Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ให้ตายข้าก็ (ไม่) แต่งกับท่าน

ให้ตายข้าก็ (ไม่) แต่งกับท่าน

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
1.9K
ชม
11
บท

จางเวยหรงได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับการแข่งขันเป็นพระชายาเอกของฮ่องซือหยาง เพราะเห็นมารดาเจ็บปวดเรื่องอนุมาตลอดชีวิต นางจึงตั้งใจแล้วว่าชาตินี้จะไม่ออกเรือน หากเรื่องมากก็จะออกบวชเสีย เมื่อได้รับการคัดเลือกนางก็ต้องทำทุกวิธีทางให้ตัวเองถูกคัดออก แต่ทำไมยิ่งทำก็ยิ่งชนะ นางไม่เข้าใจ

บทที่ 1 พบเจอกัน

รถม้าสกุลจางของเสนาบดีฝ่ายซ้ายจอดเทียบอยู่หน้าประตูวัง กำแพงสีแดงตรงหน้าทำให้ “จางเวยหรง” บุตรีคนโตของเสนาบดีจางจงฉีที่อายุเพียงแปดขวบ รู้สึกตื่นเต้นกับการเข้าวังครั้งแรก

“อย่าลืมรักษามารยาท” ฮูหยินม่าน ผู้เป็นมารดาเอ่ยตักเตือนบุตรี ทำให้เวยหรงที่ยิ้มปากกว้างรีบหุบปาก แล้วทำตัวเรียบร้อยด้วยเพราะกลัวจะไม่ได้เข้าวังแม้ว่าจะอยู่ตรงหน้าประตูแล้วก็ตาม

ผู้เป็นมารดาสำรวจเสื้อผ้าผู้เป็นสามี แล้วหันมาจัดเสื้อผ้าให้บุตรีก่อนจะลงจากรถม้า “วันนี้เป็นวันเฉลิมฉลองวันครบรอบวันประสูติไทเฮา ขุนนางและฮูหยินมีตำแหน่งมากมายล้วนเข้าวัง เจ้าต้องรักษามารยาทให้ดี ติดตามแม่อย่าให้ห่าง เข้าใจหรือไม่อาเวย”

“เจ้าค่ะ ท่านแม่” เพราะความอยากเข้าไปดูในวังมาหลายวัน จึงทำให้เด็กน้อยที่แสนซุกซน และไม่ชอบความระเบียบวินัยกลับรับคำอย่างง่ายดาย จนคนเป็นแม่อดค้อนใส่เสียไม่ได้ สายตาก็เหมือนคาดโทษเอาไว้หากนางคิดทำผิดคำพูด

เด็กน้อยเดินตามบิดามารดาเข้าไปด้านในวัง เดินผ่านอุทยานไปจนถึงท้องพระโรงขนาดใหญ่ มารดาของนางก็ขอแยกตัวไปเข้าเฝ้าไทเฮาอีกตำหนักหนึ่ง

เวยหรงเดินตามผู้เป็นมารดาจนเหนื่อย เพราะวังหลวงไม่ได้มีแค่ตำหนักสองตำหนัก กว่าจะถึงตำหนักของไทเฮาก็เล่นเอาขาสั้นๆ ของนางแทบทรุดลงพื้น

แต่... เพราะกลัวเสียมารยาท นางก็เลยยืนขาแข็ง แล้วรีบตามมารดาไปคำนับถวายพระพรไทเฮา ยามที่เงยหน้าขึ้นมองไทเฮานั้นนางก็ประหลาดใจ ด้วยพระพักตร์นั้นยังงดงาม ได้ยินมาว่าปีนี้ไทเฮามีอายุสี่สิบพรรษา

มีฮ่องเต้ที่อายุยี่สิบห้าพรรษา และฮ่องเต้ก็มีบุตรชายทั้งหมดแปดคน บุตรีอีกสามคน คนโตตอนนี้อายุเพียงสิบขวบซึ่งจะได้เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์คนต่อไป มีนามว่า “อ๋องซือหยาง” เพียงแต่ได้ยินมาว่าตั้งแต่เล็กจนโตนั้นกลับมีร่างกายที่อ่อนแอ และขี้โรค จึงทำให้ขุนนางคิดจะเปลี่ยนกฎอยู่บ่อยครั้ง หากแต่เพราะมีบิดาของนางคอยขัดขวาง จึงทำให้ขุนนางท่านอื่นไม่กล้าเหิมเกริมมาก เพราะเป็นเช่นนี้ฮ่องเต้จึงเกรงใจบิดาของนางถึงสามส่วน มีสิ่งใดก็เรียกหา และปรึกษา

