เกิดใหม่เป็นแม่หม้ายที่สามีทิ้ง

เกิดใหม่เป็นแม่หม้ายที่สามีทิ้ง

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
14.7K
ชม
20
บท

ชาติภพก่อนนางต้องสูญเสียลูกและสามีเพราะคนร้ายกราดยิงในห้าง จนนางเลือกจบชีวิตโดยการฆ่าตัวตายตาม พอเกิดชาติใหม่ก็มาอาศัยร่างที่ใบหน้าเหมือนตัวเองแถมมีลูกสาวที่หน้าเหมือนลูกสาวภพก่อนแต่กลับถูกสามีทิ้งให้มาอยู่ลำพังบนเขาจนอดข้าวตาย นางที่ได้มาอาศัยร้าง สัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวคนนี้ให้ดีที่สุด และหวังว่าจะเจอสามีนางในภพเช่นกัน หญิงหม้ายเช่นนางจะดูแลบุตรสาวด้วยตัวเอง... "ท่านแม่กอดเอวของท่านพ่อเอาไว้แบบนี้ห้ามปล่อยนะเจ้าคะ ถ้าท่านแม่กอดเอวท่านพ่อก็จะได้กอดถิงถิงไปด้วย" เสียงเล็กของสาวน้อยที่นั่งตรงกลางระหว่างเจินเป่าและเหนียงไป๋กล่าวบอกผู้เป็นมารดาด้วยน้ำเสียงแจ่มใส เหนียงไป๋จึงไม่มีทางเลือกต้องพยักหน้ารับและทำตามที่บุตรสาวบอกแต่โดยดี ******************* นิยายสนุก น่ารัก อบอุ่นหัวใจ ดีต่อสุขภาพ แวะมาอ่านกันเยอะๆ นะคะ

บทที่ 1 ภพปัจจุบัน

…แดนเนรมิต…ที่ถูกเนรมิตขึ้นมาให้เป็นโลกแห่งความสุขสำหรับครอบครัวและคนทุกเพศทุกวัย ได้มาพักผ่อนในวันหยุด ซึ่งเป็นการพักผ่อนไปกับบรรยากาศที่สดใส และในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ก็เป็นอีกวันที่สวนสนุกใจกลางเมืองหลวงของจีนแผ่นดินใหญ่ คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย เดินสวนกันไปมาอย่างมีชีวิตชีวา เสียงจอแจพูดคุยของผู้คนดังอยู่รอบทิศ โดยเฉพาะเสียงของเด็ก ๆ บรรยากาศครื้นเครงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน

หนึ่งในครอบครัวหลายครอบครัวในที่นี่ ก็มีครอบครัวแสนอบอุ่นครอบครัวหนึ่ง ที่มีพ่อชื่อว่าเถียนฟง แม่ชื่อว่าเหนียงไป๋ และลูกสาวชื่อว่าถิงถิง ซึ่งเถียนฟงและเหนียงไป๋ก็ได้พาถิงถิงมาเที่ยวสวนสนุกในวันหยุดเหมือนกับครอบครัวอื่นทั่ว ๆ ไป

“บรึ๋น บรึ๋น บรึ๋น” เสียงของคุณพ่อผู้แสนใจดีและอบอุ่นกำลังขับเครื่องบิน หยอกล้อกับลูกสาวผู้น่ารัก ซึ่งเครื่องบินที่นั่งอยู่นี้ เป็นเครื่องเล่นสำหรับครอบครัว พ่อแม่ลูกนั่งในตัวเรือบินที่กำลังลอยล่องขึ้นลงโดยอัตโนมัติ ด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขสนุกสนาน บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ “ฮ่า ๆ”

เมื่อครบเวลาของเครื่องเล่น ทุกคนก็ลงมาจากเครื่องเล่นเครื่องบินลำน้อยด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม และดูเหมือนว่าถิงถิงจะติดใจกับเครื่องเล่นของที่นี่เข้าให้แล้ว “แม่คะพ่อคะ ถิงถิงอยากขึ้นอันนั้นด้วยค่ะ” เด็กน้อยหน้าตาน่ารัก ดวงตากลมโตปานไข่ห่าน ใบหน้าอ้วนกลมเหมือนซาลาเปา พวงแก้มปริแตกจนเห็นสีชมพูอ่อน รูปร่างอ้วนฉุพุงพลุ้ยชี้นิ้วสั้น ๆ กลม ๆ ไปที่รถไฟทรงโบราณ ที่ขึ้นนั่งได้ทั้งครอบครัวเช่นเคย แต่เครื่องเล่นนี้เป็นเครื่องเล่นที่เอาไว้นั่งชมบรรยากาศที่สวยงามและร่มรื่นของพฤกษานานาพันธุ์ พ่อกับแม่มองหน้ากันแล้วพยักหน้าตกลงทั้งสองฝ่าย ก่อนจะจูงมือน้อย ๆ ของลูกสาวคนละข้างไปยังเครื่องเล่นรถไฟโบราณ

