Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
113.2K
ชม
54
บท

เขาใจดีกับคนทั้งโลก ยกเว้นเธอ... “ถ้าเจ็บก็ทนเอาหน่อยล่ะกัน เธอท้องเมื่อไหร่ ฉันจะไม่แตะต้องเธอเลย...ตัวเสนียดจัญไร” .... หลังจากการลงทัณฑ์จบสิ้น ร่างสาวเปลือยเปล่าคุดคู้ มือข้างซ้ายจับตรงของสงวน มือข้างขวาจับช่วงท้อง ทั้งจุกและเจ็บร้าว น้ำตารินไหลเป็นทาง เขาไม่ปรานีเธอสักนิดเดียว ทำรุนแรงทุกท่วงท่า กระแทกกระทั้นแต่ละครั้งดุเดือด ทำราวกับว่าเธอเป็นตุ๊กตายาง ไม่มีความรู้สึกใดใด เขากระทำด้วยความโกรธ แค้นและชิงชัง “จะร้องไห้หาสวรรค์วิมานอะไร เธอเจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอก เจ็บน้อยกว่าที่ฉันเจ็บด้วยซ้ำ แล้วอย่าทำเป็นสำออย จำใส่หัวไว้ว่า เธอไม่ใช่นางเอกเจ้าน้ำตา เธอคือแม่มดใจหยาบช้า” นัยน์ตาณคุณโหดด้วยไฟแค้นลุกท่วม ยากดับได้ “จำเอาไว้อย่างหนึ่งว่า นี่แค่เริ่มต้น เธอจะเจ็บแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าท้อง คลอดเมื่อไหร่ เธอไสหัวออกไปจากที่นี่เมื่อนั้น”

บทที่ 1 1

เวลาตีหนึ่งครึ่งบนถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าไปประชาชื่นมีรถยนต์สัญจรไปมาไม่มากนัก รถแต่ละคันทำความเร็วค่อนข้างสูงไม่ต่ำกว่าหนึ่งกิโลเมตรต่อชั่วโมง รถยนต์ของพิมรดา ลูกสาวคนโตบรรพต คุณาสวัสดิ์ นักธุรกิจชื่อดังทางภาคเหนือ และเป็นเจ้าของโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรูใจกลางสุขุมวิท กำลังวิ่งอยู่บนถนนเส้นนี้ด้วยความเร็วหนึ่งร้อยยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง จุดหมายของเธอคือบ้านพักบิดาย่านนนทบุรี เธอกำลังขับรถไปขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน เสียเงินสิบห้าบาทตัดไปลงถนนงามวงค์วาน-แยกแคลาย

พิมรดาเปิดเพลงฟังในรถ ระหว่างขับรถเธอร้องเพลงไปด้วย ใบหน้าเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม วันนี้ถือเป็นวันดีหนึ่งของเธอ เป็นวันที่ณัฐกิตต์ คนรักคบหากันมานานกว่าสามปี หอบดอกกุหลาบช่อโตและทำเซอร์ไพร์สขอแต่งงาน ซึ่งเธอตอบรับทันที หลังจากการขอแต่งงานผ่านพ้นไป ณัฐกิตต์เลี้ยงฉลองความรักกับกลุ่มเพื่อนสนิทของเขาและพิมรดาที่มาร่วมแสดงความยินดีเกือบห้าสิบคน กว่างานเลิกก็ล่วงเข้าไปเกือบตีหนึ่งสิบห้า

เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขณะพิมรดาขึ้นสะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว พิมรดาหยิบเครื่องมือสื่อสารที่วางไว้ตรงช่องเล็กหลังเกียร์ เธอปรายตามองดูชื่อคนที่โทรเข้ามา ก่อนยิ้มและตั้งใจกดรับสายทว่าคงจับมือถือไม่แน่นพอ มันตกลงไปกระทบกับขาสาวก่อนกระเด้งลงไปบนพื้นรถ เธอทำในสิ่งที่ไม่ควรทำคือก้มลงเก็บมัน

ความที่คิดว่าไม่มีรถสัญจรมากนัก ก้มลงเก็บเดี๋ยวเดียวคงไม่มีปัญหาอะไร จังหวะที่พิมรดาก้มหยิบมือถือ รถกำลังแล่นลงจากสะพาน หลังจากเก็บมันได้แล้ว เธอยืดตัวหลังตั้งตรง ตามองถนน

“กรี๊ด...” เสียงกรีดร้องดังลั่นรถ

เมื่อมีรถยนต์วิ่งตัดหน้า พิมรดาหักรถหลบทันควัน หมายเหยียบเบรกรถ ทว่า...

เบรกไม่ได้...เนื่องจากรองเท้าส้นสูงเข้าไปอยู่ใต้เบรก

เธอไม่สามารถหยุดรถได้ รถขับมุ่งหน้าด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม เนื่องจากความตกใจ เธอกลับเหยียบคันเร่ง

กรี๊ด...เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกครั้ง ตามมาด้วยเสียง

โครม...

