Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
จอมเสเพลอย่างท่านอย่ามาเกี้ยวข้า!

จอมเสเพลอย่างท่านอย่ามาเกี้ยวข้า!

ซีไซต์

5.0
ความคิดเห็น
89.1K
ชม
117
บท

นางถูกคู่หมั้นโยนทิ้งให้ผู้อื่นโดยไม่ไยดีจนอับอาย เขายังประกาศก้องไม่เกี่ยวข้องกับนางอีก เหตใดยามนี้เขาจึงพยายามเข้ามาวุ่นวายกับนางนักไสหัวไปให้พ้นเจ้าคนเสเพลข้าไม่มีวันหลงกลสนใจเจ้าเป็นอันขาด! นิยายเรื่องนี้เป็นภาคต่อของนิยายเรื่อง สองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด สามารถอ่านแยกกันได้ค่ะ แต่ถ้าหากอยากเพิ่มความฟินและเข้าใจเนื้อหามากขึ้น ก็ให้ติดตามอ่านเรื่อง ช่วยข้าที สองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหดนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

บทที่ 1 แทนคุณ

กิ่งหลิวโบกโบยยามต้องลม ส่งเสียงหวีดหวิวคล้ายกับท่วงทำนองแห่งบทเพลงขับขาน คลอเคล้าเกี่ยวกระหวัดไปกับเสียงครางต่ำแผ่วไม่ขาดสาย

บทเพลงนี้คล้ายจะเป็นบทรักอันร้อนแรงของคู่สามีภรรยา คล้ายกับเป็นความฝันอันแสนหวานที่ทำให้คนไม่อยากตื่น แต่ทว่าความเป็นจริงนั้นบัดนี้มีสตรีผู้หนึ่งซึ่งกดข่มอารมณ์วาบหวามของตนเองเอาไว้

ในเรือนหลังใหญ่ภายในจวนของท่านหมอหลวงแห่งแคว้นซูอานที่ยิ่งใหญ่ บังเกิดม่านสีขาวกำลังสั่นสะเทือนกระเพื่อมไหว เสียงลมหายใจอันเร่าร้อนของคนทั้งสองทำให้แก้มของสตรีนางหนึ่งแดงระเรื่อ ลมหายใจเป่ารดเรือนกายของและกัน ช่างแนบชิดจนมิอาจคิดเป็นอื่นได้นอกจากพวกเขาคือคู่สามีภรรยาที่กำลังอยู่ในอารมณ์วาบหวาม

โฉมสะคราญนางหนึ่งกำลังแยกขาออกพร้อมกับกัดฟันข่มอารมณ์วาบหวามที่บังเกิดจนทนไม่ไหวต้องส่งเสียงครางแผ่วออกมาให้ตนเองอับอาย

ผู้รุกรานร่างอรชรคือบุรุษผู้หล่อเหลา ใบหน้าของเขางดงามราวอิสตรี ผิวขาวราวหยกล้ำค่า กรอบหน้าหวานแต่ทว่าคมคายยิ่ง ชวนให้คนที่ได้พบเห็นพลันต้องตกตะลึง

บุรุษผู้นี้กำลังสำรวจร่างกายของนางทั้งดูดกินอย่างตะกละตะกลาม ฟันของเขาขบเม้มผิวขาวผ่องจนเกิดรอยช้ำ ดูดชิมริมฝีปากนุ่มนิ่มของนางจนบวมเห่อ นางหลับตาพริ้มมือเรียวไล้ลูบเขาอย่างช้า ๆ พร้อมกับส่งถ่ายกระแสบางอย่างออกจากฝ่ามือเข้าสู่ร่างของเขา

"เจ้างดงามจนข้าไม่อาจห้ามใจได้"

บุรุษผู้นั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงคลั่งหวาน เขาลูบไล้ร่างกายของนางด้วยสายตา ในยามที่แสงจันทร์สาดสะท้อนส่องทาบทับจนเผยให้เห็นนวลพักตร์ชัดเจน ทำให้หัวใจของเขาถึงกับกระตุกด้วยหลงในเสน่ห์หานี้

ด้วยนางงดงามจนจันทราต้องอับแสง หากเดินตามท้องถนนคงมิมีผู้ใดกล้าจ้องมองตรง ๆ ด้วยกลัวว่าจะถูกความงามของนางล่อลวงเป็นแน่

