เมียบำเรอฟรีแลนซ์

เมียบำเรอฟรีแลนซ์

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
1.8K
ชม
38
บท

ปานทิพย์ถูกส่งให้ไปทำเรื่องบางอย่างกับณัฏฐ์ในคืนงานเลี้ยงรุ่น แต่แล้วเขากลับรู้ตัวและตลบหลังเธอด้วยการจับมาเป็นเมียบำเรอแบบลับ ๆ “ปานต้องคอยทำให้ดินสิ ไม่ใช่ให้ดินหากินเองแบบนี้” เสียงเขาตอบคลอเคลียข้างหู เรียกขนอ่อนให้ลุกชันไปทั่วทั้งร่างกาย เบี่ยงตัวหนี แต่ก็ไปไหนไม่พ้น เมื่อแขนกำยำกักเธอเอาไว้ทั้งสองข้างกับขอบผนังตรงนั้น เธอเบี่ยงหน้าหลบลมหายใจร้อน ๆ หลบปาก หลบจมูกของเขาที่อวลไปด้วยกลิ่นเหล้า ที่รู้สึกเหม็นคลุ้งจนอยากอาเจียน “อย่านะดิน” “อย่าอะไรล่ะ” ณัฏฐ์ถามเสียงแตกพร่า อย่างที่คนฟังรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร “ดินบอกแล้วไง ว่าปานต้องพร้อมให้ดินทุกที่ทุกเวลาอย่างที่ดินต้องการ” “แต่ไม่ใช่ตรงนี้” “อย่างนั้นจะเรียกว่าทุกที่ทุกเวลาได้ยังไงล่ะ” คนพูดย่ามใจ ล้วงมือเข้าเสื้อของเธอ คลึงเนื้อนุ่มอย่างมันเขี้ยว “เห็นปานเป็นอะไรเนี่ย” “อ้าว นี่ยังไม่รู้อีกหรือปานทิพย์ว่าเป็นอะไร” ณัฏฐ์ถามกลั้วหัวเราะ แต่เธอไม่นึกขำไปด้วย เค้นเสียงที่บ่งบอกถึงความรู้สึกได้อย่างชัดแจ้ง “ปานอยากเกลียดดินแค่ไหนรู้ไหม” “ก็เกลียดสิ ดินไม่ได้ห้ามนี่” ปานทิพย์ชะงัก มองหน้าชายตรงหน้านิ่ง ต่อว่าเขาด้วยความน้อยอกน้อยใจ “ดินไม่ใช่ลูกผู้ชายเลยที่ทำกับปานแบบนี้” “ปานน่าจะรู้ว่าดินเป็นผู้ชายแค่ไหน ที่ทำให้ปานร้องขอครั้งแล้วครั้งเล่าได้ขนาดนั้นน่ะ”

บทที่ 1 บทนำ

รัศมีโชติวางแทบเลตในมือลง ทำทีเป็นถามกับสามีว่า “ลูกชายคนเดียวของคุณจะหมั้นแล้วนี่คะคุณวัฒน์”

เจ้าของชื่อเล่น 'วัฒน์' วางกรรไกรตัดแต่งกิ่งลงบนโต๊ะใกล้ ๆ ก่อนจะหันมองหน้าคนถาม เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งกลับไป

“หมั้นกับใคร เมื่อไร”

“ตายแล้ว! นี่ ลูกชายคุณไม่ได้บอกอะไรคุณเลยหรือคะ”

วัฒน์ส่ายศีรษะเบา ๆ เป็นคำตอบ สีหน้าสลดวูบในทันทีที่ได้ยินคำถามของผู้เป็นภรรยา

“เดี๋ยวนะคะ เดือนจำชื่อไม่ได้”

