Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ข้าอยู่ในสุสานบรรพชน

ข้าอยู่ในสุสานบรรพชน

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
4.5K
ชม
29
บท

ข้าอยู่ในสุสานบรรพชน ไล่ข้าแล้วยังไง ใช่ว่าข้าไม่มีวิชา ในเมื่อเป็นคนยุคใหม่ ข้าจะร่ำรวยด้วยมือของตัวเอง มีลูกแต่ไม่เคยลิ้มรสรักแล้วยังไง ลูกข้า ข้าเลี้ยงเอง!! แต่ทำไม…. สวรรค์…มีคนมาแสดงตัวว่าเป็นสามีข้าถึงสามคน แล้วสามีข้าคือใครกันแน่!! ****************** สามีข้าคือใคร ข้าไม่สน ข้าขอแค่หาเงินอย่างเดียวพอ!!

บทที่ 1 เหตุใดเป็นเช่นนี้

ชาติที่แล้วนางทำกรรมอะไรไว้ เหตุใดสวรรค์ถึงได้กลั่นแกล้งให้นางต้องมาเจอชะตากรรมเช่นนี้ หลิวชิงไม่คิดเลยว่าตัวเองที่ไม่เคยเสียความบริสุทธิ์มาก่อนจะต้องมามีลูกสาวอายุห้าขวบ แถมยังมีครรภ์ในท้องอีกหนึ่ง

แน่นอนว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของนาง แถมภพนี้ก็ไม่ใช่ภพที่นางเคยอยู่ ยุคที่นางเคยอาศัยมาเป็นยุคหลังจากนี้เกือบพันปี สวรรค์แกล้งกันเกินไปแล้ว นางตายไปเหตุใดไม่ส่งให้นางไปเกิดภพใหม่กับผู้ใหม่ที่หล่อรวย เหตุใดต้องส่งมาลำบากในสกุลหวงที่...

สายตานางหันมองรอบห้องที่อยู่ของตัวเอง สภาพห้องของนางทรุดโทรมราวกับห้องของคนรับใช้ ตั้งแต่นางลืมตาขึ้นมาจากป่วยไข้ พวกเขาก็เอาแต่ใช้นางไม่หยุด

จนนางหมดสติไป ไม่รู้ว่าพวกเขาใจดีหรืออย่างไร หรือกลัวว่านางจะตายจึงรีบตามหมอมาตรวจ เมื่อมาถึงหมอก็บอกว่า

“ฮูหยินน้อยกำลังตั้งครรภ์”

ใช่แล้ว ร่างที่นางมาอาศัยนางเป็นสะใภ้ของสกุลหวง ส่วนสามีนางเป็นทหารออกไปรบได้ราวประมาณครึ่งปีเห็นจะได้

แล้วในท้องนี่คือลูกใคร?

หลิวชิงหนอหลิวชิง ทำไมถึงสร้างปัญหาให้นางไม่รู้จบ ท่านหมอจากไปแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงจางฮูหยิน แม่ผัวที่ดูเหมือนจะไม่ชอบหน้านางเท่าไร

“ข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

ก็เอาไว้บนหัวท่านนั่นแหละ จะเอาไปเก็บที่ไหนได้อีก

“บุตรชายข้าไปออกรบครึ่งปี เจ้ากลับคิดการยื่นดอกเหมยออกนอกกำแพง กระทำการให้สกุลหวงเสียชื่อเสียง บอกข้ามาว่าชู้เจ้าเป็นใคร”

สามีไปรบครึ่งปี ร่างนี้กลับตั้งครรภ์สองเดือน มาถามว่าชู้นางเป็นใคร นั่นสิ นางเองก็อยากรู้ แต่ก็ตอบไม่ได้เพราะนางไม่เหลือความทรงจำของร่างนี้สักนิด

“ข้าไม่รู้”

เพียะ! มือของจางฮูหยินยกขึ้นตบคนตอบ หลิวชิงทรุดลงพื้นเพราะสภาพตัวเองที่ป่วยหนัก “ท่านแม่” เสียงลูกสาวนางรีบวิ่งเข้ามาหาจากนั้นก็ร้องไห้กอดพลางห้าม “ท่านย่า ท่านอย่าตีท่านแม่เลย”

“อย่ามายุ่ง เจ้าเองก็เช่นกัน ใช่หลานข้าจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้”

แบบนี้เรียกว่าโกรธแล้วพาลเด็ก ทำแบบนี้เด็กจะมีปมรู้หรือเปล่า หลิวชิงอยากจะเถียงแต่ก็เถียงไม่ออก ได้แต่ก้มหน้าถูกจางฮูหยินสั่งให้บ่าวในเรือนลากนางไปกลางลาน จากนั้นก็สั่ง