เขาแยกขาของนางออกช้า ๆ ใบหน้าของนางบัดนี้กลับพร่าเลือนราวกับความฝัน ซึ่งเขารู้ดีว่าสิ่งนี้ย่อมไม่ใช่โลกแห่งความจริง เขาหลับตาพร้อมกับเสพสมความฝันอันแสนหวานเอาไว้ในใจ ดำดิ่งลงไปด้วยความหลงใหลและไม่อยากจะตื่น

ในยามที่เขาเข้าสู่กายของนาง ความรู้สึกคับแน่นจนแทบปริแตกนี้กลับเหมือนจริงเป็นอย่างยิ่ง และความสุขที่ได้ครอบครองทำให้เขาครางแหบโหยด้วยความพึงพอใจครั้งแล้วครั้งเล่า

ในขณะที่เขาคิดว่ามันเป็นเพียงความฝัน สตรีผู้หนึ่งกำลังขมวดคิ้วเก็บข่มความเจ็บปวดของตนเองเอาไว้ นับว่าไม่ได้รุนแรงนัก เพียงแต่ความรู้สึกเจ็บนี้ได้ทำลายความรู้สึกวาบหวามจนหมดสิ้น นางได้กลับเข้ามาสู่โลกความจริงเสียแล้ว

เขาเริ่มกระแทกนางอย่างบ้าคลั่ง แม้จะเจ็บปวดแต่ก็ไม่นับว่ามาก ความเจ็บปวดหรือ นางได้ผ่านมันมาหมดแล้ว ทั้งกายและใจ ในโลกนี้มิได้มีสิ่งใดที่ทำร้ายนางได้อีกต่อไป

กลิ่นสุราเข้มข้นยังคงลอยอวลในอากาศ เขาขยับสะโพกกระแทกนางไม่หยุดยั้ง คล้ายจะปลดปล่อยความต้องการและความป่าเถื่อนทั้งหมดของเขามาที่นาง กระทั่งเขาค่อย ๆ หยุด เมื่อได้ปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้นออกมาจนหมดสิ้น

นางรับรู้ได้ถึงตัวตนของเขาที่คับแน่นอยู่ในร่างกายของนาง และบัดนี้ยังรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดอันแสนสาหัสที่กำลังไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของนาง

เสียงของเขายังคงดังแผ่ว อยู่ข้างหู

"เจ้าดียิ่ง เจ้าดียิ่ง แม่นางหลิน"

นางแทบอยากจะผลักร่างของเขาออกแล้วดึงกระบี่ออกมาสับร่างนี้เป็นชิ้น ๆ แม้ในยามนี้เขาก็ยังเอ่ยชื่อนางผู้นั้น แม่นางหลินแห่งหอโคมเขียวอันเลื่องชื่อ

เขากำลังเห็นนางเป็นคู่ขานางโลมของเขาไปแล้ว

นางได้แต่ข่มความโกรธเอาไว้ แบกรับความรู้สึกเจ็บปวดและซึมซับพิษที่ไหลเวียนอยู่ภายในช้า ๆ นางยกมือโอบรอบร่างใหญ่โตของเขา ส่งผ่านลมปราณสายหนึ่งเข้าออกจากฝ่ามือแล้วผลักเข้าสู่ร่างของเขาแผ่วเบา

เมื่อทุกสิ่งเสร็จสิ้น นางคิดผลักเขาออก แต่คนที่เหมือนจะหลับแล้วกลับตื่นขึ้น พร้อมกับความคึกคะนองที่แข็งชันและเติมเต็มภายในร่างกายของนางด้วยเขายังไม่ถอนร่างกายออกมา

"ข้ายังไม่อิ่ม แม่นางขออีกสักรอบ"

จากนั้นเขาพลันจูบนาง ความชำนาญจนเกินต้านนี่คือสิ่งใด เมื่อสุดท้ายนางไม่อาจทนได้กลับอ้าปากรับจูบของเขาอย่างลืมตัว

บทเพลงรักเริ่มบรรเลงอีกครั้ง เมื่อยามนี้หาใช่เพราะจำใจต้องช่วยเขา แต่เป็นเพราะสติของนางได้ขาดวิ่นไปเรียบร้อย ด้วยความชำนาญในเชิงรักของคนผู้นี้

