icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
72.5K
ชม
90
บท

เพราะความเข้าใจผิดในครั้งนั้นกลายเป็นแรงผลักดันให้เขาทำลายความบริสุทธิ์ของหล่อน แต่มีหรือที่บุรุษผู้ทระนงตัวและมากด้วยศักดิ์ศรีจะยอมคุกเข่าขอโทษง่ายๆ ชายหนุ่มจึงใช้เกมร้ายล่อลวงกวางน้อยอย่างหล่อนให้หมดทางเลือก จนต้องเป็นฝ่ายขอร้องวิงวอนเขาเสียเอง! เจอรัลด์ ซาโกร่า กาซิยาส ทายาทลำดับที่ห้าแห่งตระกูลชั้นสูงในโมร็อกโก เขาหล่อระเบิดจนผู้หญิงทุกคนยอมศิโรราบ ความหลงตัวเองจึงทำให้เขากลายเป็นผู้ชายโอหังและหยิ่งผยองยิ่งกว่าราชสีห์ ญาดามินทร์ แซคารี สาวน้อยแสนบอบบางที่ต้องมาหลงรักผู้ชายใจมัจจุราชอย่าง เจอรัลด์ ซาโกร่า กาซิยาส แม้จะถูกมองเยี่ยงก้อนกรวดไร้ราคา แต่ความโหยหาก็ยังฝังแน่นในใจไม่เสื่อมคลาย “ถ้าฉันไม่พลาดพลั้งมีอะไรกับเธอ...” คำพูดที่เหมือนกับจะสูบหล่อนไปทั้งจิตวิญญาณหยุดลงชั่วขณะ ไอแห่งความชั่วร้ายฉายชัดในดวงตาคมกริบที่ตอนนี้ดำมืดราวกับคืนพระจันทร์ดับ “คนอย่างฉัน... ไม่มีทางมายืนตรงนี้แน่” หัวใจของหล่อนเจ็บราวกับถูกกระทืบด้วยฝ่าเท้าของยักษ์ร้าย “คน... คนใจร้าย... ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก” “เสียใจด้วยญาดามินทร์...” เขาเลื่อนฝ่ามือแกร่งขึ้นไปขยุ้มไหล่มนอย่างไม่ความปรานี ถ่ายทอดทุกความเจ็บปวดสู่หัวใจของหล่อนอย่างอำมหิตไร้เมตตา “เพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไม่ได้อีก เธอ... คือสมบัติของฉัน ตั้งแต่คืนนั้นเกิดขึ้น” หญิงสาวส่ายหน้าทั้งน้ำตา อยากจะวิ่งหนีแต่ก็ไปไหนไม่ได้ ตรวนมัจจุราชของเจอรัลด์ผูกมัดหล่อนแน่นจนไม่สามารถดิ้นหนี “แต่... คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ เราควรจะลืม...” “ลืมอย่างนั้นหรือ...” ใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรที่หล่อนไม่เคยลืมได้เลยแม้แต่ลมหายใจเดียวก้มต่ำลงมาหา ไอร้อนๆ จากลมหายใจของเขายังคงชวนลุ่มหลงและแฝงไปด้วยอันตรายเหมือนเดิม หัวใจของหล่อนร่ำร้อง หัวใจของหล่อนยังคงโหยหา ค่ำคืนที่เขาและหล่อนหลอมละลายรวมกันจนเป็นหนึ่งเดียว แม้จะเกิดจากอาญาร้ายของเขา แต่หล่อนกลับลืมมันไม่ลง คิดถึงเขาทุกลมหายใจ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาไม่มีทางรู้สึกเช่นเดิมกับหล่อนเลยก็ตาม “ใช่ค่ะ... ฉันรู้... รู้ว่าคุณทำมันได้อย่างง่ายดาย แค่ลืมฉัน” เขาแสยะยิ้มร้ายกาจ นัยน์ตาเลือดเย็นน่ากลัว “เสียใจด้วยญาดามินทร์ อะไรที่เป็นของฉัน... ฉันไม่มีทางลืมมัน”

