Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
อันหนิง ยอดหญิงแห่งตงหลาง

อันหนิง ยอดหญิงแห่งตงหลาง

หลงเวลา

5.0
ความคิดเห็น
68.6K
ชม
78
บท

ฉีอันหนิง บุตรีของเจ้าเมืองตงหลาง นางเก่งกาจ ไม่ว่าจะเป็นบุ๊นหรือบู๊ เพราะความฉลาดซุกซน ทำให้นางไปถูกตาต้องใจ ซ่งมู่เฉิน ผู้เป็นพี่ชายของสหายสนิทและเป็นหัวหน้าของหน่วยพยัคฆ์ดำ ผู้ที่มีหน้าที่ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของชาวเมือง ความรักที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นในขณะที่บ้านเมืองกำลังวุ่นวายจะลงเอยเช่นไร

บทที่ 1 ฉีอันหนิง

ณ เมืองตงหลาง แห่งแคว้นโจวหนาน

เหมันตฤดูเวียนมา เหล่าหมู่มวลวิหคส่งเสียงร้องอยู่บนท้องนภาในยามอิ๋น ร่างเล็กของเด็กหญิงวัยเจ็ดปีขยับไปมาอยู่บนเตียงนอน ผ้าม่านที่ทอด้วยไหมปลิวไสวไปตามสายลมหนาว ผ้าห่มผืนหนาที่ปกคลุมกายอยู่ถูกเท้าเล็กถีบออกจนสาวรับใช้ที่คอยดูแลอยู่ต้องดึงขึ้นมาปกคลุมร่างเล็กของคุณหนูสี่เอาไว้เพื่อมิให้ร่างกายสัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็น

“ข้าร้อน” เสียงเล็กเปล่งออกมาจากคนที่นอนปิดเปลือกตาอยู่

“แต่คุณหนูสี่เจ้าคะ… คุณหนูต้องห่มผ้าเอาไว้นะเจ้าคะ ถ้าคุณหนูป่วย… บ่าวโดนตีหลังลายแน่ๆ เลยเจ้าค่ะ”

ซุนซุนบอกคุณหนูสี่ด้วยเหตุและผล เด็กจิตใจดีอย่างฉีอันหนิง หรือคุณหนูสี่ บุตรีคนเล็กของใต้เท้า ฉีอันจวิ้น กับฉีฮูหยินย่อมได้ฟังแล้วต้องเห็นอกเห็นใจ

ใต้เท้าฉีเป็นเจ้าเมืองตงหลางเขาได้แต่งงานกับฉีฮูหยินมาเกือบสิบห้าปีแล้ว ทั้งสองมีบุตรชายทั้งหมดสามคนคือฉีอันหลง ฉีอันลิ่ง ฉีอันลู่และมีฉีอันหนิงที่เป็นบุตรีคนเล็กของตระกูลฉี บุตรีที่บิดาและมารดาหวงราวกับเป็นไข่ในหิน

“ข้าห่มแล้ว ข้าไม่อยากให้ซุนซุนถูกตี”

เสียงเล็กเอ่ยออกมา ถึงจะวัยเพียงเจ็ดปี แต่ทว่าเด็กหญิงกลับเฉลียวฉลาด นางขี่ม้าได้ อ่านหนังสือออก เล่นดนตรีเป็น และโยนลูกดอกลงกาเก่งที่สุดจนเหล่าพี่ชายอดไม่ได้ที่จะชื่นชมและพาน้องสาวติดตามไปเล่นด้วยทุกที สาวรับใช้วัยสิบสองส่งยิ้มให้คุณหนูสี่ ก่อนที่นางจะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องนอนของฉีอันหนิงไป

“ข้าไม่หนาว…” เสียงเล็กดังออกมาแผ่วเบา ริมฝีปากเล็กฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา

เมื่อเสียงก้าวเท้าเงียบลง ผ้าห่มที่คลุมร่างเล็กอยู่ก็ถูกเท้าของนางถีบออก ฉีอันหนิงนางเป็นเด็กหญิงที่เกิดในเหมันตฤดู ความหนาวเหน็บในปีที่นางเกิดนั้นหนาวกว่าปีนี้ยิ่งนัก นั่นจึงเป็นเหตุให้นางไม่กลัวความหนาวเย็น กลับกันนางเกิดชอบอากาศหนาวเสียด้วยซ้ำ