คนที่นางคล้ายจะรังเกียจแต่ก็ไม่อาจสลัดเขาจากใจไปได้แม้แต่น้อย เมื่อลิ้นของเขาค่อย ๆ ไต่ไล้ลงมาที่แอ่งชีพจรของนาง อาฉีก็ลืมตนไปโดยสิ้นแล้ว

ริมฝีปากของเขากำลังครอบครองถันของนาง เสียงตวัดลิ้นเลียปลายถันนั้นดังจนนางสะท้าน เขาค่อย ๆ ขยับสะโพกและบดเบียดร่างของนางช้า ๆ

"อื้ม ดียิ่ง แม่นางหลินของข้า"

สติของอาฉีกลับมาแล้ว ครานี้นางไม่ห่วงคนผู้นี้อีกต่อไป นางถีบเขาออกอย่างรวดเร็วในขณะที่เขายังคงมึนงงด้วยฤทธิ์ของยายังไม่ทันรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

อาฉีคว้ากระบี่ของตนที่วางอยู่ข้าง ๆ ตวัดผ้าผืนใหญ่มาคลุมกาย ชี้กระบี่ที่ยังไม่ได้ถอดออกจากฝักไปที่เขา

"แม่นางหลิน เหตุใดทำเช่นนี้ เจ้าถีบข้าทำไมหรือ"

อ้ายเจิงยังมึนงง แต่กลับรู้สึกเบาสบายตัวอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าจะถูกถีบจนตกเตียง แต่เขาก็สามารถบิดกายตนเองไม่ให้ร่างกายกระแทก อาฉีเห็นเขายังสบายดีเช่นนั้นพลันทนไม่ไหว

นางเงื้อมือขึ้นแล้วใช้กระบี่ฟาดที่ศีรษะของเขาอย่างแรง

"โอ๊ย"

เสียงร้องนั้นดังขึ้นพร้อมกับอาฉีที่เปิดประตูเรือนออกมา

ที่นอกเรือนท่านหมออ้ายเสิ่นเดินวนไปวนมาด้วยความหนักอก กระทั่งเห็นอาฉีจึงถามอย่างร้อนรน

"เป็นอย่างไรบ้าง เหตุใดนานนัก พ่อเป็นห่วงยิ่ง"

ท่านหมออ้ายเสิ่นกระแอม เมื่อรู้ตัวว่าตนเองกำลังถามถึงเรื่องที่ไม่ควร ในขณะที่อาฉียังคงมีสีหน้าเรียบเฉย คล้ายกับคนที่เพิ่งนอนอยู่บนเตียงกับบุตรชายของเขาไม่เกี่ยวข้องกับนางแม้แต่น้อย

"ท่านพ่อไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ คนเสเพลนั่นยังไม่ตาย"

อ้ายเสิ่นถอนหายใจอย่างโล่งอก

"อาฉีลำบากเจ้าแล้ว พวกเจ้ารีบพาคุณหนูไปแช่ยาที่ข้าให้เตรียมไว้ เร็วเข้าต้องรีบนำพิษออกจากร่างของคุณหนู"

"เจ้าค่ะ"

บ่าวรับใช้รีบกระวีกระวาดมารับใช้อาฉี ในขณะที่ท่านหมออ้ายเสิ่นเปิดประตูเข้าไปยังต้องร้องลั่น

"อาเจิง เกิดอะไรขึ้นไยหัวเจ้าแตกเช่นนี้ นี่เจ้าตกเตียงหรือ เกิดอะไรขึ้น"

อาฉียกมุมปากเอ่ยเสียงเย็น

"แค่หัวแตกยังน้อยไป"

อาฉีก้าวเท้าตามบ่าวรับใช้ไปไม่กี่ก้าว นางต้องเซถลาจนเกือบล้ม กระทั่งมีคนผู้หนึ่งรับร่างของนางเอาไว้ อาฉีตาโตรีบยอบตัวคารวะเขาเมื่อยืนได้มั่นคงแล้ว

"นายท่าน"

