ชาติภพก่อนนางต้องสูญเสียลูกและสามีเพราะคนร้ายกราดยิงในห้าง จนนางเลือกจบชีวิตโดยการฆ่าตัวตายตาม พอเกิดชาติใหม่ก็มาอาศัยร่างที่ใบหน้าเหมือนตัวเองแถมมีลูกสาวที่หน้าเหมือนลูกสาวภพก่อนแต่กลับถูกสามีทิ้งให้มาอยู่ลำพังบนเขาจนอดข้าวตาย นางที่ได้มาอาศัยร้าง สัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวคนนี้ให้ดีที่สุด และหวังว่าจะเจอสามีนางในภพเช่นกัน หญิงหม้ายเช่นนางจะดูแลบุตรสาวด้วยตัวเอง... "ท่านแม่กอดเอวของท่านพ่อเอาไว้แบบนี้ห้ามปล่อยนะเจ้าคะ ถ้าท่านแม่กอดเอวท่านพ่อก็จะได้กอดถิงถิงไปด้วย" เสียงเล็กของสาวน้อยที่นั่งตรงกลางระหว่างเจินเป่าและเหนียงไป๋กล่าวบอกผู้เป็นมารดาด้วยน้ำเสียงแจ่มใส เหนียงไป๋จึงไม่มีทางเลือกต้องพยักหน้ารับและทำตามที่บุตรสาวบอกแต่โดยดี ******************* นิยายสนุก น่ารัก อบอุ่นหัวใจ ดีต่อสุขภาพ แวะมาอ่านกันเยอะๆ นะคะ
…แดนเนรมิต…ที่ถูกเนรมิตขึ้นมาให้เป็นโลกแห่งความสุขสำหรับครอบครัวและคนทุกเพศทุกวัย ได้มาพักผ่อนในวันหยุด ซึ่งเป็นการพักผ่อนไปกับบรรยากาศที่สดใส และในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ก็เป็นอีกวันที่สวนสนุกใจกลางเมืองหลวงของจีนแผ่นดินใหญ่ คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย เดินสวนกันไปมาอย่างมีชีวิตชีวา เสียงจอแจพูดคุยของผู้คนดังอยู่รอบทิศ โดยเฉพาะเสียงของเด็ก ๆ บรรยากาศครื้นเครงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
หนึ่งในครอบครัวหลายครอบครัวในที่นี่ ก็มีครอบครัวแสนอบอุ่นครอบครัวหนึ่ง ที่มีพ่อชื่อว่าเถียนฟง แม่ชื่อว่าเหนียงไป๋ และลูกสาวชื่อว่าถิงถิง ซึ่งเถียนฟงและเหนียงไป๋ก็ได้พาถิงถิงมาเที่ยวสวนสนุกในวันหยุดเหมือนกับครอบครัวอื่นทั่ว ๆ ไป
“บรึ๋น บรึ๋น บรึ๋น” เสียงของคุณพ่อผู้แสนใจดีและอบอุ่นกำลังขับเครื่องบิน หยอกล้อกับลูกสาวผู้น่ารัก ซึ่งเครื่องบินที่นั่งอยู่นี้ เป็นเครื่องเล่นสำหรับครอบครัว พ่อแม่ลูกนั่งในตัวเรือบินที่กำลังลอยล่องขึ้นลงโดยอัตโนมัติ ด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขสนุกสนาน บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ “ฮ่า ๆ”
เมื่อครบเวลาของเครื่องเล่น ทุกคนก็ลงมาจากเครื่องเล่นเครื่องบินลำน้อยด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม และดูเหมือนว่าถิงถิงจะติดใจกับเครื่องเล่นของที่นี่เข้าให้แล้ว “แม่คะพ่อคะ ถิงถิงอยากขึ้นอันนั้นด้วยค่ะ” เด็กน้อยหน้าตาน่ารัก ดวงตากลมโตปานไข่ห่าน ใบหน้าอ้วนกลมเหมือนซาลาเปา พวงแก้มปริแตกจนเห็นสีชมพูอ่อน รูปร่างอ้วนฉุพุงพลุ้ยชี้นิ้วสั้น ๆ กลม ๆ ไปที่รถไฟทรงโบราณ ที่ขึ้นนั่งได้ทั้งครอบครัวเช่นเคย แต่เครื่องเล่นนี้เป็นเครื่องเล่นที่เอาไว้นั่งชมบรรยากาศที่สวยงามและร่มรื่นของพฤกษานานาพันธุ์ พ่อกับแม่มองหน้ากันแล้วพยักหน้าตกลงทั้งสองฝ่าย ก่อนจะจูงมือน้อย ๆ ของลูกสาวคนละข้างไปยังเครื่องเล่นรถไฟโบราณ
