5.0
ความคิดเห็น
76.1K
ชม
86
บท

เธอถูกจ้างมาด้วยเงินแสนแพงเพียงเพื่อเป็นภรรยาในนามของเขา ผู้ชายจอมกะล่อนและเจ้าชู้จนใครๆขนานนามว่าคาสโนว่าฆ่าไม่ตาย งานหนักจึงตกกับนักเขียนสาว ภรรยากำมะลออย่างเธอ ! ไหนจะต้องปะทะกับแม่สามีตัวแสบไม่เว้นวัน ! ไหนจะหัวใจของตัวเองที่ไหวหวั่นไปกับเสน่ห์ร้ายของเขา

บทที่ 1 1

ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำให้วรัศยาชะงักเท้าอยู่กับที่ ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ผู้ชายร่างสูงที่โผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำดูมีเสน่ห์แห่งบุรุษไม่น้อย เรือนผมสีดำสนิทที่ถูกตัดไว้อย่างเป็นระเบียบลู่ลงมาเพราะเปียกน้ำติดใบหน้าคมสันที่มีหยดน้ำเกาะพราว คิ้วของเขาเข้มยาวอยู่เหนือดวงตาคมสีสนิมเหล็ก จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากหยักลึกได้รูปคู่นั้น เล่นเอาวรัศยาต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น นี่สินะ พระเอกนิยายของเธอ เครื่องหน้าที่ดูสมชายเช่นนี้หาได้ไม่ง่ายนักในสังคมไทยปัจจุบัน ความคิดของเธอหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงแหลมเล็กของสตรีดังขึ้น

“ธีร์ขา ขึ้นจากน้ำเถอะค่ะ” ก่อนที่เจ้าของประโยคนั้นจะปลดผ้าที่พันปกปิดเรือนกายไว้อย่างหมิ่นเหม่ออกเผยรูปร่างยวนตาบุรุษเพศ ทั้งหน้าอกอวบอิ่ม เอวเล็ก สะโผกผายในชุดว่ายน้ำสีแสบตาแสนเซ็กซี่ตัวนั้น

ดวงตาสีสนิมเหล็กทอดประกายวาววามเมื่อทอดมองร่างอวบอิ่มที่ยืนอยู่บนชายหาด พลางค่อยๆขึ้นมาจากน้ำ ร่างสูงเพรียวในกางเกงว่ายน้ำเพียงตัวเดียวเปลือยอก ทำให้วรัศยาอดที่จะหน้าแดงไม่ได้

ทันทีที่เห็นธีรภัทรขึ้นมาจากน้ำแล้ว เจ้าของร่างอวบอิ่มก็แทบจะถลาไปกอดเขาไว้ทันที แล้วเขย่งปลายเท้าขึ้นจรดริมฝีปากลงทาบทับกับริมฝีปากหยักลึกแต่กระด้างของธีรภัทร ชายหนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงที่อรันยาปรารถนาจะได้เขามาเป็นคู่ครอง จนวรัศยาอดที่จะเบิกตากว้างกับภาพที่เห็นนั่นไม่ได้ แม่สาวหุ่นล่อตะเข้นี่ช่างกล้าเสียจริงๆแต่ที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าธีร์กลับก้มลงบดเบียดริมฝีปากหนาได้รูปกับริมฝีปากอิ่มย้อยสีแดงสดอย่างเร่าร้อน มือหนาเอื้อมมาลูบไล้แผ่นหลังเนียนสีน้ำผึ้งอย่างแผ่วเบา

วรัศยาอ้าปากค้างด้วยไม่คิดว่าตัวเองจะมายืนแข็งทื่อมองดูหนังอาร์ที่กำลังเล่นสดๆอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ พวงแก้มนวลร้อนผะผ่าวราวกับมีไฟมาอังใกล้ๆ

และสิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือใบหน้าคมคายค่อยๆถอนจุมพิตออกมาจากเรียวปากอิ่มของฝ่ายหญิงหุ่นเซ็กซี่คนนั้นก่อนที่ดวงตาสีสนิมเหล็กคมกล้าจะตวัดมองมาทางเธออย่างขบขัน ราวกับว่าเขารู้ตัวอยู่นานแล้วว่ามีคนคนหนึ่งกำลังเบิกตาโตๆ จ้องมองมาทางเขาจนตาแทบถลนอยู่เป็นนานสองนาน