รัศมีโชติรีบหยิบแทบเลตขึ้นมาเลื่อนดูชื่ออีกครั้ง

ตอนนั้นเองที่มีถาดบรรจุน้ำและอาหารว่างวางลงที่บนโต๊ะ พร้อมด้วยเสียงนุ่มนิ่มเอ่ยขึ้นว่า “น้ำผลไม้ปั่นรวมเพื่อสุขภาพค่ะน้าเดือน ของคุณน้าวัฒน์เป็นน้ำผักรวมแบบเดิม อาหารว่างเป็นปั้นสิบไส้ปลานะคะ”

รัศมีโชติยังคงก้มหน้ากับจอ เพื่อค้นหาข่าวที่อ่านเมื่อครู่ ไม่ได้สนใจคนที่เข้ามาใหม่ในวงสนทนาเท่าไรนัก ค่อยเงยหน้าขึ้น บอกชื่อให้สามีได้รู้

“ว่าที่คู่หมั้นชื่ออรอลินค่ะคุณ ทายาทจากตระกูลดัง ไอ้ตระกูลดัง นี่เดือนอยากรู้นักว่ามันดังแค่ไหนกันเชียว” คนพูดไม่ลืมเยาะใส่ในตอนท้ายของประโยค

“เออนี่ คุณดินรุ่นเดียวกันกับเราหรือเปล่ายายปาน”

รัศมีโชติถามหลานสาวด้วยสายตาวาววับคล้ายคิดอะไรในสมองขึ้นมาได้ ปานทิพย์ยกของออกจากถาดจนหมดแล้ว ถามกลับ

“ดินไหนคะน้าเดือน”

“จะดินไหนก็คุณณัฏฐ์ ลูกชายคนเดียวของคุณวัฒน์น่ะซิ”

ปานทิพย์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย สายตามองเลยไปยังกอไม้ที่อาเขยตัดค้างไว้ พยักหน้ารับเบา ๆ “ใช่ค่ะ เรียนรุ่นเดียวกันกับปาน”

“แล้วเรารู้หรือเปล่าว่าเขากำลังจะหมั้น แล้วก็แพลนจะแต่งกันปลายปีน่ะ”

ปานทิพย์รู้สึกถึงจังหวะหัวใจที่เต้นแกว่งไกวแปลกไปชั่วขณะ ตอนที่ได้ยินข่าวนั้นจากปากของน้า “หรือคะ ดีจัง ปานไม่รู้เรื่องเลยค่ะ” จริง ๆ เธอก็ตามข่าวเขามาตลอด แต่ช่วงต้นปีมานี่เองที่มัวแต่ยุ่งกับงานที่รับมาเสียแยะ จนแทบปลีกตัวไปทำอะไรไม่ได้เลย ลืมเลือนที่จะแอบสอดส่องความเคลื่อนไหวของเขาแบบที่เคยทำ ๆ มา

“ ‘เขา’ ไม่ได้รักแม่หนูลินลินอะไรนั่นหรอก ผมแน่ใจ”

คุณวัฒน์ทิ้งท้ายไว้แค่นั้น แล้วลุกออกจากวงสนทนาไปโดยไม่แตะของว่างที่ปานทิพย์ยกมาให้แม้แต่น้อย หญิงสาวมองตามหลังอีกฝ่ายไปจนลับตา ค่อยหันมาถามกับน้าสาวของตน

“คุณน้าเป็นอะไรคะ”

“คงจะงอนลูกชายเขาน่ะสิ จะหมั้นจะแต่งกับใครไม่มีมาบอกมากล่าวกันละ แล้วดูพูดเข้า ยังกับรู้จักลูกชายตัวเองดี ไปรู้ใจได้ยังไงว่าทางนั้นเขาไม่ได้รักไม่ได้ชอบยายอลินคู่หมั้น คนไม่รักไม่ชอบกัน เขาจะตกลงหมั้นหมายกันทำไม ใช่ไหมยายปาน”

รัศมีโชติบ่นยาวเหยียด เนื้อหาก็ค่อนสามีเสียเยอะ

“ว่าแล้ว น้าก็นึกหมั่นไส้คุณดินอะไรนั่นเหมือนกันนะปาน เด็กอะไรก็ไม่รู้ก้าวร้าว เจอหน้าน้าทีไรไม่มีล่ะจะยกมือไหว้”

