Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
1.7K
ชม
25
บท

การแต่งงานดั่งความฝันยามค่ำคืน ตะวันสาดแสงแรงกล้าภาพทุกอย่าง แจ่มชัด เหลือเพียงหยดน้ำตาจากคำลวง .......... "ไม่นอนฉันจะปิดไฟ ถ้ายังไงเธอไปนอนห้องเดิมสิ คืนนี้ไม่ต้องรอฉันกดเธอใต้ร่างอีกหรอกนะ ฉันไม่มีอารมณ์" ดุจฝันยังเอาหมอนปิดหน้า เธอไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้วแต่ไม่อยากออกไปนอกห้อง เด็กในบ้านจะนำเรื่องนี้ไปถึงหูแม่เลี้ยงสร้อยฟ้า ท่านจะซักถามโน่นนี่ สามีนั้นกลับคิดอกุศลว่าเธอรอให้เขาทำเรื่องอย่างว่า "ฉันไม่ไปไหนที่นี่ห้องฉัน" "คุณปิดไฟได้เลยค่ะฝันไม่รบกวน คิดว่าฝันไม่อยู่ในห้องเหมือนทุกคืนสิคะส่วนเรื่องอื่นฝันไม่ต้องการซะหน่อย" "อย่างเธอหรือไม่ต้องการวันทั้งวันคงแต่งตัวรอผัวกลับบ้าน" รวีพงษ์ยิ้มเยาะ "ไฟฉันปิดแน่" ดุจฝันรับรู้ความมืดที่โอบล้อมรอบตัวหยิบหมอนออกจากใบหน้า ในห้องมืดสนิท เวลาที่หมุนช้าๆนับจากนี้จะมีเพียงเธอนั่งถางตาเพราะนอนไม่หลับ หลายคืนที่เธอไม่ได้พักผ่อน คืนนี้อีกสักคืนจะเป็นไรไป

บทที่ 1 1

ดุจฝัน ธีระกร นั่งมองแผลเป็นบริเวณริมแก้มซ้ายใกล้ใบหูที่เป็นแนวยาวราวหนึ่งนิ้วซึ่งมันดูน่าเกลียด นัยน์ตาสีเทาหม่นหลบการมองใช้ผมสีดำสนิทราวเส้นไหมซึ่งยาวกว่าสามสิบนิ้วมาปกปิดไว้ จากนั้นกวาดตามองเครื่องสำอางราคาแพงที่แม่เลี้ยงสร้อยฟ้าซื้อมาฝาก และหยิบโลชั่นบำรุงผิวมาเทใส่มือเล็กลูบไล้ทาอ้อยอิ่งที่แขน หน้าตาไม่ได้สวยงามหมดจด ให้มีกลิ่นหอมบ้างก็คงดี สามีจะได้ไม่ทำหน้าตาเย็นชาใส่เธอนัก หวนคิดถึงใบหน้าสามีเมื่อทาโลชั่น ถ้าลดสายตาเย็นชาลงบ้าง นัยน์ตาสีถ่านคงชวนให้น่ามองยิ่งนัก

จังหวะนั้นประตูห้องเปิดออก เรือนร่างบอบบางขยับตัว รู้สึกอึดอัดแต่ยังนั่งอยู่ที่เดิม

“ทำไมยังไม่นอน บอกกี่ครั้งไม่ต้องมานั่งทาน้ำหอมยั่วผัว ถ้าฉัน ‘อยาก’ มีน้ำหอมหรือไม่มีเธอต้องสนองให้ฉัน แม่ฉันเลี้ยงเธอมาเพื่อให้ฉันระบายความใคร่ ยังไงฉันก็ต้องใช้ให้คุ้มค่า”

ขวดโลชั่นกลิ่นดอกไม้ถูกวางลงเบาๆ ดวงตาเริ่มมีน้ำตาแวววาว หัวใจเมื่อไหร่จะด้านชา มันเนิ่นนานที่ต้องเจอแบบนี้ ทำไมยังทนเจ็บอยู่ ร่างสูงใหญ่มายืนใกล้ตรงหน้าต้องทำใจให้เย็นเหมือนไม่รู้สึกอะไร

“คุณกินอะไรมาหรือยังคะ”