ทุกอย่างรอบข้างที่ถูกจัดไว้นั้นสวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเด็กน้อยเป็นอย่างมาก พ่อกับแม่ชี้นั่นชี้นี่ให้ลูกได้ดู เป็นภาพความทรงจำที่ดีมาก ๆ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของทุ่งดอกไม้ตามฤดูกาลโชยเข้ามาแตะปลายจมูกของคนทั้งสาม เด็กน้อยตัวกลมยิ้มร่ามีความสุข สายลมพัดผ่านทำให้ผมเส้นบางปลิวไสวปิดดวงตาโต คุณพ่อผู้แสนดีก็ปัดออกให้อย่างอ่อนโยน ทั้งยังปัดเส้นผมที่ปกคลุมใบหน้ารูปไข่ของคุณแม่คนสวยออกให้ด้วยเช่นกัน

ครอบครัวนี้ถือว่าเป็นครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียวกัน ทั้งยังอบอุ่นและแน่นแฟ้น มีความสัมพันธ์ภายในครอบครัวระหว่างพ่อแม่ลูกที่เกิดร่วมกันอย่างลึกซึ้ง พ่อกับแม่มีเวลาให้ลูกน้อยเสมอ ทั้งเถียนฟงและเหนียงไป๋ให้ความสำคัญกับลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองเป็นอันดับหนึ่ง ออกไปท่องเที่ยวด้วยกันในทุก ๆ วันหยุด ทั้งสามคนจึงผูกพันและสนิทสนมกันมาก และทุก ๆ ที่ที่ไปด้วยกัน ก็มักจะเป็นภาพทรงจำที่ดีของครอบครัวนี้เสมอ

เมื่อครบเวลาของเครื่องเล่นรถไฟโบราณชมเมือง ทุกครอบครัวก็ลงมาจากเครื่องเล่นพร้อมกัน ๆ “อึ๊บ” คุณพ่อที่ตัวใหญ่และแข็งแรงกว่ามีหน้าที่อุ้มลูกสาวที่เริ่มอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเพราะพลังงานเริ่มหมดออกจากเครื่องเล่น ลูกสาวเมื่อถูกอุ้มก็ซบไหล่ผู้เป็นพ่อในทันที คล้ายกำลังจะหลับ “ตัวแสบง่วงนอนแล้วใช่ไหมเนี่ย” ผู้เป็นพ่อถามลูกน้อยด้วยความเอ็นดู ก่อนจะกดริมฝีปากไปที่แก้มป่องหนัก ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว

“หิวน้ำไหมลูก” เหนียงไป๋ถามลูกสาว แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากลูกน้อยนั้นเป็นแค่เพียงการส่ายหน้าเบา ๆ บนหัวไหล่กว้างของผู้เป็นพ่อ

“ลูกคงง่วงแย่แล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้นเรากลับกันเลยดีไหม” เถียนฟงหันหน้าไปขอความเห็นจากภรรยาคนสวย และแน่นอนว่าเหนียงไป๋ต้องพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “อื้ม ดีเหมือนกัน”

“โอเค” เสียงทุ้มตอบตกลงภรรยาพร้อมกับยื่นมือหนาไปให้เธอจับกุมเอาไว้ เถียนฟงเสมอต้นเสมอปลายกับเหนียงไป๋เสมอ ตั้งแต่วันแรกที่ตกหลุมรักกันจนถึงวันนี้ คำสัญญาที่เถียนฟงให้ไว้กับเหนียงไป๋ว่าจะปกป้องทั้งร่างกายและความรู้สึกของเธอนั้น เถียนฟงไม่เคยผิดสัญญาเลยสักครั้ง เหนียงไป๋รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากที่ได้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ และได้เป็นแม่ของลูกเขา