เสียงเคาะฆ้องบอกยามเหม่าดังขึ้น พร้อมกับเสียงของคนที่คอยแจ้งเตือนบอกยามตะโกนดังขึ้นมาเป็นประโยคซ้ำไปซ้ำมา

'ถึงยามเหม่าแล้ว ตะวันแทนที่จันทรา หิมะยังไม่ละลาย ใส่ใจสวมใส่เสื้อผ้าให้มาก'

สาวรับใช้เตรียมอ่างน้ำและผ้าเช็ดหน้าเข้าไปให้คุณหนูสี่ที่นอนอยู่ในห้องเพียงลำพัง ฉีฮูหยินให้นางนอนตามลำพังตั้งแต่คุณหนูสี่อายุได้เพียงห้าปี นัยน์ตากลมเบิกโพลงยามเมื่อได้เห็นร่างเล็กของคุณหนูไร้ผ้าห่มกาย ซุนซุนรีบเข้าไปใช้มือเล็กของตนสัมผัสร่างกายของคุณหนูสี่ก็พบว่าร่างกายของนางเย็นเฉียบ นางตกใจจนรีบปลุกคุณหนูสี่ให้ตื่นนอน

“คุณหนู…. คุณหนูสี่เจ้าคะ”

“อื้อ… พี่ซุนซุน พี่ปลุกข้าทำไม กำลังนอนสบายเลย” เสียงเล็กดังออกมาจากเจ้าของร่างเล็กที่เริ่มบิดกายไปมาเพื่อขับไล่ความเกียจคร้าน

“คุณหนู… ท่านไม่ห่มผ้านอนอีกแล้วนะเจ้าคะ” ซุนซุนเอ่ยออกมาอย่างอ่อนใจ ขอภาวนาอย่าให้คุณหนูสี่เจ็บป่วยก็พอ มิเช่นนั้นนางคงจะโดนฟาดหลังหลายอีกแน่ๆ

“ข้าร้อน… มิเป็นไรหรอกพี่ซุนซุน ข้าแข็งแรง ข้าไม่ป่วยง่ายๆ อย่างแน่นอน”

ร่างเล็กลุกขึ้นจากที่นอนทันทีเมื่อความง่วงที่มีอยู่ก่อนหน้าหมดสิ้น นางล้างหน้าและเดินไปนั่งลงที่หน้ากระจก ซุนซุนละมือจากการเก็บที่นอนให้กับคุณหนูก่อนที่จะเดินไปหวีผมให้กับนาง

“ผมของคุณหนูสี่สวยมากเลยนะเจ้าคะ” ผมสลวยเส้นหนาดกดำลื่นมือยามที่เด็กรับใช้ ใช้หวีสางเส้นผมให้กับคุณหนูของนาง

“รีบหน่อยพี่ซุนซุน เดี๋ยววันนี้ไปไม่ทันพวกพี่ใหญ่ เขาบอกข้าว่าจะไปเรียนกับอาจารย์ที่สำนักศึกษาหลี่ชุน ข้าอยากไปเรียนกับพวกพี่ๆ ด้วย” เสียงใสเจื้อยแจ้วออกมารัวๆ

“แต่คุณหนูเจ้าคะ สำนักศึกษาหลี่ชุนเขาต้องให้ผู้ที่อยากเป็นศิษย์ของที่นั่น สอบเข้าก่อนถึงจะเรียนได้นะเจ้าคะ อีกอย่างคุณหนูต้องไปขออนุญาตนายท่านกับนายหญิงใหญ่ก่อนนะเจ้าคะ” ซุนซุนหวีผมและมัดผมให้คุณหนูสี่จนเสร็จก่อนที่จะเอ่ยออกมา

“ท่านพ่อกับท่านแม่ตามใจข้าที่สุด ข้าอยากไปท่านพ่อท่านแม่ต้องให้ข้าไปอยู่แล้ว”

ฉีอันหนิงเอ่ยออกมาอย่างรู้ใจบิดามารดา นางเป็นบุตรีเพียงคนเดียว เพราะนางมีแต่พี่ชายที่มีอายุห่างกันไม่มาก พี่ชายใหญ่อายุสิบสามปี พี่ชายรองอายุสิบเอ็ดปี พี่ชายสามอายุเก้าปี ส่วนนางอายุเพียงแค่เจ็ดปีเท่านั้น