บทที่ 1 ตอนที่ 1

บทที่ 1

แม้วิวไร่องุ่นสองร้อยกว่าไร่เบื้องหน้าจะงดงามเพียงใด แต่กระนั้นมันก็ไม่สามารถทำให้ญาดามินทร์ลบลืมความเจ็บปวดที่ตัวเองวิ่งหนีมาจากอีกซีกโลกหนึ่งได้เลยสักนิด หล่อนยังคงร้าวราน ยังคงชอกช้ำและก็ยังคงคิดถึงผู้ชายใจมัจจุราชอย่างเจอรัลด์ ซาโกร่า กาซิยาส ไม่เสื่อมคลาย ไม่ว่าจะหนี จะพยายามแค่ไหน แต่หล่อนก็ไม่มีทางหนีความรักที่มีให้กับเขาได้พ้น ตราบใดที่หยุดรักไม่ได้ ตราบนั้น หล่อนก็คงไม่สามารถคลายความเจ็บปวดในดวงหทัยได้เช่นกัน

มือบางยกขึ้นป้ายหยาดน้ำตาจากแก้มนวล หัวใจยังคงกลัดหนองเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แม้จะกี่วันกี่คืนที่ลอยข้ามผ่านพ้นไป แต่ความโหยหาก็ยังฝังแน่นอยู่ในหัวใจไม่เสื่อมคลาย รักเขา รักมาก และก็รักมากขึ้นทุกวันคืน ในขณะที่เขาไม่เคยเหลือบแลลงมามองก้อนกรวดเยี่ยงหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว ผู้หญิงที่เขารัก ผู้หญิงที่ครอบครองหัวใจมัจจุราชของเขามีเพียงมินรญาพี่สาวของหล่อนคนเดียวเท่านั้น ในขณะที่หล่อนเป็นได้แค่เพียงทางผ่านแห่งความเกลียดชังเท่านั้นเอง

ยิ่งคิดก็ยิ่งทุกข์ทรมาน จนไม่สามารถที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้อีก ความเสียใจกลั่นออกมาเป็นหยาดน้ำตาซ้ำอีกครั้ง และไหลทะลักอาบแก้มนวลอย่างสุดจะกลั้น หล่อนสะอื้นไห้ด้วยความเจ็บช้ำ ขณะเดินเข้าไปหยุดข้างรั้วไม้สีขาวที่กั้นอาณาเขตของสองไร่องุ่นที่ติดกันเอาไว้โดยไม่รู้ตัว มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงของ หัสบรรณดังขึ้นด้านหลังนั่นแหละ

“ไม่ยักกะรู้ว่าบรรยากาศสวยๆ จะทำให้คนร้องไห้ออกมาได้ด้วย”

มือบางรีบยกขึ้นป้ายน้ำตาทิ้งอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงค่อยๆ หันกลับไปเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงรูปงาม

“พี่หัสบรรณ”

“คนสวยของพี่ร้องไห้ทำไมหรือครับ”

น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความนุ่มนวล แสนสุภาพของผู้ชายผิวสีแทน ตัวสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อลากดินอย่าง หัสบรรณทำให้หัวใจของญาดามินทร์ยิ่งเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น เพราะแท้จริงแล้วหล่อนอยากให้ผู้ชายตรงหน้าคือเจอรัลด์ ชายที่หล่อนรักหมดหัวใจ แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ป่านนี้คนใจมัจจุราชอย่างเจอรัลด์คงจะกำลังมีความสุขในเส้นทางชีวิตที่แสนจะเลิศหรูของตัวเอง ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบ ชีวิตที่เต็มไปด้วยอำนาจวาสนา ในขณะที่หล่อนเป็นได้เพียงแค่เศษฝุ่นเศษผงที่เขาไม่เคยคิดจะจดจำเท่านั้น

“ปละ เปล่าหรอกค่ะพี่หัสบรรณ ญาดาก็แค่...”