นางจึงไม่ค่อยได้เจอบิดาบ่อยนัก ทุกวันก็อยู่กับมารดาเพียงสองคน ดังนั้น หากให้นางกลัวระหว่างคำสั่งมารดากับคำสั่งบิดา นางก็จะตอบว่านางกลัวอย่างหลัง

ดังนั้น ในตอนนี้บิดานางไม่ได้สั่งว่าให้อยู่นิ่งๆ ร่างเล็กก็เลยอาศัยตอนที่มารดากำลังคุยกับไทเฮาถูกคอนั้นคืบคลานแอบออกไปทีละนิด ก่อนจะหลุดพ้นจากกลุ่มคนพวกนั้น เท้าน้อยเดินไปด้านในตำหนัก เพราะเคยได้ยินว่าอุทยานของไทเฮานั้นสวยงามราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์แม้แต่ชั้นเซียนก็เทียบไม่ได้ ในเมื่อเข้าวังมาแล้ว นางก็ต้องขอเห็นด้วยตา

เท้าน้อยวิ่งมาจนถึงอุทยานด้านหลังก็พบกับน้ำตกขนาดใหญ่ มีสระน้ำที่เต็มไปด้วยดอกบัวสีชมพูเต็มสระ ปลาตัวใหญ่กำลังแหวกว่ายไปมา อีกทั้งดอกไม้พืชพรรณต่างๆ ก็ล้วนออกดอกบานสะพรั่ง นางคิดว่าอุทยานด้านนอกงามแล้ว มาเจอด้านหลังของตำหนักเรียกได้ว่าเทียบไม่ติด

เด็กน้อยรีบวิ่งไปดูดอกไม้แปลกตา ไม่ว่าจะดอกไม้สีเหลืองขนาดใหญ่เท่าศีรษะนาง หรือจะดอกไม้สีม่วงที่ห้อยเป็นพวงขนาดใหญ่ ดอกไม้ที่มีลักษณะเหมือนนก วิ่งเล่นดูจนถึงริมสระ พอเหนื่อยก็คิดจะนั่งพักเสียหน่อย

แต่ไม่ทันได้แตะพื้นก็มีเสียง

ตู้ม!! นางหันมองไปทางสระบัว ก็พบว่ามีคนตกน้ำ ด้วยความตกใจนางก็รีบวิ่งออกจากศาลาไปที่ริมสระบัวแล้วกระโดดลงไปทันที

นางลืมเรื่องรักษามารยาท นางลืมเรื่องที่รับปากท่านแม่เอาไว้ ด้วยเพราะนางไม่อาจปล่อยให้คนจมน้ำต่อหน้าได้

ร่างเล็กแหวกว่ายเข้าไปจนถึงตัว ก็พบว่าคนที่กำลังจมน้ำนั้นเป็นเด็กชาย ร่างกายนั้นผอมบาง และดูเหมือนตัวเล็กกว่านางเสียอีก

“ช่วยด้วย มีคนตกน้ำ” เสียงด้านบนบกดังขึ้น เหมือนมีนางกำนัลมาพบแล้ว จากนั้นก็มีความวุ่นวายเกิดขึ้น

เวยหรงไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้นางถึงตัวเด็กชายตัวเล็กคนนั้นแล้ว มือนางรีบคว้าแขนเขาเอาไว้ แต่เพราะความกลัวทำให้เด็กชายกระชากนางลงไปด้านล่าง

“อาเวย” นั่นเป็นเสียงมารดานาง น้ำเสียงตกใจ และกระวนกระวายนั้นบอกว่านางต้องโดนลงโทษแน่นอน

แต่ตอนนี้นางต้องเอาตัวเองให้รอดเสียก่อน เวยหรงไม่ได้ยินเสียงคนกระโดดลงน้ำมาเพิ่ม เพราะตอนนี้นางกำลังกอดคอ ไม่สิ ลากคอคนที่จะกดนางลงน้ำไปใกล้ฝั่งให้มากที่สุด

โชคดีที่มีทหารวังมาช่วยรับไม้ต่อ นางก็ว่ายเข้าฝั่งแล้วขึ้นไปนั่งหอบอยู่บนบก มองทุกคนที่กำลังรุมเด็กชายคนนั้นอยู่ แล้วก็มีเสียงหนึ่งเรียกชื่อเขา

