ทัณฑ์เสน่หาอสูร

ทัณฑ์เสน่หาอสูร

ลิขิตนางฟ้า

5.0
ความคิดเห็น
117.5K
ชม
56
บท

เขามองเธอเป็นดอกไม้ ไม่ได้คิดทนุถนอมอย่างที่ควรจะเป็น เพียงเด็ดดม ขย้ำขยี้เล่น สาเหตุเพราะพ่อของเขายกย่องแม่ของเธอ และเขาจับได้ว่าแม่เธอทำร้ายจิตใจพ่อเขาด้วยการคบชู้ แม่เธอไม่ใช่คนผิดแต่ความแค้นทุกอย่างมาตกที่เธอ น้ำตาที่ไหลรินมาตลอดตั้งแต่พ่อจากไปเริ่มแห้งเหือดหาย เธอไร้ซึ่งศักดิ์ศรีใดๆ เมื่อปรินทร อัครพิภพ ให้เธอรับโทษทัณฑ์ที่ไม่ได้ก่อ เพื่แแม้ แม้เจ็บปวดหัวใจ แม้อายเธอต้องอดทนต่อไป

บทที่ 1 1

ปิ่นคณางค์ มหาสุทธิกุล หันหลังออกจากคอนโดมิเนียมหรูของปรินทรเมื่อมาถึง “ฉันเปลี่ยน...เอ่อ...ใจแล้ว ฉันจะกลับ” เสียงสั่นบอกร่างสูงที่ยืนพิงกรอบประตู เขากำลังสำรวจตรวจตราร่างกายเธอด้วยสายตาจาบจ้วง หญิงสาวก้มหน้า

“อย่าทำเป็นปฏิเสธไปเลยน่า ฉันไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนใจเกิดขึ้นในเมื่อเธอตัดสินใจมาที่นี่แล้ว” ปรินทรค้นหาความจริงของการเปลี่ยนใจ

“แต่ฉันยังมีโอกาสเปลี่ยนใจไม่ใช่รึไง คุณจะมาบังคับกัน...ไม่ได้นะ”

“เธอจะต่อรองอะไรเพิ่มอีกล่ะ บอกมาสิ ”

ตอนแรกเพราะความเป็นห่วงผู้มีพระคุณ วันนี้ปิ่นคณางค์จึงได้มาที่นี่ คิดแล้วช่างน่าเจ็บใจน่าละอายเหลือเกิน ร่างสูงย่างสามขุมเข้ามาเหมือนต้องการกักกั้นไม่ให้ตนได้ปฏิเสธได้อุทธรณ์ ทำได้ก็เพียงแหงนหน้ามองชายหนุ่มด้วยความตระหนก เพียงแค่คิดว่าไม่มีทางไปอีกแล้ว ความหนาวเหน็บหวาดกลัวก็ประดังประเดเข้ามาจนเล็บสะอาดจิกลงในฝ่ามือสุดแรง

“ฉัน...” ไม่ทันได้พูดสิ่งที่ต้องการก็ต้องอึ้งกับคำต่อว่าที่ออกจากปากเขาอีก

“อย่าลวดลายน่า บอกแล้วไงว่า คนที่ต้องชดใช้แทนผู้หญิงสารเลวโสมมก็คือลูกอย่างเธอ”

ยืนนิ่งหมดเรี่ยวแรง รู้ตัวอีกทีร่างสูงก็เข้ามาประชิดถึงตัวเสียแล้ว แม้อยากกระโจนหนีแต่เท้าเจ้ากรรมก็แข็งทื่อไปหมด ทว่าแม้ไร้สิ้นทางหนี วินาทีนั้นเสียงในส่วนลึกยังดังออกมาได้ “ไม่ ! อย่านะ ฉันบอกแล้ว ฉันเปลี่ยนใจ...! ฉันจะกลับ ปล่อย”

ปรินทร มาร์โก อัครพิภพ ชายหนุ่มวัยสามสิบ ผู้ซึ่งมีดวงตาหวาน คม ชวนให้ต้องมนต์ ดูท่าตอนนี้ไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะเปิดใจรับฟังอะไร หรือเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เขาต้องการยัดเยียดมันให้เธอ

