นายหัว (เถื่อน) กระหายรัก

นายหัว (เถื่อน) กระหายรัก

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
15.9K
ชม
52
บท

นายหัว(เถื่อน) กระหายรัก เพราะเป็นลูกมาเฟียถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก จู่ๆ ก็ถูกแม่ตัดหางปล่อยวัดให้เผชิญชะตากรรมด้วยตนเอง เผชิญชะตากรรมไม่ว่า แต่วันแรกเธอก็ทำคนตายแล้ว เหตุการณ์ในวัยเด็กทำให้เธอไร้สติหยั่งคิด เผลอเข้าร้านหรูจนกินไวน์ราคาแพงหมดไปสองแสน แม้จะจำนำของในตัวจนหมดแต่ก็ไม่พอ เพราะกลัวว่าพ่อกับแม่จะรู้ เธอจึงเลือกใช้กายชดใช้แทน แต่ใครคิดว่าหลังจากสิ้นคิดคืนนั้น เธอก็ต้องพบปัญหาไม่รู้จบ

บทที่ 1 No.1

เจด้าปรายตามองเพื่อนร่วมชั้นเรียนในห้องพร้อมถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมเธอต้องมานั่งอยู่ที่นี่ท่ามกลางคนแปลกหน้า สถานที่ที่ไม่คุ้นเคย น่าโมโหชะมัด กะอีแค่เธอขัดคำสั่งพ่อแม่ไม่กี่ครั้งก็ถูกส่งกลับเมืองไทยแบบกะทันหันชนิดไม่ให้ตั้งตัว โดยบอกว่าเพื่อดัดนิสัยเจ้าอารมณ์เอาแต่ใจของเธอ หึ ที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่านั้นคือการ ถูกส่งให้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยภาคธรรมดา แทนที่จะเรียนภาคอินเตอร์ให้สมกับฐานะสักหน่อย

เจด้าตัดสินใจเดินออกจากห้องเรียนที่แสนน่าเบื่อโดยไม่สนใจสายตาทุกคู่ที่มองเธอเป็นตาเดียว เมื่อมาถึงรถเก๋งคันงามเด็กสาวก็ออกคำสั่งทันที

“ไปที่ไหนก็ได้”

“ครับ” ลูคัส ชายวัยกลางคนรับคำสั้น ๆ ปิดประตูรถให้สาวน้อยคนงามที่ตอนนี้หน้าตาบึ้งตึง ในฐานะคนขับรถที่ทำงานกับตระกูลนี้มานานจึงขับรถไปยังสวนสาธารณะที่ใกล้ที่สุดทันทีอย่างรู้ใจ ในยามนี้จะมีอะไรดีไปกว่าการพาเธอไปยังที่ที่ทำให้สาวน้อยรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อไปถึงเขาก็หาที่จอด ปล่อยให้เธอลงไปเพียงลำพัง

หญิงสาวลงจากรถแล้วไปเดินเล่นที่ริมบึง ระหว่างนั้นก็หยิบหินก้อนเล็ก ๆ ขึ้นมาเขวี้ยงลงน้ำเพื่อระบายอารมณ์ หลังจากนั้นไม่นานผู้เป็นแม่ก็ตามมาถึง

“คราวนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ”

“พวกเขาแกล้งหนู หาว่าหนูไม่รู้เรื่องอะไร ทำอย่างกับหนูโง่งั้นแหละ เชอะ ลองมาคุยภาษาอิตาลีกับหนูสิ หรือไม่ก็มาประลองเทควันโดกับหนูสักเกมสองเกม ดูซิว่ายังจะกล้าปากดีอีกหรือเปล่า”

แอนนาส่ายหัวกับนิสัยไม่ยอมใครของลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน เธอผิดเองแหละที่ตามใจเจด้าจนเกินไปตั้งแต่เล็ก ๆ มาถึงตอนนี้คิดจะดัดนิสัยลูกก็กลายเป็นว่าเหมือนโยนปัญหาให้อีกฝ่ายต้องเผชิญ แต่ทำอย่างไรได้ ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้จะเข้าทำนองไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก ที่สำคัญเธอต้องพยายามใจแข็งไม่เหมือนที่ผ่านมา คิดแล้วเธอก็ได้แต่ดึงลูกสาวสุดที่รักเข้ามากอดปลอบ

