5.0
ความคิดเห็น
24.1K
ชม
42
บท

แม้คนส่วนใหญ่จะคิดว่า ผู้ชายวัยสี่สิบกว่าๆ อาจจะดูแก่เกินไปสำหรับผู้หญิงที่อายุเพิ่งจะยี่สิบสอง ทว่านั่นไม่ใช่ความคิดของปอไหมอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็ไม่ใช่สำหรับผู้ชายที่สายตาของเขามีแต่ความไม่ไว้วางใจในตัวเธอ สำหรับเขาแล้ว เธอคือเด็กแก่แดดปากกล้า แต่เขากลับโอบกอดร้อยรัดและจุมพิตเธออย่างเร่าร้อน แล้วปอไหมจะทำอย่างไรกับหัวใจของตัวเองดีเล่ากับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เธอไม่เคยเห็นว่าเขาแก่ หน้ำซ้ำยังเต็มไปด้วยแรงดึงดูดและชอบทำให้เธอหัวใจเต้นแรงเล่นอยู่บ่อยๆ แต่สำหรับเขาล่ะ…เธอเด็กและนิสัยแย่เกินไปหรือเปล่า แล้วไหนจะสถานะอันหมิ่นเหม่ระหว่างเธอและเขาที่คนรอบข้างอาจมองว่าไม่เหมาะสม หรือเธอควรพาตัวเองออกไปให้ห่าง แต่มันช่างยากเหลือเกิน ในเมื่อหัวใจก่อเกิดความรู้สึกที่เรียกว่า ‘รัก’ ไปแล้ว ร่างสูงเดินนำมานั่งลงบนเตียง หัวใจของปอไหมยิ่งเต้นแรงมากกว่าเดิม เมื่อเขาขยับเข้ามาใกล้จนเกือบชิดและจับคางมนของเธอให้หันไปสบตา “ฉันต้องใช้ถุงยางหรือเปล่า” ราชันย์ถามทั้งๆ ที่ปกติเวลามีอะไรกับผู้หญิงเขาก็ป้องกันทุกครั้ง ทว่ากับเด็กสาวคนนี้เขาเกิดอยากจะฉีกกฏของตัวเองขึ้นมาดื้อๆ แม้รู้ดีว่าเธอไม่ได้สะอาดสะอ้านอะไร “ไม่ต้องหรอกค่ะ ปอมียาคุม” ปอไหมพูดราวกับพวกมืออาชีพที่พกพายาเม็ดเล็กๆ เหล่านั้นเป็นประจำ แต่เธอไม่ได้มียาตัวนี้เหมือนผู้หญิงเหล่านั้น เธอใช้มันควบคุมฮอร์โมนตามที่หมอสั่งเท่านั้น แต่ในยามนี้มันกลับช่วยให้เธอไม่ต้องวิตกกังวล และพูดตอบโต้ผู้ชายตรงหน้าได้อย่างคล่องปาก “ลืมไปว่ามืออาชีพ งั้นเราเริ่มกันเลยเป็นไง จะได้ไม่ต้องเสียเวลา” จบคำวงแขนแกร่งก็ตวัดกอดคอดและประกบจูบริมฝีปากอิ่มสีชมพูอ่อนของเธอทันที หญิงสาวที่ริเล่นกับไฟนิ่งงันและตัวแข็งไปครู่หนึ่ง ถึงนี่จะไม่ใช่จูบครั้งแรกและเคยจูบกับเขามาแล้ว แต่จูบของเขามันทำให้ร่างกายของเธอตื่นเร้าไปหมด “เผยอปากออกสิปอไหม อย่ามัวแต่เล่นตัว ถ้าอยากได้เงินเพิ่มเดี๋ยวฉันจ่ายให้ทีหลัง” “ปอไม่ได้จะ...” เธอกำลังจะบอกว่าไม่ได้เล่นตัวและไม่ได้อยากได้ค่าตัวเพิ่ม แต่ราชันย์ไม่ได้สนจะฟัง เพราะเขาฉวยโอกาสนั้นประกบปากลงใหม่และฉกลิ้นเข้าไปในโพรงนุ่มชื้นทันที