“ทำไมไม่สะทกสะท้านเลย ฉันพูดกับผนังห้องเหรอเนี่ย”

“ว่าไงคะกินมาหรือยัง”

คนโดนถามมีเสียงจิจ๊ะไม่พอใจ ดุจฝันแสดงความรู้สึกห่วงใยให้เขารับรู้ สักวันเขาคงเห็นใจ มองเมียอย่างเธอ ในสายตาบ้าง ไม่ต้องมาเยาะเย้ย ประชดประชันก็ร่ำไป

“ฝันเป็นห่วงจริงๆ นะคะ ไม่เคยเห็นคุณกินข้าวด้วยกันเลย”

“คิดไม่ได้อีกหรือ ฉันกินไม่ลง และบอกไว้เลยเอาใจแม่ฉันก็พอ ฉันไม่ได้ต้องการอะไรแบบนี้ หลีกไปหน่อย”

เขามองดูชุดนอนที่เธอสวมใส่ ดุจฝันก้มหน้า เรื่องที่เขาประชดประชันทุกถ้อยคำต้องทำหูทวนลม คนไม่มีที่ไปอย่างเธอต้องทนแบบนี้ หน้าชื่นอกตรม

“ดูเสื้อผ้าเธอสิ ฉันว่าจะไม่พูดเรื่องนี้แต่เก็บปากไว้ไม่ได้จริงๆ”

“มีอะไรคะ เสือ้ผ้าฝันมีอะไรหรือ ”

“แต่งตัวด้วยชุดสวยๆ นั่งสบายๆ ทั้งวันนะ อยู่ในไร่จะแต่งสวยไปทำไมนักหนา ยั่วคนงานก็ไม่ได้ ที่นี่มีแต่คนงานผู้หญิง”

เมื่อก่อนเธอไม่เคยแต่งตัวแบบนี้ เคยเห็นรูปถ่ายที่อยู่ในห้องนอนเดิม ดุจฝันจับเนื้อผ้าของชุดนอนตรงชายเสื้อ ตอบตะกุกตะกัก

“แม่เลี้ยงซื้อมาไม่ใส่ก็เสียดายค่ะ… ของดีๆ ทั้งนั้น ถ้าคุณไม่ชอบฝันจะไม่ใส่อีกแล้ว”

“ อย่างอื่นเธอยังเอามาได้เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ใส่ไปก็แล้วกัน แม่จะมาว่าฉันอีก เบื่อจะฟัง”

สามีไม่เคยตามใจเธอ ทำทุกอย่างเพราะแม่เลี้ยงสั่ง การพูดคุยของทั้งสองจึงมีน้อยมาก เรื่องที่อยากพูดอยากถาม ได้แต่เก็บไว้ในหัวใจ ซึ่งนานวันก็เจียนจะทนไม่ได้ บางครั้งอยากหาที่โล่งๆ ตะโกนเรื่องราวที่อึดอึด ถามว่าเธอเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่ เคยทำผิดกับคนที่นี่มากน้อยแค่ไหน ทำไมทุกวันต้องโดนเหน็บโดนประชดประชัน

ร่างสูงกำลังจะเดินไปห้องน้ำ ดุจฝันก้มมองแหวนแต่งงานซึ่งเป็นเพรชเม็ดโต เธอเป็นเมียผู้ชายตรงหน้า ทว่าความสงสัยเรื่องการแต่งงานยังดังก้องในหัว ทำไมเขามาแต่งงานกัน เพราะหลายเดือนที่อยู่ด้วยกัน สัมผัสได้มากขึ้นทุกวันคืน ไม่มีคำว่ารักกับชีวิตคู่ที่ได้เริ่มต้น ซ้ำอาจเกลียด ถามเสียอย่าให้คาใจคงดี อยู่แบบนี้รังแต่จะอึดอัด หญิงสาวใช้มือขวากุมแหวนแต่งงานที่นิ้วนางข้างซ้ายแน่น สูดลมหายใจลึกๆ

“คุณ พ่อเลี้ยงคะ ฝันถามได้ไหมทำไมคุณยอมแต่งงานกับฝันละคะ ยิ่งอยู่กันนานวันฝันรู้ว่าคุณเกลียดฝัน เราไม่รักกัน หรือฝันคิดมากไป”

