/0/26498/coverorgin.jpg?v=12313f05efe7cce5ba8cd74a23b5a64b&imageMogr2/format/webp)
“รีบลงไปจากเตียงของฉันได้แล้ว”
ร่างเปลือยเปล่าที่ถูกรุกรานอย่างหนักหน่วงจนแทบไม่ได้นอนมาตลอดทั้งค่ำคืนถูกจับเขย่าแรงๆ จนเปลือกตาหนักอึ้งต้องปรือลืมขึ้น
“คุณหนึ่ง...”
ปรมะยืนจังก้าอยู่ข้างเตียง เขาสวมเสื้อคลุมสีเทา และจ้องมองมาที่หล่อนด้วยสายตาเลือดเย็น
“ยังจะมาทำเป็นอิดออดอีก ฉันบอกให้ลุกขึ้นยังไงล่ะ แล้วไสหัวออกไปจากห้องของฉันได้แล้ว”
“กุล... จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
หล่อนรีบผุดลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ ทำให้ไม่ทันได้คว้าผ้าห่มเอาไว้ ทำให้ผ้าห่มล่นลงไปกองที่หน้าขา ปทุมถันอวบสล้างชูชันอวดสายโฉมแก่สายตาของปรมะอย่างชัดเจน
“คิดจะใช้มารยาหญิงทำให้ฉันหลงใหลหรือ หึ ไม่มีทางหรอก ฉันไม่มีวันหลงกลผู้หญิงแพศยาอย่างเธอหรอก นรีกุล”
นี่เขาพูดอะไรของเขา หล่อนยังไม่ได้ทำอะไรเลย หรือเขาหมายถึงเรื่องเมื่อคืน?
แต่เมื่อคืนปรมะเป็นคนลากหล่อนเข้ามาในห้องของเขาด้วยตัวเองนะ หล่อนไม่ได้เสนอตัวเลยแม้แต่น้อย
“กุล... ไม่ได้ทำอะไร... เลยนะคะ...”
หล่อนแย้งเสียงเบาๆ ตะกุกตะกัก น้ำตาไหลซึมออกมาคลอสองหน่วยตา
“หึ ไม่ ได้ทำอะไร แล้วอวดนมให้ฉันมองแต่เช้าทำไม ทุเรศลูกตานัก!”
คำพูดของเขาทำให้นรีกุลต้องก้มลงมองตัวเอง และก็เห็นว่าสองเต้าอวบสล้างเปลือยเปล่าจริงๆ
มือเล็กรีบตะครุบผ้าห่มมาคลุมกายสาวเอาไว้จนถึงลำคอ สองแก้มแดงระเรื่อด้วยความอับอาย
“กุล... ขอโทษค่ะ”
น้ำตาที่พยายามสะกดกลั้นเอาไว้ไหลออกมาอาบแก้ม
ปรมะเห็นแล้วก็กัดฟันกรอดด้วยความเดือดดาล
“ขี้แย! ฉันเกลียดที่สุดเลยผู้หญิงเอาแต่ร้องไห้เนี่ย ไสหัวไปให้พ้นเลย ไป!”
นรีกุลรีบเช็ดน้ำตามือไม้สั่น ก่อนจะคลานลงไปจากเตียง เพื่อเก็บเสื้อผ้าของตัวเองที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นห้องขึ้นมาสวมใส่
ใส่เสื้อผ้าไป น้ำตาก็ไหลรินไป
หล่อนเจ็บปวด อับอาย จนแทบอยากจะหายตัวไปจากโลกใบนี้เสียให้รู้แล้วรู้รอด
พอใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว หล่อนก็รีบวิ่งออกไปโดยไม่คิดชีวิต แต่กระนั้นก็ยังได้ยินเสียงกระด้างของปรมะดังแว่วตามหลังมา
“ถ้าฉันไม่เรียก อย่าสะเออะมาขึ้นเตียงฉันอีกล่ะ จำเอาไว้”
หล่อนจะทำอะไรได้ล่ะ นอกจากร้องไห้ด้วยความทุกข์ทรมานใจ
ร่างอรชรวิ่งไปซ่อนตัวอยู่ที่ซอกมุมของคฤหาสน์ ทรุดฮวบลงนั่งกับพื้น กอดเข่าร้องไห้ด้วยความเจ็บช้ำปริ่มขาดใจ
“ทำไมคุณหนึ่งใจร้ายกับกุลแบบนี้...”
หล่อนร้องไห้สะอึกสะอื้น ความเจ็บปวดกัดกินเนื้อหัวใจทุกตารางนิ้ว มือเล็กยกขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเองไปมา
“ลูกจ๋า... แม่จะทนพ่อของลูกไม่ไหวอยู่แล้ว ฮืออออ...”
“มานั่งซึมอะไรอยู่ตรงนี้ล่ะนังกุล”
นรีกุลที่นั่งร้องไห้อยู่ รีบยกมือป้ายน้ำตาอย่างรีบร้อน เมื่อได้ยินเสียงของแวววรรณดังขึ้นด้านหลัง แต่ไม่นานแวววรรณก็เดินอ้อมมาหยุดตรงหน้า
/0/10282/coverorgin.jpg?v=f8024a1d1e4b26c0ceea374749e7793e&imageMogr2/format/webp)
/0/14757/coverorgin.jpg?v=8252b49e7f54b06725987901f5bb4e9c&imageMogr2/format/webp)
/0/19672/coverorgin.jpg?v=30b9bee8badd162dd661a7eb786461e6&imageMogr2/format/webp)
/0/9382/coverorgin.jpg?v=35c98982a2854f2d1cc207860eebf199&imageMogr2/format/webp)
/0/5935/coverorgin.jpg?v=37546d959557418201af7249ab8f8e6e&imageMogr2/format/webp)
/0/23666/coverorgin.jpg?v=eea3a8970f8d7ca426fd9ced8a1ed4d0&imageMogr2/format/webp)
/0/3436/coverorgin.jpg?v=ff9620bca0f4089b86c1b1739651abf7&imageMogr2/format/webp)
/0/16877/coverorgin.jpg?v=ec5b4d1b76c5cbd39909e54cf965ccba&imageMogr2/format/webp)
/0/4418/coverorgin.jpg?v=d15b38abffcd3ed03e3441cb1c5b9be4&imageMogr2/format/webp)