บทที่ 1 เรื่องราวในอดีต

วันที่ 11 เมษายน หนึ่งวันก่อนสงกรานต์

วันนี้การจราจรดูแน่นขนัดมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในเวลาเย็นๆ แบบนี้ รถยิ่งหนาตาและแล่นได้ช้าลงเรื่อยๆ ทั้งนี้เป็นเพราะผู้คนต่างกำลังเดินทาง บ้างก็มุ่งหน้าออกต่างจังหวัดเพื่อกลับถิ่นฐานบ้านเกิด บ้างก็ออกไปเพื่อท่องเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวที่กำลังจะมาถึง

ในขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังเร่งรีบ ร่างบางที่อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนของสาววัยยี่สิบสองกลับกำลังเดินเอื่อยๆ อยู่บนฟุตบาทอย่างไม่ได้เร่งรีบ ตาคู่สวยเหลือบมองป้ายชื่อคลินิกเสริมความงาม ก่อนจะผลักเข้าไปด้วยความไม่มั่นใจนัก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเข้ามาสถานที่แบบนี้

ปอไหมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องได้เข้ามาใช้บริการเสริมความงามเลย เพราะเธอพอใจในรูปลักษณ์แบบที่ธรรมชาติสร้างมาอยู่แล้ว แต่ ‘สิว’ คือสาเหตุหลักที่ทำให้เธอต้องเข้าคลินิกเสริมความงามแห่งนี้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้ามาก่อน

ร่างบางนั่งลงที่เก้าอี้พลาสติกเคลือบมันสีฟ้าหลังจากที่ลงทะเบียนคนไข้เรียบร้อยแล้ว เธอกวาดตามองไปรอบๆ ก็เห็นว่าคนมารอคิวเยอะพอสมควร หญิงสาวจึงนั่งรออยู่นานเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงคิวเข้าพบหมอ

มือเล็กผลักประตูเข้าไป นั่งตรงข้ามกับหมอ ก่อนจะเริ่มเล่าถึงปัญหาให้หมอหนุ่มวัยสามสิบต้นๆ ซึ่งหน้าใสกิ๊กสมกับเป็นหมอเฉพาะทางด้านผิวหนัง ตาคู่สวยแอบมองหน้าหล่อๆ ใสๆ ของหมออย่างเพ่งพิศ ขณะหมอตรวจสภาพผิวหน้าให้ พลางคิดในใจเงียบๆ คนเดียวโดยไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าว่า หมอก็ดูหล่อดี หล่อแบบดารานักร้องเกาหลี ซึ่งบางคนอาจชอบผู้ชายแบบหมอ แต่สำหรับเธอกลับชอบผู้ชายสูงๆ เข้มๆ ดุๆ เฮี้ยบๆ เหมือนกับ...

“สิวของคุณน่าจะเกิดจากความเครียด พักผ่อนน้อย ก็เลยทำให้ร่างกายและฮอร์โมนแปรปรวน หมอจะให้คุณทานยาคุมกำเนิดเพื่อปรับฮอร์โมน ยังไงช่วงนี้ใช้เครื่องสำอางอะไรก็ให้ระวังหน่อยนะครับ หรือถ้าไม่ใช้เลยจะดีมาก”

ความคิดของปอไหมหยุดชะงัก ความสนใจกลับมาอยู่ที่สภาพปัญหาผิวหน้าตัวเองอีกครั้ง หลังจากหมอตรวจเสร็จและอธิบายถึงต้นเหตุและแนวทางการรักษาให้ฟัง

“หนูไม่แต่งหน้าอยู่แล้วค่ะ ว่าแต่หนูต้องทานยาไปตลอดมั้ยคะคุณหมอ”

“ไม่หรอกครับ อาจจะแค่ช่วงระยะหนึ่ง รอให้ฮอร์โมนปรับระดับได้ คุณก็ไม่ต้องทานแล้ว และก็ไม่ต้องกลัวอ้วนนะ ยาตัวนี้ไม่มีผลข้างเคียงแบบนั้น เพียงแค่คุณอาจจะดูมีน้ำมีนวลขึ้นนิดหน่อยเท่านั้นเอง”

ได้ฟังเช่นนั้นปอไหมค่อยสบายใจขึ้นมาบ้าง เธอขอบคุณหมอแล้วออกไปรับยาและจ่ายเงินที่หน้าเคาน์เตอร์ด้านนอก ผู้ช่วยหมออธิบายวิธีกินให้ฟังอย่างละเอียด ปอไหมยัดถุงยาใส่กระเป๋า พร้อมกันนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เท้าเล็กๆ จึงรีบก้าวออกจากคลินิก ก่อนจะกดรับสายที่โทร.เข้ามาอย่างไม่ลังเล เพราะเห็นว่าเป็นเบอร์โทร.ของเพื่อนสนิท

