Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ย้อนเวลาไปเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า เพื่อร่ำรวยใน ยุค 80

ย้อนเวลาไปเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า เพื่อร่ำรวยใน ยุค 80

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
635
ชม
15
บท

ซีเหว่ที่ต้องตายอย่างอนาถในปัจจุบันเพราะความผิดพลาดในการเลือกทางผิดของตัวเอง เลยทำให้เธอต้องตายด้วยโรคร้ายเพียงลำพัง เมื่อสวรรค์ยังมีเมตตาให้เธอกลับไปอีกครั้ง และคราวนี้เธอจะสร้างความร่ำรวยให้เธอไม่ยอมให้แม่และน้องสาวต้องตายอีกแล้ว

บทที่ 1 No.1

ปัจจุบัน

ค.ศ. 2025

ชุมชนแออัดที่รัฐบาลจัดสรรให้คนยากไร้ มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน)

ซีเยว่ในวัยเก้าสิบปีนอนติดอยู่กับฟูกสกปรกบนพื้นบ้านดินแดงอัดแข็งราวผักที่กำลังเน่าสลาย เธอไม่มีเรี่ยวแรงที่จะพยุงตัวลุกขึ้นนั่งได้อีกแล้ว ลมหนาวที่รอดมาตามรูไม้ฝาผุ ๆ ไม่ต่างจากมีดที่ตัดถึงขั้วกระดูกบาดเส้นเอ็น ผ้าห่มที่มีก็ไม่ต่างจากเศษผ้าขี้ริ้ว มันชุ่มไปด้วยของเสียทั้งหนักเบาส่งกลิ่นตลบอบอวล เรียกหนูและแมลงวันให้มาดมตอมแผลที่เหวอะหวะเริ่มเน่าตรงน่องขวาเพราะโดนเศษขยะบาดเมื่อนานมาแล้วแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและรักษาความสะอาดที่ดีพอ

เดิมทีซีเยว่ในวัยชรามีอาชีพเก็บของเก่าขายแลกผักผลไม้ หรือหมั่นโถวเย็น ๆ สักลูกเพื่อประทังชีวิต

ดวงตาที่เริ่มฝ้าฟางเหม่อมองเพดานที่เต็มไปด้วยหยากไย่ ไม่คิดเลยว่าชีวิตของหญิงสาวที่เคยสดสวยดั่งดอกเหมยแรกแย้มจะมีจุดจบเลวร้ายยิ่งกว่าหมาขี้เรื้อน

ไม่น่าเชื่อเลยว่าเมื่อก่อนซีเยว่จะได้ชื่อว่าเป็นสาวงามประจำหมู่บ้านที่ใคร ๆ ต่างก็หมายปอง

ว่ากันว่าคนใกล้ตายจะเห็นอดีตไหลผ่านราวภาพยนตร์...ณ. ขณะนี้คงใกล้ถึงเวลาที่เธอจะได้ไปสบายเสียทีเพราะภาพเมื่อครั้งเธอยังเป็นสาวแรกแย้มฉายกลับมาให้เห็นในสมองอย่างชัดเจน

เจ็ดสิบหกปีก่อน...สมัยยุค 80

ยามนั้นซีเย่วมีอายุเพียงสิบสี่ปี กระนั้นความงามเกินอายุของเธอก็เป็นที่เลื่องลือจนทำให้เด็กสาวได้รับสมญานามว่าเป็นดอกเหมยงามประจำหมู่บ้าน ใคร ๆ ก็ต่างรุมเอาอกเอาใจ ไม่พอยังเริ่มมีแม่สื่อติดต่อมาให้ไปดูตัวจึงกลายเป็นที่เชิดหน้าชูตาของมารดาของเด็กสาว ด้วยหวังว่าซีเยว่จะได้แต่งออกไปกับผู้ชายที่ดีและกลับมาช่วยเหลือจุนเจือนางกับน้องสาวคนเล็กได้