ซุนซุนพอได้ยินเช่นนั้นก็มิได้กล่าวอันใดออกมาอีก นางรู้ดีว่าคุณหนูของนางนั้นถูกนายท่านกับนายหญิงใหญ่เลี้ยงดูแบบตามใจ แต่ทว่านางกลับมิได้มีนิสัยที่ไม่ดีเลยสักนิด เอาแต่ใจในเรื่องบางเรื่องเท่านั้น

ที่โต๊ะอาหารของเรือนใหญ่ สมาชิกทุกคนในครอบครัวตระกูลฉีนั่งล้อมวงกันอยู่ที่โต๊ะ อาหารหลากหลายเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะเป็นประจำเช่นทุกวัน พี่ชายใหญ่ของฉีอันหนิงนั้นมีนิสัยสุขุม สุภาพ เก็บความรู้สึกเก่งสมกับเป็นพี่ชายคนโต พี่ชายคนรองนั้นมีนิสัยรักสนุก ชอบบทกลอนและดนตรี ส่วนพี่สามนั้นมีนิสัยอยากรู้อยากเห็นและขี้สงสัยเป็นที่สุด

“ท่านพ่อท่านแม่เจ้าคะ” เสียงเรียกขานของบุตรีคนเล็กทำเอาสองสามีภรรยาละสายตาจากอาหารไปมองที่นางพร้อมๆ กัน

“เสียงหวานเช่นนี้มีอันใดจะขอพ่อกับแม่หรือหนิงเอ๋อร์” ใต้เท้าฉีรู้ดี ยามเมื่อบุตรีผู้นี้ของตนอยากได้สิ่งใด นางมักจะใช้น้ำเสียงเช่นนี้อยู่เสมอ

“ลูกอยากไปสำนักศึกษาหลี่ชุนกับพวกพี่ชายค่ะ" สามเด็กชายหันมามองหน้าน้องสาวเป็นตาเดียวกัน

“เจ้าจะไปทำไม ที่นั่นถ้าเจ้าไปต้องเรียนหนังสือ เขียนอักษรนะ” พี่สามหรือฉีอันลู่เอ่ยถามน้องสาวออกมา

“นั่นสิ… เจ้าเขียนอักษรเก่งแล้วจะไปที่นั่นอีกทำไมกัน” พี่รองหรือฉีอันลิ่งเอ่ยออกมาบ้าง เป็นเขาหน่อยไม่ได้ เขาจะอยู่บ้านเล่นพิณ ดีดฉินและแต่งบทกลอนให้สนุกไปเลย

“ข้าเบื่อ… ข้าอยากไปเรียนบ้าง นะเจ้าคะท่านพ่อ… นะเจ้าคะท่านแม่ ให้ลูกไปเถอะนะเจ้าคะ”

ฉีอันหนิงตอบตามความจริง นางเบื่อที่จะต้องเดินเล่นอยู่ในจวน ชมนกชมไม้ หรือเรียนมารยาทของกุลสตรีและเย็บปักถักร้อยกับแม่นมคัง

“ได้ๆๆ แต่เจ้าต้องสอบเข้าให้ผ่านก่อนนะ ถ้าเจ้าผ่าน พ่ออนุญาตให้เจ้าไปเรียนกับพี่ๆ ได้”

ท่านเจ้าเมืองมิได้ขัดใจบุตรีอีกตามเคย ฉีฮูหยินได้แต่ส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มออกมา ส่วนพี่ชายทั้งสามก็เลิกสนใจน้องสาวหันไปสนใจอาหารตรงหน้าแทน การไปเรียนที่สำนักศึกษาหลี่ชุนเป็นเรื่องที่ดี แต่พวกเขาก็อดที่จะเป็นห่วงน้องสาวคนเล็กไม่ได้ จากนี้ไปที่นั่นคงจะสนุกอยู่ไม่น้อย