“ซือหยางหลานย่า ใครก็ได้รีบไปตามหมอหลวงที”

ที่แท้คนที่นางช่วยก็คืออ๋องซือหยาง บุรุษที่เขาร่ำลือกัน ตอนแรกนางก็ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้จนได้มาเห็นด้วยตา เด็กชายตรงหน้าอายุมากกว่านางสองปี แต่ร่างกายกลับเล็กกว่าด้วยซ้ำ

ในระหว่างคนที่กำลังวุ่นวายนั้น เด็กชายก็ได้สติ ดวงตาหรี่เล็กหันมองเด็กหญิงที่กำลังนั่งสั่นเทา มีมารดาโอบกอด และร้องไห้ไม่หยุดอยู่ข้างกาย

เวยหรงไม่ได้สนใจมารดา แต่หันมองเขาแล้วพูดว่า

“ข้าเสี่ยงช่วยชีวิตท่านเอาไว้ ดังนั้นท่านจะต้องมีชีวิตต่อให้ยืนยาวเพื่อตอบแทนข้า”

นั่นถึงจะคุ้มกับการช่วยเขาในครั้งนี้ ส่วนต่อจากนั้นเรื่องราวเป็นอย่างไรนางก็ไม่เคยคิดจะสนใจอีก...

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม
ย้อนเวลามาพร้อมกับมิติของอนาคต

ย้อนเวลามาพร้อมกับมิติของอนาคต

โรแมนติก

5.0

หนิงอวี่ นักวิทยาศาสตร์สาวคนเก่ง ที่ต้องการทดลองเกี่ยวกับการข้ามมิติจากปัจจุบันสู่อดีต ซึ่งเธอนั้นได้ทำการทดลองเรื่องนี้มาร่วมสองปีแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่งมีของตกจากฟ้ากลายเป็นกำไลหยกสีเขียวประกาย เธอจึงเข้าไปทดลองข้ามมิติเป็นครั้งสุดท้าย หากไม่ได้ก็จะล้มเลิกการทดลองนี้ แต่ใครจะคิดว่ามันจะนำพาเธอไปยังห้วงมิติแห่งหนึ่ง ข้ามไปแล้วเธอยังสามารถเอาของที่อยู่ในห้องทดลองออกมาได้ งานนี้ทั้งขนมขบเคี้ยว ข้าวสาร ปลากระป๋องสำเร็จรูปก็ข้ามมิติทำให้เธอไม่อดตายอีกแล้ว *************************** "ถ้าคุณหนูยอมกินข้าวจนหมด บ่าวจะนำเอาลูกอม รสนมให้ด้วยเจ้าค่ะ" "ลูกอมรสนมคือสิ่งใด?" "ขนมอย่างหนึ่งที่ทำมาจากน้ำตาลกวนกับนม ทั้งอมและเคี้ยวได้ หนุบหนับ รสชาติหวานและมีกลิ่นหอม รสชาติเป็นเลิศอย่างมากเจ้าค่ะ" หนิงอวี่บรรยายจนลี่ซือน้ำลายสอในปาก ถึงแม้ว่าจะเอาแต่ใจแค่ไหนแต่ก็ยังเป็นเด็กน้อยอายุเพียงห้าขวบอยู่ดี ******************* นิยายสนุกอบอุ่นหัวใจ กับของวิเศษไม่จำกัดแบบฟิน...