“แม่ขอโทษ แต่แม่ก็ยังเชื่อว่าแม่คิดดีแล้วที่ส่งลูกมาเรียนที่นี่ ชีวิตในวันข้างหน้าน่ะมันไม่ง่ายหรอกนะ ไม่มีใครสามารถอยู่กับลูกได้ตลอดไป แม่จึงอยากให้ลูกรู้จักแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เผื่อในวันที่ไม่มีคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย หรือแม้แต่พ่อกับแม่คอยช่วยเหลือ”

“มีแต่ลุงลูคัสแหละที่ดีกับเจด้าที่สุด” เด็กสาวตัดพ้อขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้ม แอนนาได้แต่ยิ้มน้อยๆ และไม่คิดจะเถียง เพราะทุกวันนี้ลูคัสก็ทำเกินหน้าที่ตัวเองจนกลายเป็นความผูกพันไปแล้ว

“อดทนอีกหน่อยนะ เพื่ออนาคตของลูกเอง”

“ให้หนูเข้าเรียนภาคอินเตอร์ฯ ไม่ได้หรือคะ นะ ๆ แล้วหนูจะตั้งใจเรียนสุด ๆ ไปเลย” เจด้าต่อรอง ส่งสายตาอ้อนวอนคนเป็นแม่ ก่อนจะ พองแก้มด้วยรู้สึกขัดใจเมื่อได้รับคำตอบกลับมาสั้น ๆ ว่า “ไม่ได้”

“ฮือออ หนูอยากตาย” เจด้าโอดครวญเมื่อแผนออดอ้อนไม่ได้ผลเหมือนที่ผ่านมา

“ลูกต้องรู้จักการถูกปฏิเสธซะบ้าง จำไว้ว่าทุกอย่างไม่ได้มาง่าย ๆ หรอกนะ อ้อ แม่เช่าหอพักใกล้ที่เรียนของหนูแล้วด้วย ใกล้มากจนเดินไปกลับได้เลยละ”

เจด้ามองแม่ที่ลุกขึ้นยืนขณะที่ยังคงพูดต่อ

“และแม่ก็จะให้เงินหนูไว้ใช้จ่ายอาทิตย์ละหนึ่งพันบาทเท่านั้น”

“แม่!!” เจด้าร้องเสียงหลง หนึ่งพันบาทเนี่ยนะ ข้าวมื้อเดียวก็หมดแล้ว

“ถ้าหมดก่อนครบอาทิตย์จะไม่มีการเพิ่มให้อย่างเด็ดขาด และอย่าคิดโทร.ไปขอพ่อหรือคุณตาล่ะ” แอนนาพูดดักทางอย่างรู้ทันลูกสาว

“โธ่ แม่ แล้วถ้าเงินหมด หนูจะเอาเงินที่ไหนกินข้าวล่ะ”

“งานก็คือเงิน ถ้ารู้จักทำงานก็มีเงินแลกข้าวกิน” แอนนาพูดทิ้งท้ายสั่งสอนลูกสาวก่อนเดินไปหาลูคัสที่ยืนอยู่ไม่ไกล “ส่วนนาย ตอนนี้มีงานใหม่ต้องทำ”

ฮึ! แม้แต่ลุงลูคัสก็ยังถูกขัดขวางไม่ให้ช่วยเธอ เจด้าได้แต่คร่ำครวญในใจกับชะตาชีวิต ถูกให้ออกจากบ้านหลังโตย้ายมาอยู่หอพักใกล้มหาวิทยาลัย เรียนหนังสือร่วมกับนักศึกษาบ้าน ๆ

เมื่อเจด้าเปิดประตู หญิงสาวคนหนึ่งในห้องหันมามองแล้วรีบแนะนำตัว “สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อมลฤดี เรียกสั้น ๆ ว่ามลก็ได้ ฝากตัวด้วยนะ เธอชื่ออะไรล่ะ”

แม่นะแม่ ใจร้ายชะมัด ส่งลูกสาวตัวเองมาอยู่ห้องเช่ารูหนูไม่พอ ยังให้มาอยู่ร่วมกับคนแปลกหน้า เจด้าเดินกระแทกเท้าไปที่เตียงนอน หยิบหมอนออกมาแล้วกรี๊ดใส่หมอนระบายอารมณ์

