Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ในกรงกุหลาบซาตาน

ในกรงกุหลาบซาตาน

เฌอเลียร์

5.0
ความคิดเห็น
72.2K
ชม
274
บท

ในอ้อมแขนซาตานซึ่งกลายเป็น... รักนิรันด์ +++++++++++++++++ นิยายรักเบาสมองของปัทมนต์ ที่ชีวิตนี้อยากอยู่เป็นโสด เก็บเงินขึ้นคานสวยๆ แต่กลับมาผู้ชายหลายคนเข้ามาวุ่นวายในชีวิต กว่าจะเจอรักแท้ก็มีอุปสรรคและบททดสอบนิดหน่อยพอให้นักอ่านลุ้นเอาใจช่วยพร้อม ๆ กันนะคะ ++++++++++++++++++ “ผมอยากฟังคำตอบ” เขายืนประจันหน้ากับเธอตรง ๆ ปัทมนต์กลืนน้ำลาย รู้สึกบรรยากาศในห้องช่างเย็นเยียบ “ขอ...ขอเวลาฉันอีกหน่อยได้ไหม อย่างที่คุณรู้ พี่สาวฉันอยู่โรงพยาบาล อะไรหลายอย่างยังวุ่น ๆ อยู่” เสียงตะกุกตะกัก หายใจไม่ทั่วท้อง เด็กสปาแอบไปยืนดูอยู่ห่าง ๆ ข้างตู้เย็น “ผมว่ามันเป็นปัจจัยที่ดีช่วยในการตัดสินใจ ว่ายังไงล่ะครับ เยสหรือโน” เร่งเร้าราวไม่รับรู้ความลำบากใจของอีกฝ่าย หญิงสาวสูดลมหายใจเชิดหน้าขึ้น “งั้นฉันตอบว่าโนะ...” “อ้อ อีกอย่าง ผมให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ” พูดยังไม่ทันจบเขาก็แทรกขึ้น “ค่ารักษาพยาบาลคุณปรียาภัทรยังไม่มีใครมาดูแล รู้หรือยังว่าทำไมพี่คุณถึงขึ้นแท็กซี่จากสนามบิน” ปัทมนต์ตาโตกับข้อข้องใจที่ชักเลือนไปแล้ว ด้วยมัวแต่ห่วงพี่สาวอยู่หน้าห้องไอซียู “เพราะภรรยาคุณไพรัชตามไปอาละวาด เธอรู้เรื่องแล้วไม่พอใจที่เขากำลังจะมีลูก อุบัติเหตุอาจมีผลกระทบกับเด็กเกินกว่าคาด ค่ารักษาคงหลายแสน สถานการณ์ยังไม่ค่อยดีนัก” “คุณรู้ได้ยังไง” “บอกแล้วไงครับ ถ้าเป็นเรื่องที่สนใจผมก็จะรู้ คำตอบล่ะ” ชายหนุ่มยื่นหน้ามาใกล้ยิ้มมุมปาก ปัทมนต์รู้สึกตนเป็นอีฟ และคนตรงหน้าเป็นซาตานในร่างงูเจ้าเล่ห์ กำลังยื่นแอปเปิลสีแดงสดให้ “เยสหรือโนครับ” เธอกำลังจะเป็นลม หายใจติดขัด แต่ความเข้มแข็งสุดท้ายร้องบอกให้ประคองสติไว้ ภาพปรียาภัทร สปา และไพรัช ผุดขึ้นมาในสมอง “เวลาผมมีไม่มากนะ” กลิ่นน้ำหอมชั้นดีลอยอ่อนจากกายสูงกระตุ้นภายในอกเต้นระรัว ให้รู้ว่าเหตุการณ์ต่อหน้านี้คือความจริงไม่ได้ฝัน ใบหน้าขาวซีด ไหล่หนักดังมีเหล็กทับไว้ “ตอบครับ” ซาตานที่กำลังเล่นสนุกกับชีวิตเธอและพี่เร่งเร้า “คำตอบคุณรู้อยู่แล้วนี่” การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อช่วยไพรัช แต่เป็นปรียาภัทร หญิงสาวกัดฟัน จ้องหน้าเขาราวจะแผดเผาให้ตายกันไปข้างหนึ่ง “ผมไม่ใช่ผู้วิเศษ เดาใจคนไม่ได้หรอกครับ โดยเฉพาะผู้หญิง” รุทระหัวเราะหึ ++++++++++++++++++++++++++++++

บทที่ 1 บทนำ

“แป๋งตัดผมได้แล้วนะ มันยาวแล้ว” หญิงสาวหน้าตาสวยผิวขาวจัดเปรย ทำให้คนที่ถูกพาดพิงมือจับปอยผมยุ่ง ๆ ที่ตกลงมาเคลียแก้มนวลเพราะรวบขึ้นไปบนศีรษะไม่หมด

“ยังไม่ยาวเสียหน่อย เดี๋ยวค่อยตัดก็ได้”