ลู่หนิงหวังมองอาฉีที่ห่มคลุมร่างของตนด้วยผ้าผืนโต ผมเผ้าของนางยุ่งเหยิง ปากบวมเจ่อและเป็นรอยแตกคงเพราะถูกกัดมาเป็นแน่ ตามลำคอเป็นรอยช้ำดูน่ากลัว แต่อาฉีก็ไม่ห่วงความงามของตนเองแม้แต่น้อย แม้จะมีแสงสว่างจากคบเพลิงไม่มากนักแต่เขาก็รู้ว่านางกำลังทนกับความเจ็บปวดจากพิษในร่างของนางเพียงใด เห็นสภาพนางแล้วลู่หนิงหวังพลันถอนหายใจ พิษร้ายที่อ้ายเจิงได้รับแรงยิ่ง จนทำให้เขาลืมตัวกับอาฉีได้เช่นนี้

"บุญคุณก็ทดแทนแล้วข้าคิดว่าเจ้ากับเขาไม่เกี่ยวข้องกันอีก แล้วใจของเจ้าเล่าคิดอย่างไร"

อาฉีเอ่ยราบเรียบ

"สุดแล้วแต่นายท่านจะบัญชา อาฉีไม่อาจคิดสิ่งใดได้เจ้าค่ะ เพียงแต่อาฉีขอร้องนายท่าน อย่าบอกเรื่องนี้กับเขา อย่าให้เขารู้เจ้าค่ะ"

ลู่หนิงหวังจึงเอ่ยว่า

"เขายกเจ้าให้ข้าแล้ว ข้าคือนายเหนือหัว จะบอกเขาหรือไม่ล้วนเป็นสิทธิ์ของข้า ผู้ใดเป็นบ่าวผู้ใดเป็นนายเจ้าอย่าได้ลืมตน"

อาฉีก้มหน้ารับคำเบา ๆ

"เจ้าค่ะ"

ซู่อ๋องลู่หนิงหวังก็เป็นเช่นนี้ แต่คำพูดของเขาอาฉีรู้ดีว่าเขาจะไม่มีวันยอมบอกอ้ายเจิงจนกว่านางจะยินยอม

"เจ้าไปเถิด ก่อนที่พิษจะกำเริบ รักษาร่างกายให้หายค่อยกลับมาทำงาน"

"เจ้าค่ะนายท่าน"

ลู่หนิงหวังเข้าไปในเรือนของอ้ายเจิงแล้ว อาฉีพ่นลมหายใจออกมา เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า อย่างที่ลู่หนิงหวังเอ่ยไว้ บุญคุณก็ทดแทนไปแล้ว นางกับเขาไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อจากนี้ไปนอกเหนือจากคำสั่งของนายท่าน อาฉีจะหลีกหนีให้ห่างจากคนผู้นั้น คนที่ทอดทิ้งนางให้อับอาย

อ้ายเจิงคนเลว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ซีไซต์

ข้อมูลเพิ่มเติม
เด็กร่านของเฮียเดช

เด็กร่านของเฮียเดช

โรแมนติก

5.0

สาเหตุที่เขาได้ดูแลเด็กคนนี้นั่นเป็นเพราะพ่อแม่ของเอยและพี่ชายของเอยเป็นเพื่อนสนิทของเขา ครอบครัวเอยจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่เอยอายุได้เพียงสิบขวบเท่านั้น ญาติของเอยก็ไม่มีใครเหลียวแลทำให้เขาซึ่งสนิทกับครอบครัวของเอยที่เห็นเอยมาตั้งแต่เล็ก ๆ เกิดความสงสารจึงได้ขอให้พ่อแม่ของเขารับเอยมาเลี้ยงดู และพ่อแม่ของเขาก็ตกลง หลังจากนั้นพ่อแม่ของเขาก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ จึงทิ้งให้เขาและเอยอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยตามลำพัง นับตั้งแต่นั้นเขาก็กลายเป็นพี่ชายของเอยเต็มตัว แต่วันนี้เมื่อเอยโตขึ้น เธอกลับไม่เห็นบุญคุณและคิดจะจากเขาไปง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่นับวันเขาจะรักเธอจนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้นและเฝ้ารอเธอเติบโตมานานขนาดนี้ ++++++ “อ๊า...เฮียอย่านะ อย่าทำหนู” สาวน้อยส่งเสียงครางเล็ดลอดออกมาเพราะความเสียวซ่าน และเอ่ยห้ามแต่น้ำเสียงของเธอคล้ายกระตุ้นเขายิ่งขึ้นไปอีก “เอยอยากใช่หรือเปล่า หนูก็ต้องการเฮียใช่ไหม” “ไม่...อย่านะเฮีย หนูไม่ได้ต้องการเฮีย เฮียเป็นพี่ชายหนูนะ” “ต่อไปเฮียจะเป็นผัวหนู แล้วจะเอาหนูแรง ๆ ให้หนูไปไหนไม่ได้ต้องร้องหาเฮียเท่านั้น” คำพูดของเขาทำให้เอยหวาดกลัว แต่ในความรู้สึกนี้กลับมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างประหลาด หญิงสาวผลักเขาออกเมื่อธนเดชดึงชุดนอนของเธอจนขาด แต่แรงของเขามีมากกว่าตอนนี้เธอจึงยืนเปลือยต่อหน้าเขา เอยยืนน้ำตาไหลพราก เมื่อเขาเห็นเขาจึงเหยียดยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ “ฉันเกลียดแก อื้อ อื้อ”