“ว่าไงอุ๋ม”

“ปออยู่ไหน” เสียงที่สวยสมตัวของคนพูดถามกลับมาทันทีหลังจากที่ปอไหมตอบรับ

“เรามาหาหมอน่ะ มาปรึกษาหมอเรื่องสิวน่ะแหละ ว่าแต่อุ๋มโทร.หาเรามีอะไรหรือเปล่า”

“พรุ่งนี้ปอจะไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่ไหน”

“ว่าจะไปแถวๆ ข้าวสารแหละ พอดีหยีโทร.มาชวน ว่าแต่ถามทำไม อย่าบอกนะว่าอุ๋มจะไปด้วย” ปอไหมถามเล่นๆ ไปอย่างนั้น เพราะรู้ดีว่าอุมารินทร์ไม่มีทางได้ออกนอกบ้านไปไหนแน่ๆ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลแบบนี้ เพราะพ่อของอุมารินทร์หวงลูกสาวมาก ไม่เคยอนุญาตให้ออกไปเที่ยวนอกบ้านไม่ว่าเนื่องในโอกาสอะไร ดังนั้นอุมารินทร์จึงแทบไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ ส่วนใหญ่พ่อของเธอจะพาไปเที่ยวต่างประเทศซะมากกว่า

“เราอยากไปด้วย ปอพาเราไปด้วยสิ”

“ไปได้เหรออุ๋ม แน่ใจนะว่าพ่อไม่ว่า”

เมื่อพูดถึงพ่อของอุมารินทร์ ปอไหมก็เผลอย่นจมูกคนเดียวอย่างอดไม่ได้ ราชันย์ยังหนุ่มอยู่มาก หน้าตารูปร่างราวกับผู้ชายวัยสามสิบต้นๆ ทั้งที่อายุจริงของเขาน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับอาของเธอ เขาจัดได้ว่าเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาคนหนึ่ง ยิ่งเป็นลูกครึ่งด้วยก็ยิ่งทำให้เขาดูคมคาย รูปร่างสูงสง่าภูมิฐาน แม้จะอยู่ในชุดลำลองเขาก็ยังดูเนี้ยบ เครื่องหน้าสมเป็นบุรุษรูปงามทุกชิ้น คิ้วเข้ม จมูกโด่ง เรียวปากหยักลึก คางบุ๋มนิดๆ แต่ส่วนที่โดดเด่นที่สุดในความคิดของปอไหม ก็คือแววตาคมดุสีอำพันของเขาที่เหมือนจะสะกดคนได้ จึงไม่แปลกเลยที่จะมีสาวน้อยสาวใหญ่มาหลงเสน่ห์มากมาย แต่ความชื่นชมทั้งหมดที่มีให้เขาก็ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง และปอไหมก็ไม่เคยย่างกรายไปที่บ้านของอุมารินทร์อีกเลย เพราะไปครั้งแรกก็ปะทะคารมกับพ่อเพื่อนอย่างเผ็ดร้อน

อุมารินทร์เคยเล่าให้ฟังว่า พ่อกับแม่ของอุมารินทร์เป็นนักเรียนนอกทั้งคู่ ราชันย์เป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษ ใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก ไอคิวสูงมากจนสามารถเรียนจบปริญญาโทตั้งแต่อายุยี่สิบเอ็ด ส่วนแม่ของเธอเป็นลูกสาวในตระกูลผู้ดีเก่าของไทย ทั้งสองพบรักกันตอนเรียนและแต่งงานกันที่อังกฤษทันทีที่เรียนจบเพราะแม่ของอุมารินทร์ตั้งท้อง หลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็พาลูกสาววัยสองขวบกลับมาที่เมืองไทย เพราะราชันย์ต้องบริหารกิจการของครอบครัวต่อจากบิดาที่จากไปอย่างกะทันหัน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เทียนธีรา