ทุกอย่างรอบข้างที่ถูกจัดไว้นั้นสวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเด็กน้อยเป็นอย่างมาก พ่อกับแม่ชี้นั่นชี้นี่ให้ลูกได้ดู เป็นภาพความทรงจำที่ดีมาก ๆ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของทุ่งดอกไม้ตามฤดูกาลโชยเข้ามาแตะปลายจมูกของคนทั้งสาม เด็กน้อยตัวกลมยิ้มร่ามีความสุข สายลมพัดผ่านทำให้ผมเส้นบางปลิวไสวปิดดวงตาโต คุณพ่อผู้แสนดีก็ปัดออกให้อย่างอ่อนโยน ทั้งยังปัดเส้นผมที่ปกคลุมใบหน้ารูปไข่ของคุณแม่คนสวยออกให้ด้วยเช่นกัน
ครอบครัวนี้ถือว่าเป็นครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียวกัน ทั้งยังอบอุ่นและแน่นแฟ้น มีความสัมพันธ์ภายในครอบครัวระหว่างพ่อแม่ลูกที่เกิดร่วมกันอย่างลึกซึ้ง พ่อกับแม่มีเวลาให้ลูกน้อยเสมอ ทั้งเถียนฟงและเหนียงไป๋ให้ความสำคัญกับลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองเป็นอันดับหนึ่ง ออกไปท่องเที่ยวด้วยกันในทุก ๆ วันหยุด ทั้งสามคนจึงผูกพันและสนิทสนมกันมาก และทุก ๆ ที่ที่ไปด้วยกัน ก็มักจะเป็นภาพทรงจำที่ดีของครอบครัวนี้เสมอ
เมื่อครบเวลาของเครื่องเล่นรถไฟโบราณชมเมือง ทุกครอบครัวก็ลงมาจากเครื่องเล่นพร้อมกัน ๆ “อึ๊บ” คุณพ่อที่ตัวใหญ่และแข็งแรงกว่ามีหน้าที่อุ้มลูกสาวที่เริ่มอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเพราะพลังงานเริ่มหมดออกจากเครื่องเล่น ลูกสาวเมื่อถูกอุ้มก็ซบไหล่ผู้เป็นพ่อในทันที คล้ายกำลังจะหลับ “ตัวแสบง่วงนอนแล้วใช่ไหมเนี่ย” ผู้เป็นพ่อถามลูกน้อยด้วยความเอ็นดู ก่อนจะกดริมฝีปากไปที่แก้มป่องหนัก ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
“หิวน้ำไหมลูก” เหนียงไป๋ถามลูกสาว แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากลูกน้อยนั้นเป็นแค่เพียงการส่ายหน้าเบา ๆ บนหัวไหล่กว้างของผู้เป็นพ่อ
“ลูกคงง่วงแย่แล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้นเรากลับกันเลยดีไหม” เถียนฟงหันหน้าไปขอความเห็นจากภรรยาคนสวย และแน่นอนว่าเหนียงไป๋ต้องพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “อื้ม ดีเหมือนกัน”
“โอเค” เสียงทุ้มตอบตกลงภรรยาพร้อมกับยื่นมือหนาไปให้เธอจับกุมเอาไว้ เถียนฟงเสมอต้นเสมอปลายกับเหนียงไป๋เสมอ ตั้งแต่วันแรกที่ตกหลุมรักกันจนถึงวันนี้ คำสัญญาที่เถียนฟงให้ไว้กับเหนียงไป๋ว่าจะปกป้องทั้งร่างกายและความรู้สึกของเธอนั้น เถียนฟงไม่เคยผิดสัญญาเลยสักครั้ง เหนียงไป๋รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากที่ได้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ และได้เป็นแม่ของลูกเขา