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

โรแมนติก

5.0

หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...

ข้าอยู่บน ท่านอ๋องอยู่ล่าง

ข้าอยู่บน ท่านอ๋องอยู่ล่าง

โรแมนติก

5.0

เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่

ต้องทำเช่นใดให้พวกท่านลุ่มหลง

ต้องทำเช่นใดให้พวกท่านลุ่มหลง

โรแมนติก

5.0

องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ

ท่านอาเจ้าขา...ข้าอยากเป็นภรรยาของท่าน

ท่านอาเจ้าขา...ข้าอยากเป็นภรรยาของท่าน

โรแมนติก

5.0

คำโปรย หลังจากบิดามารดาเสียชีวิต จูเมยได้ถูกท่านอาบุญธรรมรับเลี้ยง ท่านอาผู้เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและเมตตา ได้กลายเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งในชีวิตนาง หัวใจที่อ่อนโยนของจูเมยเริ่มเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้ท่านอา แต่ท่านอาคิดอย่างไรกับนางกันแน่? หรือว่าความรักนี้เป็นเพียงความรู้สึกที่นางมีอยู่เพียงฝ่ายเดียว? เมื่อหัวใจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน จูเมยกลับรู้สึกเจ็บปวดกับความรู้สึกนี้ "ท่านอา...อย่าดีต่อข้ามากนักได้หรือไม่" นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักจีนโบราณ มีดราม่าเล็กน้อยช่วงเริ่มต้น จบสุขนิยม ไม่มีนอกกายนอกใจ เป็นความรักฟิน ๆ ระหว่างท่านอาและหลานสาว(บุญธรรม)ตัวน้อยของตนเอง

นิยายเรื่องนี้ เป็นข้าที่เขียน!

นิยายเรื่องนี้ เป็นข้าที่เขียน!

โรแมนติก

5.0

เรื่องย่อ จื่อเม่ยเป็นนักเขียน และได้เข้าไปอยู่ในนิยายที่ตัวเขียนเขียนเอาไว้ในฐานะตัวประกอบในนิยายที่ออกมาเพียงสองตอนก็ตาย นางถูกตัวร้ายกักขังเอาไว้ในจวน เจื่อเม่ยรู้ว่าเขาต้องตายและจำทำให้นางตายไปด้วย นางจึงต้องหาวิธีหนีจากเขาเพื่อเอาตัวรอด! นิยายเรื่องนี้เป็นแบบสุขนิยมนะคะ พระเอกจะธงแดงในตอนแรก ๆ เพราะนางเป็นตัวร้ายตามเนื้อเรื่องนะคะ หลังจากนั้นก็รักเมียที่สุดในโลกค่ะ ไม่มีนอกกายนอกใจค่ะ แนะนำตัวละคร จื่อเม่ย นักเขียนที่ย้อนไปอยู่ในโลกนิยายในร่างของอนุจื่ออิน จื่ออิน อนุของตัวร้ายที่ออกมาแค่สองตอนก็ตาย และคนที่จื่อเม่ยมาใช้ร่างกาย ซีเฉิน / องค์ชายสี่ /ซีอ๋อง ตัวร้ายที่ต้องตายในตอนจบ ซีหลาน บุตรชายอายุ 5 ขวบของตัวร้าย รั่วหนิง พระชายาที่ซีเฉินไม่เคยเหลียวแล เหล่าหลง และ เหล่าอี้ องครักษ์ฝาแฝดของซีเฉิน ผู้จงรักภักดี ซีกุ้ยเฟย แม่ของซีเฉิน นางมีความแค้นที่ฝ่าบาทเคยทอดทิ้ง จึงคิดจะแก้แค้นทุกคนและสั่งสอนให้ซีเฉินบุตรชายชิงบัลลังก์ หยางโจวซือ / องค์ชายหก / หยางอ๋อง พระเอกของเรื่องที่จื่อเม่ยวางเอาไว้ในนิยาย