ข้อมูลเพิ่มเติม
ทัณฑ์สวาทเมียบำเรอ

ทัณฑ์สวาทเมียบำเรอ

มหาเศรษฐี

5.0

เมื่อเด็กที่อยู่ในอุปการคุณของผู้เป็นบิดาทำท่าว่าจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา ภาคิม วัชรอาชา ผู้ชายที่แสนจะหยิ่งยโสจึงยอมไม่ได้ สู้ให้บิดามีนางบำเรอเป็นร้อยเหมือนกับนางในฮาเร็มของสุลต่านยังจะดีเสียกว่าให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นมาร่วมสกุล เขาสลัดคู่ควงทุกคนทิ้งแทบจะทันทีแล้วหันมามุ่งมั่นกับการกำจัดว่าที่แม่เลี้ยงและจัดการลงทัณฑ์ผู้หญิงไม่เจียมตัวให้รู้สำนึกว่าอย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘นางบำเรอ’ เท่านั้น วิโรษณา ดุษยา เพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ สาวน้อยไร้เดียงสาจึงต้องยอมตกเป็น ‘เมียบำเรอ’ ของผู้ชายกักขฬะไร้หัวใจโดยไม่ยอมปริปากบ่น และไม่แม้แต่จะเรียกร้องความสมเพชใดๆ จากเขา เพราะรู้ว่าในสายตาของซาตานร้าย ผู้หญิงข้างถนนอย่างเธอมีค่าไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “คุณภาคิม ได้โปรดอย่าทำกับปุ้มแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์ลงโทษเธอตามวิธีของฉันวิโรษณา” เสียงเขาแหบกระเส่า วิโรษณาดิ้นอย่างกระสับกระส่าย ทำไมเขาไม่ลงโทษเธอด้วยการเฆี่ยนตี หรือให้อดข้าวอดน้ำ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ได้ เขาไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ร่างกายของเธอปั่นป่วนและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความทรมานอันแสนวาบหวาม ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบจุมพิตทั่วทุกอณูเนื้อของดอกไม้แสนฉ่ำหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้าไปรุกรานความอ่อนนุ่มที่นิ้วเรียวของเขาได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้ สาวน้อยพยายามตั้งสติไม่ปล่อยการกระทำไปตามอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังรู้สึกอยู่ แต่ลิ้นอุ่นจัดของคนแสนชำนาญก็แทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่มกลางกายด้วยจังหวะอันร้ายกาจอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือเล็กจิกลงบนที่นอนและขยุ้มจนยับย่นเพื่อระบายความซ่านสยิวที่กำลังโรมรันกายสาวอย่างหน่วงหนัก ร่างบางกระตุกไหว คิ้วสวยขมวดนิ่วด้วยอารมณ์สะท้านซ่าน หลงใหลไปกับสัมผัสของเขาจนเผลอยกสะโพกขยับไปมาเบาๆ ปลายลิ้นหนาลากถูไถขึ้นลงตามกลีบกุหลาบแสนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยความฉ่ำหวาน สองขาเรียวสั่นระริกๆ เมื่อชายหนุ่มเริ่มออกแรงกดปลายลิ้นแตะต้องแรงขึ้น