จุดหมายปลายทางอันแสนยาวไกล ความเหนื่อยล้าและลมเย็น ๆ จากเครื่องปรับอากาศของรถยนต์ ทำให้เหนียงไป๋ที่ตั้งใจว่าจะนั่งคุยเป็นเพื่อนสามีตลอดทางนั้น เผลอหลับใหลไปพร้อมกับแก้วตาดวงใจตัวน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่ในคาร์ซีทเบาะหลัง…รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงเจื้อยของถิงถิงพูดขึ้น “คุณแม่คะ คุณแม่คะ” คนเป็นแม่ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน เมื่อได้ยินเสียงของลูกก็ต้องลืมตาตื่นขึ้นในทันที “อ้าว....ตื่นแล้วเหรอลูก”

“หนูหิวข้าวค่ะ” เด็กตัวน้อยบนคาร์ซีทที่พึ่งตื่นจากการหลับลึก ก็ตาใสไม่งอแงเลยสักนิด ทั้งยังพูดจาเจื้อยแจ้วออดอ้อนพ่อกับแม่ให้พาแวะห้างสรรพสินค้าที่กำลังจะถึงข้างหน้า เด็กน้อยจำได้เพราะพ่อกับแม่เคยพามาบ่อย ๆ เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใกล้บ้านมากที่สุด

ความจริงเถียนฟงมองถิงถิงในกระจกมองหลังอยู่ตลอด ตั้งแต่ได้ยินเสียงลูกขยับตัวแล้ว เมื่อลูกสาวขยับปากน้อยเพื่อเปล่งเสียงเล็กออกมา ก็ทำให้ผู้เป็นพ่อหลุดขำเบา ๆ ออกมาในทันที “หึหึ” เพราะลูกสาวชอบแวะห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มาก ยังแอบคิดอยู่ในใจเลยว่าถิงถิงต้องตื่นตอนที่ใกล้ถึงห้างเป็นแน่ และแน่นอนว่าเมื่อลูกเอ่ยขอ คุณพ่อผู้ใจดีและตามใจลูกสาวตัวน้อยตลอดจะไม่ขัด “เดี๋ยวพ่อพาแวะกินข้าวที่ห้างสรรพสินค้าข้างหน้านะลูก”

“เย้ ๆ พ่อใจดีที่สุดในโลกเลย”

“ฮ่า ๆ”

…ภายในห้างสรรพสินค้า วันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ แน่นอนว่าต้องเต็มไปด้วยครอบครัวและกลุ่มวัยรุ่นเดินสวนกันไปมาอย่างคับคั่ง ด้วยความหิว ครอบครัวนี้จึงพากันเดินตรงไปขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อไปยังชั้นสอง ที่เป็นชั้นของศูนย์รวมร้านอาหาร ซึ่งมีทั้งร้านอาหารไทย จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่น และเกาหลี แต่กลิ่นอาหารหอม ๆ ที่มีให้เลือกหลากหลายจากฟู้ดส์คอร์สเรียกความสนใจจากผู้เป็นแม่ของครอบครัวนี้ได้มากกว่าร้านอาหารอื่น ๆ “เราไปกินที่ฟู้ดส์คอร์สกันดีไหม มีอาหารให้เลือกเยอะ ราคาประหยัดอีกด้วย”

“ฮ่า ๆ สมกับที่เป็นแม่จริง ๆ” เถียนฟงหลุดขำภรรยาคนสวยออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะตั้งแต่ที่เขาแต่งงานกับเหนียงไป๋ เธอก็เปลี่ยนเป็นคุณแม่จอมงก ที่มักจะคำนวณทุกอย่างก่อนจะใช้จ่าย

คำพูดสองแง่สองง่ามของสามี ทำให้ผู้เป็นภรรยาช้อนตาเขียวใส่ทันที ก่อนจะยื่นมือไปหยิกแก้มสากแรง ๆ หนึ่งที “จะว่าฉันขี้งกเหรอ เดี๋ยวเถอะ ๆ”

“อะ โอ๊ย ผมไม่ได้พูดเลยนะ” สามีภรรยาคู่นี้มักจะหยอกล้อกันแบบนี้อยู่บ่อย ๆ แต่สิ่งนี้ก็ทำให้ทั้งสองรักกันอย่างเหนียวแน่นมากขึ้น

“แม่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เลือกที่นั่งไว้รอก่อนได้เลย”

“อื้ม…”

ระหว่างที่เหนียงไป๋กำลังเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากฟู้ดส์คอร์สมากนัก อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดและเสียงโวกเหวกโวยวายด้วยความหวาดผวาดังขึ้น

“ว๊าย!”