จุดหมายปลายทางอันแสนยาวไกล ความเหนื่อยล้าและลมเย็น ๆ จากเครื่องปรับอากาศของรถยนต์ ทำให้เหนียงไป๋ที่ตั้งใจว่าจะนั่งคุยเป็นเพื่อนสามีตลอดทางนั้น เผลอหลับใหลไปพร้อมกับแก้วตาดวงใจตัวน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่ในคาร์ซีทเบาะหลัง…รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงเจื้อยของถิงถิงพูดขึ้น “คุณแม่คะ คุณแม่คะ” คนเป็นแม่ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน เมื่อได้ยินเสียงของลูกก็ต้องลืมตาตื่นขึ้นในทันที “อ้าว....ตื่นแล้วเหรอลูก”
“หนูหิวข้าวค่ะ” เด็กตัวน้อยบนคาร์ซีทที่พึ่งตื่นจากการหลับลึก ก็ตาใสไม่งอแงเลยสักนิด ทั้งยังพูดจาเจื้อยแจ้วออดอ้อนพ่อกับแม่ให้พาแวะห้างสรรพสินค้าที่กำลังจะถึงข้างหน้า เด็กน้อยจำได้เพราะพ่อกับแม่เคยพามาบ่อย ๆ เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใกล้บ้านมากที่สุด
ความจริงเถียนฟงมองถิงถิงในกระจกมองหลังอยู่ตลอด ตั้งแต่ได้ยินเสียงลูกขยับตัวแล้ว เมื่อลูกสาวขยับปากน้อยเพื่อเปล่งเสียงเล็กออกมา ก็ทำให้ผู้เป็นพ่อหลุดขำเบา ๆ ออกมาในทันที “หึหึ” เพราะลูกสาวชอบแวะห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มาก ยังแอบคิดอยู่ในใจเลยว่าถิงถิงต้องตื่นตอนที่ใกล้ถึงห้างเป็นแน่ และแน่นอนว่าเมื่อลูกเอ่ยขอ คุณพ่อผู้ใจดีและตามใจลูกสาวตัวน้อยตลอดจะไม่ขัด “เดี๋ยวพ่อพาแวะกินข้าวที่ห้างสรรพสินค้าข้างหน้านะลูก”
“เย้ ๆ พ่อใจดีที่สุดในโลกเลย”
“ฮ่า ๆ”
…ภายในห้างสรรพสินค้า วันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ แน่นอนว่าต้องเต็มไปด้วยครอบครัวและกลุ่มวัยรุ่นเดินสวนกันไปมาอย่างคับคั่ง ด้วยความหิว ครอบครัวนี้จึงพากันเดินตรงไปขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อไปยังชั้นสอง ที่เป็นชั้นของศูนย์รวมร้านอาหาร ซึ่งมีทั้งร้านอาหารไทย จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่น และเกาหลี แต่กลิ่นอาหารหอม ๆ ที่มีให้เลือกหลากหลายจากฟู้ดส์คอร์สเรียกความสนใจจากผู้เป็นแม่ของครอบครัวนี้ได้มากกว่าร้านอาหารอื่น ๆ “เราไปกินที่ฟู้ดส์คอร์สกันดีไหม มีอาหารให้เลือกเยอะ ราคาประหยัดอีกด้วย”
“ฮ่า ๆ สมกับที่เป็นแม่จริง ๆ” เถียนฟงหลุดขำภรรยาคนสวยออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะตั้งแต่ที่เขาแต่งงานกับเหนียงไป๋ เธอก็เปลี่ยนเป็นคุณแม่จอมงก ที่มักจะคำนวณทุกอย่างก่อนจะใช้จ่าย
คำพูดสองแง่สองง่ามของสามี ทำให้ผู้เป็นภรรยาช้อนตาเขียวใส่ทันที ก่อนจะยื่นมือไปหยิกแก้มสากแรง ๆ หนึ่งที “จะว่าฉันขี้งกเหรอ เดี๋ยวเถอะ ๆ”
“อะ โอ๊ย ผมไม่ได้พูดเลยนะ” สามีภรรยาคู่นี้มักจะหยอกล้อกันแบบนี้อยู่บ่อย ๆ แต่สิ่งนี้ก็ทำให้ทั้งสองรักกันอย่างเหนียวแน่นมากขึ้น
“แม่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เลือกที่นั่งไว้รอก่อนได้เลย”
“อื้ม…”
ระหว่างที่เหนียงไป๋กำลังเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากฟู้ดส์คอร์สมากนัก อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดและเสียงโวกเหวกโวยวายด้วยความหวาดผวาดังขึ้น
“ว๊าย!”