ปิ่นคณางค์ก็หนีเงื้อมืออสูรร้ายไม่พ้น…

หลายเดือนผ่านไป…ภายในห้องนอนกว้างสีครีมนั้นได้รับการออกแบบตกแต่งหรูหรา บนเตียงนอนคิงไซส์ปิ่นคณางค์นอนตะแคง สองมือเรียวประสานใต้แก้มผ่องใกล้หมอนสีขาวใบใหญ่ หญิงสาวนอนนิ่งเฉกตุ๊กตาไร้ชีวิตมาร่วมชั่วโมง ใจเธอทุกข์ระทม ทว่าทุกข์ใจมากมายเพียงไรหญิงสาวก็ไม่เคยมีน้ำตาสักเพียงหยดเดียว เพราะว่าน้ำตามันแห้งเหือดหายไปตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านเลยมา… หายไปตั้งแต่เธอต้องสูญเสียคนที่รักที่สุด นั่นคือพ่อและต้องตามแม่มาอยู่ที่อัครพิภพ ภาพความสุขของครอบครัว วันเวลาเก่าๆ รวมทั้งสถานที่ซึ่งรักผูกพัน คงไม่สามารถหวนกลับมาได้อีกแล้ว มันคงเป็นได้แค่เรื่องราวในอดีตที่เก็บไว้รำลึกภายในใจก็เพียงเท่านั้นเอง

เชียงใหม่ หลายเดือนก่อน …หญิงสาวรูปร่างบอบบางอยู่ในชุดกระโปรงทรงจีบรอบสีดำยาวเสมอเข่า ด้านบนคือเสื้อคอโปโลสีขาวแนบรูปร่างอรชร จากประตูไม้ทรงเตี้ย หญิงสาวรีบเร่งย่ำสนามหญ้าเข้าไปหาบิดา เธอไม่เห็นว่าใบหน้าซึมไร้ความสุขแต่เริ่มแรกปรับเปลี่ยนให้สดชื่น บ้านไม้ชั้นครึ่งอาณาเขตห่างไกลจากคำว่ากว้างขวางทำให้หญิงสาวเดินถึงพ่อซึ่งยืนหันหลังรดน้ำต้นไม้อยู่มุมสวนเล็กๆ หน้าตัวบ้านเร็วทันใจ สองมือเรียวกอดหมับตรงเอวหนาเมื่อเดินไปถึง วงหน้ารูปไข่ซบไหล่ภายใต้เสื้อเชิ้ตลายหมากรุกนิ่งนานเพราะความคิดถึง

“หนูเรียนจบซะที ต่อไปจะดูแลพ่อกับแม่เองค่ะ” ปิ่นคณางค์ พูดสิ่งที่ตั้งใจขึ้นทั้งที่ยังหลับตา

“พ่อภูมิใจมาก ลูกไม่ทำให้พ่อผิดหวัง” เดชณรงค์ มหาสุทธิกุล หนุ่มใหญ่วัยห้าสิบ อดีตนักธุรกิจชื่อดังเมืองเหนือ เอี้ยวเพียงใบหน้าซึ่งปกคลุมด้วยเส้นผมสีขาวเทา น้ำเสียงแม้จะดูเหมือนอ่อนล้าแต่แววตานั้นอ่อนโยนเต็มเปี่ยมด้วยความรักที่มีให้ลูกสาว ปิ่นคณางค์ ผงกศีรษะ ส่งยิ้มสดใส วงหน้าเซียวของพ่อที่ปรากฏแม้จะพยายามปกปิดแต่ก็ไม่มิด หญิงสาวอยากให้พ่อได้ยิ้มสักนิดถึงจะเป็นความสุขในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตามทีและได้แต่คิดครุ่นว่าจะทำอย่างไรดี

หลายเดือนก่อนหน้ามหาสุทธิกุลยังคงยิ่งใหญ่ บิดามีธุรกิจโรงแรมใหญ่ติดอันดับท็อปไฟว์ในภาคเหนือ รอบกายปิ่นคณางค์นั้นมีบริวารร่ายล้อมมากมาย ทุกคนต่างเอาใจคุณหนูเพียงคนเดียวของบ้าน หากวันหนึ่งเหตุการณ์เลวร้ายได้เข้ามาเยี่ยมเยือน มันมาเร็วมากและมันได้พาพัดความสุขความมั่งมีของครอบครัวให้มลายหายสิ้นไป บิดาโดนคนคนหนึ่งหักหลัง มีการถ่ายโอนหุ้นธุรกิจโรงแรมของครอบครัวมานานหลายปี สุดท้ายกว่าจะรู้ก็ช้าสายเกินไปแล้ว มหาสุทธิกุลหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ปิ่นคณางค์เคยอาศัยตั้งแต่จำความได้ถูกขายล้างหนี้ บิดาต้องยอมปล่อยมือจากทุกอย่างที่เคยครอบครองเพราะไม่อยากโดนฟ้องล้มละลาย