“กรี๊ด!”

ก่อนที่ผู้คนจะเริ่มวิ่งเบียดเสียดกันมาจากทางฟู้ดส์คอร์ส เหนียงไป๋เริ่มใจคอไม่ดีจะเดินกลับไปหาสามีและลูกสาว แต่ทว่าเธอกลับถูกเบียดจากผู้คนที่หลั่งไหลวิ่งมาเข้าไปในห้องน้ำ “อ๊ะ!” หลายคนวิ่งเข้ามาในห้องน้ำด้วยเช่นกัน ก่อนที่ประตูใหญ่จะมีใครบางคนปิดและใส่กลอน

เหนียงไป๋ตกใจมาก จึงเอ่ยถามคนข้าง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น “กะ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” แต่อีกฝ่ายกลับเอานิ้วชี้ทาบปาก เป็นสัญญาณบอกให้เงียบก่อน แทนการเปล่งเสียงพูด บรรยากาศในตอนนี้มันเย็นยะเยือกสร้างความหวาดหวั่นเสียวสันหลังกระจายไปยังทุกคนในห้อง

ปัง! ปัง! ตอนที่เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นคล้ายเสียงปืนนั้น เหนียงไป๋สะดุ้งเฮือกใหญ่ หันขวับมองคนรอบข้างนึกว่าหูตัวเองฟังผิดไป พลันหนาวสะท้านไปทั้งแผ่นหลัง ตระหนกวาบขึ้นมาในใจ รู้สึกหวาดหวั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พอจะเริ่มรู้แล้วว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น เพราะได้ยินเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศเกลี่ยกล่อมให้คนร้ายใจเย็นและหยุดการกระทำ

เหนียงไป๋เริ่มวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เป็นห่วงสามีกับลูกสาวที่อยู่ด้านนอก ทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกคนข้าง ๆ ดึงแขนเอาไว้ เธอจึงจำต้องนั่งลงที่เดิมอย่างฝืนใจ ปัง! ปัง! เสียงปืนดังขึ้นเรื่อย ๆ และมีเสียงรถพยาบาลจากข้างนอกตัวห้างดังระงม

ช่องด้านล่างประตูที่แสงลอดผ่านเข้ามาได้ ทำให้ทุกคนในห้องน้ำต่างเห็นเงาร่างของยมทูตเดินผ่านไปผ่านมา ความเย็นยะเยือกขนลุกซุ่พลันจู่โจม ใบหน้าของทุกคนแข็งทื่อ เอามือปิดปากของตัวเองไม่ให้กรีดร้อง จนกระทั่งเงาดำหน้าประตูเคลื่อนไปทางอื่น

แต่ทว่า…แกร๊ก!

ปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนดังขึ้นถี่รัวติดต่อกันหลายนัด ทุกคนในห้องน้ำต่างขวัญผวา ใบหน้าซีดเผือดไปตาม ๆ กัน

แต่แล้ว…เมื่อเสียงปืนสงบลง เสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น “วิสามัญคนร้ายสำเร็จแล้ว” เหมือนกับว่าเสียงก่อนหน้านี้ จะเป็นการต่อสู้ระหว่างเจ้าหน้าที่กับคนร้าย และในที่สุดคนร้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตก่อนที่คนร้ายจะเข้ามาในห้องน้ำได้

ประตูถูกเปิดออก ซึ่งเป็นฝีมือของตำรวจ ความรู้สึกปลอดภัยก็ทำให้เหนียงไป๋และทุกคนถอนหายใจได้อย่างโล่งอก ตอนนี้เป็นเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ไม่มีเวลาเหลือพอให้ตั้งคำถามซ้ำสอง เมื่อเหนียงไป๋ออกมาจากห้องน้ำได้แล้ว เธอก็ไม่ยอมเดินตามคนอื่น ๆ ไปต่อ แต่กลับกวาดสายตามองซ้ายมองขวาก่อนจะเอ่ยถามเจ้าหน้าที่คนข้าง ๆ น้ำเสียงร้อนรน โดยที่ไม่สนใจศพของคนร้ายที่นอนคว่ำหน้าอยู่เลยสักนิด เวลานี้สามีกับลูกสำคัญที่สุด “คุณคะ สามีกับลูกสาวของฉันถูกช่วยเหลือออกไปแล้วใช่ไหมคะ”