หย่าทวงแค้น

หย่าทวงแค้น

โรแมนติก

5.0

ความเจ็บช้ำกว่าการ “หย่า” ยังมีอะไรอีก นอกจากถูกคนที่รักหลอกไป “ฆ่า” ให้ตายทั้งเป็น **************** โง่แล้วยังทำเหมือนเดิม เขาเรียกว่าโง่ไร้สติ โง่แล้วกลายเป็นความแค้น เขาถึงเรียกว่าฉลาด มาดูกันว่าการกลับมาของเธอในครั้งนี้ จะทำให้เขาจดจำเธอในรูปแบบไหน ภรรยาที่ดี หรือ ภรรยาที่ตอบแทนอย่างสาสม!! ************************* รมินตามองไปยังรูปภาพแต่งงานบนฝาผนัง ภาพที่มีรอยยิ้มและ แววตาความรักนั้น เหตุใดวันนี้ถึงได้เศร้านักก็ไม่เข้าใจ เธอนั่งรอเขาราวครึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงรถที่ขับมาอย่างรวดเร็ว และเสียงเบรกกะทันหันทำให้เธอเดินไปที่หน้าต่างแล้วชะโงกมอง เมื่อเห็นว่าเป็นธาวินผู้เป็นสามีเธอก็รีบลงจากชั้นสอง “ทำไมขับรถเร็วขนาดนั้นคะ ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำยังไง” “นี่คุณแช่งผมให้ตายเหรอ” คิ้วรมินตาขมวด “ตาไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่ตาเป็นห่วงคุณต่างหาก” “คุณห่วงชีวิตคุณเองจะดีกว่า ว่าคืนนี้คุณจะนอนไหน” แววตาคนเป็นภรรยาไม่แน่ใจว่าได้ยินผิดหรือเปล่า จึงถามเขาย้ำอีกครั้ง “คุณว่าอะไรนะคะ ตาไม่เข้าใจ” “โธ่เว้ย ทำไมถึงโง่ขนาดนี้ ผมกำลังขอหย่ากับคุณยังไงเล่า” ไม่พูดเปล่า อีกฝ่ายยังยกนิ้วขึ้นชี้หน้าผากเธอ จนเธอที่ตั้งสติไม่ได้เซถอยหลังจนล้มลง “รีบเซ็นใบหย่าแล้วออกไปจากบ้านของฉัน” “คุณหมายความว่ายังไง” “ก็หมายความว่าบ้านหลังนี้ หุ้นที่บริษัท โรงแรม ล้วนเป็นของผมหมดแล้ว ดังนั้นคุณก็หมดความหมาย รีบไสหัวไปซะ ก่อนที่ผมจะแจ้งข้อหาบุกรุกกับคุณ” “คุณ คุณทำกับตาแบบนี้ได้ยังไงกัน”

เดือนแสนจันทร์

เดือนแสนจันทร์

โรแมนติก

5.0

แสนจันทร์เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงลูกสองขวบเพียงลำพัง เป็นเพราะเศรษฐกิจกำลังพัง เธอจึงถูกไล่ออกจากงาน จึงคิดหมายหาอาชีพใหม่ที่เธอสามารถเลี้ยงลูกได้ สุดท้ายเธอก็พบว่า อาชีพนักเขียน เป็นอาชีพที่ดี เธอจึงตั้งใจเขียนนิยายเรื่องแรกด้วยความตั้งใจ หนทางหาเลี้ยงครอบครัวดูเหมือนจะได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อนิยายของเธอได้รับคำชมจากคนอ่านมากมาย แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ถูกนักเขียนรุ่นใหญ่กล่าวหาว่า ลอกเลียนแบบนิยายของเธอ มีคนมารุมด่าประจานเธอมากมาย หากแต่เธอเพียงพยายามถามถึงหลักฐาน แต่อีกฝ่ายก็เอาทนายมาขู่อย่างเดียวแต่ไม่ส่งอะไรมาให้เลย จนสุดท้ายแล้วเธอก็ต้องยอมรับผิดเพียงเพราะไม่มีเงิน ทั้งที่เธอไม่เคยอ่านนิยายของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ ผิดที่ตัวเธอไม่มีแรงสู้ ผิดที่ตัวเธอไม่มีเงินพอที่จะปกป้องอาชีพที่เธอเริ่มรักมัน ผิดที่เธอทำให้คนข้างตัวต้องผิดหวัง สายตามองไปยังคานไม้บนบ้าน มองไปยังค่าบ้านที่ค้างมาสามเดือน จึงมองหาเชือกมาผูกไว้ข้างบนคิดหมายจะฆ่าตัวตาย สองเท้าก้าวขึ้นเก้าอี้ไม้กลม เหยียบขึ้นไปด้วยหัวใจที่แตกสลาย สองมือจับเชือกแล้วคิดจะฆ่าตัวตาย จังหวะที่เชือกกำลังรัดคอนั้น เสียงลูกสาวตัวน้อยก็ร้องดังขึ้นมา เธอที่กำลังจะตายเห็นแบบนั้น น้ำตาก็ร่วงหล่นลงแก้มอาบหน้า ใช้เท้าผละเก้าอี้ล้มเสียงดัง เสียงเด็กน้อยร้องไห้ดังจนคนด้านนอกได้ยิน จังหวะที่เธอคิดจะตายนั้น จู่ ๆ ก็มีผู้ชายใส่สูทคนหนึ่งถีบประตูเข้ามา จากนั้นก็ช่วยเธอหลุดพ้นจากความตาย.... และเขาก็คือแสงสว่างของเธอ ทนายหนุ่มข้างบ้านที่จะเข้ามาช่วยให้ สองคนแม่ลูกพบเจอแต่สิ่งที่สวยงาม