วรัศยารีบหลบตาคมที่พราวระยับคู่นั้นทันที จุดแดงๆเล็กๆเกิดขึ้นที่โหนกแก้มของหญิงสาวก่อนจะกระจายเป็นสีชมพูระเรื่อไปทั้งใบหน้าจนถึงลำคอระหง หญิงสาวสะบัดหน้าไปอีกทางพลางก้มหน้างุดๆ เดินหันหลังกลับไปยังทางที่พักของเธอ

“บ้าชะมัด อีตานั่นรู้ว่าเรายืนดูอยู่ตรงนั้นแท้ๆยังกล้าแสดงหนังอาร์ให้เราดูอีก บ้า ทุเรศ หน้าด้านที่สุด” หญิงสาวบ่นอุบอิบ

เท้าเล็กๆเตะทรายแรงๆเป็นการระบายอารมณ์ เมื่อดวงหน้าคมเข้มของผู้ชายแปลกหน้าที่เธอบังเอิญพบเจอมาเมื่อครู่ลอยเข้ามาในความคิดเธออย่างไม่ตั้งใจ ก่อนที่จะนึกอะไรขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง ร่างบางชะงักกึก ดวงตากลมโตกลอกไปมาอย่างเซ็งๆ

“เราไปว่าเขาหน้าด้านที่ยืนจูบกับแฟนต่อหน้าเรา... แล้วเราจะไปยืนดูเขาทำไมล่ะเนี่ย!”

กระดาษที่ถูกขยำจนไม่เหลือรูปเดิมถูกขว้างปาไปที่ตะกร้าขยะอย่างแม่นยำ เสียงทอดถอนหายใจดังขึ้นอย่างกลัดกลุ้ม ก่อนที่ร่างบางจะก้าวเดินไปที่ตู้เย็นรินน้ำสะอาดใส่แก้วยกขึ้นดื่มอย่างกระหาย

คิ้วเรียวโก่งขมวดเข้าหากันด้วยขบคิดจนหัวแทบแตกก็ยังคิดฉากรักวาบหวาบหวามของคู่ พระ-นาง ในนิยายโรมานต์ที่เธอแต่งอยู่ไม่ได้

เธอก้าวเดินออกมาที่ระเบียงบ้านพักริมชายทะเล ลมเย็นๆที่มาปะทะร่างบางทำให้อารมณ์ที่เริ่มจะขุ่นมัว กลับมาแจ่มใสอีกครั้ง เสียงคลื่นทะเลที่ซัดสาดทำให้เธอนึกอยากจะลงไปสัมผัสน้ำเค็มๆให้สมกับที่มาเที่ยวทะเลสักครั้ง

“คุณครับ ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ” เสียงทุ้มนุ่มที่ดังมาจากข้างล่างทำให้เธอต้องก้มลงมองอย่างสงสัย พร้อมกับเบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าของเขาได้ถนัด

“คุณ!!”

“ทำไมคุณต้องทำหน้าเหมือนเห็นผีแบบนั้นด้วยครับ” ธีรภัทรทำเสียงล้อเลียน

“ให้ฉันเจอผียังดีกว่าเจอคุณ” เธอตอบกลับไปอย่างหงุดหงิด พลางตั้งท่าหมุนกายเตรียมกลับเข้าไปภายในห้อง

“เดี๋ยวสิคุณ” ร่างสูงร้องเรียกไว้อย่างตระหนกเมื่อเห็นร่างบางกำลังจะกลับเข้าไปในบ้านพัก

“อะไรของคุณอีก” วรัศยาตวาดแหวอย่างไม่ชอบใจก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินแกมวิ่งขึ้นบันไดบ้านพักของเธออย่างไม่รอฟังคำอนุญาต