“กรี๊ด!”
ก่อนที่ผู้คนจะเริ่มวิ่งเบียดเสียดกันมาจากทางฟู้ดส์คอร์ส เหนียงไป๋เริ่มใจคอไม่ดีจะเดินกลับไปหาสามีและลูกสาว แต่ทว่าเธอกลับถูกเบียดจากผู้คนที่หลั่งไหลวิ่งมาเข้าไปในห้องน้ำ “อ๊ะ!” หลายคนวิ่งเข้ามาในห้องน้ำด้วยเช่นกัน ก่อนที่ประตูใหญ่จะมีใครบางคนปิดและใส่กลอน
เหนียงไป๋ตกใจมาก จึงเอ่ยถามคนข้าง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น “กะ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” แต่อีกฝ่ายกลับเอานิ้วชี้ทาบปาก เป็นสัญญาณบอกให้เงียบก่อน แทนการเปล่งเสียงพูด บรรยากาศในตอนนี้มันเย็นยะเยือกสร้างความหวาดหวั่นเสียวสันหลังกระจายไปยังทุกคนในห้อง
ปัง! ปัง! ตอนที่เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นคล้ายเสียงปืนนั้น เหนียงไป๋สะดุ้งเฮือกใหญ่ หันขวับมองคนรอบข้างนึกว่าหูตัวเองฟังผิดไป พลันหนาวสะท้านไปทั้งแผ่นหลัง ตระหนกวาบขึ้นมาในใจ รู้สึกหวาดหวั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พอจะเริ่มรู้แล้วว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น เพราะได้ยินเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศเกลี่ยกล่อมให้คนร้ายใจเย็นและหยุดการกระทำ
เหนียงไป๋เริ่มวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เป็นห่วงสามีกับลูกสาวที่อยู่ด้านนอก ทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกคนข้าง ๆ ดึงแขนเอาไว้ เธอจึงจำต้องนั่งลงที่เดิมอย่างฝืนใจ ปัง! ปัง! เสียงปืนดังขึ้นเรื่อย ๆ และมีเสียงรถพยาบาลจากข้างนอกตัวห้างดังระงม
ช่องด้านล่างประตูที่แสงลอดผ่านเข้ามาได้ ทำให้ทุกคนในห้องน้ำต่างเห็นเงาร่างของยมทูตเดินผ่านไปผ่านมา ความเย็นยะเยือกขนลุกซุ่พลันจู่โจม ใบหน้าของทุกคนแข็งทื่อ เอามือปิดปากของตัวเองไม่ให้กรีดร้อง จนกระทั่งเงาดำหน้าประตูเคลื่อนไปทางอื่น
แต่ทว่า…แกร๊ก!
ปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนดังขึ้นถี่รัวติดต่อกันหลายนัด ทุกคนในห้องน้ำต่างขวัญผวา ใบหน้าซีดเผือดไปตาม ๆ กัน
แต่แล้ว…เมื่อเสียงปืนสงบลง เสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น “วิสามัญคนร้ายสำเร็จแล้ว” เหมือนกับว่าเสียงก่อนหน้านี้ จะเป็นการต่อสู้ระหว่างเจ้าหน้าที่กับคนร้าย และในที่สุดคนร้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตก่อนที่คนร้ายจะเข้ามาในห้องน้ำได้
ประตูถูกเปิดออก ซึ่งเป็นฝีมือของตำรวจ ความรู้สึกปลอดภัยก็ทำให้เหนียงไป๋และทุกคนถอนหายใจได้อย่างโล่งอก ตอนนี้เป็นเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ไม่มีเวลาเหลือพอให้ตั้งคำถามซ้ำสอง เมื่อเหนียงไป๋ออกมาจากห้องน้ำได้แล้ว เธอก็ไม่ยอมเดินตามคนอื่น ๆ ไปต่อ แต่กลับกวาดสายตามองซ้ายมองขวาก่อนจะเอ่ยถามเจ้าหน้าที่คนข้าง ๆ น้ำเสียงร้อนรน โดยที่ไม่สนใจศพของคนร้ายที่นอนคว่ำหน้าอยู่เลยสักนิด เวลานี้สามีกับลูกสำคัญที่สุด “คุณคะ สามีกับลูกสาวของฉันถูกช่วยเหลือออกไปแล้วใช่ไหมคะ”
“อย่างไรตอนนี้ออกไปจากห้างก่อนดีกว่าครับ ถ้าด้านนอกไม่มีสามีกับลูกของคุณ ค่อยแจ้งกับตำรวจด้านนอกนะครับ”
เจ้าหน้าที่ตอบได้เพียงเท่านั้นจริง ๆ ในเวลานี้ แต่ด้วยความร้อนใจ เหนียงไป๋จึงหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าออกมากดโทรหาสามี ปกตีสามีของเธอจะเปิดเสียงโทรศัพท์มือถือไว้ตลอดด้วยหน้าที่การงาน กริ๊ง! กริ๊ง! เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของสามีดังอยู่ไม่ไกล เหนียงไป๋ก็เริ่มใจคอไม่ดี เท้าเล็กก้าวไปข้างหน้าเรื่อย ๆ ตามเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ โดยไม่สนใจเสียงร้องห้ามของเจ้าหน้าที่ด้านหลัง
และแล้วเมื่อเดินมาถึง ภาพตรงหน้าก็ทำให้เหนียงไป๋เข่าทรุดลงกับพื้นในทันที โทรศัพท์มือถือร่วงหล่นจากมือบางไปด้วย ภาพลูกสาวในอ้อมอกของสามีนอนจมกองเลือด ไร้ลมหายใจไปแล้วทั้งสองคน
การจากไปไม่มีวันกลับของสามีและลูก เหนียงไป๋ยอมรับความจริงไม่ได้ คิดว่านี่ต้องเป็นความฝันแน่ ๆ “มะ ไม่จริง ไม่ใช่เรื่องจริง เถียนฟง ถิงถิง ตื่น ตื่นสิ ตื่นเดี๋ยวนี้นะ”
จนกระทั่งร่างที่โชกเลือดถูกยกขึ้นมาด้วยฝีมือของเธอเอง แขนข้างซ้ายของสามีที่ห้อยลงมา สายตาของเธอเหลือบไปเห็นแหวนแต่งงานที่นิ้วนางข้างซ้ายของสามี ความมืดมนเข้ามาปกคลุมในใจ มันเหมือนเวลานั้นโลกได้หยุดหมุน เวลาได้ถูกหยุดลง น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด “ฮึก…ฮือ… ไม่จริง ฮือ…” ภาพเหนียงไป๋ที่กำลังร้องไห้โฮ กอดสามีกับลูกสาว ช่างเป็นภาพที่ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรู้สึกสลดใจเป็นอย่างมาก
…เมื่อเรื่องที่สุดแสนเลวร้ายเป็นความจริงไม่ใช่ความฝัน งานไว้อาลัยและส่งผู้ที่ล่วงลับไปสู่สุคติก็ถูกจัดขึ้นด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า