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

โรแมนติก

5.0

"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด “ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้” ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ

คุณหมอที่รัก NC18++

คุณหมอที่รัก NC18++

โรแมนติก

4.4

กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ

วิวาห์ฟ้าแลบ

วิวาห์ฟ้าแลบ

โรแมนติก

5.0

[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
จอมเสเพลอย่างท่านอย่ามาเกี้ยวข้า!
1

บทที่ 1 แทนคุณ

08/08/2023

2

บทที่ 2 ปฏิเสธ

08/08/2023

3

บทที่ 3 นำกำลังไปช่วยคน

08/08/2023

4

บทที่ 4 ตามหาคนรอด

08/08/2023

5

บทที่ 5 พี่ชายมาช่วย

08/08/2023

6

บทที่ 6 อาการป่วย

08/08/2023

7

บทที่ 7 ความเงียบทำให้รู้จักคน

08/08/2023

8

บทที่ 8 คำตัดสินของอ้ายเจิง

08/08/2023

9

บทที่ 9 อาฉีมาเป็นอันดับหนึ่ง

08/08/2023

10

บทที่ 10 เมื่อเติบใหญ่

08/08/2023

11

บทที่ 11 สองอ๋องที่น่ากลัว

08/08/2023

12

บทที่ 12 เข้าเมืองหลวง

08/08/2023

13

บทที่ 13 การต้อนรับของแคว้นซูอาน

08/08/2023

14

บทที่ 14 เมื่อได้พบเขา

08/08/2023

15

บทที่ 15 ความฝันของอาฉี

08/08/2023

16

บทที่ 16 พบฝ่าบาท

08/08/2023

17

บทที่ 17 องค์หญิงเจวียหยี

08/08/2023

18

บทที่ 18 เข้าข้างอาฉี

08/08/2023

19

บทที่ 19 พากลับจวน

08/08/2023

20

บทที่ 20 อาหารช่วยอาฉีได้

08/08/2023

21

บทที่ 21 จะนอนกับพี่ชาย

08/08/2023

22

บทที่ 22 เด็กดื้อ

08/08/2023

23

บทที่ 23 ซูบผอม

08/08/2023

24

บทที่ 24 อย่าบอกผู้ใด

08/08/2023

25

บทที่ 25 เจ็บป่วย

08/08/2023

26

บทที่ 26 รับสาวงามเข้าจวน

08/08/2023

27

บทที่ 27 รับพระบัญชา

08/08/2023

28

บทที่ 28 ที่ปรึกษาที่น่ากลัว

08/08/2023

29

บทที่ 29 ในที่สุดแล้ว

08/08/2023

30

บทที่ 30 ของขวัญจากท่านอ๋อง

08/08/2023

31

บทที่ 31 ตัดขาด

08/08/2023

32

บทที่ 32 แผนของอ้ายเจิง

08/08/2023

33

บทที่ 33 สามีกับภรรยา

08/08/2023

34

บทที่ 34 น้องสาวผู้เหี้ยมโหด

08/08/2023

35

บทที่ 35 เติบใหญ่

08/08/2023

36

บทที่ 36 เข้าใกล้ความตาย

08/08/2023

37

บทที่ 37 ไล่พวกนางออกไป

08/08/2023

38

บทที่ 38 แล้วแต่บุญวาสนา

08/08/2023

39

บทที่ 39 ข้าจะช่วยเขาเองเจ้าค่ะ

08/08/2023

40

บทที่ 40 ไร้สติ

08/08/2023