รถสองคันปะทะกันอย่างจัง

รถคันหนึ่งไม่ได้ตั้งใจ

อีกคันไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน

รถคันถูกชนเป็นรถตู้ใหม่ป้ายแดง ถูกชนท้ายจนรถเสียหลักพลิกคว่ำ ส่วนรถของพิมรดาหลังจากชนท้ายรถตู้ รถเธอเสียหลักไปชนกับขอบทางและนิ่งสนิทอยู่อย่างนั้น

ไม่นานนักหน่วยกู้ภัยมายังที่เกิดเหตุ พวกเขาต่างช่วยกันนำร่างผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล คนนั้นคือพิมรดากับนายสมชายคนขับรถตู้ และรัตน์ชนกที่หายใจรวยริน ส่วนอีกหนึ่งคนที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แม้ชนกนันท์เด็กน้อยวัยหนึ่งปีกว่าจะอยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นแม่ ทว่าก็ไม่สามารถปกป้องลูกสาวอันเป็นที่รักยิ่งดวงใจได้

เป็นเรื่องเศร้า หลังจากทั้งสามถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ในเวลาต่อมา รัตน์ชนกเสียชีวิตในเวลาต่อมา นำพาความเศร้าต่อครอบครัวผู้จากไปเป็นอย่างมาก ราวกับไฟเผาใจก็ว่าได้

ความตายของสองแม่ลูก คือชนวนแห่งความโกรธา ความแค้นระดับร้อยระดับพันในใจผู้เป็นสามี ที่สาบานว่า จะเอาคืนคนทำผิดมาลงโทษให้ได้...ลงโทษในแบบของเขา

2 ปีต่อมา

นานร่วมสองปีแล้ว ทว่าพิมรดาไม่เคยลืมเหตุการณ์คืนนั้น คืนที่ตนคิดว่ามีความสุขที่สุด แต่กลับเป็นวันเลวร้ายที่สุดในชีวิต เพราะเธอคร่าชีวิตคนสองคนด้วยความไม่ตั้งใจ ด้วยความประหม่า เสมือนฝันร้ายตามหลอกหลอน ความรู้สึกผิดแน่นในจิตใจ ไม่คลายลงเลยสักนิดเดียว

สิ่งหนึ่งที่พิมรดาทำมาตลอดนับจากคืนนั้นคือ ทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้สองแม่ลูก เธอใส่บาตรตอนเช้าทุกวัน วันพระใหญ่ก็ไปวัดถวายสังฆทาน ปล่อยนกปล่อยปลา งานบุญไม่ว่าจะผ้าป่าสามัคคี งานกฐิน หากได้ซองเธอทำหมด และบางงานเป็นประธานอีกด้วย บุญกุศลทั้งหมดเธอยกให้รัตน์ชนกกับชนกนันท์ ถึงแม้รู้ว่ บุญไม่อาจล้างบาปที่ตนทำได้ ทว่าเธอตั้งใจทำเช่นนี้เรื่อยไปจนกว่าหมดลมหายใจ

วันนี้เป็นวันครบรอบสองปี พิมรดามาทำบุญที่วัด เธอเลี้ยงเพลพระภิกษุและสามเณรทั้งวัด และมีการเลี้ยงโรงทานที่มีคนมากินอาหารที่ตระเตรียมไว้ห้าอย่าง ผลไม้รวมทั้งขนมหวานกันมากกว่าสองร้อยคน ไม่เพียงแค่นี้ พิมรดายังแจกเงินให้คนที่มากินโรงทานอีกคนละห้าสิบบาทด้วย

สีหน้าเจ้าของงานบุญ ไม่ได้บอกถึงความสุขกับงานบุญสักนิดเดียว ใบหน้าพิมรดาเศร้าหมอง บางครั้งร้องไห้ มือปาดน้ำตาเหมือนเด็กๆ เพื่อนที่มาด้วยกันต้องยื่นผ้าเช็ดหน้าให้พิมรดาเช็ดน้ำตา หลังจากทำบุญเลี้ยงพระเสร็จ พิมรดาชวนเพื่อนไปให้อาหารปลาหลังวัด

“ฉันว่าแกไปบวชชีลบล้างความผิดให้รู้แล้วรู้รอดเลยดีไหม แกทำบุญทีไรแทนที่หน้าตาจะสดชื่น กลับเหมือนคนแบกทุกข์ของคนทั้งโลกไว้กับตัวเอง เห็นแล้วเซ็ง” ยุพาพรรณเพื่อนสนิทพิมรดาอดพูดไม่ได้ ก่อนโยนขนมปังให้ปลาสวายหลายร้อยตัวที่แย่งกันกินอาหาร

“ฉันรู้ว่าแกรู้สึกผิดที่ทำให้สองแม่ลูกตาย แต่แกก็ไม่ตั้งใจให้เรื่องนั้นเกิดขึ้น สองปีที่แกทุกข์ทรมานใจ ทำบุญไม่เว้นวันเพื่อชดใช้ความผิดของตัวเอง ฉันก็ว่ามันมากแล้วนะ แกน่าจะให้อิสระกับตัวเอง ปล่อยเรื่องนั้นออกจากใจได้แล้ว” วิรัญญาเห็นเพื่อนเศร้าพลอยเศร้าตามไปด้วย

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