Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สยบรักดวงใจท่านอ๋อง

สยบรักดวงใจท่านอ๋อง

จิ่วเชียน

5.0
ความคิดเห็น
13.6K
ชม
79
บท

‘ลู่ซิงเหยียน’ ไม่คิดเลยว่าการอาสาช่วยโจรผู้หนึ่งหลบหนีออกจากจวนเจ้าเมืองเพื่อแลกกับชีวิตของตนเองนั้น จะทำให้โชคชะตาของนางผูกติดกับ ‘เขา’อย่างไม่มีวันแยกจาก ********************* ลู่ซิงเหยียนทำงานอยู่ภายในจวนเจ้าเมืองหลิวลี่ซือในฐานะสาวใช้ เพื่อสืบหาคนร้ายที่ทำให้ตระกูลลู่ของนางถูกประหารทั้งตระกูล ทว่าวันหนึ่งมีชายชุดดำบุกเข้ามาขโมยของในจวนเจ้าเมือง เพื่อแลกกับชีวิตของตนเอง ลู่ซิงเหยียนจึงอาสาช่วยเหลือโจรผู้นี้หลบหนี นางเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือเขา นอกจากจะไม่ได้รับคำขอบคุณ เขากลับตามตอแย วนเวียนอยู่รอบกายนางเพื่อตอบแทนบุญคุณ แต่ไม่รู้เป็นเพราะซาบซึ้งใจหรือชิงชังที่นางบังคับให้เขาหลบซ่อนอยู่ในถังอาจมกันแน่!!! ************************** “หมายความว่าอย่างไร” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม ดวงตาเขียวปัด ฟังจากโทนเสียงคล้ายกับเป็นเสียงคำรามในลำคอเสียมากกว่า ส่วนเจ้าของคำถามบัดนี้จับจ้องสตรีตรงหน้าด้วยความโกรธจัดจนแทบอยากจะกระโจนเข้ามาบีบคอ “ปัดโธ่ ท่านมีทางเลือกมากนักหรือ นี่เป็นวิธีเดียวที่ข้าคิดได้แล้ว หากอยากหนีออกไปโดยไม่ถูกจับได้ก็มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น” แม้ปากจะกล่าวไปเช่นนั้น แต่ใบหน้ากลับหดเล็กยิ่งกว่าฝ่ามือ ลู่ซิงเหยียนเหลือบมองร่างสูงสลับกับถังไม้ขนาดใหญ่บนรถเข็นที่เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูลเน่าเหม็น ยามนี้เมื่อเปิดฝาที่ปิดอยู่ออกก็ยิ่งส่งกลิ่นน่าสะอิดสะเอียนจนรู้สึกคลื่นเหียนท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด นางเห็นร่างสูงยืนแข็งค้างอยู่ในเงามืดหลังพุ่มไม้หนาทึบ มือข้างที่จับมีดกำแน่นขึ้นกว่าเดิมจนน่าหวาดหวั่น ท่าทางโกรธจัดของเขาทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิต คาดว่าภายในใจตอนนี้คงอยากปาดคอนางแล้วจับหมกลงไปในถังอาจมเป็นแน่ "ข้าจะฆ่าเจ้าซะ” เขาเอ่ยเสียงลอดไรฟัน ************************************** สวัสดีค่ะ ไรท์กลับมาแล้ววววว เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องยาวนะคะ แนวโรแมนติกดราม่านิดๆ + เกมการเมืองหน่อยๆ ไม่ทะลุมิติ ไม่ย้อนเวลาค่ะ ไม่อิงประวัติศาสตร์และยุคสมัยใดๆ นะคะ ตัวละครและสถานที่เกิดขึ้นจากจินตนาการทั้งหมดของไรท์ค่ะ

บทที่ 1 ผู้บุกรุก

ยามราตรีมืดมิดบังเกิดเสียงดังโวยวายขึ้นภายในจวนเจ้าเมืองหยางซู ทหารยามสับเท้าวิ่งวุ่นทั่วทั้งจวน แสงจากคบเพลิงสาดส่องผ่านร่องประตูห้องสุขาที่มีสาวใช้ผู้หนึ่งกำลังทำความสะอาดอยู่ภายใน