“อย่างไรตอนนี้ออกไปจากห้างก่อนดีกว่าครับ ถ้าด้านนอกไม่มีสามีกับลูกของคุณ ค่อยแจ้งกับตำรวจด้านนอกนะครับ”

เจ้าหน้าที่ตอบได้เพียงเท่านั้นจริง ๆ ในเวลานี้ แต่ด้วยความร้อนใจ เหนียงไป๋จึงหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าออกมากดโทรหาสามี ปกตีสามีของเธอจะเปิดเสียงโทรศัพท์มือถือไว้ตลอดด้วยหน้าที่การงาน กริ๊ง! กริ๊ง! เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของสามีดังอยู่ไม่ไกล เหนียงไป๋ก็เริ่มใจคอไม่ดี เท้าเล็กก้าวไปข้างหน้าเรื่อย ๆ ตามเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ โดยไม่สนใจเสียงร้องห้ามของเจ้าหน้าที่ด้านหลัง

และแล้วเมื่อเดินมาถึง ภาพตรงหน้าก็ทำให้เหนียงไป๋เข่าทรุดลงกับพื้นในทันที โทรศัพท์มือถือร่วงหล่นจากมือบางไปด้วย ภาพลูกสาวในอ้อมอกของสามีนอนจมกองเลือด ไร้ลมหายใจไปแล้วทั้งสองคน

การจากไปไม่มีวันกลับของสามีและลูก เหนียงไป๋ยอมรับความจริงไม่ได้ คิดว่านี่ต้องเป็นความฝันแน่ ๆ “มะ ไม่จริง ไม่ใช่เรื่องจริง เถียนฟง ถิงถิง ตื่น ตื่นสิ ตื่นเดี๋ยวนี้นะ”

จนกระทั่งร่างที่โชกเลือดถูกยกขึ้นมาด้วยฝีมือของเธอเอง แขนข้างซ้ายของสามีที่ห้อยลงมา สายตาของเธอเหลือบไปเห็นแหวนแต่งงานที่นิ้วนางข้างซ้ายของสามี ความมืดมนเข้ามาปกคลุมในใจ มันเหมือนเวลานั้นโลกได้หยุดหมุน เวลาได้ถูกหยุดลง น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด “ฮึก…ฮือ… ไม่จริง ฮือ…” ภาพเหนียงไป๋ที่กำลังร้องไห้โฮ กอดสามีกับลูกสาว ช่างเป็นภาพที่ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรู้สึกสลดใจเป็นอย่างมาก

…เมื่อเรื่องที่สุดแสนเลวร้ายเป็นความจริงไม่ใช่ความฝัน งานไว้อาลัยและส่งผู้ที่ล่วงลับไปสู่สุคติก็ถูกจัดขึ้นด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า

หีบศพสองหีบถูกตั้งอยู่เบื้องหน้าไม้กางเขนอันใหญ่ หน้าหีบศพถูกประดับประดาด้วยดอกไม้สีขาวดำ พิธีเริ่มต้นด้วยการร้องเพลงนมัสการพระเจ้า กล่าวประวัติผู้วายชนม์ กล่าวคำอาลัย และต่อด้วยศาสนาจารย์แสดงธรรมเทศนา บรรยายธรรมในเรื่องหลังความตาย และบทเรียนชีวิตของผู้ที่ล่วงลับ

ตลอดการทำพิธี เหนียงไป๋ร้องไห้ไม่หยุด เกือบจะเป็นลมหลายรอบ เนื่องจากกินไม่ได้นอนไม่หลับ จนกระทั่งถึงช่วงเวลาที่ต้องจากกันไปตลอดกาล ผู้ที่มาร่วมงานและญาติมิตรต่างพากันมาวางดอกไม้แสดงความอาลัย ก่อนที่จะนำหีบศพทั้งสองกับไปฝังลงดินก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีตามศาสนา

เหนียงไป๋ในตอนนี้เหมือนร่างไร้วิญญาณ รอดชีวิตมาได้ก็เหมือนตายทั้งเป็น แม่ของเธอขับรถมาส่งเธอที่บ้าน ชวนเธอไปนอนด้วยเหนียงไป๋ก็ไม่ยอมไป ยืนยันที่จะนอนที่บ้านของตัวเอง เมื่อเหนียงไป๋ไขกุญแจเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ความเจ็บปวดก็ตีเข้าปะทะที่อกข้างซ้ายของเธอในทันที บ้านที่มีข้าวของประจำวันวางระเกะระกะ แม้จะไม่ได้เป็นระเบียบ แต่ก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายการใช้ชีวิตครอบครัว

ความทรงจำของวันที่ผ่านไปท่วมท้นอยู่ในใจเหมือนอัลบั้มรูปเก่า ๆ สายตาของตุ๊กตาหมีของถิงถิงที่ทรุดโทรมทำให้รู้สึกเศร้าหมอง ภาพขาวดำเก่า ๆ ทำให้เธอยิ้มได้ นึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขภายในใจ เมื่อเดินมาสักพักร่างบางก็ทรุดตัวล้มลง เธอไม่สามารถรับถึงความเจ็บปวดอันมากล้นได้อีก

ร่างบางนอนคดคู้ ไหล่สั่นสะท้าน นิ้วมือทั้งห้ากุมขมับแน่น น้ำตาหยดแรกไหลออกมาตามด้วยสายทางน้ำอุ่นไหลรินตามมาติด ๆ เสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นพร้อมกับความโศกเศร้าไร้ที่สิ้นสุด มุมปากสั่นระริก เผชิญอยู่กับความเจ็บปวดรวดร้าวจิตใจแหลกสลาย

‘เถียนฟงฉันคิดถึงคุณ ถิงถิงแม่คิดถึงลูก แม่อยู่คนเดียวไม่ได้จริง ๆ’

ความโศกเศร้าเป็นอย่างมากทำให้เหนียงไป๋ตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่ควรทำ สายตาของเธอเหลือบไปเห็นกระปุกยา ก่อนที่จะลุกขึ้นไปหยิบมันมา…

‘เถียนฟง ถิงถิง รอแม่ก่อนนะ พระเจ้ากำลังจะพาแม่ไปหา’

พระองค์ มารับชีวิตของลูกไปด้วยเถิด อาเมน…

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.4

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

หย่ากันแล้วแต่ยังอ้อนอยู่ในอ้อมอกอดีตสามี

หย่ากันแล้วแต่ยังอ้อนอยู่ในอ้อมอกอดีตสามี

Pearle Sanjuan
5.0

หยุนซูแอบหลงรักซู่ โจวหยวนมานานเจ็ดปี แล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุไม่คาดฝันทำให้เธอกลายเป็นคุณนายซู่ขึ้นมา ทุกคนต่างพากันเยาะเย้ยว่าเธอเป็นไก่ป่าที่ได้โผขึ้นไปเกาะบนกิ่งไม้ กลายเป็นนกฟีนิกซ์ในพริบตาเดียว แต่เธอไม่สนใจสิ่งเหล่านั้นเลย สิ่งที่เธอใส่ใจมีเพียงอย่างเดียว — ก็คือในที่สุด “ซู่ โจวหยวน” ก็กลายเป็นของเธอแล้ว ตอนที่หยุนซูเพิ่งแต่งงานกับซู่ โจวหยวนเธอคิดว่า เขาไม่รักเธอตอนนี้ก็ไม่เป็นไร แค่ในวันข้างหน้าเขาจะรักเธอก็พอแล้ว แต่ซู่ โจวหยวนไม่มีหัวใจ แบบนั้นก็คงไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว เธอทั้งสวย ทั้งรวย ทั้งมีหน้าอกมีเรียวขา แล้วทำไมต้องมาทรมานตัวเองอยู่กับซู่ โจวหยวน ที่เป็นเหมือนหุ่นยนต์ไร้ความรู้สึกด้วยล่ะ? เมื่อหยุนซูได้สติขึ้นมา ก็เอาใบหย่าฟาดใส่หน้าซู่ โจวหยวนตรง ๆ จากนั้นต่างคนก็ต่างไป เขาเดินบนเส้นทางอันสว่างของตัวเอง ส่วนเธอก็เริ่มชีวิตใหม่กับหนุ่มน้อยสุดฮอตของเธอ หลังจากหย่ากันแล้ว ซู่ โจวหยวนก็มักจะเห็นข่าวลือของอดีตภรรยาตัวเองติดอันดับค้นหายอดฮิตอยู่บ่อย ๆ เมื่อวานยังมีข่าวว่าเธอไปดินเนอร์กับมหาเศรษฐีหนุ่มจากวงการเทคโนโลยี วันนี้กลับมีข่าวว่าเธอไปสร้างรังรักกับหนุ่มน้อยสุดฮอตอีกแล้ว??? ซู่ โจวหยวนเหวี่ยงโทรศัพท์ในมืออย่างแรงแล้วตะโกนว่า “ไปให้พ้นกับรังรักบ้า ๆ นั่น! ผู้หญิงคนนั้นเป็นของฉัน!” หยุนซูผู้ใช้ชีวิตอย่างมีสีสันเอ่ยขึ้นว่า “คุณคะ ไม่ทราบว่านามสกุลอะไรเหรอ?”