“โง่ !” แม่ต่อว่าพ่อด้วยเสียงเกรี้ยวกราดแปลกหูไป ปิ่นคณางค์เองได้รับคำนั้นเหมือนกัน เพราะหญิงสาวไม่เคยเข้าไปช่วยดูแลงานที่โรงแรมเลยสักครั้ง แม่เป็นคนตอกย้ำเรื่องนั้นเช่นเดียวกัน ปิ่นคณางค์หวังเพียงให้แม่พูดดีกับพ่อบ้าง อยากให้แม่ให้กำลังใจและเลิกพูดตอกย้ำรอยแผลในหัวใจของพ่อ แต่แม่ไม่ได้เกรี้ยวกราดกับพ่อเพียงคนเดียว เธอเองก็พลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย

“แกก็เหมือนกัน คงไม่ต่างกับพ่อแก โง่ น่าเบื่อนัก ดูสิคนที่เคยรักทั้งพี่น้องเพื่อนฝูงหนีหายหมด คู่หมั้นแกก็ถอนหมั้นเสียแล้วน่าขายหน้าเหลือเกิน”

ไม่เข้าใจคำซ้ำเติม นี่น่ะหรือแม่ที่พ่อเฝ้าเอาใจด้วยความรัก ไม่มีสักครั้งที่แม่อยากได้อะไรจะไม่ได้ เพชรนิลจินดา ความสะดวกสบาย แม่พูดย้ำอีกว่า ธนา สุริยะเกียรติพัฒน์ เศรษฐีหนุ่มหล่อที่หมั้นหมายกับปิ่นคณางค์มานานหลายปีนั้น จะหาที่ไหนได้ดีเท่าผู้ชายคนนี้อีก แต่ในความคิดปิ่นคณางค์นั้น คู่หมั้นหมายที่ฟ้าดลบันดาลให้เห็นเนื้อแท้ของเขาในยามวิกฤติ เรื่องอะไรจะต้องอาลัยอาวรณ์ ธนาไม่รักกันสักนิดและไม่ต้องเอ่ยว่าผู้ชายคนนั้นคบหากันเพราะสาเหตุใด

“ขอโทษที่ต้องขอถอนหมั้นนะครับ เอ่อ…”

“ค่ะ” ตนเองรับคำนั้นไม่รีรอให้ธนาบอกเหตุผลจบ โล่งใจด้วยซ้ำที่ปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นออกไปจากชีวิตตามที่เขาต้องการ

เรียนจบจากกรุงเทพฯ ปิ่นคณางค์กลับบ้านเกิด เฝ้าหางานจังหวัดใกล้เคียงและในเชียงใหม่ เวลาผ่านไปนานหลายเดือนก็ยังหาไม่ได้ แม่เฝ้าโทษว่าเพราะนามสกุลแสนซวยและท่าทางหยุมหยิมทำให้เธอต้องชวดงาน ปิ่นคณางค์กลั้นน้ำตาไม่ได้ แต่น้ำตาที่ไหลเพราะเห็นสายตาเศร้ารู้สึกผิดของพ่อนั้นมีมากกว่า ‘พ่อจ๋าอย่าคิดมากเลยนะ’ ปลอบพ่อในใจ เธอทำได้เพียงเท่านั้น แม้ไม่มีงานทำแต่ครอบครัวยังไม่ถึงกับลำบากที่สุดเพราะปิ่นคณางค์มีเงินเก็บก้อนหนึ่งซึ่งเก็บมานานหลายปี พ่อและแม่ก็ไม่เคยรู้ แต่ความลับก็แตกเมื่อวันหนึ่งแม่ได้เห็นและได้นำเงินที่มีเข้าบ่อนจนเงินจำนวนนั้นเริ่มร่อยหรอ มัวแต่หางานทำจนไม่รู้ว่าแม่แอบนำเงินที่เธอเก็บในห้องนอนออกไปใช้จ่ายฟุ่มเฟื่อย

“ทำไมคุณทำอย่างนี้ เอาของลูกไปทำไม ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้ ไม่รู้จักคิด !” พ่อซึ่งไม่เคยขึ้นเสียงต่อว่าแม่ หน้าบึ้งตึงแววตาเจ็บปวด