ลู่ซิงเหยียนอดเงี่ยหูฟังเสียมิได้ ระหว่างกำลังล้างไม้ล้างมือตนเองให้สะอาด นางก็จับใจความสำคัญได้จากเสียงตะคอกของพ่อบ้านเหอ ไม่รู้โจรใจกล้าคนใดบุกเข้ามาขโมยของในจวนเจ้าเมืองที่มีการตรวจตราอย่างเข้มงวดตลอดทั้งคืน

ฟังจากน้ำเสียงร้อนรนของพ่อบ้านร่างอ้วนดูเหมือน ‘ของ’ ที่ถูกขโมยน่าจะมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

เสียงอึกทึกครึกโครมดังมาจากเรือนใหญ่ซึ่งเป็นที่พำนักของเจ้าเมืองหลิว ห่างไกลจากจุดที่นางอยู่พอสมควร หากผู้บุกรุกยังไม่ได้หลบหนีออกไป อีกไม่นานก็จะต้องถูกทหารจับได้อย่างไม่ต้องสงสัย

เพียงแต่เรื่องยุ่งยากเหล่านี้มิใช่ธุระกงการอะไรของลู่ซิงเหยียน นางเป็นเพียงสาวใช้ผู้หนึ่ง นอกจากงานใช้แรงงานกับงานสกปรกที่ผู้อื่นรังเกียจเดียดฉันท์ ทุกวันลู่ซิงเหยียนจำต้องขนถ่ายอาจมและสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ใส่ถังไม้เข็นไปทิ้งนอกเมือง มิเช่นนั้นนางจะไม่ได้รับเบี้ยเป็นค่าแรงในแต่ละวัน

วันนี้ภายในจวนไม่รู้มีคนใหญ่คนโตจากที่ใดมาเยี่ยมเยียน เจ้าเมืองหลิวลี่ซือจึงสั่งให้บ่าวรับใช้จัดเตรียมงานเลี้ยงงานรับเป็นอย่างดี สร้างความวุ่นวายให้กับผู้คนในจวนตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ลู่ซิงเหยียนรอคอยจนบุคคลสำคัญเหล่านั้นกลับเข้าที่พักจึงลงมือเก็บกวาดทำความสะอาดเป็นการปิดท้าย

ยามนี้หน้าที่ของนางสิ้นสุดลงแล้ว เหลือเพียงนำของเสียที่อยู่รวมกันในถังไม้ไปทิ้งนอกเมือง นางก็สามารถกลับไปดูแลมารดาที่บ้านได้

ลู่ซิงเหยียนทุบเบา ๆ บริเวณหลังคออย่างเหนื่อยล้า ขณะกังวลว่ามารดานอนหลับพักผ่อนแล้วหรือไม่ ด้านนอกห้องสุขาก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นแผ่วเบา

ร่างบางเกร็งขึ้นเล็กน้อย บุคคลที่อยู่ภายนอกก้าวเดินอย่างเงียบเชียบระมัดระวัง หากเป็นเวลากลางวัน ลู่ซิงเหยียนก็คงไม่รู้ตัวเลย ทว่าในยามวิกาลเช่นนี้ประสาทหูของนางจึงดีมากกว่าปกติ

หญิงสาวกลั้นหายใจอยู่เงียบ ๆ ภายในความมืด รอจน ‘ผู้บุกรุก’ เดินผ่านหน้าประตูห้องส้วมไปนางจึงระบายลมหายใจออกมา

เงี่ยหูฟังอยู่ชั่วครู่ได้ยินเสียงทหารยามเริ่มตรวจตราเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ คิดว่าโจรผู้นั้นคงหนีไปไกลแล้วจึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออกมาด้านนอก

เพียงพริบตาเดียวลู่ซิงเหยียนมองแสงไฟกระทบกับโลหะในมือของ ‘ผู้บุกรุก’ ที่ยืนอยู่ด้านนอกห้องสุขา ขณะจะดันประตูกลับเข้ามาร่างกำยำในชุดพรางตัวสีดำสนิทก็แทรกกายเข้ามาภายใน ร่างของหญิงสาวถูกดึงกลับเข้าไปในห้องคับแคบ มือที่จับประตูจึงถูกดึงปิดตามมาด้วย