วิวาห์รอง

วิวาห์รอง

มหาเศรษฐี

5.0

เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับว่าที่เจ้าบ่าวในคืนแต่งงาน ทำให้พรรษรดาต้องเข้าพิธีกับน้องชายของเจ้าบ่าวแทน แม้วิวาห์ครั้งนี้จะเป็นเพียงวิวาห์สมมติในความรู้สึกของเขาและเธอ หากทว่าความรู้สึกที่เก็บซ่อนไว้ข้างในนั้นต่างหากที่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เธอจะกล้าบอกความในได้อย่างไร ว่าแท้จริงแล้วผู้ชายที่เธอมีใจใฝ่ปองและอยากแต่งงานด้วยจริงๆ ก็คือเขา ในเมื่อผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าสามี เอาแต่เฉยเมยเย็นชาใส่ ซ้ำยังเอ่ยปากขอหย่าอยู่หลายครั้ง พรรษรดาจะจัดการปัญหาหัวใจครั้งนี้อย่างไรดี ในเมื่อยิ่งเขาทำให้เจ็บ หัวใจไม่รักดีก็ยิ่งรักเขามากขึ้นๆ เธอควรรั้งเขาไว้ให้เป็นสามีในนามเพื่อทรมานใจกันเล่นๆ หรือว่าปล่อยเขาไปให้สมรักกับผู้หญิงอื่นตามที่เขาร้องขอ ***ตัวอย่าง*** “ฉันรักเธอพรรษรดา ฉันรักเธอ รักเธอคนเดียว” เขาสารภาพออกมาเสียงแหบห้าว นัยน์ตาหม่นมัวไปด้วยแรงรักแรงปรารถนาที่อัดแน่นอยู่ข้างใน “คุณภู...” “หัวเราะสิ หัวเราะเยาะฉัน หัวเราะไอ้ผู้ชายหน้าโง่ที่มันเป็นทาสรักของเธออย่างโงหัวไม่ขึ้นมาตลอดหลายปี หัวเราะเยาะไอ้ผู้ชายหน้าโง่ที่ตัดใจไม่ได้เสียที” คำสารภาพของเขาเหมือนระลอกคลื่นยักษ์ที่กระแทกโครมเข้าใส่หัวใจดวงน้อยของพรรษรดา เธอถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะแบกรับความรู้สึกอันท่วมท้นนั้นไม่ไหว “ฉันมันคงน่าสมเพชมากสินะ” ร่างใหญ่ขยับตัวเหมือนจะถอดถอนออกไป แต่พรรษตวัดขารัดรอบเอวสอบไว้แน่น ทำให้เขาดำดิ่งเข้ามาฝังลึกอยู่ในช่องสาวอีกครั้ง “อย่าบังอาจลุกจากตัวพรรษ” เธอแหวใส่เขาเสียงดังลั่น ตัวสั่นเทาเพราะความรัญจวนและความเต็มตื้นในหัวใจ “พรรษรดา...” “อย่าคิดว่าจะผลักไสพรรษง่ายๆ อีก รู้มั้ยว่าพรรษรอนานแค่ไหน รู้ไหมว่าต้องเสียน้ำตาไปกี่ครั้งเมื่อคิดว่าตัวเองรักคุณภูข้างเดียว อย่ามาบอกรักพรรษ ล้อเล่นกับหัวใจพรรษแล้วหนีไปง่ายๆ อีก พรรษไม่ยอมอีกแล้ว คราวนี้พรรษจะตามรังควานไปตลอดชีวิตเลย อย่าหวังว่าจะได้มีโอกาสมีความสุขกับผู้หญิงคนไหน อย่าหวังว่าจะได้บอกรักใครอีก เพราะคำว่ารักของคุณภูจะเป็นของพรรษคนเดียวตลอดไป”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

รอยรักรอยร้าว

รอยรักรอยร้าว

Del Goodman
5.0

เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"

นางเอกสุดโหด

นางเอกสุดโหด

Ocean Blue
5.0

เธอเป็นหมอเก่งๆ ระดับสากล เป็นประธานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีอันดับหนึ่ง... ไม่นานมานี้ เจี่ยนอู่ ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งกลับปกปิดตัวตนของนางและแต่งงานกับชายหนุ่มยากจนคนหนึ่ง โดยไม่คาดคิดก่อนวันแต่งงาน คู่หมั้นของเธอกลายเป็นนายน้อยที่หายไปจากครอบครัวที่ร่ำรวย เขาไม่เพียงเสียใจกับการหมั้นหมายเท่านั้น แต่ยังปราบปรามและทำให้เธออับอายด้วยทุกวิถีทางอีกด้วย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย อดีตคู่หมั้นของเธอตกตะลึง และขอร้องให้กลับมาคืนดีกัน ผู้คนใหญ่โตที่ร่ำรวยและน่านับถือคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเจี่ยนอู่ "นี่คือภรรยาของผม ใครกล้าหวังกับเธอ"