“คุกเข่าสำนึกผิด หากข้ามิสั่งให้ลุกขึ้นก็ห้ามลุก!! อีกสองชั่วยามข้าจะมาถาม หากเจ้ามิพูดความจริง ข้าจะส่งเจ้าไปเฝ้าสุสานบรรพชน”

จางฮูหยินโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ส่วนหลิวชิงเองก็ทำอะไรไม่ได้แม้ว่าใจนางอยากจะตอบโต้ ยิ่งเห็นบุตรสาวร้องไห้กอดไม่ยอมปล่อยนางก็เลยยอมหยุดทุกอย่างเพื่อปลอบบุตรสาว

“อย่าร้องเลยชิงลี่”

“ฮือ ข้าคิดถึงท่านพ่อ เมื่อไรท่านพ่อจะกลับมา”

นั่นสิ สามีไม่เอาไหนไปอยู่ไหนกัน สงครามก็รบมาครึ่งปี เดือนที่แล้วก็หมดสิ้นสงครามแล้ว บ้านอื่นนายทหารก็กลับเข้าบ้านกันหมด เหลือเพียงบ้านสกุลหวงที่ไร้วี่แวว

เกิดใหม่มีลูกสองก็ว่าแย่แล้ว ยังมีสามีไม่รับผิดชอบอีก อย่าได้โผล่หน้ามาให้นางเห็นเด็ดขาด นางจะใช้ไม้ตีให้หลังหัก

“ท่านพ่ออาจจะกลับมาในเร็ววัน ลูกก็อย่าร้องไห้อีกเลย”

ลูกก็ไม่ใช่ แต่ดูเหมือนความผูกพันในร่างนี้จะส่งผลต่อจิตใจนาง ส่วนความรู้สึกถึงสามีในสมองนางตอนนี้แทบไม่มีเลยสักนิด นางคิดว่าอีกฝ่ายคงตายในสนามรบไปแล้ว หรือไม่ก็คงมีภรรยาใหม่ จึงไม่คิดจะกลับมาสกุลหวงอีก หรือว่าอีกฝ่ายจะบาดเจ็บจนพิการ ถ้าเป็นแบบนั้น ก็อย่ากลับมาให้นางเห็นจะดีกว่า ใช่ว่านางจะเป็นคนดีที่ดูแลสามีของ คนอื่นที่ไม่ใช่ของตนเสียหน่อย

บ่นในใจไปปลอบชิงลี่ไปเรื่อยในที่สุดนางก็หมดแรง

“ท่านแม่”

จางฮูหยินที่อยู่ด้านในออกมามองสภาพลูกสะใภ้ตรงหน้าที่ หมดสติพร้อมจดหมายที่อยู่ในมือ สมองก็คิดอะไรบางอย่างออก

“ส่งนางไปสุสานบรรพชนแล้วปิดปากให้เงียบที่สุด บอกทุกคนว่านางหนีออกจากสกุลหวง”

บ่าวรับใช้ทำสีหน้าไม่เข้าใจแต่สุดท้ายก็ยอมทำตาม

ตอนที่หลิวชิงลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในกระท่อมที่มืดสนิทรอบด้านมีแต่กลิ่นสาบ บนพื้นเป็นดินโคลน เมื่อลืมตาก็พบว่าชิงลี่กำลังร้องไห้ตัวสั่นเทา

“ท่านแม่ ท่านย่าส่งเรามายังสุสานบรรพชนเจ้าค่ะ ฮือ ทำไม ท่านย่าทำแบบนี้”

เสียงเด็กน้อยยังร้องไห้และพูดต่อ แต่สายตานางกลับมองรอบด้าน มีเพียงแค่แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามา หลิวชิงลุกขึ้นแล้วมองไปนอกหน้าต่างที่ผุพัง สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือหลุมฝังศพสามหลุม...

สวรรค์… ท่านเกลียดข้ามากใช่ไหมถึงได้ให้ข้ามาอยู่ในสุสานบรรพชน

แม่ผัวกับลูกสะใภ้ไม่ถูกกันมีทุกยุคทุกสมัยจริง ๆ แต่ตอนนี้นางไม่มีเวลาไปเอาคืนอีกฝ่าย ฉะนั้นบัญชีนี้นางจะเก็บเอาไว้ตอนหลัง เพราะปัญหาตอนนี้คือสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า

จางฮูหยินใจดำกับนางมาก แม้แต่เสื้อผ้าสักชิ้นก็ไม่ให้ติดตัว อย่าถามหาอย่างอื่นเลย ในสภาพมืดค่ำเช่นนี้ความหนาวเหน็บที่เข้ามายังกระท่อมผุพังเลยทำให้ลูกสาวของนางหวาดกลัวกว่าเดิม ยิ่งความเงียบสงบมาพร้อมกับเสียงนกร้องประหลาดนั่น