ใจบางๆ สั่น กลัวคำตอบแต่ความจริงก็คือความจริง เธอจะหลบหนีมันไปได้นานแค่ไหน

สายตาคมเข้มข้นเหมือนมีโทสะ คิ้วดกหนาสีดำเลิกขึ้นน้อยๆ วงหน้าหล่อเหลากำลังจะกลายเป็นซาตาน เจ็บที่ต้องเห็นมันร่ำไปแต่ต้องทนมอง ทนเจ็บและนิ่งฟัง แม้ในใจไม่ชินกับเรื่องนี้ น้ำตาก็ไม่เคยหยุดไหลเมื่อต้องทนอยู่แบบนี้ทุกวัน

“ทำไมเพิ่งมาถาม ฉันคิดว่าเธอไม่มีหัวคิดเรื่องนี้เสียอีก คิดว่าใช้ชีวิตชิลๆ กับความสุขสบายจนชิน มองข้ามเรื่องพวกนี้ เธอมันพวกทำทุกอย่างได้เพื่อความสุขสบายของตนเองเท่านั้น”

“ทำไมคุณพูดแบบนี้คะ ฝันแค่ไม่กล้าพอ ตอนนี้ฝันทำใจไว้แล้ว มีอะไรก็บอกฝันมาเถอะ ถ้าคุณต้องฝืนทน เราจะฝืนทำไม ฝันเองก็คิดมาก นอนไม่หลับนะคะ เราไม่เคยมีคำว่า ครอบครัว ฮือๆๆ ฝันเหนื่อยแล้ว เหนื่อยท่าทีเย็นชาของคุณ เหนื่อยที่ต้องคิดว่าคุณคิดถึงแต่คนอื่น ไม่มีเมียคนนี้ในหัวใจสักนิด ”

น้ำตาแห่งความคับแค้นใจออกมาจากดวงตาเศร้าสร้อย มือเล็กป้ายเช็ดให้ออกจากแก้มนวลแต่เช็ดเท่าไหร่ก็ยังคงไหลบ่า สามีเบือนหน้าหนีเธอรั้งแขนล่ำสันไว้ เขามีคำตอบจะเดินนี้แบบนี้ไม่ได้

“อย่าเดินหนีสิคะคุณ มาพูดกับฝัน วันนี้ฝันกล้าถาม วันนี้คุณรู้ว่าฝันไม่ได้มองข้ามเรื่องนี้ คุณควรจะเคลียร์นะคะ ได้โปรดให้คำตอบฝัน”

“ทำไมต้องเป็นฉันที่ต้องเคลียร์มัน ที่ต้องมาอธิบายคนอย่างเธอ ทำไม …หยุดพูดมาก หลีกไปเดี๋ยวนี้!”

มือใหญ่สะบัดสุดแรง ดุจฝันสะอื้น “ฮือๆๆๆ คุณใจร้ายที่สุด ทำไมใจร้ายกับฝัน ฝันดีกับคุณมาตลอด ดูแลทุกอย่างเท่าที่เมียคนหนึ่งจะทำให้สามีได้ ไม่เคยขัดใจ เราแต่งงานกันแล้ว ฝันเป็นเมียคุณ ถึงอย่างไรได้ชื่อว่าเมีย”

“หยุดฟูมฟาย ไม่ว่าคำตอบเป็นยังไงถ้าความจำเธอดีเมื่อไหร่ก็รู้เอง ตอนนี้อยู่ไปเถอะ ที่นี่คือวิมานสำหรับเธอไม่ใช่หรือ วิมานที่เธออยากเป็นเจ้าของ”

เขาเดินจากไปทิ้งคำพูดประชดประชันเช่นเคย ดุจฝันเอื้อมมือหวังคว้าแขนแต่ร่างใหญ่ว่องไว หายเข้าห้องน้ำ ดุจฝันสะอื้น รู้สึกปวดหัว เธอต้องการอากาศที่ปลอดโปร่ง หญิงสาวเลือกเดินไปที่ระเบียงห้อง…อีกนานเท่าไหร่เธอจะจำเรื่องในอดีตได้ ไม่อยากอยู่อย่างนี้อีกแล้ว

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ ลิขิตนางฟ้า

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