“คุณ ลงไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวผลักอกเขาอย่างแรง แต่ร่างสูงใหญ่กลับไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย จนคนผลักเป็นคนหมดแรงไปเอง

“คุณคุยธุระกับผมก่อนสิครับ” เขาพูดเสียงอ่อน มือหนาจับมือหญิงสาวที่ผลักอกเขาไว้ พร้อมทำตาเชื่อม

“คุณบุกรุกที่พักของฉัน แล้วอย่างนี้ยังมีหน้ามาบอกว่าคุณมีธุระอีกเหรอไง” เธอเชิดหน้าขึ้นจนคนฟังแทบอยากจะจับคางเล็กๆเขย่าเบาๆอย่างเอ็นดู

“ถ้าผมไม่มีธุระกับคุณ ผมจะบุกรุกที่พักของคุณทำไมล่ะครับ แล้วผมจะหาโอกาสพบคุณได้ง่ายๆเสียที่ไหนกัน” ธีรภัทรพูดเสียงเรียบ ดวงตาสีสนิมเหล็กคมกล้า ปรอยลงอย่างแสนเสียดาย เมื่อเจ้าของร่างน้อยที่เขาพึงใจ ดึงมือออกจากการเกาะกุมของมือใหญ่ด้วยความหวงตัว

“คุณมีอะไรจะพูดก็พูดมา ฉันให้เวลาคุณ5นาที” วรัศยาถอยหลังไปยืนห่างจากเขาอีกหลายก้าวด้วยความหวาดระแวง ซึ่งชายหนุ่มก็พอจะเดาได้ถึงความไม่ไว้วางใจของหญิงสาว

“ครับๆ คือว่าผมชื่อว่าธีรภัทร เรียกว่าธีร์ก็ได้ครับ แล้วคุณชื่ออะไรเหรอ” หน้ายิ้มๆของเขาค่อยๆหุบลงอย่างช้าๆ เมื่อเห็นสายตาขุ่นขวางของหญิงสาว

“ถ้าคุณยังมัวมาถามอะไรไร้สาระแบบนี้ คุณลงไปจากบ้านพักฉันเลยดีกว่า” เธอพูดเสียงเย็น

“เอ่อ ก็ได้ครับ คือว่าผมมีเรื่องจะขอร้องคุณ”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อักษรสีทอง

ข้อมูลเพิ่มเติม
คู่นอนสุดที่รัก

คู่นอนสุดที่รัก

โรแมนติก

5.0

เธอเป็นเลขาของเขา ส่วนเขาก็เป็นเจ้านายของเธอ.... อัมพิกาตกหลุมรักนิโคลัสตั้งแต่แรกเห็น ทว่า...สถานะระหว่างเลขากับท่านประธานช่างต่างกันจนเธอไม่อาจคาดหวังเกินตัว 1 ปีผ่านไป จากการได้ทำงานใกล้ชิด เธอยิ่งหวั่นไหวจนยากจะถอนหัวใจ ได้แต่เก็บงำความรักไว้เป็นความลับในใจ ไม่สามารถเอ่ยปากไปได้ จนวันหนึ่ง เธอและเขาต่างเมาด้วยกันทั้งคู่จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เธอยินยอมเพราะรัก แต่เขามีเพียงความใคร่ ในวันที่เสียตัวให้เขาแล้ว เขาพาเธอไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน...ที่นั่น ก็มีสาวสวยอยู่แล้วคนหนึ่ง เขาตั้งกติกาว่า ระหว่างเธอกับผู้หญิงคนนั้น...หากใครมีทายาทให้เขาได้ก่อน เขาจะยอมจดทะเบียนสมรสด้วย เพราะสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ความรัก แต่เป็นทายาทสืบสกุล ! ผู้ชายเลือดเย็นคนนี้น่ะหรือที่เธอรัก...ต่อให้เธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาก็อย่าฝันเลยว่าเธอจะยอมให้เห็นหน้าลูก !!