เมื่อกรีดร้องจนพอใจแล้วก็เงยหน้ามองเพื่อนร่วมห้องที่ทำหน้างง “ฉันชื่อ...” เจด้านิ่งไปสักพักก่อนตัดสินใจบอกชื่อไทยที่แม่ของเธอตั้งให้

มลฤดีมองเพื่อนใหม่ที่ดูท่าทางน่าจะแสบไม่เบา ก็พอจะเดาได้ว่าอนาคตที่ต้องอยู่ร่วมห้องกับสาวเจ้าอารมณ์คนนี้คงสนุกแน่ ๆ

“เธอเรียนคณะไหนเหรอ?”

เจด้าบอกชื่อคณะ ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายก็เรียนคณะเดียวกันแต่คนละห้อง

“ไปกินข้าวกันไหม” มลฤดีชวน ท้องเจด้าร้องพอดี เธอจึงพยักหน้า ลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ก่อนจะหยิบกระเป๋าถือแบรนด์เนมขึ้นคล้องแขน

“โอ้โฮ กระเป๋าใบนี้เหมือนของจริงเลย เมื่อวานฉันเองก็เห็นขาย ที่ในตลาด มีให้เลือกตั้งหลายสีแน่ะ”

เจด้าอึ้ง ก้มมองกระเป๋าเรือนแสนของตัวเองสลับกับหน้าคนพูด ช่างเถอะ จะเอาอะไรมากกับนักศึกษาจน ๆ คนหนึ่ง มีตาหามีแววไม่ และเธอเองก็ไม่จำเป็นต้องอวดจึงตามน้ำไป “หึ ๆ เพิ่งได้มาเมื่อวานน่ะ เหมือนของจริงจนแยกไม่ออกเลยเนอะ”

สองสาวลงมาที่ชั้นล่าง เห็นร้านอาหารตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามตึก แต่สะพานลอยที่จะข้ามไปอยู่ค่อนข้างไกล มลฤดีจึงฉุดมือเจด้าวิ่งข้ามถนน!!

“เดี๋ยว ๆ!!” เจด้าที่ไม่เคยทำเรื่องแบบนี้รีบร้องห้าม แต่ไม่ทัน เสียแล้ว เสียงรถเบรกดังลั่นถนนพร้อมกับเจด้าที่หลับตาปี๋ คิดว่าตัวเองคงต้องตายกลายเป็นผีเฝ้าถนนแน่ ๆ ทว่าผ่านไปสักครึ่งนาทีก็ยังไม่รู้สึกเจ็บ จึงลืมตาขึ้นมองก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ารถคันนั้นได้หักหลบเข้าข้างทางจนชนเข้ากับเสาไฟฟ้าเสียแล้ว

เจด้าเห็นว่าคนขับเหมือนจะยังมีสติอยู่เธอจึงจะวิ่งเข้าไปดู แต่จู่ ๆ มีรถอีกคันวิ่งตามมาด้านหลังอย่างเร็วก่อนชนรถคันที่คาเสาไฟอยู่เต็มแรง “โครม!!”

เจด้าแทบช็อก ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก มลฤดีฉุดเพื่อนให้ไปยืนบนเกาะกลางถนน เสียงรถกู้ภัยที่แล่นผ่านมาพอดีดังแสบแก้วหู เจ้าหน้าที่รีบลงไปช่วยผู้เคราะห์ร้ายที่มีเลือดท่วมตัวออกมาจากรถ

“ตายแล้ว...ผู้ชายคนนั้นตายแล้ว เราสองคนทำให้เขาต้องตาย” เจด้าพูดเสียงสั่น มือเย็นเฉียบ มลฤดีตั้งสติได้เร็วกว่า รีบพาเพื่อนข้ามไปอีกฝั่งทันที

“ถ้ามีใครถามก็บอกว่าไม่รู้ไม่เห็นนะเข้าใจไหม พวกเรามาเห็นก็หลังจากที่รถชนกันแล้ว” มลฤดีกำชับขณะที่ทั้งสองคนนั่งอยู่ในร้านอาหารแล้ว