ยามเฉินรถม้าของจวนสกุลฉีขับเคลื่อนออกจากบริเวณหน้าจวนไปทั้งหมดสองคัน คันแรกมีบุตรชายคนโตกับบุตรชายคนรองของสกุลฉีนั่งไปด้านใน ส่วนอีกคันนั้นมีบุตรชายคนที่สามและบุตรีคนเล็กติดตามมาด้วย สาวรับใช้ที่ติดตามมาดูแลคุณหนูสี่เดินไปพร้อมกับรถม้า เพียงครึ่งชั่วยามรถม้าก็ไปหยุดอยู่ที่หน้าสำนักศึกษาหลี่ชุน นักเรียนมากมายหลั่งไหลกันมา มีทั้งมาสอบและมาพร้อมเข้าเรียน

“ท่านพี่สามเจ้าคะ ท่านพี่สามเรียนที่นี่มีเรื่องใดน่าสนุกบ้างเจ้าคะ” หากจะถามเรื่องราวต่างๆ ให้ถามที่พี่ชายสามเพราะเขามักจะมีคำตอบมาให้นางทุกอย่าง

“สนุกที่ใดกัน น่าเบื่อจะตาย เจ้าอยู่จวนสบายๆ มิชอบ อยากมาเรียนเพื่อเหตุใดกัน เมื่อถึงวัยปักปิ่นแล้วเจ้าก็ต้องออกเรือนไปอยู่ดี”

ฉีอันลู่ตอบด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย เรื่องสนุกสำหรับเขาคงจะเป็นการได้ฟังเรื่องเล่าต่างๆ จากเพื่อนๆ ในสำนักศึกษาแห่งนี้ แต่ถ้าจะตอบน้องสาวไปเช่นนั้น มีหวังนางได้ไปบอกบิดามารดาอย่างแน่นอน

“อยู่แต่ในจวนน่าเบื่อจะตาย มาที่นี่ได้พบเจอเพื่อนมากมาย อีกอย่างผู้ใดบอกว่าข้าจะออกเรือน ข้าจะอยู่กับท่านพ่อท่านแม่” คำตอบของน้องสาวทำเอาพี่สามส่ายหน้าไปมาก่อนที่ทั้งคู่จะพากันลงจากรถม้า

“น้องหญิง เจ้ามากับพี่ พี่จะพาเจ้าไปหาท่านอาจารย์เพื่อขอสอบ” พี่ใหญ่บอกน้องเล็กด้วยน้ำเสียงเอ็นดู

“เจ้าค่ะพี่ใหญ่” เด็กหญิงขานรับก่อนที่จะรีบเดินตามพี่ชายคนโตไป

“อันลิ่ง นั่นน้องสาวของเจ้าใช่หรือไม่”

สหายร่วมห้องของฉีอันลิ่งเอ่ยถามพลางชี้นิ้วไปยังเจ้าของร่างเล็กที่กำลังเยื้องย่างไปกับเด็กชายร่างสูง ซึ่งเขาเองรู้จักเป็นอย่างดี

“ใช่… นางอยากมาเรียนด้วยน่ะ” ฉีอันลิ่งตอบก่อนที่จะเดินนำสหายที่ถามเขาเข้าประตูสำนักศึกษาตามหลังพี่ชายกับน้องสาวคนเล็กไป

ฉีอันหลงพาน้องสาวไปพบกับอาจารย์และนางก็ได้ทำข้อสอบเพื่อเข้าศึกษาในสำนักศึกษาหลี่ชุน ผลการสอบของเด็กหญิงสร้างความประหลาดใจให้กับอาจารย์เป็นอย่างมาก ถ้าเทียบกับวัยเดียวกันแล้วคุณหนูสี่จากจวนสกุลฉีนี้ทำคะแนนได้ดีที่สุด นางจึงได้เข้าศึกษาตามที่ตั้งใจเอาไว้

“ฉีอันหนิง…" เสียงเรียกขานนามผู้สอบผ่านดังขึ้น

“เจ้าค่ะ” เด็กหญิงยกมือก่อนที่จะลุกขึ้นยืน

"วันนี้เจ้ากลับไปก่อนนะ พรุ่งนี้เจ้าค่อยมาเรียน ตอนนี้สำนักศึกษาหลี่ชุนรับเจ้าเป็นศิษย์ของที่นี่แล้วล่ะ”