ปรียาภัทรย่นจมูกเพลียใจกับคำตอบเดิม ๆ “ตัดออกเสียหน่อยเถอะ เดี๋ยวพี่พาไปร้านประจำ”

ปัทมนต์แอบเบ้ปากเมื่อนึกถึงร้านตัดผมประจำของพี่ ราคาแพงและอยู่ในห้างหรู

“ไม่เอาล่ะ เดี๋ยวแป๋งไปตัดเองดีกว่า” เธอตัดบท รู้ดีว่าไม่เพียงจะให้ตัดผมอย่างเดียวแน่ คงตามมาด้วยการโมดิฟายเสียใหม่

พี่มักบ่นเสมอว่า “ไม่รู้ทนได้ยังไง ผมก็ยุ่ง รวบเป็นซาลาเปากลางหัว หน้าก็ไม่แต่ง เวลาใส่ชุดนักศึกษา หน้าก็กลืนกับชุดเลย เสียดายน้องพริตตี้เก่าหมด”

พี่เป็นคนสวย เคยเป็นพริตตี้รถยนต์และเบียร์ยี่ห้อดัง บางครั้งนึกสงสัยเหมือนกัน ทำไมพันธุกรรมช่างโหดร้าย ถึงไม่ได้ความสวย สูงยาวเข่าดีสักเสี้ยวหนึ่งของพี่

แม้เธอจะรูปร่างเล็ก สูงคาบเส้นหนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตร ผิวออกเหลืองจนเพื่อน ๆ ล้อว่าเป็นดีซ่าน หน้าตากลาง ๆ ค่อนไปทางธรรมดา ไม่มีอะไรน่าจดจำ เว้นเสียแต่ดวงตากลมโตสุกใสและผมยาวเฟื้อยถึงเอว ถักเปียสองข้างเป็นบางคราเท่านั้น

“เรื่องงานล่ะว่าไง มีที่ไหนตอบกลับมาบ้าง” พี่เสเปลี่ยนเรื่อง

ปัทมนต์เดาะลิ้นเบา ๆ อย่างครุ่นคิด “ยังไม่มีที่ไหนตอบเลย”

คนได้ยินคำตอบถอนหายใจเหนื่อยหน่ายกับความหัวแข็งของน้องสาว “บอกให้ไปทำงานบริษัทของคุณไพรัชก็ไม่เชื่อ พี่จะได้คุยให้”

หมายถึงบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของผู้อุปถัมภ์

“ไม่เอา แป๋งไม่อยากใช้เส้น” หญิงสาวปฏิเสธเสียงยาน

เหตุผลจริง ๆ คือไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณกับผู้ให้การอุปถัมภ์หรือพี่เขยนอกกฎหมายไปกว่านี้ เธอไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พี่ทำ แต่เด็กผู้หญิงสองพี่น้อง ญาติซึ่งเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กเพิ่งเสีย ต้องอยู่กันตามลำพัง ช่างลำบากไม่ใช่น้อย

พี่สาวสู้อุตส่าห์กัดฟันเรียนจนจบประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) โดยทำงานเป็นพริตตี้ไปด้วย ทำให้เธอมีโอกาสได้เจอกับไพรัช ซึ่งคบกันยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน แถมยังให้ทุนการศึกษาแก่เธอที่ตอนนั้นยังเด็กอยู่

‘เพราะศักดิ์ศรีไม่ได้ทำให้อิ่มท้อง’ ปรียาภัทรให้เหตุผลในการกระทำอันผิดศีลนื้ ‘อีกอย่างจะได้ส่งให้แป๋งเรียนสูง ๆ มีความรู้ เอาตัวรอดได้ ไม่ต้องมาลำบากเหมือนพี่’

ข้อนั้นยอมรับ ไพรัชค่อนข้างยุติธรรม นอกจากซื้อรถ ซื้อคอนโด ออกค่าเล่าเรียนส่งเสียน้องจนใกล้จบมหาวิทยาลัยแล้ว ยังใจป้ำควักเงินลงทุนให้เปิดสปาเล็ก ๆ ไว้แก้เหงา พี่สาวทั้งสวยทั้งฉลาด อยู่กับไพรัชมาหลายปีแล้วแต่ยังดึงเขาไว้อยู่หมัด

“เรื่องโปรเจกต์จบว่ายังไง อาจารย์บอกจะผ่านไหม” ปรียาภัทรถามต่อ

“อาจารย์บอกผ่านแล้ว แค่ให้แก้ไขจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ นิดหน่อย”

ศีรษะงามได้รูปผงกรับรู้ “พี่ล่ะคิดว่าเราจะไม่ผ่าน เห็นแต่ทำรายงานจนตาโหล”

หญิงสาวยิ้มแหย ๆ อุบเงียบไม่ยอมบอกว่าที่ตาโหลเพราะทำงานส่งอาจารย์ให้ดนัยวุธ เพื่อนร่วมคณะด้วยค่าตอบแทนแสนแพง ถ้าพี่รู้คงถูกดุ เหมือนตอนเธอแอบเม้มเงินที่ให้เวลาไปซื้อเสื้อผ้าหรือตัดผม