ถ่านไฟรักสามีเก่า

ถ่านไฟรักสามีเก่า

โรแมนติก

5.0

เธอเคยคิดว่าเขา รัก’จึงยอมยกให้ทั้งตัวและหัวใจ ทว่าในความจริง เธอเป็นได้แค่ ‘เมียในความลับ’ ที่ทำได้เพียงรอเวลาให้เขามานอนด้วย เจ้าสาวที่เขาจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงคนอื่น และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของเธอขาดลงก็คือการที่เธอตั้งครรภ์ แต่เขากลับแนะนำให้ไปทำแท้ง พอที...เธอไม่สามารถคบกับผู้ชายใจร้ายเช่นเขาได้อีก พรอุษาตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์ที่มีแต่ความเจ็บปวด อุ้มท้องลูกน้อยหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ 4 ปีผ่านไป บาดแผลในใจเริ่มจางหาย พร้อมลูกสาวที่เติบโตมาอย่างน่ารัก แล้วในวันหนึ่ง...โชคชะตาก็ทำให้เธอบังเอิญพบเจอกับสามีเก่าอีกครั้ง ถ่านไฟที่ยังไม่ทันได้ดับสนิทเริ่มติดไฟขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ทว่าเธอจะไม่มีวันยอมผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ ...................... “นี่มัน” ชายหนุ่มย่นหัวคิ้ว ดึงแผ่นทดสอบมาดู... ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าที่ถืออยู่นี้คืออะไร แล้วความหมายของสองขีดแดงคืออะไร...สายตาคู่คมจ้องหน้าเธออย่างเดือดดาล “เธอท้องเหรอ” “คือ...มัน...เอ่อ” เธออึกอัก “เธอท้อง...” เขากดเสียงให้ต่ำลงไปอีก ส่งผลให้เธอตัวลีบเล็ก อึกอัก “พิมลองตรวจดู ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะขึ้นสองขีด” “ไม่คิดงั้นเหรอ” ชายหนุ่มแค่นเสียง แสยะมุมปาก ปล่อยมือจากเธอพร้อมขยำแผ่นทดสอบปาลงพื้น “ฉันจะถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไปเอาเด็กออกซะ”

โสเภณีไร้เดียงสา

โสเภณีไร้เดียงสา

โรแมนติก

5.0

เธออายุเพียง 15 ปี ก็ถูกนำตัวมาขายให้มหาเศรษฐีหนุ่ม เขาอายุ 32 ปี หนุ่มใหญ่ผู้ร่ำรวยและเย็นชา เมื่อเธอถูกนำมาขายใช้หนี้และเขาก็รับเธอไว้ในฐานะคนรับใช้ส่วนตัว ทว่าเพียงวันแรกที่เธอได้มาเหยียบบ้านของเขา เธอก็สูญเสียพรหมจรรย์ไป อะไรคงไม่ร้ายเท่าเขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว และเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา เธอไม่มีวันยอมเป็นโสเภณีไร้เดียงสาตลอดไปหรอก เพื่อลูกและเพื่ออนาคต เธอจึงต้องอุ้มท้องหนีเขาไปอยู่ที่อื่น โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ และเมื่อเวลาผ่านไป 4 ปี เธอและเขาได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในฐานะท่านประธานกับเลขาสาว การพบกันครั้งนี้ เธอเปลี่ยนไปมาก จากเด็กสาวผู้อ่อนต่อโลก กลายเป็นหญิงสาวที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ที่สำคัญ...เด็กชายวัย 3 ขวบที่เรียกเธอว่า ‘แม่’ ก็มีใบหน้าเหมือนเขาราวกับพิมพ์เดียวกัน !