“ฝุ่นเข้าตา”

หญิงสาวที่กำลังเช็ดน้ำตาจากแก้มอยู่ชะงัก และช้อนนัยน์ตาฉ่ำน้ำขึ้นมองคนพูดอย่างประหลาดใจ

หัสบรรณยิ้มออกมาอย่างรู้ทัน

“ข้อแก้ตัวของผู้หญิงก็มีแค่นี้แหละครับ”

ญาดามินทร์ก้มหน้าหลบสายตาคมกริบของผู้ชายผิวคร้ามแดดตรงหน้าอย่างอดสู แม้แต่หัสบรรณยังรู้ทันเลยว่าหล่อนทุกข์ใจแค่ไหน

หัสบรรณหรี่ตามองหญิงสาวตรงหน้าอย่างเอ็นดู ก่อนจะยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยสวยนั้นแผ่วเบา และพูดให้กำลังใจ

“พี่ไม่รู้และไม่อยากจะรู้หรอกนะว่าญาดากำลังคิดถึงใครอยู่ แต่ขอให้รู้เอาไว้ว่าถ้าญาดาร้องไห้ พี่ หัสบรรณคนนี้จะเช็ดน้ำตาให้ญาดาเอง”

“ขอบคุณค่ะพี่หัสบรรณ”

หญิงสาวช้อนสายตาของมองคู่สนทนา มองเขาอย่างขอบคุณ

หัสบรรณระบายยิ้มกว้าง กำลังจะพูดต่อ แต่เสียงแหลมเล็กที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจของเด็กสาวคนหนึ่งก็ขัดขึ้นเสียก่อน และนั่นก็ทำให้ดวงตาทุกคู่ต้องหันไปจับจ้องทันควัน

“พลอดรักกันกลางวันแสกๆ ไม่อายผีสางเทวดาบ้างหรือไง”

“ตันหยง”

เจ้าของชื่อยิ้มเยาะ และกระโดดก้าวข้ามรั้วสีขาวเข้ามาภายในไร่องุ่นของหัสบรรณ เดินมาหยุดตรงหน้าของคนทั้งสองคน

“ฉันเอง ทำไม? อายหรือไงที่มีคนเห็นพฤติกรรมต่ำๆ ของตัวเองน่ะ”

เด็กสาวใส่ไม่ยั้ง ขณะตวัดตามองญาดามินทร์อย่างเป็นอริชัดเจน

“หุบปากเสียๆ ของเธอไปเลยตันหยง และไสหัวกลับไร่ของตัวเองไปได้แล้ว ที่นี่ไม่ต้อนรับเธอ ไปสิ ไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้!”

หัสบรรณขับไล่ไม่ไว้หน้า และนั่นก็ทำให้ตันหยงยิ่งขุ่นเคือง หล่อนเกลียดผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้หัสบรรณ และก็ยิ่งเกลียดมากเมื่อเห็นหัสบรรณกางปีกปกป้องญาดามินทร์มากมายขนาดนี้ เด็กสาวคิดอย่างเจ็บแค้น กำมือแน่น

“ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น”

“แต่เธอต้องออกไปจากไร่ของฉันเดี๋ยวนี้ ไปสิ ยายเด็กน่ารำคาญ”

หัวใจของตันหยงเจ็บปวดราวกับถูกกรีดด้วยมีดโกนคมๆ

“คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก แล้วแม่นี่ไม่เด็กหรือไง”

เด็กสาวชี้นิ้วไปที่ญาดามินทร์ มองอย่างเอาเรื่อง

หัสบรรณกระแทกลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย จากนั้นก็รีบดึงร่างของญาดามินทร์มาไว้ด้านหลังของตนเองอย่างต้องการปกป้อง และภาพนั้นทำให้ตันหยงเต็มไปด้วยความรวดร้าวยิ่งนัก เพราะมันบอกให้เข้าใจได้อย่างถ่องแท้เลยว่าผู้ชายที่หล่อนแอบรักนั้นห่วงใยยายผู้หญิงหน้าหวานคนนั้นมากมายแค่ไหน

“อย่ามาทำตัวนักเลงในไร่ของฉัน ไปให้พ้น ไปสิ!”