กา กา กา

“เจ้านกบ้า! หยุดร้องเดี๋ยวนี้ หาไม่แล้วพรุ่งนี้ข้าจะจับเจ้าย่างกิน”

หลิวชิงตะโกนเพราะรู้สึกปวดหัว นั่นทำให้เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นแล้วถาม “นกกินได้หรือเจ้าคะ”

“กินได้ และแม่จะเอาเจ้านกที่อยู่ด้านนอกนั่นให้เจ้ากินตัวแรก”

เจ้ากาได้ยินก็ถึงกับหยุดกึก จากนั้นก็ขยับเท้าหนีแล้วได้แต่คิดในใจว่ามนุษย์พวกนี้ล้วนจิตใจโหดเหี้ยม แม้แต่อีกาตัวดำเช่นมันก็ยัง ไม่เว้น

หลิวชิงหันมาปลอบบุตรสาวต่อ กว่าจะกล่อมนอนได้ตะวันก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า นางอุ้มลูกสาวขึ้นพาดบ่า จากนั้นก็มองไปยังสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

สุสานบรรพบุรุษตรงหน้าแม้จะมีเพียงแค่สามหลุมศพ แต่พื้นที่โดยรอบกลับโล่งกว้างมองเห็นดอกไม้ป่าเติบโตขึ้นเต็มพื้นที่ แสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาบอกนางว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือสมบัติล้ำค่าที่ดีที่สุด จริง ๆ

ในเมื่อพึ่งพาสามีไม่เอาไหนไม่ได้ นางก็จะพึ่งตนเอง มีสมองมีปัญญาจะเปลี่ยนผืนหญ้าว่างเปล่าตรงหน้ากลายเป็นเงินให้ได้ แต่ก่อนอื่นสภาพนางตอนนี้…

หลิวชิงไอออกมาอีกชุดใหญ่ นางต้องหายจากอาการป่วยไข้เสียก่อน แต่ถูกทิ้งอย่างยาจกเช่นนี้นางจะหายาจากที่ไหน สายตาหันมองรอบด้านในป่าอาจจะมีอยู่

แต่ถามว่านางจบด้านสมุนไพรมาหรือเปล่าก็ไม่ใช่ ขืนหยิบตัวยาที่เป็นพิษมากินแทนที่จะหายอาจได้ตายสมใจ แถมตายคราวนี้ไม่รู้จะไปลำบากที่ไหนอีก แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว

จำได้ว่าหมอที่มาตรวจครั้งก่อนก็อาศัยอยู่แถวภูเขาลูกนี้ หลิวชิงรอให้บุตรสาวตื่นก็พากันเดินสำรวจรอบภูเขา เดินไปได้สักพักก็เจอกระท่อมจริง ๆ

ด้านหน้ากระท่อมมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังก้ม ๆ เงย ๆ หยิบจับกระด้งสมุนไพรขึ้นวางบนแท่นวาง “ขออภัยเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าที่นี่คือบ้านของหมอหลุนหรือไม่”

คนที่หันหลังหันมามอง จากนั้นก็นิ่งเงียบก่อนจะยิ้มออกมา

“ชิงชิง เจ้าหายดีแล้วหรือ”

หลิวชิงในร่างนี้รู้จักเขา แต่นางกลับจำอีกฝ่ายไม่ได้ ได้แต่ตามน้ำไป “ยังไม่หายดี ตอนนี้ข้ามาอาศัยอยู่ในกระท่อมสุสานบรรพชน สกุลหวง” พูดไม่ทันจบก็ไอออกมาอีกชุดหนึ่ง

จินเฟิงเห็นดังนั้นก็รีบให้นางนั่งบนชานด้านนอก ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปด้านในเพื่อหยิบกาน้ำชามาให้นางดื่ม

“เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ในกระท่อมสุสาน”

สีหน้านางบอกว่าไม่อยากพูด และอีกฝ่ายก็เหมือนจะเข้าใจ

“ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าอย่าทนอีก ยังไงซือหยางก็ไม่กลับมาหาเจ้าอีกแล้ว”

หลิวชิงทำได้เพียงแค่ยิ้มบาง “ข้ามาหาหมอหลุน”

“ท่านพ่อข้าเข้าป่า คิดว่ายามบ่ายถึงจะกลับมา” จินเฟิงมองไปยังชิงลี่ “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหิวหรือไม่”

เด็กน้อยพยักหน้าอย่างใสซื่อ สีหน้าแววตาแสดงออกว่าหิวมาก จินเฟิงก็เลยรีบเข้าไปในครัวเพื่อหาของกินมาให้เด็กน้อย ระหว่างนั้นหลิวชิงก็รีบกระซิบถาม “พวกเรารู้จักกันนานหรือยัง”