‘แป๋งทั้งงกทั้งเขียม’ ปรียาภัทรค่อนขอดนิสัยนี้ของเธออยู่บ่อย ๆ

แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ในเมื่อโลกหมุนไปด้วยอำนาจเงิน ตอนนี้ยังหนุ่มสาวมีกำลังก็เก็บเอาไว้ให้เยอะ ๆ ตราบใดที่ไม่ได้ไปฆ่าไปปล้นใครมาก็สบายใจแล้ว

ยามเช้าของต้นเดือนมีนาคม แดดยังทอแสงอ่อน ปัทมนต์ถือถาดเปล่าสีเงินขึ้นลิฟต์ไปยังห้องพักในคอนโดหรู

“ไปใส่บาตรกลับมาแล้วหรือ” ปรียาภัทรใส่เสื้อคลุมแพรเนื้อดีเดินมาที่โต๊ะกินข้าวขนาดกะทัดรัด ที่แยกออกเป็นสัดส่วนกับห้องนั่งเล่น

“เรียบร้อยแล้ว พี่ปรีกินข้าวเช้าเลยหรือเปล่า เดี๋ยวแป๋งจัดให้”

“เอาสิ แป๋งทำอะไรใส่บาตรล่ะเช้านี้ หอมเชียว” คนเป็นพี่ยกมือปิดปากหาว หย่อนก้นลงบนเก้าอี้

“ผัดผักบุ้งกับแกงจืดผักกาดกระป๋อง ของหวานเป็นวุ้นกะทิ”

เดาได้เหมือนเคยว่าอาหารชุดนี้คงเคยเป็นมื้อกลางวันและเย็นของน้องด้วย เธอรู้ซึ้งนิสัยน้องดีว่าพยายามใช้ของที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด

ตอนเด็กเธออาศัยอยู่กับป้าแท้ ๆ ซึ่งรับข้าราชการครูโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง นับตั้งแต่แม่บังเกิดเกล้านำพวกเธอพี่น้องมาฝากแล้วหนีหน้าหายไปไม่กลับมา แถมเงินเดือนครูระดับประถมนั้นน้อยนิด แต่ป้าก็พยายามสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับหลานทั้งสองเสมอ

เวลาอยากกินอะไรแพง ๆ ป้ามักไปหาวิธี แล้วมาทำให้ ซึ่งกินได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่หลังจากลองผิดลองถูกมาเยอะ อาหารของป้ากลายเป็นอร่อยทุกครั้งที่ลงมือทำ รสฝีมือนี้ถ่ายทอดมาสู่ปัทมนต์เต็ม ๆ

‘กับข้าวน่ะไปซื้อเขากินทำไม ทำกินเองดีกว่า สะอาดด้วย จะกินเยอะเท่าไรก็ได้’

น้องให้ความเห็นเรื่องอาหารคล้ายป้าเพ็ญ อีกเหตุผลคือความประหยัด เธอมองดูมือบอบบางเหลืองลออหยิบโน่นทำนี่คล่องแคล่วอยู่ในครัว ผมยาวรวบติดกิ๊บหนีบตัวใหญ่ เจ้าตัวไม่ค่อยอยากตัด พอให้เงินไปยายตัวดีก็แอบเก็บไว้

‘เสียดายตังค์น่ะพี่ปรี รอให้ยาวกว่านี้ดีกว่าค่อยไปตัดทีเดียว’ นี่แหละปัทมนต์ ‘ทำบุญไว้ดีนะพี่ สบายใจชาตินี้แถมไปถึงชาติหน้า แป๋งอธิษฐานให้เราสองคนไม่ว่าชาติไหน ๆ ขอมีชีวิตที่ไม่ลำบากอย่างนี้’

หลังป้าเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถชน เธอเริ่มกรวดน้ำให้ญาติผู้อันเป็นที่รัก เมื่อพี่สาวผิดศีลข้อสามยิ่งพยายามทำบุญมากขึ้น

‘แป๋งไม่หวังชาติหน้าแล้วล่ะ ขอให้ชาตินี้เราอย่าสร้างบาปกรรมกับใครมากกว่านี้อีกเลย’

น้องเคยบอกด้วยน้ำเสียงจืดเจื่อนจนเธอสะท้านใจ บาปจากการผิดศีลทำให้อยู่สุขสบายกาย แต่ใจนั้นไม่ใคร่สบายเลย จึงไม่เคยห้ามแถมสนับสนุนเรื่องการทำบุญ

ปัทมนต์มักตักบาตรเช้าด้วยอาหารที่ทำเอง แม้ต้องตื่นขึ้นมาแต่ไก่โห่ก็ตาม ด้วยความเชื่อมาจากป้าผู้ล่วงลับ

‘อาหารถวายพระถ้าทำเอง ทำด้วยใจจะส่งผลบุญมาก ถ้าทำบุญด้วยอาหารอะไรเวลาตายจะได้กินอาหารที่เราใส่บาตรไป’

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ เฌอเลียร์

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