แม้จะหน้าชาดิก แต่หญิงสาวก็ยังกัดฟันยืนอยู่ตรงนั้นต่อไป

“ฉันจะไปจากที่นี่ เมื่อนายตอบคำถามฉันก่อน”

ชายหนุ่มมองดวงหน้ารูปไข่ของตันหยงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะพูดออกมาอย่างไม่แยแส

“งั้นก็รีบๆ ถามมา เธอจะได้รีบๆ กลับไปเสียที”

ทำไมเขาถึงมองไม่เห็นความภักดีที่หล่อนมีต่อเขาเลยนะ ทำไมถึงมองไม่เห็นเลย ก็เพราะเขาเกลียดหล่อนยังไงล่ะ มีแต่หล่อนนั่นแหละที่ยังบ้า ลุ่มหลงเขาไม่เลิกแบบนี้

“นายกับ... แม่คนนี้เป็นอะไรกัน”

ญาดามินทร์หันไปมองหน้าหัสบรรณ และกำลังจะตอบความจริงออกไป แต่หัสบรรณชิงตอบเสียก่อน และตอบไม่เป็นความจริงเสียด้วย

“ญาดาเป็นคนรักของฉัน และเรากำลังจะแต่งงานกันในเร็วๆ นี้”

“ว่าไงนะ...?”

ตันหยงถามออกไปเสียงเบาหวิว หัวใจเหมือนถูกเชือดให้หล่นลงมากองกับพื้นอย่างอำมหิต หล่อนมองหน้าของหัสบรรณที่เกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มสะใจสลับกับดวงหน้างดงามของผู้หญิงที่หล่อนเพิ่งรู้ว่าชื่อ ‘ญาดา’ ด้วยความเจ็บปวดที่เก็บไม่มิด

“หูเธอไม่ได้ฝาดไปหรอกน่า ฉันกับญาดาเป็นคู่รักกัน และกำลังจะแต่งงานกัน”

“พี่หัสบรรณ...”

ญาดามินทร์ปรามอย่างไม่เห็นด้วย แต่หล่อนก็ไม่มีโอกาสได้แก้ไขความเข้าใจผิดนั้นออกไปได้เลย เพราะหัสบรรณยังคงพูดต่อไปอีกเรื่อยๆ ในขณะที่ผู้หญิงจากอีกไร่หนึ่งกำลังยืนนิ่งคล้ายกับกำลังตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเป็นที่สุด

“ได้คำตอบแล้วก็รีบกลับไปสิ จะมายืนทำหน้าเหมือนกินยาขมอยู่ทำไมล่ะ”

ตันหยงช้อนนัยน์ตากลมโตที่มีหยาดน้ำตาขึ้นจ้องหน้าหัสบรรณ กลีบปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น ความเจ็บปวดเต้นระริกอยู่ในแววตาคู่งามมหาศาล แต่ หัสบรรณไม่มีทางสนใจ ใช่ เขาจะไปใส่ใจกับลูกสาวของศัตรูทำไมกัน แม้ว่าเจ้าหล่อนจะน่ารักน่าเอ็นดูมากก็ตาม

“ฉันไม่กลับ”

“งั้นฉันก็จะโยนเธอออกไปเอง”