เนื่องจากตอนนั้นผู้คนต่างวุ่นวาย จึงไม่มีใครสังเกตเห็นว่ารถเกิดอุบัติเหตุได้อย่างไร เหตุการณ์ตรงหน้าพลอยให้เจด้านึกถึงตอนที่ตัวเองอายุห้าขวบ

มือของเจด้ายังคงสั่น อาการที่เคยหายแล้วเริ่มกำเริบอีกครั้ง “ฉันกลับห้องก่อนนะ” เจด้าบอกพลางลุกขึ้นเดินเหม่อออกจากร้านอาหารไปตามถนนเหมือนคนขาดสติ

เสียงเพลงดังแว่วเข้าหูทำให้หญิงสาวหันไปมอง มาจากร้านเหล้านั่นเอง เมื่อเห็นแสงไฟกะพริบหน้าร้านเท้าก็เดินเข้าไปอัตโนมัติ เมื่อหาที่นั่งได้แล้ว พนักงานก็มารับออร์เดอร์ เจด้าบอกชื่อไวน์ที่ตัวเองดื่มเป็นประจำ

พนักงานแปลกใจเล็กน้อย แต่เมื่อเหลือบเห็นกระเป๋าแบรนด์เนมของแท้จึงยกไวน์มาเสิร์ฟให้ เจด้ารินไวน์ดื่มหลายแก้วในเวลาอันรวดเร็ว เพราะนี่ไม่ใช่การดื่มเพื่อลิ้มรสชาติ แต่เพื่อให้ลืมเรื่องในอดีตและเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ ผ่านไปไม่นาน หญิงสาวเพียงลำพังก็ดื่มไวน์หมดไปสองขวด

อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ทำให้เธอเมา มีแค่อาการเหม่อลอยที่ยังคงอยู่ เมื่อคิดว่าได้เวลากลับแล้วเธอก็หยิบกระเป๋าลุกเดินออกไป “เดี๋ยวคุณ!!” เสียงพนักงานเรียกและรีบวิ่งตาม

“คุณยังไม่จ่ายเงิน”

เจด้าพยักหน้าน้อย ๆ ก่อนหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋าถือ แต่กลับพบว่ามีแค่ธนบัตรหนึ่งพันบาทใบเดียว โธ่เอ๊ย ลืมไปเลยว่าตอนนี้เธอถูกจำกัดการใช้เงิน

พนักงานเห็นท่าทีหญิงสาวก็ถอนหายใจพลางพึมพำ ว่าแล้วเชียว ซวยตั้งแต่หัววัน หลังจากนั้นก็พาเธอไปยังห้องเจ้านายที่อยู่ด้านในของร้าน ประตูปิดลงแล้ว แต่เจด้ายังคงก้มหน้า

เสียงเข้มของชายในห้องสั่งให้นั่งเธอก็นั่ง “พอจะโทร.หาคนที่บ้านให้มาจ่ายได้ไหม”

คนกินแล้วไม่จ่ายเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อยครั้ง แต่ส่วนมากจะแกล้งเมาเอะอะโวยวายแล้วชิ่งหนี แต่ผู้หญิงคนนี้นอกจากไม่หนีแล้ว ยังเดินเข้ามาในอาการที่สงบนิ่ง หญิงสาวไม่พูดไม่จา สักพักจึงเงยหน้าแล้ววางกระเป๋าแบรนด์เนมลงบนโต๊ะ “กระเป๋านี่ราคาประมาณหนึ่งแสน ส่วนกระเป๋าสตางค์ประมาณห้าหมื่น พอไหม”

พีรพัฒน์นึกดูถูกในใจ เด็กคนนี้น่าจะยังเรียนไม่จบ แต่กลับมีของแพง ๆ ติดตัว แสดงว่าคงไม่พ้นทำงานอย่างว่าสินะ

คนที่ขึ้นบกได้ไม่นานหลังจากอยู่ที่เกาะมาหลายเดือน ด้วยความรู้สึกอดอยากปากแห้ง เห็นคนตรงหน้าก็รู้สึกสนใจ เขาแอบกระหยิ่มยิ้มย่อง “ชดใช้ได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้นแหละ”