และด้วยความที่มีแต่คนคอยพะนอเอาใจนี้เองที่ทำให้ซีเย่วกลายเป็นเด็กสาวเอาแต่ใจ ยึดความต้องการของตัวเองเป็นสูญกลาง และใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายแม้ครอบครัวจะไม่ได้มีเงินมากนักก็ตามเพราะมารดาผู้เป็นเสาหลักของบ้านมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และเก็บผักไปขายที่ตลาดเมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว

“อาเยว่ วันนี้ที่ตลาดมีงานโคมไฟ แกพาน้องเอาผักที่แม่เก็บมาเมื่อเช้าไปขายที” ผู่หนิง มารดาของซีเยว่สั่งลูกสาวคนโตที่กำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจกทองเหลืองบานเก่าที่นางก็ไม่รู้ว่าลูกไปหามาได้อย่างไร

ซีเยว่ชักสีหน้าทันทีที่ได้ยิน “วันนี้ฉันไม่ว่าง จะไปเดินเที่ยวกับเพื่อนสาว ๆ ในเมือง ทำไมแม่ไม่ไปขายเองล่ะ”

“ฉันต้องไปรับจ้างหาบผักดอง”

“ผักดองอีกละ กลับมาก็มีกลิ่นเหม็นติดเสื้อผ้ามาอีก ช่างไม่อายชาวบ้านชาวช่องบ้าง ไปไหนใครก็รังเกียจ แล้วอย่างนี้จะมีผู้ชายดี ๆ บ้านไหนส่งแม่สื่อมาทาบทามฉัน” ทุกสิ่งที่ซีเยว่คิดทำล้วนนึกถึงแต่ตัวเองทั้งสิ้น

บ้านหลังเล็กพอกด้วยดินเหนียวที่สามีของผู่หนิงทิ้งเอาไว้ให้เป็นมรดกหลังไม่ได้ใหญ่มากนักจึงมีเพียงห้องนอนเดียวที่สามคนแม่ลูกต้องนอนเบียดกันบนฟูก ดังนั้นหากมารดาตัวเหม็น ตัวของซีเยว่ก็ต้องเหม็นไปด้วยซึ่งเธอไม่ชอบเลย

“เอาล่ะ ๆ แม่จะถอดเสื้อผ้าที่ใส่ไปทำงานวันนี้ทิ้งไว้ข้างนอกดีไหม แบบนั้นก็ไม่มีปัญหาแล้ว” งานนี้ได้เงินมากดังนั้นเธอจะไม่ทำก็ไม่ได้ ใกล้สิ้นเดือนค่าเช่าบ้านยังไม่ครบ เงินที่นางเก็บหอมรอมริบเอาไว้ในกล่องเหล็กข้างเตียงยังขาดอีกหลายหยวน หากวันนี้ได้เงินจากค่าจ้างหาบผัก บวกกับถ้าวันนี้ขายผักที่งานโคมไฟได้ดีเงินก็จะครบสำหรับค่าใช้จ่ายสิ้นเดือนนี้พอดี แล้วเดือนหน้าค่อยว่ากันใหม่

“อาเยว่ วันนี้พาน้องไปขายผักหน่อยเถอะ ได้เงินแล้วแม่จะซื้อเครื่องแต่งตัวชิ้นใหม่ให้ดีไหม ไหนบอกว่าอยากได้กำไลหยก ถ้าขายผักได้หมดแม่สัญญาว่าเดือนหน้าจะซื้อให้วงหนึ่ง”

ผู่หนิงรู้จุดอ่อนลูกสาวคนโตดี ซีเยว่เป็นคนรักสวยรักงาม ผิดกับลี่หนิง ลูกสาวคนเล็กของนางที่ยังเล็กนักอายุเพียงห้าขวบเท่านั้น ใช่ว่าคนเป็นแม่จะรักลูกไม่เท่ากัน แต่ด้วยเงินที่มีจำกัดผู่หนิงจึงคิดว่าอีกไม่กี่ปีซีเยว่ก็จะแต่งออกไปตามธรรมเนียม มีสามีดี ๆ หลังจากนั้นนางค่อยชดเชยให้ลูกสาวคนเล็กก็ยังไม่สาย