เสี่ยงรักสัจอธิษฐาน

เสี่ยงรักสัจอธิษฐาน

ปลายฟ้า
5.0

เพราะการบนบาลครั้งนั้นทำให้เธอต้องรีบหาสามีเพื่อผลิตลูกไม่อย่างนั้นเธอก็จะต้องเจอกับสิ่งลี้ลับและผู้โชคดีที่จะเป็นพ่อของลูกของเธอก็ดันรุ่นราวคราวพ่อเธอจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร..... ...................................///............................... ทุกคนเชื่อในเรื่องการผิดคำพูดในการบนบานศาลกล่าวกันหรือเปล่า... เรื่องราวที่ไรท์จะเขียนในนิยายเป็นเรื่องที่นางเอกของเราเคยบนบานเอาไว้และเมื่อสิ่งที่บนประสบผลสำเร็จนางเอกของเราก็จะต้องแต่งงานกับผู้ชายคนแรกหลังตื่นเช้าของอีกวันและผู้ชายคนนั้นก็คือ...พระเอกของเราเองค่า.. แต่..แต่..แต่..ว่า...พ่อพระเอกของเราไม่ได้จะยอมง่ายๆเพราะว่านางเอกดันอายุอ่อนกว่าเขายี่สิบกว่าปีเรียกว่ารุ่นลูกยังได้ แต่หากพระเอกของเราไม่ยอมแม่นางเอกของเราก็ต้องตื๊อให้ยอมจนได้... เพราะว่า... เธอ... ไม่อยากจะเจอเรื่องซวยๆอีกต่อไป.. ความสนุกของเรื่องนี้จะเกิดจากความโก๊ะๆเปิ่นๆของนางเอกแถมความลี้ลับที่นางเอกต้องเจอ...มันสร้างความเดือดร้อนให้เธอมากมายจนพระเอกของเราต้องคอยปกป้องนางเอกของเราอยู่ตลอด...นานวันเข้าทั้งสองก็...(คิดกันเอาเอง อิๆๆ) เรื่องราวจะเป็นอย่างไร...ติดตามกันได้ในเรื่อง เสี่ยงรักสัจอธิษฐาน.. ได้เลยนะคะ.. เนื้อหาชื่อคนหรือสถานที่ในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใดขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
มิปองรัก
1

บทที่ 1 เรื่องราวในอดีต

28/02/2023

2

บทที่ 2 เรื่องราวในอดีต

28/02/2023

3

บทที่ 3 ใจเต้นไม่เป็นส่ำ

28/02/2023

4

บทที่ 4 อยากให้เธออาย

28/02/2023

5

บทที่ 5 เป็นเด็กดีให้เสียเวลา

28/02/2023

6

บทที่ 6 กวนจิตใจ

28/02/2023

7

บทที่ 7 ปลอบใจตัวเอง

28/02/2023

8

บทที่ 8 สเปกแกเป็นแบบไหน

28/02/2023

9

บทที่ 9 รัศมีความร้ายกาจ

28/02/2023

10

บทที่ 10 จูบแรกในชีวิต

28/02/2023

11

บทที่ 11 ความสุขสม

28/02/2023

12

บทที่ 12 กำลังจะแต่งงานน่ะ

28/02/2023

13

บทที่ 13 อย่าทำเสียงแบบนั้น

28/02/2023

14

บทที่ 14 ความรู้สึกไหนมันเด่นชัดกว่ากัน

28/02/2023

15

บทที่ 15 ปฏิเสธ

28/02/2023

16

บทที่ 16 แม่สาวไวไฟ

28/02/2023

17

บทที่ 17 ส่วนหนึ่งของร่างกาย 

28/02/2023

18

บทที่ 18 ใช้บริการ

28/02/2023

19

บทที่ 19 ครั้งแรกกับคนอื่น

28/02/2023

20

บทที่ 20 ไม่รู้สึกรู้สา

28/02/2023

21

บทที่ 21 คาดไม่ถึง

28/02/2023

22

บทที่ 22 สนใจเป็นพิเศษ

28/02/2023

23

บทที่ 23 หัวใจรวดร้าว

28/02/2023

24

บทที่ 24 เปิดโอกาส

28/02/2023

25

บทที่ 25 ตั้งแต่เมื่อไหร่

28/02/2023

26

บทที่ 26 วาบหวาม

28/02/2023

27

บทที่ 27 อารมณ์ปรารถนา

28/02/2023

28

บทที่ 28 ปฏิเสธในใจ

28/02/2023

29

บทที่ 29 การตัดสินใจที่ผิดมหันต์

28/02/2023

30

บทที่ 30 การตัดสินใจที่ผิดมหันต์

28/02/2023

31

บทที่ 31 ทนไม่ไหว

28/02/2023

32

บทที่ 32 หัวใจเหน็บหนาว

28/02/2023

33

บทที่ 33 คนใจร้ายคนนั้น

28/02/2023

34

บทที่ 34 เจ็บปวดในใจ

28/02/2023

35

บทที่ 35 เจ็บปวดในใจ

28/02/2023

36

บทที่ 36 หัวใจของปอไหม

28/02/2023

37

บทที่ 37 ความปรารถนาที่ฉายชัดออกมา

28/02/2023

38

บทที่ 38 ความว้าวุ่นหวั่นไหว

28/02/2023

39

บทที่ 39 อยากให้คุณเชื่อใจ

28/02/2023

40

บทที่ 40 อารมณ์ปรารถนาที่จงใจปลุกเร้า

28/02/2023