ชิงลี่ขมวดคิ้วเหมือนไม่เข้าใจท่านแม่ “ลุงเฟิงเคยเป็นคู่หมั้นของท่านแม่อย่างไรเล่า ข้าเคยได้ยินท่านย่าพูดอยู่บ่อย ๆ ว่าท่านพ่อไปแอบได้เสียกับท่านแม่ ท่านแม่ก็เลยต้องแต่งกับเขา” ชิงลี่ตอบแบบตรง ๆ ตามแบบที่ผู้ใหญ่พูดมาแม้ไม่เข้าใจความหมายก็ตาม

ถึงว่าจางฮูหยินถึงได้รังเกียจนาง และสายตาที่จินเฟิงมองนาง ก็ไม่ใช่สายตาของคนรู้จักที่เขามองกัน พอรู้ว่าเขาเคยเป็นคู่หมั้นของ ร่างนี้มาก่อนนางก็เริ่มทำตัวไม่ถูก เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะรำลึกความหลังพูดไปพูดมาก็อาจจะจับผิดได้ว่าวิญญาณในร่างนี้ไม่ใช่หลิวชิงตัวจริง

ถ้าอย่างนั้นรีบกินรีบกลับจะดีกว่า...

จินเฟิงหาอาหารให้เด็กน้อยและหลิวชิงกิน ตอนแรกนางคิดว่าจะไม่กิน แต่เพราะกลิ่นหอมบวกกับเสียงท้องร้องนางก็เลยล้มเลิกที่จะรีบกลับบ้าน “เจ้ากินข้าวเสร็จก็กินยาเสีย เจ้าจะได้หายดี ขาดเหลืออะไรอีกไหม”

ถามแบบนี้นางก็ยิ้มกว้างกว่าเดิมพลางตอบแบบไม่เกรงใจ

“หลายอย่างเลย” ใครใช้ให้เขามีน้ำใจกัน ส่วนนางก็ไม่รอช้ารับน้ำใจจากเขา จากนั้นกระท่อมร้างก็ถูกปัดกวาด มีแคร่ไม้ไว้สำหรับวางฟูกนอน ส่วนบานหน้าต่างที่ผุพังก็ถูกซ่อมจนสามารถบังลมได้

หลิวชิงมองจินเฟิงที่เร่งมือทั้งวันพยายามทำให้นางนอนในคืนนี้ได้ แวบหนึ่งก็ปรากฏความคิดหนึ่งขึ้นมา หรือว่าเราจะเปลี่ยนจากหาเงินมาหาสามีตรงหน้าดีจะได้ไม่ต้องทำอะไรเลย

คนคิดรีบสะบัดความคิดออก ไม่ได้ นางต้องมีเป้าหมายที่จะยืนด้วยตัวเองให้ได้ สายตาของจินเฟิงมองคนที่กำลังส่ายหน้า

“มีอะไรไม่พอใจหรือเปล่า”

หลิวชิงรีบตอบ “เปล่า ไม่มี เพียงเท่านี้ก็มากพอแล้ว” นางนิ่งเพียงครู่ก่อนที่จะพูดต่อ “ใกล้ค่ำแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะไปหาหมอหลุนใหม่ ท่านรีบกลับไปเถอะ”

ถึงอย่างไรนางก็เป็นสตรีที่มีสามีแล้ว การที่บุรุษอื่นอยู่ด้วยจนมืดค่ำเกรงว่าจะไม่ดีแน่ ยิ่งนางเป็นสะใภ้ที่สกุลหวงไม่ค่อยชอบด้วย

จินเฟิงเหมือนจะเข้าใจ เขายิ้มบาง จากนั้นก็หันหลังให้ ภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็นนั้นเขาหันหลังให้นางแล้วพูด

“ข้ายังยืนยันคำเดิม ไม่ว่าเจ้าจะเป็นยังไง ข้าพร้อมจะดูแลเจ้าเสมอชิงชิง”

หลิวชิงมองภาพตรงหน้า เหตุใดหัวใจในร่างนี้ถึงได้สั่นไหวกับคำพูดนั้น หรือว่าจริง ๆ แล้วหลิวชิงก็ชอบอีกฝ่ายเช่นกัน

แต่เดี๋ยวนะ... หรือว่าเขาคือพ่อของเด็กในท้อง!!!