เสียงลมหายใจดังถี่รัว ลู่ซิงเหยียนแตกตื่นจนทำอะไรไม่ถูก ผู้บุกรุกใช้มือข้างหนึ่งปิดปากสาวใช้มิให้ส่งเสียง ส่วนอีกข้างจ่อมีดอยู่บนลำคอขาวเนียนพร้อมสังหาร

ลู่ซิงเหยียนเหงื่อแตกพลั่ก รู้สึกเจ็บแปลบบริเวณลำคอ หากนางขัดขืนหรือคิดส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ครู่เดียวคงต้องกลายเป็นวิญญาณเหม็นโฉ่ติดอยู่ในห้องส้วมไม่ได้ไปผุดไปเกิดเป็นแน่ หญิงสาวไม่กล้าหายใจแรง นางค่อย ๆ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นช้า ๆ

ไม่นานเสียงของทหารยามก็ดังใกล้เข้ามาด้านหลังจวน บริเวณนี้เป็นลานซักล้าง โรงครัวและที่พักของบ่าวรับใช้ในจวน แม้ด้านหลังห้องส้วมเป็นกำแพงสูง ทว่าไม่อาจปืนออกไปได้โดยง่าย นอกกำแพงเป็นคูน้ำขนาดใหญ่ ถัดออกไปเป็นถนนสายหลักที่ใช้สัญจรไปมาในเมืองหยางซู คาดว่าตอนนี้คงถูกคนของเจ้าเมืองล้อมเอาไว้โดยรอบแล้ว

ลู่ซิงเหยียนและ ‘ผู้บุกรุก’ มองลอดผ่านช่องว่างประตูไม้ เห็นพ่อบ้านเหอปลุกบ่าวรับใช้ทั้งหญิงและชายออกมายืนเรียงหน้าเรือนอย่างเร่งร้อน ส่วนทหารที่ติดตามมารีบเข้าไปตรวจค้นภายในเรือนนอนและพื้นที่โดยรอบ ไม่นานเหล่าทหารก็เดินออกมารายงานต่อพ่อบ้านเหอ

จากนั้นคนอีกกลุ่มก็เดินเข้ามาสมทบพร้อมกับทหารยามอีกสิบกว่าคน หนึ่งในนั้นคือเจี้ยนคังคนสนิทข้างกายหลิวลี่ซือ อีกคนลู่ซิงเหยียนไม่ทราบว่าใคร แต่ดูเหมือนจะเป็นคนข้างกายของแขกที่มาเยือนจวนเจ้าเมืองในวันนี้

พ่อบ้านเหอเอ่ยรายงานต่อคนทั้งคู่ด้วยท่าทีหวาดเกรง พูดคุยไม่กี่ประโยคก็รีบพาคนจากไป เหลือเพียงพ่อบ้านเหอและทหารยามที่ติดตามมาตรวจค้นเรือนนอนบ่าวรับใช้ในตอนแรก

ลู่ซิงเหยียนได้ยินเสียงใครบางคนกล่าวชื่อนางออกมา พ่อบ้านเหอจึงสั่งให้ทหารชั้นผู้น้อยรีบตรวจค้นโดยรอบอีกครั้ง หญิงสาวใจเต้นระทึกในขณะที่บุคคลด้านหลังยังคงสงบนิ่งไม่เคลื่อนไหว มีดที่พาดอยู่บนคอบาดลึกลงจนลู่ซิงเหยียนรับรู้ถึงโลหิตที่ค่อย ๆ หลั่งออกมา

“อื้อ...” หญิงสาวร้องออกมาเบาๆ

“อย่าส่งเสียง...” ‘ผู้บุกรุก’ กดเสียงต่ำเป็นเชิงข่มขู่ สายตาจับจ้องไปยังสถานการณ์เบื้องนอก สมองคิดหาทางหนีทีไล่เมื่อเห็นว่าเหล่าทหารกำลังเดินตรงเข้ามายังสถานที่ซ่อนตัว