คำบอกกล่าวของอาจารย์สร้างความดีใจให้แก่เด็กหญิงวัยเจ็ดปี อย่างน้อยความหวังที่นางจะได้ออกจากจวนมาศึกษาที่สำนักศึกษาหลี่ชุนแห่งนี้ก็เป็นจริง

“เจ้าค่ะ…ท่านอาจารย์”

ฉีอันหนิงคำนับลาอาจารย์ก่อนที่จะเดินออกจากสำนักศึกษาหลี่ชุน เพื่อกลับไปบอกข่าวดีกับบิดาและมารดา เรื่องที่นางได้รับการคัดเลือกให้เป็นศิษย์ของสำนักศึกษาหลี่ชุน ซึ่งก็เป็นไปตามคาดเพราะผู้ใดในจวนบ้างจะไม่รู้ว่าคุณหนูสี่นั้นทั้งเก่งและเฉลียวฉลาดเกินวัย หากนี่เป็นสิ่งที่นางอยากทำก็มิมีผู้ใดมาขัดขวางนางได้

เหล่าบรรดาพี่ชายที่กลับมาจากสำนักศึกษาในยามเชินก็ได้รับทราบข่าวดีจากผู้เป็นน้องสาวที่มารอคอยเจื้อยแจ้วให้พี่ชายทั้งสามได้ฟัง พี่ชายใหญ่ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู ส่วนพี่ชายอีกสองคนค่อนข้างจะรู้สึกเบื่อหน่ายเสียด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าน้องสาวนั้นคิดเช่นไรอยู่ถึงอยากไปเรียนที่สำนักศึกษาเช่นเดียวกันกับพวกเขา เพราะที่นั่นมิได้มีสิ่งใดน่าสนใจเลยสักนิด วันหนึ่งวันก็มีแต่การศึกษาเล่าเรียน

“ท่านพี่ใหญ่ ไปจวนสกุลอิ่นกันไหมเจ้าคะ พี่หญิงจูหรงส่งบ่าวมาเชิญน้องไปแข่งปาศรที่จวนของนาง” หลังจากเก็บกระเป๋าเรียบร้อยน้องสาวตัวน้อยก็เอ่ยชวนพี่ชายใหญ่ไปเล่นกับนางทันที

“จวนสกุลอิ่น จวนข้างๆ เรานี่น่ะเหรอ” เด็กหญิงพยักหน้าหงึกพร้อมกับฉีกยิ้มออกมา

“ไปเถอะนะเจ้าคะ น้องอยากให้ท่านพี่ชายใหญ่ไปด้วย” น้องสาวออดอ้อนจนหัวใจของพี่ชายอ่อนระทวย

“ไม่เห็นเจ้าจะชวนพวกพี่ไปด้วยเลย ชวนแต่พี่ชายใหญ่” พี่ชายรองทักขึ้นขณะที่กำลังจะเดินผ่านห้องของพี่ชายใหญ่

“ไปกันทั้งหมดนี่แหละเจ้าค่ะ”

นางตอบออกมาพร้อมรอยยิ้ม สี่พี่น้องจึงพากันไปเยือนจวนสกุลอิ่น

การโยนศรให้ลงเป้านั้นเป็นการละเล่นที่มีอยู่ทั่วทั้งแคว้นโจวหนาน และเป็นการละเล่นที่ผู้คนชื่นชอบ เด็กหญิงกลับมาที่จวนพร้อมกับชัยชนะจนพี่ๆ เอ่ยปากชมนางไม่ขาด รวมไปถึงผู้ใหญ่จากจวนสกุลอิ่นด้วย ที่ต่างพากันชื่นชมเด็กหญิงที่เป็นเด็กเฉลียวฉลาดและมีความสามารถเกินวัย นางจึงได้รับปิ่นหยกขาวที่ใต้เท้าอิ่นให้เป็นรางวัลกลับมาอีกด้วย

