ข้าอยู่ในสุสานบรรพชน ไล่ข้าแล้วยังไง ใช่ว่าข้าไม่มีวิชา ในเมื่อเป็นคนยุคใหม่ ข้าจะร่ำรวยด้วยมือของตัวเอง มีลูกแต่ไม่เคยลิ้มรสรักแล้วยังไง ลูกข้า ข้าเลี้ยงเอง!! แต่ทำไม…. สวรรค์…มีคนมาแสดงตัวว่าเป็นสามีข้าถึงสามคน แล้วสามีข้าคือใครกันแน่!! ****************** สามีข้าคือใคร ข้าไม่สน ข้าขอแค่หาเงินอย่างเดียวพอ!!
ชาติที่แล้วนางทำกรรมอะไรไว้ เหตุใดสวรรค์ถึงได้กลั่นแกล้งให้นางต้องมาเจอชะตากรรมเช่นนี้ หลิวชิงไม่คิดเลยว่าตัวเองที่ไม่เคยเสียความบริสุทธิ์มาก่อนจะต้องมามีลูกสาวอายุห้าขวบ แถมยังมีครรภ์ในท้องอีกหนึ่ง
แน่นอนว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของนาง แถมภพนี้ก็ไม่ใช่ภพที่นางเคยอยู่ ยุคที่นางเคยอาศัยมาเป็นยุคหลังจากนี้เกือบพันปี สวรรค์แกล้งกันเกินไปแล้ว นางตายไปเหตุใดไม่ส่งให้นางไปเกิดภพใหม่กับผู้ใหม่ที่หล่อรวย เหตุใดต้องส่งมาลำบากในสกุลหวงที่...
สายตานางหันมองรอบห้องที่อยู่ของตัวเอง สภาพห้องของนางทรุดโทรมราวกับห้องของคนรับใช้ ตั้งแต่นางลืมตาขึ้นมาจากป่วยไข้ พวกเขาก็เอาแต่ใช้นางไม่หยุด
จนนางหมดสติไป ไม่รู้ว่าพวกเขาใจดีหรืออย่างไร หรือกลัวว่านางจะตายจึงรีบตามหมอมาตรวจ เมื่อมาถึงหมอก็บอกว่า
“ฮูหยินน้อยกำลังตั้งครรภ์”
ใช่แล้ว ร่างที่นางมาอาศัยนางเป็นสะใภ้ของสกุลหวง ส่วนสามีนางเป็นทหารออกไปรบได้ราวประมาณครึ่งปีเห็นจะได้
แล้วในท้องนี่คือลูกใคร?
หลิวชิงหนอหลิวชิง ทำไมถึงสร้างปัญหาให้นางไม่รู้จบ ท่านหมอจากไปแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงจางฮูหยิน แม่ผัวที่ดูเหมือนจะไม่ชอบหน้านางเท่าไร
“ข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
ก็เอาไว้บนหัวท่านนั่นแหละ จะเอาไปเก็บที่ไหนได้อีก
“บุตรชายข้าไปออกรบครึ่งปี เจ้ากลับคิดการยื่นดอกเหมยออกนอกกำแพง กระทำการให้สกุลหวงเสียชื่อเสียง บอกข้ามาว่าชู้เจ้าเป็นใคร”
สามีไปรบครึ่งปี ร่างนี้กลับตั้งครรภ์สองเดือน มาถามว่าชู้นางเป็นใคร นั่นสิ นางเองก็อยากรู้ แต่ก็ตอบไม่ได้เพราะนางไม่เหลือความทรงจำของร่างนี้สักนิด
“ข้าไม่รู้”
เพียะ! มือของจางฮูหยินยกขึ้นตบคนตอบ หลิวชิงทรุดลงพื้นเพราะสภาพตัวเองที่ป่วยหนัก “ท่านแม่” เสียงลูกสาวนางรีบวิ่งเข้ามาหาจากนั้นก็ร้องไห้กอดพลางห้าม “ท่านย่า ท่านอย่าตีท่านแม่เลย”
“อย่ามายุ่ง เจ้าเองก็เช่นกัน ใช่หลานข้าจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้”