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม
ย้อนเวลามาพร้อมกับมิติของอนาคต

ย้อนเวลามาพร้อมกับมิติของอนาคต

โรแมนติก

5.0

หนิงอวี่ นักวิทยาศาสตร์สาวคนเก่ง ที่ต้องการทดลองเกี่ยวกับการข้ามมิติจากปัจจุบันสู่อดีต ซึ่งเธอนั้นได้ทำการทดลองเรื่องนี้มาร่วมสองปีแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่งมีของตกจากฟ้ากลายเป็นกำไลหยกสีเขียวประกาย เธอจึงเข้าไปทดลองข้ามมิติเป็นครั้งสุดท้าย หากไม่ได้ก็จะล้มเลิกการทดลองนี้ แต่ใครจะคิดว่ามันจะนำพาเธอไปยังห้วงมิติแห่งหนึ่ง ข้ามไปแล้วเธอยังสามารถเอาของที่อยู่ในห้องทดลองออกมาได้ งานนี้ทั้งขนมขบเคี้ยว ข้าวสาร ปลากระป๋องสำเร็จรูปก็ข้ามมิติทำให้เธอไม่อดตายอีกแล้ว *************************** "ถ้าคุณหนูยอมกินข้าวจนหมด บ่าวจะนำเอาลูกอม รสนมให้ด้วยเจ้าค่ะ" "ลูกอมรสนมคือสิ่งใด?" "ขนมอย่างหนึ่งที่ทำมาจากน้ำตาลกวนกับนม ทั้งอมและเคี้ยวได้ หนุบหนับ รสชาติหวานและมีกลิ่นหอม รสชาติเป็นเลิศอย่างมากเจ้าค่ะ" หนิงอวี่บรรยายจนลี่ซือน้ำลายสอในปาก ถึงแม้ว่าจะเอาแต่ใจแค่ไหนแต่ก็ยังเป็นเด็กน้อยอายุเพียงห้าขวบอยู่ดี ******************* นิยายสนุกอบอุ่นหัวใจ กับของวิเศษไม่จำกัดแบบฟิน...

หย่าทวงแค้น

หย่าทวงแค้น

โรแมนติก

5.0

ความเจ็บช้ำกว่าการ “หย่า” ยังมีอะไรอีก นอกจากถูกคนที่รักหลอกไป “ฆ่า” ให้ตายทั้งเป็น **************** โง่แล้วยังทำเหมือนเดิม เขาเรียกว่าโง่ไร้สติ โง่แล้วกลายเป็นความแค้น เขาถึงเรียกว่าฉลาด มาดูกันว่าการกลับมาของเธอในครั้งนี้ จะทำให้เขาจดจำเธอในรูปแบบไหน ภรรยาที่ดี หรือ ภรรยาที่ตอบแทนอย่างสาสม!! ************************* รมินตามองไปยังรูปภาพแต่งงานบนฝาผนัง ภาพที่มีรอยยิ้มและ แววตาความรักนั้น เหตุใดวันนี้ถึงได้เศร้านักก็ไม่เข้าใจ เธอนั่งรอเขาราวครึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงรถที่ขับมาอย่างรวดเร็ว และเสียงเบรกกะทันหันทำให้เธอเดินไปที่หน้าต่างแล้วชะโงกมอง เมื่อเห็นว่าเป็นธาวินผู้เป็นสามีเธอก็รีบลงจากชั้นสอง “ทำไมขับรถเร็วขนาดนั้นคะ ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำยังไง” “นี่คุณแช่งผมให้ตายเหรอ” คิ้วรมินตาขมวด “ตาไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่ตาเป็นห่วงคุณต่างหาก” “คุณห่วงชีวิตคุณเองจะดีกว่า ว่าคืนนี้คุณจะนอนไหน” แววตาคนเป็นภรรยาไม่แน่ใจว่าได้ยินผิดหรือเปล่า จึงถามเขาย้ำอีกครั้ง “คุณว่าอะไรนะคะ ตาไม่เข้าใจ” “โธ่เว้ย ทำไมถึงโง่ขนาดนี้ ผมกำลังขอหย่ากับคุณยังไงเล่า” ไม่พูดเปล่า อีกฝ่ายยังยกนิ้วขึ้นชี้หน้าผากเธอ จนเธอที่ตั้งสติไม่ได้เซถอยหลังจนล้มลง “รีบเซ็นใบหย่าแล้วออกไปจากบ้านของฉัน” “คุณหมายความว่ายังไง” “ก็หมายความว่าบ้านหลังนี้ หุ้นที่บริษัท โรงแรม ล้วนเป็นของผมหมดแล้ว ดังนั้นคุณก็หมดความหมาย รีบไสหัวไปซะ ก่อนที่ผมจะแจ้งข้อหาบุกรุกกับคุณ” “คุณ คุณทำกับตาแบบนี้ได้ยังไงกัน”