(ไม่)ตั้งใจรัก

(ไม่)ตั้งใจรัก

โรแมนติก

5.0

มาริสามีความสามารถพิเศษในการมองเห็นวิญญาณ และความสามารถนี้จะหายไปเมื่อมีความรัก เธอเป็นคุณหนูสุดเปรี้ยวที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง และไม่คิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนยอมอยู่กับเธอไปตลอดชีวิตได้ จนกระทั่ง...ได้เจอกับเขา ‘รัตติ’ ผู้ชายตัวสูง ดวงตาสีแดง ผิวขาวจัดที่ตามติดเธออยู่ตลอดเวลา ทำทุกวิถีทางเพื่อครองหัวใจเธอให้ได้ แต่ความรักของเธอและเขาจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อเขาไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็น...แวมไพร์ ! ...................... “พูดบ้าๆ อย่ามาตู่ว่าฉันเป็นแฟนคุณนะ ฉันไม่หน้ามืดคว้าผีดิบอย่างคุณมาเป็นแฟนหรอก” พูดแล้วก็นึกขึ้นได้ รีบเอามือปิดปากตัวเองพลางเหลือบตามองเขา...เขายังคงครองสติได้ดีเยี่ยม นิ่งงัน ไม่ว่ากล่าว แต่ไอ้ท่านิ่งๆ ของเขานี่แหละที่ทำเธอขนลุก คนอะไร ส่งรัศมีพิฆาตใส่เธอได้โดยไม่ต้องออกแรง “ได้ยินจากคุณพ่อว่าคุณมีสัมผัสที่หก มองเห็นวิญญาณได้ จะเป็นไรไปหากได้แวมไพร์ไปเป็นสามี ชีวิตคุณจะได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น” เธอแทบจะตาถลนออกนอกเบ้า “พูดบ้าๆ ฉันอยากใช้ชีวิตแบบผู้หญิงปกติธรรมด๊าธรรมดา ที่แสนสวย แสนน่ารัก ไม่คิดจะหาห่วงมาผูกคอ แถมห่วงที่ว่ายังเป็นผู้ชายดวงตาสีแดงพิลึกกึกกืออย่างคุณอีก” รัตติกระตุกยิ้มที่มุมปาก เอียงหน้ากระซิบบอกอย่างมีลับลมคมใน “ผู้ชายธรรมดาจะไปเร้าใจเท่ากับคนที่แข็งแกร่งในเวลากลางคืนได้อย่างไร ทุกครั้งก่อนคุณนอน ผมจะกล่อมคุณบนเตียง รับรองฝันดีทุกคืน แนะว่าต้องซื้อเตียงมาสำรองไว้บ้าง เพราะถ้าคุณนอนกับผม ไม่ทันถึงอาทิตย์ ขาเตียงคงหัก...เพราะเวลากล่อมคุณ ผมอาจไม่ค่อยอ่อนโยนเท่าไหร่”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

พวกเจ้าคอยดู ข้าไม่ปล่อยไว้แน่

พวกเจ้าคอยดู ข้าไม่ปล่อยไว้แน่

Ellary Delossa
5.0

หยุนม่านชิง บุตรสาวของฮูหยินเอกจากจวนโหวหวยอัน ซึ่งถูกสลับตัวตอนอายุยังน้อย และเติบโตในชนบท เมื่อนางได้กลับมาที่จวนท่านโหวหวยอัน นางคาดหวังความรักและความอบอุ่นจากครอบครัว แต่ไม่คาดคิดว่าเป็นเพียงภาพลวงตาจวนโหวถูกยึดครองโดยหยุนโหรวเจียที่เป็นลูกสาวปลอม ในการวางแผนของลูกสาวปลอมและคู่หมั้นของนาง หยุนม่านชิงต้องแต่งงานในฐานะอนุภรรยา ต้องทำตัวนอบน้อมและก้มหัวให้ทุกคนเพื่อเอาใจคนในบ้าน นางคิดว่าจะได้ความรักและความสามัคคีในครอบครัว แต่กลับต้องถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่องจนถึงแก่ชีวิตเมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง นางกลับมาสู่วันที่เปลี่ยนโชคชะตาของนาง หยุนม่านชิงไม่ยอมอดทนอีกต่อไป นางค่อยๆ เผยโฉมหน้าที่แท้จริงของลูกสาวปลอม ไม่ได้ต้องการความรักที่เป็นเพียงภาพลวงอีก และได้เรียกคืนทุกสิ่งที่เป็นของนางทีละนิดเมื่อนางตัดสินใจที่จะตัดขาดจากจวนท่านโหวอย่างสิ้นเชิง คนทั้งจวนกลับคุกเข่าขอร้องไม่ให้นางจากไป!

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