่ได้เป็นแฟนคลับของเขาเธอจึงไม่ได้แสดงออกว่าปลื้ม แต่ยิ่งเธอเฉยเขายิ่งสนใจ กระทั่งมีเหตุการณ์ให้ทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกัน จูบแรกของทั้งคู่เกิดขึ้นก็เพราะงาน แต่หัวใจของเธอกลับถูกริมฝีปากนุ่มและแสนร้ายกาจของพระเอกกระชากจนหลุดลอยและมันมักจะลอยไปหาเขาโดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน ของขวัญวันเกิดปีนี้ของเธอก็ยังเป็นจูบจากเขา จูบที่ทำให้ใจสาวหวั่นไหวและยากจะต้านทาน หัวใจเธอถูกเขาไล่ต้อนจนมุม ทางเดียวที่จะรับมือคือพุ่งเข้าชนแล้วเอาหัวใจเป็นเดิมพัน

หัวใจแพ้ทางรัก

หัวใจแพ้ทางรัก

โรแมนติก

5.0

ถึงอาดิน เรารู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้วนะคะ เป็นสิบปีที่มิลค์มีความสุขมาก ตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักจนถึงวันนี้ ไม่มีวันไหนที่มิลค์จะหยุดรักอาดินได้เลย นอกจากจะหยุดรักไม่ได้แล้ว ยังรักมากขึ้นๆ ทุกๆ วัน สิบปีมานี้มิลค์ได้บอกรักอาดินไปหลายครั้ง ทุกๆ ครั้งที่บอกไปมิลค์มีความสุขมากค่ะ ถึงแม้อาดินจะไม่ตอบรับมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่มิลค์ก็ยังพยายามต่อ เพราะหวังว่าสักวันอาดินจะหันมามองเห็นความรักที่มิลค์มีให้และรับมันไป แต่ว่า...มันคงไม่มีวันนั้นแล้วจริงๆ มิลค์ขอโทษนะคะที่เอาแต่ใจ ที่ตามกวนใจอาดิน หลังจากนี้เราคงไม่ได้เจอกันสักพัก มิลค์ขอให้อาดินเจอคนที่ใช่ คนที่อาดินรัก ส่วนมิลค์จะขอเฝ้ามองอาดินอยู่ห่างๆ แทน ลาก่อนค่ะ มิลค์

หนังสือที่คุณอาจชอบ

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

Burke Gee
5.0

ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

ถึงป๋าดุ(ดัน)หนูก็ไหว

ถึงป๋าดุ(ดัน)หนูก็ไหว

ผลิกา(เลอบัว)
5.0

เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ

รักซ้ำรอย

รักซ้ำรอย

มาชาวีร์
4.9

“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ฉากรักในคืนฝนโปรย
1

บทที่ 1 ของขวัญวันเกิด

25/04/2022

2

บทที่ 2 ปฐมบทแห่งความเป็นหม้าย 1

25/04/2022

3

บทที่ 3 ปฐมบทแห่งความเป็นหม้าย 2

25/04/2022

4

บทที่ 4 นี่แหละฉัน…ณาณีม

25/04/2022

5

บทที่ 5 คิดไม่ซื่อ

25/04/2022

6

บทที่ 6 ห้องเราผนังติดกัน 1

25/04/2022

7

บทที่ 7 ห้องเราผนังติดกัน 2

25/04/2022

8

บทที่ 8 ห้องเราผนังติดกัน 3

25/04/2022

9

บทที่ 9 ตัดไฟแต่ต้นลม

25/04/2022

10

บทที่ 10 ผมรักคุณได้ไหม 1

25/04/2022

11

บทที่ 11 ผมรักคุณได้ไหม 2

25/04/2022

12

บทที่ 12 ชีวิตช่วงลาพักร้อน

25/04/2022

13

บทที่ 13 เมื่อเราได้กลับมาพบกันใหม่

25/04/2022

14

บทที่ 14 เมื่อเราได้กลับมาพบกันใหม่ 2

25/04/2022

15

บทที่ 15 รู้คำตอบ

25/04/2022

16

บทที่ 16 แสดงออกนอกหน้า

25/04/2022

17

บทที่ 17 หย่ากับสามีแล้ว

25/04/2022

18

บทที่ 18 สถานะเพียงอดีต

25/04/2022

19

บทที่ 19 มีรักครั้งใหม่

25/04/2022

20

บทที่ 20 ทำทุกอย่างเต็มที่

25/04/2022

21

บทที่ 21 ตามเสียงหัวใจ

25/04/2022

22

บทที่ 22 หึงผมไหม

25/04/2022

23

บทที่ 23 มีของดีติดอยู่กับตัวเอง ทำไมไม่ใช้

25/04/2022

24

บทที่ 24 ฉากรักในคืนฝนโปรย 1

25/04/2022

25

บทที่ 25 ฉากรักในคืนฝนโปรย 2

25/04/2022

26

บทที่ 26 ฉากรักในคืนฝนโปรย 3

25/04/2022

27

บทที่ 27 ฉากรักในคืนฝนโปรย 4

25/04/2022

28

บทที่ 28 ฉากรักในคืนฝนโปรย 5

25/04/2022

29

บทที่ 29 ฉากรักในคืนฝนโปรย 6

25/04/2022

30

บทที่ 30 การร่ำลาที่มาพร้อมความเร่าร้อน 1

25/04/2022

31

บทที่ 31 การร่ำลาที่มาพร้อมความเร่าร้อน 2

25/04/2022

32

บทที่ 32 การร่ำลาที่มาพร้อมความเร่าร้อน 3

25/04/2022

33

บทที่ 33 สามเดือนแห่งความคิดถึง

25/04/2022

34

บทที่ 34 แรงดึงดูดกันและกัน

25/04/2022

35

บทที่ 35 ไม่อึดอัด

25/04/2022

36

บทที่ 36 จุดเปลี่ยน

25/04/2022

37

บทที่ 37 จุดเปลี่ยน 2

25/04/2022

38

บทที่ 38 รู้สึกอบอุ่นจากสัมผัส

25/04/2022

39

บทที่ 39 รักต่างสี 1

25/04/2022

40

บทที่ 40 รักต่างสี 2

25/04/2022