เดือนแสนจันทร์

เดือนแสนจันทร์

โรแมนติก

5.0

แสนจันทร์เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงลูกสองขวบเพียงลำพัง เป็นเพราะเศรษฐกิจกำลังพัง เธอจึงถูกไล่ออกจากงาน จึงคิดหมายหาอาชีพใหม่ที่เธอสามารถเลี้ยงลูกได้ สุดท้ายเธอก็พบว่า อาชีพนักเขียน เป็นอาชีพที่ดี เธอจึงตั้งใจเขียนนิยายเรื่องแรกด้วยความตั้งใจ หนทางหาเลี้ยงครอบครัวดูเหมือนจะได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อนิยายของเธอได้รับคำชมจากคนอ่านมากมาย แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ถูกนักเขียนรุ่นใหญ่กล่าวหาว่า ลอกเลียนแบบนิยายของเธอ มีคนมารุมด่าประจานเธอมากมาย หากแต่เธอเพียงพยายามถามถึงหลักฐาน แต่อีกฝ่ายก็เอาทนายมาขู่อย่างเดียวแต่ไม่ส่งอะไรมาให้เลย จนสุดท้ายแล้วเธอก็ต้องยอมรับผิดเพียงเพราะไม่มีเงิน ทั้งที่เธอไม่เคยอ่านนิยายของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ ผิดที่ตัวเธอไม่มีแรงสู้ ผิดที่ตัวเธอไม่มีเงินพอที่จะปกป้องอาชีพที่เธอเริ่มรักมัน ผิดที่เธอทำให้คนข้างตัวต้องผิดหวัง สายตามองไปยังคานไม้บนบ้าน มองไปยังค่าบ้านที่ค้างมาสามเดือน จึงมองหาเชือกมาผูกไว้ข้างบนคิดหมายจะฆ่าตัวตาย สองเท้าก้าวขึ้นเก้าอี้ไม้กลม เหยียบขึ้นไปด้วยหัวใจที่แตกสลาย สองมือจับเชือกแล้วคิดจะฆ่าตัวตาย จังหวะที่เชือกกำลังรัดคอนั้น เสียงลูกสาวตัวน้อยก็ร้องดังขึ้นมา เธอที่กำลังจะตายเห็นแบบนั้น น้ำตาก็ร่วงหล่นลงแก้มอาบหน้า ใช้เท้าผละเก้าอี้ล้มเสียงดัง เสียงเด็กน้อยร้องไห้ดังจนคนด้านนอกได้ยิน จังหวะที่เธอคิดจะตายนั้น จู่ ๆ ก็มีผู้ชายใส่สูทคนหนึ่งถีบประตูเข้ามา จากนั้นก็ช่วยเธอหลุดพ้นจากความตาย.... และเขาก็คือแสงสว่างของเธอ ทนายหนุ่มข้างบ้านที่จะเข้ามาช่วยให้ สองคนแม่ลูกพบเจอแต่สิ่งที่สวยงาม

ผมทำอาหารอร่อยนะไม่กินจริงๆ เหรอ ยุค 70

ผมทำอาหารอร่อยนะไม่กินจริงๆ เหรอ ยุค 70

โรแมนติก

5.0

หรูเจี่ยเป็นเพียงนักร้องกลางคืนในยุค 70 ช่วงที่ญี่ปุ่นเริ่มเข้ามายึดครองเซี่ยงไฮ้ ในระหว่างที่เธอต้องพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดจากการขายให้นายพลญี่ปุ่น หรูเจี่ยก็หันไปมองตรงข้ามห้องชั้นสอง ได้กลิ่นซาลาเปาร้อนๆ หอมลอยแตะจมูก พลันเธอก็คิดได้ว่าต้องทำยังไง จึงจำต้องทำเป็นป่วยไม่ยอมกินอะไร เพื่อที่จะให้เถ้าแก่ร้านอ้วนพีที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามมาส่งอาหารให้เธอ แต่เพราะแผนการเลยทำให้เธอกินได้เพียงสองคำ ทั้งที่ท้องของเธอเรียกร้องอาหารอร่อยนั้นแทบขาดใจ เธอจะสามารถหนีพ้นชะตากรรมนี้ได้ไหม แล้วบุรุษอ้วนพีจะช่วยเธอได้หรือเปล่ามาลุ้นกัน