ถ้าสามีที่ตายไปทิ้งมรดกให้มากกว่าบ้านเก่า ๆ หลังนี้ก็ยังดี แต่นี้เขากลับไม่มีสมบัติอะไรทิ้งไว้ให้พวกนางสามคนแม่ลูกเลย

ซีเยว่เห็นอาการทอดถอนใจของมารดา ประกอบกับคำสัญญาว่าจะให้กำไลวงใหม่ก็ใจอ่อน ยอมรับปากจะพาน้องไปนั่งขายผักให้ในที่สุด

ด้วยความที่ซีเยว่มีใบหน้าอันงดงาม ไม่พอยังช่างเจรจาฉอเลาะพูดจาเอาอกเอาใจลูกค้า เพียงไม่นานผักบนแผงก็เหลือเพียงไม่กี่กำก็จะหมด

ซีเยว่หยิบเงินไปจำนวนหนึ่งแล้วยัดกระปุกที่เหลือเงินไม่มากใส่มือลี่หนิง “พี่จะไปซื้อขนมถังหูลู่ที่น้องชอบมาให้ดีไหม”

“ดี ๆ หนูชอบกิน” ลี่หนิงยิ้มกว้างตบมือดีใจอย่างไร้เดียงสา ด้วยความที่แม่ต้องไปทำงานจึงทิ้งหนูน้อยให้พี่สาวเลี้ยงดูเป็นประจำทั้งคู่จึงสนิทกันมาก ถึงซีเยว่จะเห็นแก่ตัวอย่างไรแต่นางก็รักน้องสาวคนเดียว...ถึงจะน้อยกว่ารักตัวเองก็ตามทีเถอะ

“น้าจ๊ะ” เด็กสาวหันไปประจบน้าสาวข้างร้านเสียงหวาน “ฉันกับน้องยังไม่ได้กินอะไรกันเลยตั้งแต่เช้า ตอนนี้ผักใกล้ขายหมดแล้วฉันขอฝากน้องสักเดี๋ยวได้ไหมจ๊ะ ฉันจะไปซื้อขนมให้น้องกินรองท้อง เสร็จแล้วจะรีบกลับมาจ้ะ”

“ได้สิแม่หนู ช่างเป็นเด็กที่กตัญญูจริง ๆ ไปเถอะ ๆ เดี๋ยวป้าช่วยดูให้”

“ขอบคุณมากจ้ะ”

เมื่อฝากฝังน้องสาวเรียบร้อยแล้วซีเยว่ก็ลุกแล่นไปเที่ยวงานโคมไฟอย่างสบายใจโดยไม่ลืมที่จะซื้อขนมให้ลี่หนิงตามที่รับปากไว้ก่อนไม้หนึ่ง จากนั้นก็ไปเดินดูร้านค้าต่าง ๆ ด้วยดวงตาวาววาม

ไม่ว่าเครื่องประดับชิ้นไหน ๆ ต่างก็สวยงาม เครื่องสำอางหรือก็มีสีสันงดงาม ซีเยว่ล้วนอยากได้ทั้งสิ้น แต่เงินที่มีอยู่ในมือกลับไม่สามารถซื้ออะไรได้เลยสักชิ้น

“เมื่อไหร่จะร่ำรวยเงินทองเหมือนคนอื่นเขาบ้างก็ไม่รู้”

ซีเยว่มองเปรียบเทียบชุดของตัวเองกับสาว ๆ คนอื่น ๆ ในท้องถนนก็นึกอิจฉา นี่เป็นชุดที่ดีที่สุดที่เธอมีแต่ก็ยังดูเก่ามากเพราะซื้อเมื่อสองปีที่แล้ว ชายกระโปรงก็สั้นลงเพราะความสูงของเธอที่เพิ่มขึ้นจนเห็นตาตุ่ม...