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ หลงเวลา

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ความลับของท่านประธาน

ความลับของท่านประธาน

ปีศาจชอนซา
5.0

นายพายุ ศิระภาคิณ อายุสามสิบปี นักธุรกิจหนุ่มประธานบริษัทส่งออกผ้าไทย วีรกรรมที่เขาทำไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อน กำลังจะย้อนกลับมา เมื่อนางสาวแพรไหม โภสิกุล ดีไซเนอร์สาวอายุยี่สิบเก้าปี ได้ปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่เธอนั้นหายออกไปจากมหาวิทยาลัย กว่าสิบปี โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทำให้ท่านประธานหนุ่มเริ่มอยากรู้ชีวิตของเธอ เมื่อครั้งหนึ่งเรือนร่างอันบอบบางอรชรเคยหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับเขามาแล้ว ถ้าหากเขาต้องการสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง มันก็ไม่แปลกหากเธอนั้นยังโสดแพรไหมจะยังต้องการเขาอยู่หรือไม่ ในเมื่อเธอคิดว่าพายุนั้นเป็นแค่ผู้ชายที่พรากความบริสุทธิ์ไปจากเธอเท่านั้น ซึ่งเวลานี้เธอก็ยังคงมองเขาในด้านลบอยู่ดี แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วก็ตาม "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก “ฮ่ะ!” พายุอุทานออกมาเสียงดัง ขณะที่หัวใจของเขานั้นเต้นแรง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต "ถ้าคุณไม่เชื่อ พาหนูไปตรวจดีเอ็นเอก็ได้นะคะ" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับมีใบหน้าที่เศร้าหม่น เมื่อเธอคิดว่าบิดาคงไม่เชื่อในสิ่งที่เธอนั้นพูดออกมา "ไม่จำเป็น!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง เพื่อยืนกรานที่จะตรวจดีเอ็นเอ จนทำให้คนฟังนั้นหวาดกลัว เพราะใยไหมคิดว่าบิดานั้นไม่เชื่อใจเธอ "หนูขอโทษที่มารบกวน หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" ใยไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นบิดาอย่างนอบน้อม ประหนึ่งว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วในชีวิตนี้ เมื่อเธอได้สัญญากับผู้เป็นมารดาเอาไว้ หากถูกปฏิเสธแล้วไซร้ จะขอกลับไปไม่กลับมาหาชายตรงหน้าอีกเลยตราบชั่วชีวิต "แล้วหนูจะไปไหน นั่งลงก่อนสิ" พายุพูดพร้อมกับจับร่างเล็กของลูกสาวนั่งลงข้าง ๆ อีกครั้ง "ที่บอกว่าไม่จำเป็น นั่นเป็นเพราะว่าพ่อเชื่อว่าหนูเป็นลูกของพ่อโดยไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ใยไหมไม่รอช้าโผเข้าไปกอดผู้เป็นบิดาอีกครั้งในทันที ก่อนจะร้องไห้ออกมาเพราะความดีใจ "ไม่ร้องนะครับคนเก่งของพ่อ" พายุพูดพร้อมทั้งเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่แก้มใสของลูกสาวออกจนสิ้น ในขณะที่ตัวของเขาเองก็น้ำตาคลอเช่นกัน "หนูขอเรียกพ่อว่าคุณป๋านะคะ" เสียงเจี๊ยวจ๊าวพูดออกมาอย่างรื่นหู คุณป๋าที่เด็กหญิงพูดนั้น ทำให้พายุอดที่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจไม่ได้ "ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ทำไมถึงต้องเรียกพ่อว่าคุณป๋าด้วยละ หืม" พายุเอ่ยถามลูกสาวออกมา ขณะที่เขายังคงกอดเด็กหญิงเอาไว้ ด้วยความรักความผูกพันของสายใยระหว่างพ่อลูก ที่มันพันผูกจนมาสามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ "มาดาม ไม่ชอบให้หนูมีพ่อ หนูก็จะมีคุณป๋าแทนยังไงล่ะคะ" คำตอบของลูกสาวทำให้พายุยิ้มไม่หุบครั้งแล้วครั้งเล่า เธอช่างเป็นเด็กฉลาดและร่าเริง ผิดกับแพรไหมมารดาของเธอ ที่ชอบทำหน้าเหมือนแบกโลกทั้งใบเอาไว้ตลอดเวลา "ทำไมถึงเรียกแม่ว่ามาดาม ตอนนี้แม่แต่งงานไปแล้วหรือยัง" เวลานี้พายุลุ้นคำตอบจากลูกสาว หรือแพรไหมจะแต่งงานกับฝรั่งตาน้ำข้าวไปแล้ว ใยไหมถึงได้เรียกเธอว่ามาดาม "แม่ยังไม่มีใคร มีแค่ลุงดนัยที่ชอบมาข้องแวะ แต่หนูไม่ชอบเขาเลย เพราะเขาชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมาดามอยู่เรื่อย" คำตอบของลูกสาวช่างอิ่มเอมใจ เมื่อแพรไหมไม่มีใครเขาก็พร้อมจะสานสัมพันธ์ แต่งานนี้คงจะยากหากผู้ชายคนนั้นมาข้องแวะ แต่เขามีลูกสาวที่ยืนเคียงข้างแล้วจะกลัวอะไร "ถ้าพ่ออยากจะจีบแม่ต้องทำยังไง" "โอ้! เจ๋งเป้งมากค่ะคุณป๋า เดี๋ยวหนูจะช่วยเอง" ใยไหมพูดออกมาด้วยความดีใจ นั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนามาแสนนาน อยากให้บิดามารดาได้ลงเอยกันสักที "ลูกรับปากพ่อแล้วน๊า... " พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก "แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อนค่ะ คุณป๋า" ใยไหม ผละออกจากอกกว้างของผู้เป็นบิดา พร้อมกับหยิบคุกกี้ตรงหน้าเข้าปาก "หิวหรือยัง ไปทานข้าวก่อนดีไหม" พายุเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นลูกสาวนั้นหยิบคุกกี้เข้าปากคำโต "เดี๋ยวค่อยไปทานก็ได้ค่ะ แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อน เรื่องที่หนูเป็นลูกสาวของคุณป๋า ห้ามให้ใครรู้ ทุกอย่างจะเป็นความลับระหว่างเราได้ไหมคะ" พายุทำหน้าสงสัยกลับไปให้เด็กหญิง เธอกำลังคิดจะทำอะไร ใครหลายคนคงดีใจหากได้เป็นลูกสาวของท่านประธาน "ทำไมเป็นลูกสาวพ่อมันไม่ดีตรงไหนเหรอ ลูกถึงไม่อยากให้ใครรู้" พายุเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความน้อยใจ เมื่อลูกสาวไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าเขาเป็นบิดาของเธอ "เป็นลูกสาวของป๋าดีที่สุดแล้ว แต่หนูไม่อยากให้ใครมองมาดามในทางไม่ดี ทุกคนต้องรู้แน่ สาเหตุที่มาดามต้องออกจากมหา'ลัยกลางคัน" คำบอกเล่าของใยไหมเป็นเหมือนดังคมหอก ที่ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของพายุ เด็กหญิงตรงหน้าช่างมีความคิดแบบผู้ใหญ่ เธอถูกเลี้ยงมาแบบไหนทำไมถึงได้ฉลาดอย่างนี้ แพรไหมคงดูแลอบรมลูกสาวมาอย่างดี ต่างจากเขาผู้เป็นบิดาที่ไม่เคยได้เหลียวแล "พ่อขอโทษนะ ที่ไม่เคยได้ดูแลหนูเลย ต่อจากนี้ไปพ่อจะไม่ทิ้งหนูกับแม่ให้อยู่กันตามลำพังอีกแล้ว" คำพูดของผู้เป็นบิดากำลังทำให้เด็กหญิงหัวใจพองโต เธอดีใจที่ผู้เป็นพายุไม่ปฏิเสธ แถมเขายังคิดที่จะสานสัมพันธ์กับมาดามของเธออีกครั้ง คงไม่มีอะไรทำให้เด็กหญิงมีความสุขเท่าสิ่งนี้มาก่อนเลยในชีวิต "ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก "ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวด

นางบำเรอก้นครัว ชุด Sweet Temptations

นางบำเรอก้นครัว ชุด Sweet Temptations

เนื้อนวล
4.9

หล่อนถูกส่งมาบรรณาการในฐานะทาสบำเรอความใคร่ เพื่อแลกกับหนี้สินก้อนโต นอนกับเขาจนกว่าเขาจะเบื่อ แล้วเมื่อนั้นแหละหน้าที่บำเรอบนเตียงของหล่อนจึงจะหมดไป พะแพง ถูกส่งตัวมาเป็นนางบำเรอให้กับมหาเศรษฐีเจ้าของบ่อนคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในลาสเวกัส หน้าที่ของหล่อนคือทำให้เดมอน ลินการ์ด มีความสุขที่สุดยามอยู่บนเตียง หล่อนก้มหน้าก้มตาทำทุกอย่างเพื่อให้เขาพึงพอใจ แต่ไม่นานเขาก็เบื่อหน่าย ขับไล่ไสส่งหล่อนออกไปจากชีวิต ข่าวงานแต่งงานของเขากับผู้หญิงคนใหม่ที่ทั้งสวยและแสนคู่ควรดังก้องคับแผ่นฟ้า ในขณะที่หล่อนต้องหลบอยู่ในซอกหลืบของความมืดมิดเพื่อซ่อนเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเอาไว้อย่างรวดร้าวทรมาน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
อันหนิง ยอดหญิงแห่งตงหลาง
1

บทที่ 1 ฉีอันหนิง

02/03/2023

2

บทที่ 2 สหาย

02/03/2023

3

บทที่ 3 เทศกาลโคมไฟ

02/03/2023

4

บทที่ 4 ความสามารถที่เกินวัย

02/03/2023

5

บทที่ 5 ฝึกฝน

02/03/2023

6

บทที่ 6 ความชอบที่ต่างกัน

02/03/2023

7

บทที่ 7 บุตรชายคนโตสกุลซ่ง

02/03/2023

8

บทที่ 8 แรกพบ

02/03/2023

9

บทที่ 9 งานวันคล้ายวันเกิดของฉีฮูหยิน

02/03/2023

10

บทที่ 10 เยือนจวนสกุลฉี

02/03/2023

11

บทที่ 11 พี่ชายใหญ่ไปศึกษาต่อในเมืองหลวง

02/03/2023

12

บทที่ 12 พี่ชายใหญ่ไปศึกษาต่อในเมืองหลวง 1

02/03/2023

13

บทที่ 13 หน่วยพยัคฆ์ดำ

03/03/2023

14

บทที่ 14 บุตรีสกุลฉี

03/03/2023

15

บทที่ 15 บุตรีสกุลฉี 1

03/03/2023

16

บทที่ 16 เด็กกำลังโต

04/03/2023

17

บทที่ 17 จอหงวนคนใหม่

04/03/2023

18

บทที่ 18 ได้พบกันอีกครา

05/03/2023

19

บทที่ 19 จิตรกรจำเป็น

05/03/2023

20

บทที่ 20 สตรีที่ผู้ใดก็หมายปอง

07/03/2023

21

บทที่ 21 สตรีที่ผู้ใดก็หมายปอง 1

07/03/2023

22

บทที่ 22 วัยแรกแย้ม

11/03/2023

23

บทที่ 23 วัยแรกแย้ม 1

11/03/2023

24

บทที่ 24 เริ่มมีใจ...เลยห่วงใย

11/03/2023

25

บทที่ 25 เริ่มมีใจ...เลยห่วงใย 1

11/03/2023

26

บทที่ 26 ความรู้สึกที่เกิดขึ้น...

13/03/2023

27

บทที่ 27 ความรู้สึกที่เกิดขึ้น....(1)

13/03/2023

28

บทที่ 28 พบเจอเรื่องน่าเบื่อ

13/03/2023

29

บทที่ 29 พบเจอเรื่องน่าเบื่อ 1

13/03/2023

30

บทที่ 30 ถูกลอบทำร้าย

13/03/2023

31

บทที่ 31 ถูกลอบทำร้าย 1

13/03/2023

32

บทที่ 32 ส่งคืน

17/03/2023

33

บทที่ 33 ส่งคืน 1

17/03/2023

34

บทที่ 34 ชนะประลอง

17/03/2023

35

บทที่ 35 ชนะประลอง 1

17/03/2023

36

บทที่ 36 เรื่องวุ่นวายของสตรี

19/03/2023

37

บทที่ 37 เที่ยวเล่น

21/03/2023

38

บทที่ 38 เที่ยวเล่น 1

21/03/2023

39

บทที่ 39 เที่ยวต่างเมืองกับพี่ชายรอง

23/03/2023

40

บทที่ 40 เที่ยวต่างเมืองกับพี่ชายรอง 1

23/03/2023