สืบแค้นบัลลังก์เลือด

สืบแค้นบัลลังก์เลือด

โรแมนติก

5.0

เพราะพี่สาวของนางต้องตายอย่างปริศนา ทำให้เหมยลู่อิงต้องเข้าวังเพื่อสืบหาความจริง แต่ภายใต้อันตรายนั้นกลับพบว่าในวังหลวงนั้นอันตรายไม่แพ้กัน มีคลื่นลมแห่งความแค้นพร้อมแย่งชิงบัลลังก์เลือดนั้น ไม่สนว่าต้องพรากวิญญาณผู้ใด นางจะเอาตัวรอดได้หรือไม่ ในเมื่อมังกรที่ยิ่งใหญ่ในวังหลวงนั้นไม่ได้หลอกง่ายอย่างที่คิด เหมือนเขาจะว่างงาน เพราะผ่านไปแค่สามวัน “...” เหมยลู่อิงมองข้าวของที่กองอยู่ตรงหน้า คนผู้นี้ต้องการอะไรกันแน่ จะแกล้งนางไม่เลิกเลยหรือไง ส่งของบรรณาการผ้าแพรสวยงามมาให้นาง แล้วจะให้นางใช้เล่ห์กลอะไรปฏิเสธได้อีก สรุปจะให้นางถูกรุมตายแน่ๆ สตรีทั้งหลายต่างมองตาเป็นมัน ความประหลาดของฝ่าบาทนี้ทุกคนเริ่มชิน ไม่เคยเรียกนางเข้าเฝ้า แต่ก็ขยันส่งของมาให้ คราก่อนเป็นรังนก นางก็เอาถวายเจ้าแม่กวนอิม มาครานี้ถึงกับส่งเสื้อสตรีมา คงคิดว่านางเอาไปถวายไม่ได้น่ะสิ ฉินกงกงพูดแล้วก็ยิ้ม เมื่อเห็นสีหน้ากลืนไม่ได้เข้าคายไม่ออกของนาง “คืนพรุ่งนี้ฮองเฮาจะมีงานเลี้ยงน้ำชาเหล่าสนมนางใน ฝ่าบาทจะเสด็จด้วย จึงพระราชทานชุดบรรณาการให้ตาอิ้งโดยเฉพาะ” ไม่ต้องย้ำคำว่าโดยเฉพาะก็ได้ คืนพรุ่งนี้มีงานเลี้ยงเลยมีความประสงค์จะให้นางสวมชุดบรรณาการ ไม่ส่งมีดมาเลยล่ะ กะว่าจะให้นางโดนรุมในวัง นางไปทำเวรทำกรรมอะไรกับฮ่องเต้คนนี้นะเนี่ย จะบ้าตาย

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

เมืองแฟนตาซี

5.0

โปรย: มาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อน ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโจรที่เคยเข่นฆ่าผู้คนไปทั่ว ซ้ำร้ายเขายังต้องการล้างแค้นแทนพ่อโดยใช้หัวใจเป็นเดิมพัน ........................ ไรต์มีนิยายพื้นบ้านมาฝากอีกแล้วค่า เน้นการใช้ชีวิตประจำวัน เนื้อเรื่องไม่หวือหวาส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการของไรต์มากกว่าเหตุการณ์ในยุคนั้น ใครชอบแนวนี้ไรต์ฝากกดหัวใจกดติดตามกันด้วยนะคะ หญิงสาวที่ตื่นมาตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวไปรับพระราชทานปริญญาบัตร แต่กลับต้องย้อนไปอยู่ในยุค 60 ในร่างหญิงปัญญาอ่อนที่มีความทรงจำอันน้อยนิด มีพ่อเป็นอดีตโจรที่ขาพิการ ครอบครัวยากจน กับค่าแรงวันละเจ็ดบาท แล้วเช่นนี้เธอจะทำให้ครอบครัวกินอยู่อิ่มท้องได้อย่างไร พระเอกนางเอกเรื่องนี้มีการแก้แค้นเอาคืนไม่ได้เป็นคนดีบริสุทธิ์นะคะ ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบางส่วน.... คำแก้วเดินออกมาถึงทางห้าแยกที่จะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสี่แจและหมู่บ้านอื่น ๆ ก็เจอกับชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางอยู่ตรงหน้า คำแก้วเดินต่ออย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว            “เฮ้ย! มีคนเดินมาทางนี้ว่ะ”            “ลูกพี่มันแบกหมูป่าตัวเบ้อเร่อมาด้วย”            “เอาของมีค่าทั้งหมดมาจากมันให้ได้”            “แต่มันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เองนะลูกพี่”            “พ่อมึงสอนให้โจรอย่างพวกมึงใจดีกับพวกผู้หญิงเหรอวะ” คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งตวาดเสียงดังจนคำแก้วต้องเงยหน้ามอง ดวงตากลมไหวสั่นเล็กน้อย เข้ามาสิจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตให้ ปืนก็มี มีดก็มี กลัวอะไรล่ะ หักแขนหักขาคนก็ได้ด้วย            “มะ ไม่ได้บอกครับ” คนที่เป็นลูกน้องตอบเสียงสั่น แล้วพวกมันก็ก้าวเท้าไปขวางหน้าคำแก้วไว้            “เอาของมีค่าจากตัวมึงมาให้หมด รวมถึงหมูป่าด้วย” ลูกน้องหนึ่งในสองคนพูดขึ้น แปลกใจที่ในกระบุงมีผลไม้หลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยกิน            “ไม่มี” คำแก้วตอบเสียงห้วน มองชายทั้งสามด้วยแววตาไม่สะทกสะท้าน เธออยากเห็นโจรตัวเป็น ๆ วันนี้เธอก็ได้เห็นแล้ว พวกมันใช้ผ้าขาวม้าคลุมหน้าไว้ ยุคสมัยนี้ตำรวจคงทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ            “ปากดีซะด้วย กูชอบว่ะ จะมีผู้หญิงสักกี่คนวะที่ไม่กลัวโจรอย่างพวกกู ฮ่า ๆ ๆ” เรืองว่าพลางหัวเราะเสียงลั่น ในมือถือปืนเคาะฝ่ามืออีกข้างเล่นไปพลาง ๆ แล้วสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยม “จับตัวมันไว้”            ลูกน้องทั้งสองกรูเข้าไปจับตัวคำแก้วไว้ คำแก้วปล่อยหมูและกระบุงลงบนพื้นดิน            เรืองก้าวเท้ายาวเข้ามาใกล้ ดึงผ้าขาวม้าออกจากหน้าเธอ สายตาคมกริบมองใบหน้าเรียวเล็กของอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด            “นี่มันลูกสาวคนโตของไอ้เสือเข้มนี่หว่า มึงกล้าออกมาป่าคนเดียวได้ยังไงวะ” เขาใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางของคำแก้วขึ้น แล้วพิศมองใบหน้าเธอนิ่ง            คำแก้วจ้องตามันกลับอย่างไม่ลดละ โจรพวกนี้อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำร้ายพ่อของเธอก็เป็นได้ ถึงได้รู้จักเสือเข้ม            ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลบอยู่ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยคนที่เขาเดินตามออกมาจากป่าเป็นลูกของไอ้เสือเข้ม แต่เขาได้ยินมาว่าลูกสาวคนโตของเสือเข้มเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเข้าป่าไปล่าสัตว์คนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวสัตว์ป่า หรือแม้แต่โจรพวกนี้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เดินตามเธอมา คราแรกเขาแค่อยากรู้ว่าเธอเป็นคนของหมู่บ้านไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้า และกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจึงเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคนที่เขาตามหามานาน