ไวน์สองขวดราคาเกือบสองแสน มองอย่างไรก็ขาดทุน ถ้าเขาซื้อกินข้างนอกยังถูกกว่าด้วยซ้ำ หรือว่าควรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทนดี

พีรพัฒน์ลุกขึ้น เดินอ้อมโต๊ะไปหาหญิงสาวแล้วเชยคางเธอให้เงยขึ้นเพื่อจะมองหน้าให้ชัดกว่าเดิม อืม ยิ่งดูก็ยิ่งสวย “คืนเดียวแลกกับหนี้ทั้งหมด”

ข้อเสนอนี้หมายถึงอะไรมีหรือเจด้าจะไม่เข้าใจ แต่ถ้าพ่อแม่รู้เรื่องอาการเหม่อลอยของเธอกำเริบอีก ก็คงต้องสืบหาสาเหตุจนกระทั่งรู้ว่าเธอเป็นต้นเหตุให้คนตายวันนี้ ทีนี้ละเธอได้ถูกตัดหางปล่อยวัดอย่างแน่นอน

“ได้” เพียงคำเดียวของเธอกำลังจะเปลี่ยนชีวิตตนเองในวันข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว

คนที่หื่นกระหายเพราะขาดเรื่องบนเตียงมานานพาหญิงสาวไปยังห้องด้านหลัง จากนั้นสั่งให้เธอถอดเสื้อผ้าออกเพื่อชมเรือนร่างงดงาม จุ๊ ๆ สวยทุกส่วนไม่มีที่ติจริง ๆ พีรพัฒน์นึกในใจก่อนถอดเสื้อผ้าของตนเองออกและก้มลงจูบเธอ โดยไม่คิดที่จะเล้าโลมให้เสียเวลา ชายหนุ่มจัดการยัดท่อนเอ็นยักษ์ของตัวเองเข้าไปในกายของเธอทันที

เจด้ากรีดร้องแล้วขยับหนี คนกระหายมองโคนตรงปลายที่ติดเลือดมา “เฮ้ย!”

“เธอไม่เคย” เจด้าส่ายหน้าแล้วยกผ้าห่มขึ้นปิดร่างกาย มองอีกฝ่ายที่กำลังด่าตัวเอง

“แล้วจะเอายังไงต่อดี” เธอที่หวาดกลัวเขา กลับกลัวพ่อแม่จะรู้มากกว่าจึงบอกไปว่า “ต่อให้จบเถอะ คุณบอกว่าแค่คืนเดียวนี่”

ในเมื่ออีกฝ่ายอนุญาตแล้ว มีหรือผู้ชายอย่างเขาจะปฏิเสธ

“ผมจะเบามือที่สุด” ตอนแรกเขาคิดว่าหญิงสาวจะเชี่ยวชาญ กลับกลายเป็นว่านี่เป็นครั้งแรกของเธอ เขาจึงต้องทำอย่างเบามือ ค่อย ๆ สอดใส่เข้าไปในตัวเธอทีละนิดจนมิด

“อื้อ” เจด้าสะดุ้งพร้อมแอ่นหน้าอกตอบรับอย่างอัตโนมัติ พีรพัฒน์ก้มลงดูดมันอย่างหื่นกระหาย เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง หลังจากนั้นจึงได้พบกับความเร่าร้อนที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน

เสียงเหนื่อยหอบของเจด้าทำให้คนตรงหน้ารู้สึกพอใจ เขามองหญิงสาวที่นอนหลับตาอย่างเหนื่อยล้า จึงก้มลงหอมแก้มเธออีกครั้ง อยากจะรังแกเธอให้มากกว่านี้ ให้สมกับความอัดอั้นที่สะสมมานาน หากเขาไม่กลัวแม่สาวน้อยจะตื่นตระหนกเสียก่อน คิดว่าคืนนี้เธอคงไม่ได้นอน

“ผมมีความสุขมาก”

เธอเหนื่อยแต่ก็ต้องคิดถึงวันข้างหน้า “ฉันไม่ติดค้างคุณแล้วนะ” เจด้าลืมตามองเขา

“ว่าแต่คุณพอมีตำแหน่งว่างในร้านบ้างไหม ฉันอยากทำงาน” สำหรับเจด้าเงินแค่หนึ่งพันบาทต่ออาทิตย์ไม่พอแน่ ๆ

พีรพัฒน์มองใบหน้างาม คิดว่าแค่เธอนอนกับเขา เขาก็พร้อมจะเลี้ยงดูเธออย่างดี

“ถ้าผมจะเลี้ยงดูคุณ...”