แบบนี้เรียกว่าโกรธแล้วพาลเด็ก ทำแบบนี้เด็กจะมีปมรู้หรือเปล่า หลิวชิงอยากจะเถียงแต่ก็เถียงไม่ออก ได้แต่ก้มหน้าถูกจางฮูหยินสั่งให้บ่าวในเรือนลากนางไปกลางลาน จากนั้นก็สั่ง
“คุกเข่าสำนึกผิด หากข้ามิสั่งให้ลุกขึ้นก็ห้ามลุก!! อีกสองชั่วยามข้าจะมาถาม หากเจ้ามิพูดความจริง ข้าจะส่งเจ้าไปเฝ้าสุสานบรรพชน”
จางฮูหยินโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ส่วนหลิวชิงเองก็ทำอะไรไม่ได้แม้ว่าใจนางอยากจะตอบโต้ ยิ่งเห็นบุตรสาวร้องไห้กอดไม่ยอมปล่อยนางก็เลยยอมหยุดทุกอย่างเพื่อปลอบบุตรสาว
“อย่าร้องเลยชิงลี่”
“ฮือ ข้าคิดถึงท่านพ่อ เมื่อไรท่านพ่อจะกลับมา”
นั่นสิ สามีไม่เอาไหนไปอยู่ไหนกัน สงครามก็รบมาครึ่งปี เดือนที่แล้วก็หมดสิ้นสงครามแล้ว บ้านอื่นนายทหารก็กลับเข้าบ้านกันหมด เหลือเพียงบ้านสกุลหวงที่ไร้วี่แวว
เกิดใหม่มีลูกสองก็ว่าแย่แล้ว ยังมีสามีไม่รับผิดชอบอีก อย่าได้โผล่หน้ามาให้นางเห็นเด็ดขาด นางจะใช้ไม้ตีให้หลังหัก
“ท่านพ่ออาจจะกลับมาในเร็ววัน ลูกก็อย่าร้องไห้อีกเลย”
ลูกก็ไม่ใช่ แต่ดูเหมือนความผูกพันในร่างนี้จะส่งผลต่อจิตใจนาง ส่วนความรู้สึกถึงสามีในสมองนางตอนนี้แทบไม่มีเลยสักนิด นางคิดว่าอีกฝ่ายคงตายในสนามรบไปแล้ว หรือไม่ก็คงมีภรรยาใหม่ จึงไม่คิดจะกลับมาสกุลหวงอีก หรือว่าอีกฝ่ายจะบาดเจ็บจนพิการ ถ้าเป็นแบบนั้น ก็อย่ากลับมาให้นางเห็นจะดีกว่า ใช่ว่านางจะเป็นคนดีที่ดูแลสามีของ คนอื่นที่ไม่ใช่ของตนเสียหน่อย
บ่นในใจไปปลอบชิงลี่ไปเรื่อยในที่สุดนางก็หมดแรง
“ท่านแม่”
จางฮูหยินที่อยู่ด้านในออกมามองสภาพลูกสะใภ้ตรงหน้าที่ หมดสติพร้อมจดหมายที่อยู่ในมือ สมองก็คิดอะไรบางอย่างออก
“ส่งนางไปสุสานบรรพชนแล้วปิดปากให้เงียบที่สุด บอกทุกคนว่านางหนีออกจากสกุลหวง”
บ่าวรับใช้ทำสีหน้าไม่เข้าใจแต่สุดท้ายก็ยอมทำตาม
ตอนที่หลิวชิงลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในกระท่อมที่มืดสนิทรอบด้านมีแต่กลิ่นสาบ บนพื้นเป็นดินโคลน เมื่อลืมตาก็พบว่าชิงลี่กำลังร้องไห้ตัวสั่นเทา
“ท่านแม่ ท่านย่าส่งเรามายังสุสานบรรพชนเจ้าค่ะ ฮือ ทำไม ท่านย่าทำแบบนี้”
เสียงเด็กน้อยยังร้องไห้และพูดต่อ แต่สายตานางกลับมองรอบด้าน มีเพียงแค่แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามา หลิวชิงลุกขึ้นแล้วมองไปนอกหน้าต่างที่ผุพัง สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือหลุมฝังศพสามหลุม...
สวรรค์… ท่านเกลียดข้ามากใช่ไหมถึงได้ให้ข้ามาอยู่ในสุสานบรรพชน
แม่ผัวกับลูกสะใภ้ไม่ถูกกันมีทุกยุคทุกสมัยจริง ๆ แต่ตอนนี้นางไม่มีเวลาไปเอาคืนอีกฝ่าย ฉะนั้นบัญชีนี้นางจะเก็บเอาไว้ตอนหลัง เพราะปัญหาตอนนี้คือสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า
จางฮูหยินใจดำกับนางมาก แม้แต่เสื้อผ้าสักชิ้นก็ไม่ให้ติดตัว อย่าถามหาอย่างอื่นเลย ในสภาพมืดค่ำเช่นนี้ความหนาวเหน็บที่เข้ามายังกระท่อมผุพังเลยทำให้ลูกสาวของนางหวาดกลัวกว่าเดิม ยิ่งความเงียบสงบมาพร้อมกับเสียงนกร้องประหลาดนั่น
กา กา กา
“เจ้านกบ้า! หยุดร้องเดี๋ยวนี้ หาไม่แล้วพรุ่งนี้ข้าจะจับเจ้าย่างกิน”
หลิวชิงตะโกนเพราะรู้สึกปวดหัว นั่นทำให้เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นแล้วถาม “นกกินได้หรือเจ้าคะ”
“กินได้ และแม่จะเอาเจ้านกที่อยู่ด้านนอกนั่นให้เจ้ากินตัวแรก”
เจ้ากาได้ยินก็ถึงกับหยุดกึก จากนั้นก็ขยับเท้าหนีแล้วได้แต่คิดในใจว่ามนุษย์พวกนี้ล้วนจิตใจโหดเหี้ยม แม้แต่อีกาตัวดำเช่นมันก็ยัง ไม่เว้น
หลิวชิงหันมาปลอบบุตรสาวต่อ กว่าจะกล่อมนอนได้ตะวันก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า นางอุ้มลูกสาวขึ้นพาดบ่า จากนั้นก็มองไปยังสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
สุสานบรรพบุรุษตรงหน้าแม้จะมีเพียงแค่สามหลุมศพ แต่พื้นที่โดยรอบกลับโล่งกว้างมองเห็นดอกไม้ป่าเติบโตขึ้นเต็มพื้นที่ แสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาบอกนางว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือสมบัติล้ำค่าที่ดีที่สุด จริง ๆ
ในเมื่อพึ่งพาสามีไม่เอาไหนไม่ได้ นางก็จะพึ่งตนเอง มีสมองมีปัญญาจะเปลี่ยนผืนหญ้าว่างเปล่าตรงหน้ากลายเป็นเงินให้ได้ แต่ก่อนอื่นสภาพนางตอนนี้…
หลิวชิงไอออกมาอีกชุดใหญ่ นางต้องหายจากอาการป่วยไข้เสียก่อน แต่ถูกทิ้งอย่างยาจกเช่นนี้นางจะหายาจากที่ไหน สายตาหันมองรอบด้านในป่าอาจจะมีอยู่
แต่ถามว่านางจบด้านสมุนไพรมาหรือเปล่าก็ไม่ใช่ ขืนหยิบตัวยาที่เป็นพิษมากินแทนที่จะหายอาจได้ตายสมใจ แถมตายคราวนี้ไม่รู้จะไปลำบากที่ไหนอีก แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว
จำได้ว่าหมอที่มาตรวจครั้งก่อนก็อาศัยอยู่แถวภูเขาลูกนี้ หลิวชิงรอให้บุตรสาวตื่นก็พากันเดินสำรวจรอบภูเขา เดินไปได้สักพักก็เจอกระท่อมจริง ๆ
ด้านหน้ากระท่อมมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังก้ม ๆ เงย ๆ หยิบจับกระด้งสมุนไพรขึ้นวางบนแท่นวาง “ขออภัยเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าที่นี่คือบ้านของหมอหลุนหรือไม่”
คนที่หันหลังหันมามอง จากนั้นก็นิ่งเงียบก่อนจะยิ้มออกมา
“ชิงชิง เจ้าหายดีแล้วหรือ”
หลิวชิงในร่างนี้รู้จักเขา แต่นางกลับจำอีกฝ่ายไม่ได้ ได้แต่ตามน้ำไป “ยังไม่หายดี ตอนนี้ข้ามาอาศัยอยู่ในกระท่อมสุสานบรรพชน สกุลหวง” พูดไม่ทันจบก็ไอออกมาอีกชุดหนึ่ง
จินเฟิงเห็นดังนั้นก็รีบให้นางนั่งบนชานด้านนอก ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปด้านในเพื่อหยิบกาน้ำชามาให้นางดื่ม
“เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ในกระท่อมสุสาน”
สีหน้านางบอกว่าไม่อยากพูด และอีกฝ่ายก็เหมือนจะเข้าใจ
“ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าอย่าทนอีก ยังไงซือหยางก็ไม่กลับมาหาเจ้าอีกแล้ว”
หลิวชิงทำได้เพียงแค่ยิ้มบาง “ข้ามาหาหมอหลุน”
“ท่านพ่อข้าเข้าป่า คิดว่ายามบ่ายถึงจะกลับมา” จินเฟิงมองไปยังชิงลี่ “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหิวหรือไม่”
เด็กน้อยพยักหน้าอย่างใสซื่อ สีหน้าแววตาแสดงออกว่าหิวมาก จินเฟิงก็เลยรีบเข้าไปในครัวเพื่อหาของกินมาให้เด็กน้อย ระหว่างนั้นหลิวชิงก็รีบกระซิบถาม “พวกเรารู้จักกันนานหรือยัง”
ชิงลี่ขมวดคิ้วเหมือนไม่เข้าใจท่านแม่ “ลุงเฟิงเคยเป็นคู่หมั้นของท่านแม่อย่างไรเล่า ข้าเคยได้ยินท่านย่าพูดอยู่บ่อย ๆ ว่าท่านพ่อไปแอบได้เสียกับท่านแม่ ท่านแม่ก็เลยต้องแต่งกับเขา” ชิงลี่ตอบแบบตรง ๆ ตามแบบที่ผู้ใหญ่พูดมาแม้ไม่เข้าใจความหมายก็ตาม
ถึงว่าจางฮูหยินถึงได้รังเกียจนาง และสายตาที่จินเฟิงมองนาง ก็ไม่ใช่สายตาของคนรู้จักที่เขามองกัน พอรู้ว่าเขาเคยเป็นคู่หมั้นของ ร่างนี้มาก่อนนางก็เริ่มทำตัวไม่ถูก เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะรำลึกความหลังพูดไปพูดมาก็อาจจะจับผิดได้ว่าวิญญาณในร่างนี้ไม่ใช่หลิวชิงตัวจริง
ถ้าอย่างนั้นรีบกินรีบกลับจะดีกว่า...