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.8

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

MY TEACHER อาจารย์หล่อบอกต่อด้วย

MY TEACHER อาจารย์หล่อบอกต่อด้วย

JAMBENZ
5.0

เพียงแค่ฉันสอบตก พี่ชายตัวดีก็ถึงกับดั้นด้นไปหาครูสอนพิเศษมาให้ ตอนแรกฉันก็เบื่อ แต่พอได้เจอหน้าครูสอนพิเศษคนนั้นความคิดของฉันมันก็เปลี่ยนไป "คนอะไรน่าจับทำผัว" อุปส์! >///< ........................................................................ ความฉิบหายมันจะเริ่มมาเยือนถ้าหากเพื่อนของคุณเอ่ยขอความช่วยเหลือ ชีวิตของผมตอนแรกมันก็สงบสุขอยู่หรอก แต่พอมาเจอกับยัยเด็กที่ชื่อ 'สโนว์ไวท์' เข้า ชีวิตผมก็ไม่เคยสัมผัสกับคำว่าสงบสุขอีกเลย "ทำยังไงก็ได้ให้น้องกูเรียนเก่งขึ้นก็พอ" "เปลี่ยนสมองง่ายกว่านะกูว่า" ปกติผมเป็นคนที่นิ่งและใจเย็น แต่พอมาอยู่กับเธออารมณ์ของผมมันก็ขึ้นๆ ลงๆ เหมือนคนที่ใกล้จะบ้าเต็มที "เรื่องรักอ่ะเซียน แต่เรื่องเรียนไม่รู้เรื่อง"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เกิดใหม่เป็นแม่หม้ายที่สามีทิ้ง
1

บทที่ 1 ภพปัจจุบัน

14/10/2024

2

บทที่ 2 เกิดใหม่เป็นเหนียงไป๋สตรีม้ายและบุตรสาว

14/10/2024

3

บทที่ 3 ไม่มีอะไรจะกิน

14/10/2024

4

บทที่ 4 หาเครื่องปรุงทำขนมหวาน

14/10/2024

5

บทที่ 5 บัวลอยไข่หวานสูตรใหม่

14/10/2024

6

บทที่ 6 เปิดร้านขายขนมหวานกัน

14/10/2024

7

บทที่ 7 ถูกแม่ผัวรังแก

14/10/2024

8

บทที่ 8 น้องสะใภ้เอาเปรียบ

14/10/2024

9

บทที่ 9 สามีกลับมา

14/10/2024

10

บทที่ 10 ข้าจะหย่า

14/10/2024

11

บทที่ 11 บุตรสาวที่น่ารัก

14/10/2024

12

บทที่ 12 พืชพรรณที่งอกเงย

14/10/2024

13

บทที่ 13 สามีพยายามตามง้อ

14/10/2024

14

บทที่ 14 เปิดร้านขนมหวาน

14/10/2024

15

บทที่ 15 ความจริงเปิดเผย

14/10/2024

16

บทที่ 16 บุรุษไม่นำพา

14/10/2024

17

บทที่ 17 สตรีมากหน้าหลายตา

14/10/2024

18

บทที่ 18 ภรรยาข้า

14/10/2024

19

บทที่ 19 ความจริงจากสามี

14/10/2024

20

บทที่ 20 คู่แล้วไม่แคล้วกัน

14/10/2024