ยิ่งทหารเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ ภายในห้องสุขาที่แสนอึดอัดคับแคบก็เต็มไปด้วยไอสังหารมากขึ้นเท่านั้น มีดค่อย ๆ บาดลึกลงเรื่อย ๆ กดดันจนลู่ซิงเหยียนหายใจแทบไม่ออก หากเกิดการต่อสู้ขึ้นจริง ๆ นางไหนเลยจะไม่กลายเป็นโล่กำบังคอยรับคมหอกคมดาบแทนโจรชั่วผู้นี้

หญิงสาวตัดสินใจดึงมือที่ปิดปากออกแล้วรีบยื่นข้อเสนอออกไปอย่างไม่กลัวตาย

“ให้ข้าช่วยท่าน...”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิ่วเชียน

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

ต้องมนต์บุปผา

ต้องมนต์บุปผา

ซีไซต์
5.0

หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สยบรักดวงใจท่านอ๋อง
1

บทที่ 1 ผู้บุกรุก

18/01/2025

2

บทที่ 2 ช่วยเหลือ

18/01/2025

3

บทที่ 3 ถังอาจม

18/01/2025

4

บทที่ 4 ตรวจค้น

18/01/2025

5

บทที่ 5 ช่วยจนถึงที่สุด

18/01/2025

6

บทที่ 6 ทำเพื่อช่วยชีวิต

18/01/2025

7

บทที่ 7 ยอดฝีมือแคว้นเว่ย

18/01/2025

8

บทที่ 8 ชื่อของข้า

18/01/2025

9

บทที่ 9 พักรักษาตัว

18/01/2025

10

บทที่ 10 ภาพที่เกินความคาดหมาย

18/01/2025

11

บทที่ 11 ข้าน่าสังเวชมากนักหรือ

18/01/2025

12

บทที่ 12 ก่อกวน

18/01/2025

13

บทที่ 13 ปรากฏตัวอีกครั้ง

18/01/2025

14

บทที่ 14 บทเรียน

18/01/2025

15

บทที่ 15 ตามตอแย

18/01/2025

16

บทที่ 16 ร่วมงานเลี้ยง

18/01/2025

17

บทที่ 17 ผู้มีพระคุณ

18/01/2025

18

บทที่ 18 เปลี่ยนอาภรณ์

24/01/2025

19

บทที่ 19 การลอบสังหาร

24/01/2025

20

บทที่ 20 ปรนนิบัติ

24/01/2025

21

บทที่ 21 แสดงละคร

27/01/2025

22

บทที่ 22 กล่าวคำลา

27/01/2025

23

บทที่ 23 ในห้องหนังสือ

27/01/2025

24

บทที่ 24 หอการค้าฉางซู่

27/01/2025

25

บทที่ 25 เรื่องสำคัญที่ต้องบอก

28/01/2025

26

บทที่ 26 ลักพาตัว

28/01/2025

27

บทที่ 27 บรรยากาศในโรงเตี๊ยม

28/01/2025

28

บทที่ 28 แย่งชิง

28/01/2025

29

บทที่ 29 ปะทะ

05/02/2025

30

บทที่ 30 ลงโทษโบย

05/02/2025

31

บทที่ 31 แจ้งข่าว

05/02/2025

32

บทที่ 32 ซักถาม

05/02/2025

33

บทที่ 33 เอ่ยปากอ้อนวอน

05/02/2025

34

บทที่ 34 โทสะที่ไม่อาจระบายออก

05/02/2025

35

บทที่ 35 ยากวงหง

09/02/2025

36

บทที่ 36 อาการป่วยของมารดา

09/02/2025

37

บทที่ 37 ลอบเข้าจวนเจ้าเมือง

09/02/2025

38

บทที่ 38 คนคุ้นเคยในอดีต

10/02/2025

39

บทที่ 39 ป้อนยา

11/02/2025

40

บทที่ 40 เรื่องราวเมื่อสี่ปีก่อน

12/02/2025