ให้ตายข้าก็ (ไม่) แต่งกับท่าน

ให้ตายข้าก็ (ไม่) แต่งกับท่าน

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
2.5K
ชม
11
บท

จางเวยหรงได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับการแข่งขันเป็นพระชายาเอกของฮ่องซือหยาง เพราะเห็นมารดาเจ็บปวดเรื่องอนุมาตลอดชีวิต นางจึงตั้งใจแล้วว่าชาตินี้จะไม่ออกเรือน หากเรื่องมากก็จะออกบวชเสีย เมื่อได้รับการคัดเลือกนางก็ต้องทำทุกวิธีทางให้ตัวเองถูกคัดออก แต่ทำไมยิ่งทำก็ยิ่งชนะ นางไม่เข้าใจ

บทที่ 1 พบเจอกัน

รถม้าสกุลจางของเสนาบดีฝ่ายซ้ายจอดเทียบอยู่หน้าประตูวัง กำแพงสีแดงตรงหน้าทำให้ “จางเวยหรง” บุตรีคนโตของเสนาบดีจางจงฉีที่อายุเพียงแปดขวบ รู้สึกตื่นเต้นกับการเข้าวังครั้งแรก

“อย่าลืมรักษามารยาท” ฮูหยินม่าน ผู้เป็นมารดาเอ่ยตักเตือนบุตรี ทำให้เวยหรงที่ยิ้มปากกว้างรีบหุบปาก แล้วทำตัวเรียบร้อยด้วยเพราะกลัวจะไม่ได้เข้าวังแม้ว่าจะอยู่ตรงหน้าประตูแล้วก็ตาม

ผู้เป็นมารดาสำรวจเสื้อผ้าผู้เป็นสามี แล้วหันมาจัดเสื้อผ้าให้บุตรีก่อนจะลงจากรถม้า “วันนี้เป็นวันเฉลิมฉลองวันครบรอบวันประสูติไทเฮา ขุนนางและฮูหยินมีตำแหน่งมากมายล้วนเข้าวัง เจ้าต้องรักษามารยาทให้ดี ติดตามแม่อย่าให้ห่าง เข้าใจหรือไม่อาเวย”

“เจ้าค่ะ ท่านแม่” เพราะความอยากเข้าไปดูในวังมาหลายวัน จึงทำให้เด็กน้อยที่แสนซุกซน และไม่ชอบความระเบียบวินัยกลับรับคำอย่างง่ายดาย จนคนเป็นแม่อดค้อนใส่เสียไม่ได้ สายตาก็เหมือนคาดโทษเอาไว้หากนางคิดทำผิดคำพูด

เด็กน้อยเดินตามบิดามารดาเข้าไปด้านในวัง เดินผ่านอุทยานไปจนถึงท้องพระโรงขนาดใหญ่ มารดาของนางก็ขอแยกตัวไปเข้าเฝ้าไทเฮาอีกตำหนักหนึ่ง

เวยหรงเดินตามผู้เป็นมารดาจนเหนื่อย เพราะวังหลวงไม่ได้มีแค่ตำหนักสองตำหนัก กว่าจะถึงตำหนักของไทเฮาก็เล่นเอาขาสั้นๆ ของนางแทบทรุดลงพื้น

แต่... เพราะกลัวเสียมารยาท นางก็เลยยืนขาแข็ง แล้วรีบตามมารดาไปคำนับถวายพระพรไทเฮา ยามที่เงยหน้าขึ้นมองไทเฮานั้นนางก็ประหลาดใจ ด้วยพระพักตร์นั้นยังงดงาม ได้ยินมาว่าปีนี้ไทเฮามีอายุสี่สิบพรรษา

มีฮ่องเต้ที่อายุยี่สิบห้าพรรษา และฮ่องเต้ก็มีบุตรชายทั้งหมดแปดคน บุตรีอีกสามคน คนโตตอนนี้อายุเพียงสิบขวบซึ่งจะได้เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์คนต่อไป มีนามว่า “อ๋องซือหยาง” เพียงแต่ได้ยินมาว่าตั้งแต่เล็กจนโตนั้นกลับมีร่างกายที่อ่อนแอ และขี้โรค จึงทำให้ขุนนางคิดจะเปลี่ยนกฎอยู่บ่อยครั้ง หากแต่เพราะมีบิดาของนางคอยขัดขวาง จึงทำให้ขุนนางท่านอื่นไม่กล้าเหิมเกริมมาก เพราะเป็นเช่นนี้ฮ่องเต้จึงเกรงใจบิดาของนางถึงสามส่วน มีสิ่งใดก็เรียกหา และปรึกษา

นางจึงไม่ค่อยได้เจอบิดาบ่อยนัก ทุกวันก็อยู่กับมารดาเพียงสองคน ดังนั้น หากให้นางกลัวระหว่างคำสั่งมารดากับคำสั่งบิดา นางก็จะตอบว่านางกลัวอย่างหลัง