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

โรแมนติก

4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ข้าอยู่ในสุสานบรรพชน
1

บทที่ 1 เหตุใดเป็นเช่นนี้

02/09/2024

2

บทที่ 2 หาเงิน

02/09/2024

3

บทที่ 3 ใช้ชีวิตให้ได้

02/09/2024

4

บทที่ 4 สุสานบรรพชน

02/09/2024

5

บทที่ 5 สับปะรด

02/09/2024

6

บทที่ 6 ข้าจะหย่า

02/09/2024

7

บทที่ 7 อยากเป็นอิสระ

02/09/2024

8

บทที่ 8 รักษาคนป่วย

02/09/2024

9

บทที่ 9 กาฬโรค

02/09/2024

10

บทที่ 10 ช่วยชีวิตคน

02/09/2024

11

บทที่ 11 ใบหย่าที่เจ้าอยากได้

02/09/2024

12

บทที่ 12 สะใภ้ไม่รักดี

02/09/2024

13

บทที่ 13 มีลูกไม่ง่ายเลย

02/09/2024

14

บทที่ 14 ข้าจะแต่งงาน

02/09/2024

15

บทที่ 15 ชีวิตที่เลือกใหม่

02/09/2024

16

บทที่ 16 เมื่อครั้งพบพาน

02/09/2024

17

บทที่ 17 ข้ามีญาติ

02/09/2024

18

บทที่ 18 แผนซ่อนแผน

02/09/2024

19

บทที่ 19 ความจริงที่เจ็บปวด

02/09/2024

20

บทที่ 20 คู่สามีภรรยา

02/09/2024

21

บทที่ 21 กลับมาเมืองหลวง

02/09/2024

22

บทที่ 22 ความเกี่ยวพันกันสองชาติ

02/09/2024

23

บทที่ 23 โกหกไม่เนียน

02/09/2024

24

บทที่ 24 แต่งงาน

02/09/2024

25

บทที่ 25 ความรู้สึกครั้งแรก

02/09/2024

26

บทที่ 26 คุณชายเฉินฝางแต่งงาน

02/09/2024

27

บทที่ 27 การรบกับเมืองซ่ง

02/09/2024

28

บทที่ 28 ผิดแผนไปหมด

02/09/2024

29

บทที่ 29 อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา (อวสาน)

02/09/2024