บ้านที่ร้อนระอุหารอยยิ้มไม่ได้อยู่ก่อนแล้วแทบปะทุด้วยเปลวไฟเผาไหม้วายวอด...แม่บอกว่าจะไม่อยู่ที่บ้านหลังน้อยอีกต่อไปแม้พ่อจะยื้อยุดขอร้องแต่แม่ก็ไม่สนใจฟัง “แม่จ๋าอย่าไปเลยนะ อย่าทิ้งหนูไปเลย แม่ไม่รักหนูหรือคะ”

ยังจำได้ดี ยังหนาวเย็นไม่คลายที่หัวใจเมื่อคิด หัวใจแทบขาดรอนในขณะนั้นพร่ำวอนขอร้องแม่ด้วยน้ำตานองหน้า เดือนต่อมาความทุกข์ก็โหมกระหน่ำ เมื่อต้องสูญเสียพ่อไปตลอดกาล พ่อตรอมใจมากอยู่แล้ว เมื่อขาดแม่กำลังใจท่านก็คงสลายไปไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยว ไม่ต่างกับหัวใจบางๆ ของตัวเธอเลย

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ลิขิตนางฟ้า

ข้อมูลเพิ่มเติม
รักเพียงใดก็ไร้สถานะ

รักเพียงใดก็ไร้สถานะ

โรแมนติก

5.0

อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ

ร้ายไม่เคยรัก

ร้ายไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ

ความผูกพันที่ไร้ค่า

ความผูกพันที่ไร้ค่า

โรแมนติก

5.0

เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง

ซ่อนรักซ่อนรอยร้าว

ซ่อนรักซ่อนรอยร้าว

โรแมนติก

5.0

เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติไปเป็นสาวใช้ผู้มั่งคั่งในยุค 90

ทะลุมิติไปเป็นสาวใช้ผู้มั่งคั่งในยุค 90

แก้วใบเล็ก
5.0

เธอทะลุมิติไปเป็นสาวใช้ส่วนตัวที่เขาซื้อมาจากครอบครัวที่เก็บขยะขาย ในยุคปัจจุบันก็ทำงานจนตัวตาย มาอยู่อดีตก็กลายเป็นคนอัตคัดขัดสน ชีวิตจะลำบากซ้ำซ้อนไปถึงไหน ……………………………………………… เช็ดท่อนบนเสร็จเนื้อนวลก็เตรียมถอดชิ้นล่างที่เป็นกางเกงผ้านิ่มขายาว มือเล็กกำลังจับขอบกางเกงเตรียมจะถอดออก            หมับ! แต่ก็มีมือใหญ่มายึดไว้อีกครั้ง พร้อมเปล่งเสียงแหบพร่าออกมา            “หย่า!” เด็กอะไรแก่แดดขนาดนี้ ไม่รู้จักอายผีอายสาง กลางวันแสก ๆ ยังจะแก้ผ้าผู้ชาย ถึงปู่กับย่าจะไม่ค่อยมีเวลาอบรมบ่มนิสัยให้รักนวลสงวนตัวแต่เธอก็น่าจะคิดเองเป็นบ้าง หรือเธอเป็นเด็กใจแตกถึงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้            เช่นเดิมเนื้อนวลไม่ได้สนใจ เพราะกลิ่นตัวของเขาที่โชยเข้าจมูกเธอคิดว่าน่าจะเกือบเดือนแล้วที่เขาไม่ได้เช็ดตัว เพราะเท่าที่เนื้อนวลเข้ามารับใช้เขาไม่กี่วัน สุรเชษฐ์ก็ไล่เธอท่าเดียว แต่อย่าหวังว่าเนื้อนวลคนนี้จะยอมแพ้ง่าย ๆ            “ถ้าอายก็หลับตา” เนื้อนวลพูดเสียงเรียบเรื่อยเหมือนเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ มือข้างหนึ่งจับสะโพกเขายกขึ้นมืออีกข้างดึงกางเกงนอกลงมาจนสุดปลายเท้าตามด้วยกางเกงผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เพราะเขาไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายทั้งหนักและเบาของตัวเองได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันระวังตัว เมื่อนั้นแหละสุรเชษฐ์จึงนอนแน่นิ่งปิดเปลือกตาแน่น ร่างใหญ่แข็งทื่อไปทั้งตัว จากที่ไม่รู้สึกแค่ฝั่งขวาตอนนี้เหมือนจะชาไปทุกสัดส่วนบนร่างกาย            ให้ตายเถอะ! ผู้หญิงคนนี้ช่างไร้ยางอายสิ้นดี เกิดมาเขายังไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนเห็นร่างเขาตอนเปลือยเปล่าแบบนี้มาก่อน เว้นเสียแต่ภรรยาของเขาเพียงคนเดียว เธอช่างเป็นผู้หญิงที่…หน้าด้านเหลือทน มีผู้หญิงคนไหนกันที่อยู่กับชายแปลกหน้าที่นอนเปลือยล่อนจ้อนแบบนี้ในห้องสองต่อสองเหมือนเธอบ้าง ถ้าคนอื่นรู้เข้ามีหวังเธอไม่มีทางหาสามีได้แน่ อย่างว่าล่ะนะก็คนไม่ได้เรียนหนังสือก็คงไม่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร            พ่อจ๋า! แม่จ๋า! ช่วยลูกด้วย ผมกำลังโดนแทะโลมทางสายตา สุรเชษฐ์พร่ำบ่นในใจเมื่อคิดว่าสาวใช้คงใช้สายตาจ้องมองเขาไปทั้งตัว