ผมทำอาหารอร่อยนะไม่กินจริงๆ เหรอ ยุค 70

ผมทำอาหารอร่อยนะไม่กินจริงๆ เหรอ ยุค 70

โรแมนติก

5.0

หรูเจี่ยเป็นเพียงนักร้องกลางคืนในยุค 70 ช่วงที่ญี่ปุ่นเริ่มเข้ามายึดครองเซี่ยงไฮ้ ในระหว่างที่เธอต้องพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดจากการขายให้นายพลญี่ปุ่น หรูเจี่ยก็หันไปมองตรงข้ามห้องชั้นสอง ได้กลิ่นซาลาเปาร้อนๆ หอมลอยแตะจมูก พลันเธอก็คิดได้ว่าต้องทำยังไง จึงจำต้องทำเป็นป่วยไม่ยอมกินอะไร เพื่อที่จะให้เถ้าแก่ร้านอ้วนพีที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามมาส่งอาหารให้เธอ แต่เพราะแผนการเลยทำให้เธอกินได้เพียงสองคำ ทั้งที่ท้องของเธอเรียกร้องอาหารอร่อยนั้นแทบขาดใจ เธอจะสามารถหนีพ้นชะตากรรมนี้ได้ไหม แล้วบุรุษอ้วนพีจะช่วยเธอได้หรือเปล่ามาลุ้นกัน

สืบแค้นบัลลังก์เลือด

สืบแค้นบัลลังก์เลือด

โรแมนติก

5.0

เพราะพี่สาวของนางต้องตายอย่างปริศนา ทำให้เหมยลู่อิงต้องเข้าวังเพื่อสืบหาความจริง แต่ภายใต้อันตรายนั้นกลับพบว่าในวังหลวงนั้นอันตรายไม่แพ้กัน มีคลื่นลมแห่งความแค้นพร้อมแย่งชิงบัลลังก์เลือดนั้น ไม่สนว่าต้องพรากวิญญาณผู้ใด นางจะเอาตัวรอดได้หรือไม่ ในเมื่อมังกรที่ยิ่งใหญ่ในวังหลวงนั้นไม่ได้หลอกง่ายอย่างที่คิด เหมือนเขาจะว่างงาน เพราะผ่านไปแค่สามวัน “...” เหมยลู่อิงมองข้าวของที่กองอยู่ตรงหน้า คนผู้นี้ต้องการอะไรกันแน่ จะแกล้งนางไม่เลิกเลยหรือไง ส่งของบรรณาการผ้าแพรสวยงามมาให้นาง แล้วจะให้นางใช้เล่ห์กลอะไรปฏิเสธได้อีก สรุปจะให้นางถูกรุมตายแน่ๆ สตรีทั้งหลายต่างมองตาเป็นมัน ความประหลาดของฝ่าบาทนี้ทุกคนเริ่มชิน ไม่เคยเรียกนางเข้าเฝ้า แต่ก็ขยันส่งของมาให้ คราก่อนเป็นรังนก นางก็เอาถวายเจ้าแม่กวนอิม มาครานี้ถึงกับส่งเสื้อสตรีมา คงคิดว่านางเอาไปถวายไม่ได้น่ะสิ ฉินกงกงพูดแล้วก็ยิ้ม เมื่อเห็นสีหน้ากลืนไม่ได้เข้าคายไม่ออกของนาง “คืนพรุ่งนี้ฮองเฮาจะมีงานเลี้ยงน้ำชาเหล่าสนมนางใน ฝ่าบาทจะเสด็จด้วย จึงพระราชทานชุดบรรณาการให้ตาอิ้งโดยเฉพาะ” ไม่ต้องย้ำคำว่าโดยเฉพาะก็ได้ คืนพรุ่งนี้มีงานเลี้ยงเลยมีความประสงค์จะให้นางสวมชุดบรรณาการ ไม่ส่งมีดมาเลยล่ะ กะว่าจะให้นางโดนรุมในวัง นางไปทำเวรทำกรรมอะไรกับฮ่องเต้คนนี้นะเนี่ย จะบ้าตาย

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

โรแมนติก

3.5

จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

โรแมนติก

5.0

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

โรแมนติก

5.0

“คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?” ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