ว่าแล้วหัสบรรณก็ก้าวเข้าไปหาตันหยง มือหนาคว้าร่างอรชรจับขึ้นพาดบ่า จากนั้นก็ก้าวไปหยุดที่รั้วกั้นอาณาเขต ไม่นาน ร่างที่ดิ้นอยู่บนบ่ากำยำก็ร่วงลงกับกองกับพื้นดิน เจ้าหล่อนครางด้วยความเจ็บและจุก คนกระทำหาได้ใส่ใจไม่

“ถ้ากล้าข้ามมาวุ่นวายในไร่ของฉันอีกละก็ เธอเจอหนักกว่านี้แน่”

หัสบรรณคำรามใส่ตันหยงอย่างเหี้ยมโหด ก่อนจะกระชากมือของญาดามินทร์ให้เดินไปจากตรงนั้น ทิ้งให้ตันหยงนั่งร้องไห้น้ำตาท่วมดวงหน้าอยู่เพียงลำพังด้วยความทุกข์ทรมานใจ

“คนบ้า!! ทำไมฉันถึงหยุดรักนายไม่ได้สักทีนะ ทำไมกัน”

หญิงสาวถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ไม่พบคำตอบ ทำได้แค่เพียงพยุงร่างอ่อนแรงบอบช้ำกลับไปยังบ้านของตัวเองเท่านั้น

ญาดามินทร์ช้อนตาขึ้นมองเสี้ยวหน้าของผู้ชายที่เดินอยู่ข้างกายด้วยความไม่เข้าใจ

“พี่หัสบรรณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมหน้าตาบึ้งตึงแบบนี้ล่ะ”

เจ้าของชื่อหยุดเดิน และนั่นก็ทำให้ญาดามินทร์ต้องหยุดเดินตาม

“พี่ก็แค่ยังโมโหยายเด็กนรกนั่นไม่หายน่ะ เด็กอะไรไม่รู้ ชอบสร้างปัญหาให้กับพี่ตลอดเวลาเลย”

หญิงสาวฟังแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้

“พี่หัสบรรณพูดแบบนี้ก็แสดงว่าเด็กที่ชื่อตันหยงข้ามมากวนใจบ่อยใช่ไหมคะ”

ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด พลางเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ที่คนงานทำเอาไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่

“ก็ทุกวันนั่นแหละ วันละหลายๆ รอบด้วย ไม่รู้ว่าจะซนอะไรนักหนา อายุก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ”

“บางทีแรงจูงใจที่ทำให้คุณตันหยงข้ามมาที่ไร่ของพี่หัสบรรณอาจจะเป็นเพราะ...”

ญาดามินทร์หยุดพูด และนั่นก็ทำให้คนฟังต้องหรี่ตามอง พร้อมๆ ทั้งคาดคั้น

“เพราะอะไรหรือญาดา”

เจ้าของชื่อระบายยิ้มหวาน

“เพราะว่าคุณตันหยงแอบหลงรักผู้ชายบางคนในไร่นี้ยังไงล่ะคะ”

“แล้วญาดาคิดว่ายายเด็กนั่นหลงรักใครล่ะ”

คนถามยังคงแสดงท่าทางเฉยชาเช่นเดิม

“นี่พี่หัสบรรณไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นกันแน่คะ”

หัสบรรณพ่นลมหายใจออกมาทางปากแรงๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน

“เอาเป็นว่าเราเลิกพูดถึงยายเด็กนั่นกันดีกว่า ไป กลับเข้าบ้านเถอะ ใกล้เวลาอาคารค่ำแล้ว”

แล้วหัสบรรณก็ก้าวยาวๆ เดินนำหน้าญาดามินทร์มุ่งหน้าตรงไปยังบ้านไม้หลังใหญ่ของตนเองโดยไม่หันกลับมามองคนที่ยืนอยู่เบื้องหลังอีกเลย

“มีพิรุธเพียบเลยนะเนี่ยพี่หัสบรรณ”

ญาดามินทร์อมยิ้มก่อนจะเดินตามร่างสูงใหญ่ของหัสบรรณไปติดๆ

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ เนื้อนวล

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