ดังนั้น ในตอนนี้บิดานางไม่ได้สั่งว่าให้อยู่นิ่งๆ ร่างเล็กก็เลยอาศัยตอนที่มารดากำลังคุยกับไทเฮาถูกคอนั้นคืบคลานแอบออกไปทีละนิด ก่อนจะหลุดพ้นจากกลุ่มคนพวกนั้น เท้าน้อยเดินไปด้านในตำหนัก เพราะเคยได้ยินว่าอุทยานของไทเฮานั้นสวยงามราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์แม้แต่ชั้นเซียนก็เทียบไม่ได้ ในเมื่อเข้าวังมาแล้ว นางก็ต้องขอเห็นด้วยตา

เท้าน้อยวิ่งมาจนถึงอุทยานด้านหลังก็พบกับน้ำตกขนาดใหญ่ มีสระน้ำที่เต็มไปด้วยดอกบัวสีชมพูเต็มสระ ปลาตัวใหญ่กำลังแหวกว่ายไปมา อีกทั้งดอกไม้พืชพรรณต่างๆ ก็ล้วนออกดอกบานสะพรั่ง นางคิดว่าอุทยานด้านนอกงามแล้ว มาเจอด้านหลังของตำหนักเรียกได้ว่าเทียบไม่ติด

เด็กน้อยรีบวิ่งไปดูดอกไม้แปลกตา ไม่ว่าจะดอกไม้สีเหลืองขนาดใหญ่เท่าศีรษะนาง หรือจะดอกไม้สีม่วงที่ห้อยเป็นพวงขนาดใหญ่ ดอกไม้ที่มีลักษณะเหมือนนก วิ่งเล่นดูจนถึงริมสระ พอเหนื่อยก็คิดจะนั่งพักเสียหน่อย

แต่ไม่ทันได้แตะพื้นก็มีเสียง

ตู้ม!! นางหันมองไปทางสระบัว ก็พบว่ามีคนตกน้ำ ด้วยความตกใจนางก็รีบวิ่งออกจากศาลาไปที่ริมสระบัวแล้วกระโดดลงไปทันที

นางลืมเรื่องรักษามารยาท นางลืมเรื่องที่รับปากท่านแม่เอาไว้ ด้วยเพราะนางไม่อาจปล่อยให้คนจมน้ำต่อหน้าได้

ร่างเล็กแหวกว่ายเข้าไปจนถึงตัว ก็พบว่าคนที่กำลังจมน้ำนั้นเป็นเด็กชาย ร่างกายนั้นผอมบาง และดูเหมือนตัวเล็กกว่านางเสียอีก

“ช่วยด้วย มีคนตกน้ำ” เสียงด้านบนบกดังขึ้น เหมือนมีนางกำนัลมาพบแล้ว จากนั้นก็มีความวุ่นวายเกิดขึ้น

เวยหรงไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้นางถึงตัวเด็กชายตัวเล็กคนนั้นแล้ว มือนางรีบคว้าแขนเขาเอาไว้ แต่เพราะความกลัวทำให้เด็กชายกระชากนางลงไปด้านล่าง

“อาเวย” นั่นเป็นเสียงมารดานาง น้ำเสียงตกใจ และกระวนกระวายนั้นบอกว่านางต้องโดนลงโทษแน่นอน

แต่ตอนนี้นางต้องเอาตัวเองให้รอดเสียก่อน เวยหรงไม่ได้ยินเสียงคนกระโดดลงน้ำมาเพิ่ม เพราะตอนนี้นางกำลังกอดคอ ไม่สิ ลากคอคนที่จะกดนางลงน้ำไปใกล้ฝั่งให้มากที่สุด

โชคดีที่มีทหารวังมาช่วยรับไม้ต่อ นางก็ว่ายเข้าฝั่งแล้วขึ้นไปนั่งหอบอยู่บนบก มองทุกคนที่กำลังรุมเด็กชายคนนั้นอยู่ แล้วก็มีเสียงหนึ่งเรียกชื่อเขา

“ซือหยางหลานย่า ใครก็ได้รีบไปตามหมอหลวงที”

ที่แท้คนที่นางช่วยก็คืออ๋องซือหยาง บุรุษที่เขาร่ำลือกัน ตอนแรกนางก็ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้จนได้มาเห็นด้วยตา เด็กชายตรงหน้าอายุมากกว่านางสองปี แต่ร่างกายกลับเล็กกว่าด้วยซ้ำ

ในระหว่างคนที่กำลังวุ่นวายนั้น เด็กชายก็ได้สติ ดวงตาหรี่เล็กหันมองเด็กหญิงที่กำลังนั่งสั่นเทา มีมารดาโอบกอด และร้องไห้ไม่หยุดอยู่ข้างกาย

เวยหรงไม่ได้สนใจมารดา แต่หันมองเขาแล้วพูดว่า

“ข้าเสี่ยงช่วยชีวิตท่านเอาไว้ ดังนั้นท่านจะต้องมีชีวิตต่อให้ยืนยาวเพื่อตอบแทนข้า”

นั่นถึงจะคุ้มกับการช่วยเขาในครั้งนี้ ส่วนต่อจากนั้นเรื่องราวเป็นอย่างไรนางก็ไม่เคยคิดจะสนใจอีก...

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.4

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

Crimson Syntax
5.0

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"

สวนฟาร์มมหัศจรรย์ยุค80

สวนฟาร์มมหัศจรรย์ยุค80

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