หีบศพสองหีบถูกตั้งอยู่เบื้องหน้าไม้กางเขนอันใหญ่ หน้าหีบศพถูกประดับประดาด้วยดอกไม้สีขาวดำ พิธีเริ่มต้นด้วยการร้องเพลงนมัสการพระเจ้า กล่าวประวัติผู้วายชนม์ กล่าวคำอาลัย และต่อด้วยศาสนาจารย์แสดงธรรมเทศนา บรรยายธรรมในเรื่องหลังความตาย และบทเรียนชีวิตของผู้ที่ล่วงลับ
ตลอดการทำพิธี เหนียงไป๋ร้องไห้ไม่หยุด เกือบจะเป็นลมหลายรอบ เนื่องจากกินไม่ได้นอนไม่หลับ จนกระทั่งถึงช่วงเวลาที่ต้องจากกันไปตลอดกาล ผู้ที่มาร่วมงานและญาติมิตรต่างพากันมาวางดอกไม้แสดงความอาลัย ก่อนที่จะนำหีบศพทั้งสองกับไปฝังลงดินก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีตามศาสนา
เหนียงไป๋ในตอนนี้เหมือนร่างไร้วิญญาณ รอดชีวิตมาได้ก็เหมือนตายทั้งเป็น แม่ของเธอขับรถมาส่งเธอที่บ้าน ชวนเธอไปนอนด้วยเหนียงไป๋ก็ไม่ยอมไป ยืนยันที่จะนอนที่บ้านของตัวเอง เมื่อเหนียงไป๋ไขกุญแจเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ความเจ็บปวดก็ตีเข้าปะทะที่อกข้างซ้ายของเธอในทันที บ้านที่มีข้าวของประจำวันวางระเกะระกะ แม้จะไม่ได้เป็นระเบียบ แต่ก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายการใช้ชีวิตครอบครัว
ความทรงจำของวันที่ผ่านไปท่วมท้นอยู่ในใจเหมือนอัลบั้มรูปเก่า ๆ สายตาของตุ๊กตาหมีของถิงถิงที่ทรุดโทรมทำให้รู้สึกเศร้าหมอง ภาพขาวดำเก่า ๆ ทำให้เธอยิ้มได้ นึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขภายในใจ เมื่อเดินมาสักพักร่างบางก็ทรุดตัวล้มลง เธอไม่สามารถรับถึงความเจ็บปวดอันมากล้นได้อีก
ร่างบางนอนคดคู้ ไหล่สั่นสะท้าน นิ้วมือทั้งห้ากุมขมับแน่น น้ำตาหยดแรกไหลออกมาตามด้วยสายทางน้ำอุ่นไหลรินตามมาติด ๆ เสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นพร้อมกับความโศกเศร้าไร้ที่สิ้นสุด มุมปากสั่นระริก เผชิญอยู่กับความเจ็บปวดรวดร้าวจิตใจแหลกสลาย
‘เถียนฟงฉันคิดถึงคุณ ถิงถิงแม่คิดถึงลูก แม่อยู่คนเดียวไม่ได้จริง ๆ’
ความโศกเศร้าเป็นอย่างมากทำให้เหนียงไป๋ตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่ควรทำ สายตาของเธอเหลือบไปเห็นกระปุกยา ก่อนที่จะลุกขึ้นไปหยิบมันมา…
‘เถียนฟง ถิงถิง รอแม่ก่อนนะ พระเจ้ากำลังจะพาแม่ไปหา’
พระองค์ มารับชีวิตของลูกไปด้วยเถิด อาเมน…
บทที่ 1 ภพปัจจุบัน
14/10/2024
บทที่ 2 เกิดใหม่เป็นเหนียงไป๋สตรีม้ายและบุตรสาว
14/10/2024
บทที่ 3 ไม่มีอะไรจะกิน
14/10/2024
บทที่ 4 หาเครื่องปรุงทำขนมหวาน
14/10/2024
บทที่ 5 บัวลอยไข่หวานสูตรใหม่
14/10/2024
บทที่ 6 เปิดร้านขายขนมหวานกัน
14/10/2024
บทที่ 7 ถูกแม่ผัวรังแก
14/10/2024
บทที่ 8 น้องสะใภ้เอาเปรียบ
14/10/2024
บทที่ 9 สามีกลับมา
14/10/2024
บทที่ 10 ข้าจะหย่า
14/10/2024
บทที่ 11 บุตรสาวที่น่ารัก
14/10/2024
บทที่ 12 พืชพรรณที่งอกเงย
14/10/2024
บทที่ 13 สามีพยายามตามง้อ
14/10/2024
บทที่ 14 เปิดร้านขนมหวาน
14/10/2024
บทที่ 15 ความจริงเปิดเผย
14/10/2024
บทที่ 16 บุรุษไม่นำพา
14/10/2024
บทที่ 17 สตรีมากหน้าหลายตา
14/10/2024
บทที่ 18 ภรรยาข้า
14/10/2024
บทที่ 19 ความจริงจากสามี
14/10/2024
บทที่ 20 คู่แล้วไม่แคล้วกัน
14/10/2024
หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล
ข้อมูลเพิ่มเติม