เธอมีใบหน้าที่งดงามเกินใครแล้วอย่างไร ใครต่างก็ว่า ‘คนพึ่งเสื้อผ้า ม้าพึ่งอาน’[ หมายความว่าคนจะดูดีต้องอาศัยเสื้อผ้าที่สวมใส่ ส่วนม้าจะดูสง่าต้องอาศัยอานม้าที่สวยงาม ตรงกับสำนวนไทยที่ว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง”] ถ้าไม่มีเสื้อผ้าเครื่องประดับมาคอยส่งเสริมก็ยากที่ชายหนุ่มดี ๆ ในสังคมชั้นสูงจะมามองเห็นหญิงชาวบ้านธรรมดา ๆ อย่างเธอ

“อยากได้เหรอ?” เสียงทุ้มของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง

ทีแรกซีเยว่ถอยห่างจากชายแปลกหน้าไปหลายก้าวตามสัญชาตญาณป้องกันตัว แต่เมื่อเห็นว่าชายวัยกลางคนคนนั้นท่าทางใจดี แถมยังแต่งกายด้วยชุดสูทราคาแพง แถมยังผูกเนคไทเหมือนพวกนักธุรกิจที่เธอเคยเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ ก็เริ่มปล่อยวางความหวาดระแวงลง

“คุณคงไม่ใช่คนในเมืองนี้ใช่ไหมคะ?” ซีเยว่ถามเขิน ๆ

ท่าทางเอียงอายแต่ก็ไม่หลบสายตาของสาวน้อยเรียกความสนใจจากจางกังได้ทันที เขาเป็นนายหน้าหาผู้หญิงไปส่งให้ซ่องในเมืองหลวง หน้าที่ของเขาคือการเที่ยวตามหาเด็กสาวหน้าตาดีจากชนบทที่ยังไร้เดียงสา รู้ไม่เท่าทันกลโกงของมนุษย์ไปขายโดยไม่ต้องจ่ายค่าตัวให้พ่อแม่เด็ก ธุรกิจของเขาในแต่ละปีจึงทำกำไรเป็นกอบเป็นกำจนทำให้เขาสามารถวางท่าเหมือนเศรษฐีใจกว้างหลอกล่อผู้หญิงคนใหม่ต่อไปได้เรื่อย ๆ เหมือนทุกวันนี้

“ฉันเป็นแมวมอง หนูรู้จักไหม?”

“แมวมองเหรอคะ!”

ซีเยว่มองชายตรงหน้าด้วยสายตาเป็นประกายวาววามเต็มไปด้วยความหวัง ทำไมเธอจะไม่รู้จักแมวมอง เคยได้ยินว่าเมื่อสองปีก่อนรุ่นพี่ในโรงเรียนถูกแมวมองมาทาบทามให้ไปเป็นดาราในเมือง เธอไม่รู้ว่าพี่คนนั้นโด่งดังแค่ไหน รู้แค่ว่ามีเงินส่งกลับมาให้พ่อแม่ที่บ้านนอกใช้ทุกเดือนไม่เคยขัดสน...เธอก็อยากมีโชคเช่นนั้นบ้างเหมือนกัน

“ใช่ หนูอยากไปเป็นดาราที่เมืองหลวงไหมล่ะ ฉันกำลังมองหาเด็กสาวไปเล่นเป็นตัวประกอบในภาพยนตร์เรื่องใหม่ของผู้กำกับหวังพอดี...อ้อ ฉันชื่อจางกังนะ เป็นแมวมองค้นหาดาราหน้าใหม่” ชายหนุ่มพร่ำพูดไปเรื่อย ในแต่ละเมืองที่เขาไปแซ่ของผู้กำกับแทบไม่เคยซ้ำกันเลยสักครั้ง