เจด้าส่ายหน้าแล้วลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้า

“คุณบอกว่าแค่คืนเดียว พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องแบบนี้อีก ฉันอยากทำงานหาเงินเอง คุณพอจะมีงานว่างไหม ถ้าไม่มีฉันไปหาที่อื่น ก็ได้”

โอ้ เด็ดเดี่ยวจริง ๆ พีรพัฒน์ไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อน ทั้งที่ถูกเขาพรากความบริสุทธิ์ แต่เธอกลับไม่คิดจะต่อรองหรือเรียกร้องเงินเพิ่ม หนำซ้ำยังของานเขาทำ ถ้าไม่ให้ก็พร้อมจากไปโดยง่าย

“ถ้าคุณอยากทำงาน ผมมีตำแหน่งว่างพอดี”

เจด้าหันไปมองร่างเปลือยที่เดินมายื่นนามบัตรให้ “พรุ่งนี้บ่าย สามโมงเข้ามาที่ร้าน ผมจะสอนงานคุณก่อนเริ่มงาน ร้านอาหารของเราส่วนมากให้บริการลูกค้าระดับสูง ดังนั้นจะผิดพลาดไม่ได้ เข้างานสี่โมง ออกงานตอนเที่ยงคืน”

เจด้าพยักหน้าเข้าใจ และรู้สึกโชคดีที่เวลางานกับตารางเรียน ไม่ชนกัน เธอจึงออกจากห้องแล้วกลับที่พักโดยไม่คิดจะหันกลับไปมองเขาเลยสักนิด

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

Nadia Lada
5.0

เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

สามีข้าเป็นหมีแพนด้าผู้คลั่งรัก

สามีข้าเป็นหมีแพนด้าผู้คลั่งรัก

รวิญาดา ผการุ้ง
5.0

หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
นายหัว (เถื่อน) กระหายรัก
1

บทที่ 1 No.1

19/09/2024

2

บทที่ 2 No.2

19/09/2024

3

บทที่ 3 No.3

19/09/2024

4

บทที่ 4 No.4

19/09/2024

5

บทที่ 5 No.5

19/09/2024

6

บทที่ 6 No.6

19/09/2024

7

บทที่ 7 No.7

19/09/2024

8

บทที่ 8 No.8

19/09/2024

9

บทที่ 9 No.9

19/09/2024

10

บทที่ 10 No.10

19/09/2024

11

บทที่ 11 No.11

19/09/2024

12

บทที่ 12 No.12

19/09/2024

13

บทที่ 13 No.13

19/09/2024

14

บทที่ 14 No.14

19/09/2024

15

บทที่ 15 No.15

19/09/2024

16

บทที่ 16 No.16

19/09/2024

17

บทที่ 17 No.17

19/09/2024

18

บทที่ 18 No.18

19/09/2024

19

บทที่ 19 No.19

19/09/2024

20

บทที่ 20 No.20

19/09/2024

21

บทที่ 21 No.21

19/09/2024

22

บทที่ 22 No.22

19/09/2024

23

บทที่ 23 No.23

19/09/2024

24

บทที่ 24 No.24

19/09/2024

25

บทที่ 25 No.25

19/09/2024

26

บทที่ 26 No.26

19/09/2024

27

บทที่ 27 No.27

19/09/2024

28

บทที่ 28 No.28

19/09/2024

29

บทที่ 29 No.29

19/09/2024

30

บทที่ 30 No.30

19/09/2024

31

บทที่ 31 No.31

19/09/2024

32

บทที่ 32 No.32

19/09/2024

33

บทที่ 33 No.33

19/09/2024

34

บทที่ 34 No.34

19/09/2024

35

บทที่ 35 No.35

19/09/2024

36

บทที่ 36 No.36

19/09/2024

37

บทที่ 37 No.37

19/09/2024

38

บทที่ 38 No.38

19/09/2024

39

บทที่ 39 No.39

19/09/2024

40

บทที่ 40 No.40

19/09/2024