จินเฟิงหาอาหารให้เด็กน้อยและหลิวชิงกิน ตอนแรกนางคิดว่าจะไม่กิน แต่เพราะกลิ่นหอมบวกกับเสียงท้องร้องนางก็เลยล้มเลิกที่จะรีบกลับบ้าน “เจ้ากินข้าวเสร็จก็กินยาเสีย เจ้าจะได้หายดี ขาดเหลืออะไรอีกไหม”
ถามแบบนี้นางก็ยิ้มกว้างกว่าเดิมพลางตอบแบบไม่เกรงใจ
“หลายอย่างเลย” ใครใช้ให้เขามีน้ำใจกัน ส่วนนางก็ไม่รอช้ารับน้ำใจจากเขา จากนั้นกระท่อมร้างก็ถูกปัดกวาด มีแคร่ไม้ไว้สำหรับวางฟูกนอน ส่วนบานหน้าต่างที่ผุพังก็ถูกซ่อมจนสามารถบังลมได้
หลิวชิงมองจินเฟิงที่เร่งมือทั้งวันพยายามทำให้นางนอนในคืนนี้ได้ แวบหนึ่งก็ปรากฏความคิดหนึ่งขึ้นมา หรือว่าเราจะเปลี่ยนจากหาเงินมาหาสามีตรงหน้าดีจะได้ไม่ต้องทำอะไรเลย
คนคิดรีบสะบัดความคิดออก ไม่ได้ นางต้องมีเป้าหมายที่จะยืนด้วยตัวเองให้ได้ สายตาของจินเฟิงมองคนที่กำลังส่ายหน้า
“มีอะไรไม่พอใจหรือเปล่า”
หลิวชิงรีบตอบ “เปล่า ไม่มี เพียงเท่านี้ก็มากพอแล้ว” นางนิ่งเพียงครู่ก่อนที่จะพูดต่อ “ใกล้ค่ำแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะไปหาหมอหลุนใหม่ ท่านรีบกลับไปเถอะ”
ถึงอย่างไรนางก็เป็นสตรีที่มีสามีแล้ว การที่บุรุษอื่นอยู่ด้วยจนมืดค่ำเกรงว่าจะไม่ดีแน่ ยิ่งนางเป็นสะใภ้ที่สกุลหวงไม่ค่อยชอบด้วย
จินเฟิงเหมือนจะเข้าใจ เขายิ้มบาง จากนั้นก็หันหลังให้ ภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็นนั้นเขาหันหลังให้นางแล้วพูด
“ข้ายังยืนยันคำเดิม ไม่ว่าเจ้าจะเป็นยังไง ข้าพร้อมจะดูแลเจ้าเสมอชิงชิง”
หลิวชิงมองภาพตรงหน้า เหตุใดหัวใจในร่างนี้ถึงได้สั่นไหวกับคำพูดนั้น หรือว่าจริง ๆ แล้วหลิวชิงก็ชอบอีกฝ่ายเช่นกัน
แต่เดี๋ยวนะ... หรือว่าเขาคือพ่อของเด็กในท้อง!!!
บทที่ 1 เหตุใดเป็นเช่นนี้
02/09/2024
บทที่ 2 หาเงิน
02/09/2024
บทที่ 3 ใช้ชีวิตให้ได้
02/09/2024
บทที่ 4 สุสานบรรพชน
02/09/2024
บทที่ 5 สับปะรด
02/09/2024
บทที่ 6 ข้าจะหย่า
02/09/2024
บทที่ 7 อยากเป็นอิสระ
02/09/2024
บทที่ 8 รักษาคนป่วย
02/09/2024
บทที่ 9 กาฬโรค
02/09/2024
บทที่ 10 ช่วยชีวิตคน
02/09/2024
บทที่ 11 ใบหย่าที่เจ้าอยากได้
02/09/2024
บทที่ 12 สะใภ้ไม่รักดี
02/09/2024
บทที่ 13 มีลูกไม่ง่ายเลย
02/09/2024
บทที่ 14 ข้าจะแต่งงาน
02/09/2024
บทที่ 15 ชีวิตที่เลือกใหม่
02/09/2024
บทที่ 16 เมื่อครั้งพบพาน
02/09/2024
บทที่ 17 ข้ามีญาติ
02/09/2024
บทที่ 18 แผนซ่อนแผน
02/09/2024
บทที่ 19 ความจริงที่เจ็บปวด
02/09/2024
บทที่ 20 คู่สามีภรรยา
02/09/2024
บทที่ 21 กลับมาเมืองหลวง
02/09/2024
บทที่ 22 ความเกี่ยวพันกันสองชาติ
02/09/2024
บทที่ 23 โกหกไม่เนียน
02/09/2024
บทที่ 24 แต่งงาน
02/09/2024
บทที่ 25 ความรู้สึกครั้งแรก
02/09/2024
บทที่ 26 คุณชายเฉินฝางแต่งงาน
02/09/2024
บทที่ 27 การรบกับเมืองซ่ง
02/09/2024
บทที่ 28 ผิดแผนไปหมด
02/09/2024
บทที่ 29 อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา (อวสาน)
02/09/2024
หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล
ข้อมูลเพิ่มเติม