จางกังส่งนามบัตรที่เป็นกระดาษแข็งกลิ่นหอม ตัวอักษรชื่อของเขาพิมพ์ด้วยตัวอักษรหวัดสีทองสวยงามยิ่งส่งเสริมความน่าเชื่อถือเข้าไปใหญ่

ซีเยว่รับไว้ด้วยความยินดี ไม่ได้เอะใจสักนิดว่าตัวเองกำลังเดินเข้าปากเสือร้าย

“ฉันชื่อซีเยว่ค่ะ ปีนี้อายุสิบสี่ปีแล้ว เด็กไปไหมคะที่จะไปทำงานเป็นดารา” เด็กสาวถามซื่อ ๆ แทบเก็บความดีใจเอาไว้ไม่ไหว

“เด็กเกินไปที่จะเป็นนางเอก แต่ไม่เด็กเกินไปที่จะแสดงในบทสมทบ แต่ในวงการบันเทิงเธอค่อย ๆ ไต่เต้าได้ ยิ่งมีใบหน้าสวย ๆ อย่างหนูซีเยว่ด้วยแล้ว ฉันเชื่อว่าผู้กำกับจะต้องผลักดันเธอเป็นแน่”

ซีเยว่ดีใจจนเนื้อเต้นที่ได้ยินเช่นนั้น เธอแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะได้ไปเป็นดารา...จะได้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสวย ๆ ใส่เครื่องประดับวับวาวสะท้อนแสงไฟ กลายเป็นดาวเด่นโด่งดังที่มีแต่คนรักและสนใจเธอ

“ฉันสนใจค่ะ แต่คงต้องไปขอค่าเดินทางจากแม่เพราะฉันไม่มีเงินเลย”

“ถ้าบอกแม่แล้วแม่ของหนูจะให้ไปไหม”

“ไม่รู้สิคะ ฉันคงต้องไปถามดูก่อน แต่ถ้าบอกแม่ว่าคุณจะพาไปเป็นดาราในเมือง จะสามารถหาเงินได้มากมาย แม่คงยอม”

แม้ภายนอกจะดูหัวรั้นเพียงใดแต่ซีเยว่ก็ยังเป็นเพียงเด็กสาวอายุสิบสี่ การตัดสินใจใด ๆ ก็ยังหวังถามความคิดเห็นจากมารดาอยู่ดี

และนั่นเป็นสิ่งที่จางกังไม่ต้องการ

“แต่ฉันกลัวแม่เธอจะไม่ยอมน่ะสิ มีเด็กสาวหลายคนที่พลาดโอกาสโด่งดังเพราะแม่ของพวกเธอใจแคบ ไม่ยอมให้ไป ฉันจึงจำต้องปล่อยมืออย่างน่าเสียดาย...มีโอกาสจะเป็นดาราแล้วแท้ ๆ”

พอซีเย่วคิดตามก็เริ่มกลัวว่าแม่จะไม่ให้ไปจริง ๆ...ถ้าแม่ไม่ยอมเธอจะทำอย่างไรดี

“เอาเป็นว่าฉันต้องรีบเดินทางกลับไปรายงานผลกับผู้กำกับที่เมืองหลวง ดังนั้นจึงจำต้องออกจากที่นี่ในวันพรุ่งนี้ตั้งแต่เช้ามืด ไม่มีเวลารอคำตอบจากเธอนานนัก...ถ้าเธออยากเป็นดาราก็มาพบฉันที่สถานีรถไฟตอนตีห้า ฉันจะซื้อตั๋วให้ แต่ถ้าเธอไม่มาก็ถือเสียว่าเธอไม่มีวาสนาได้ออกจากเมืองนี้ก็แล้วกัน”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
5.0

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

Tripp Zakarison
5.0

อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