ภรรยาหวานใจคือบอสตัวจริง ได้รับความรักเอาใจสุด ๆ!

ภรรยาหวานใจคือบอสตัวจริง ได้รับความรักเอาใจสุด ๆ!

Devi Frair
5.0

ได้ข่าวว่าเจ้าเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่ทำให้ครอบครัวลี่ล่มสลาย ถูกขับไล่ออกจากประเทศไปหลายปี… ตอนนี้กลับมาแล้ว คืนนั้น หลี่ เย่ถิงจับเอวเธอแน่นแล้วกดเธอเข้ากับมุมกำแพงอย่างแรง ดวงตาเย็นเยียบมืดลึก “ฉันอนุญาตเธอตั้งแต่เมื่อไหร่?” เฉียวเว่ยยี่ยิ้มเย้ยเย็น “คุณหลี่ คำคนมันน่ากลัวนะคะ เราสองคนจบกันไปนานแล้ว กรุณารักษามารยาทด้วยค่ะ” วันถัดมา เหล่าบรรดาผู้มีอำนาจทั่วทั้งเมืองจิงก็ได้รับบัตรแดงคำเตือนจากครอบครัวลี่ทันทีว่า “คุณนายรองของพวกเราอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ไม่ชอบได้ยินคำซุบซิบนินทา” พวกคนที่นั่งรอให้เฉียวเว่ยยี่ตกต่ำแล้วหนีไปแบบหมดรูป ??? พวกคุณไปจดทะเบียนกันตั้งแต่เมื่อไหร่?

ทางใหม่ เริ่มใหม่

ทางใหม่ เริ่มใหม่

Beckett Grey
4.5

ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

คุณนายฟู่ กรุณาเซ็นต์หย่า

คุณนายฟู่ กรุณาเซ็นต์หย่า

Harper
5.0

ความรักที่ซ่อนเร้นของสาวน้อยเริ่มต้นในวันที่ทั้งสองได้พบกันในการพบกันที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนาน ทว่าเด็กสาวที่ครอบครัวรับมาเลี้ยงกลับแย่งชิงครอบครัวและเด็กหนุ่มไปโดยไม่รู้สึกเกรงกลัว เมื่อโตขึ้น เธอใช้โอกาสการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์เพื่อแย่งชิงตำแหน่งภรรยาของชายคนนั้น ไม่ยอมถอยแม้แต่นิดเดียว ฟู่เป่ยชวนกอดพี่สาวของเธอไว้ในอ้อมแขน ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เธอทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียน” ซูชิงเฉินรู้สึกปวดท้องเหมือนมีบางอย่างในร่างกายของเธอค่อยๆ เลือนหายไป เธอยิ้มเล็กน้อย น้ำเสียงแน่วแน่ “แน่นอน ฉันจะไม่มีวันปล่อยมือ ถึงจะต้องตายก็ตาม” ไม่นานนัก ซูชิงเฉินก็เหมือนจะหายไปจริงๆ จากนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ในยามค่ำคืน ฟู่เป่ยชวนมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับเขาว่า “ถ้าฉันไม่เคยรักเธอเลยก็คงจะดี” ห้าปีต่อมา ซูชิงเฉินกลับมาพร้อมกับเด็กคนหนึ่ง กลับมาในสายตาของคนทั่วไปอีกครั้ง ...

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