ปานทิพย์นึกถึงเขาแล้ว ได้แต่ยิ้มน้อย ๆ ให้กับผู้เป็นน้า ไม่รู้จะพูดอะไรเป็นการตอบท่านกลับไป อดคิดไม่ได้ว่าณัฏฐ์คงไม่พอใจน้าเดือนเท่าไรนักหรอก ที่เข้ามาแทรกแซงครอบครัวของคุณวัฒน์กับคุณสารินีแบบนั้น

นึกถึงใบหน้าของคนในบทสนทนาทีไร ใจที่เคยนิ่งก็มักจะทำงานหนักขึ้นทุกที ด้วยว่าแอบรักเขา ตั้งแต่เรียนมัธยมศึกษา และเธอก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้ใครสักคนได้รับร้าก่อน

“น้าล่ะ อยากจะเห็นสีหน้าคุณดินเหมือนกันนะ ว่าถ้าตัวเองเกิดพลาดไปนอกใจว่าที่คู่หมั้นบ้าง จะเป็นยังไง”

รัศมีโชติพูดจบมองหน้าหลานสาวที่เลี้ยงมาแบบทิ้ง ๆขว้าง ๆ พลันนั้นเองที่สายตาแปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ขึ้นในทันที จนปานทิพย์ต้องกลืนน้ำลายลงคอเอื้อก เมื่อพอจะคาดเดาความคิดผู้เป็นน้าได้บ้างแล้ว จึงส่ายศีรษะพร้อมปฏิเสธเสียงค่อยไปว่า

“ไม่นะคะน้าเดือน”

แต่แล้วสายตาของรัศมีโชติกลับดูวาววับเจ้าแผนการมากยิ่งขึ้น

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"

ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สามีข้าช่างน่าแกล้ง เล่ม 1

สามีข้าช่างน่าแกล้ง เล่ม 1

Ocean Books
5.0

สูงศักดิ์ดั่งจักรพรรดิ หรือสามัญชนเช่นบัณฑิต ล้วนถูกพิชิตด้วยภรรยาตัวน้อย สามีจวนอื่นข้านั้นไม่รู้ แต่สองอาหลานราชวงศ์จิ่งล้วนถูกภรรยากลั่นแกล้ง ชุนเสี่ยวป๋าย จะให้ทำอย่างไรได้เล่า บัณฑิตเฒ่าผู้นั้นมิเคยมีท่าทีพึงใจในสตรีนางใด หากชุนเสี่ยวป้ายเฝ้ารอให้เขาเข้ามาทำความรู้จักนางเองแล้วนั้นคงไม่มีวันได้ครองรักกันแน่ ดังนั้นนางจึงต้องบอกกล่าวด้วยตัวเองเสียเลย บัณฑิตเฒ่าผู้แสนหล่อเหลาเจ้าคะ ข้าจะไปเกี้ยวท่านเอง... อู่ซุนต้าเอ้อร์ นางถูกเขาจับพลิกแพลงตะแคงคว่ำอยู่นาน เขาก็ยังมิยอมสงบ พายุรักโหมกระหน่ำดูดแรงกายของอู่ซุนต้าเอ่อร์จนแทบหมดสิ้น ทนแทบมิไหว พลั่ก!! โครม!! รู้ตัวอีกทีทั้งห้องก็เงียบสงัดไร้เสียงหอบกระเส่าและครวญครางเหมือนเมื่อครู่ ร่างเปลือยเปล่าล่อนจ้อนของจักรพรรดิน้อยลงไปกองอยู่ข้างตั่งเตียงโดยมีปลายเท้าของนางยื่นออกไป เหลียนไช่ บัณฑิตเหลียนไช่ซุกไซร้ลำคอขาวของภรรยา เขาสูดดมและขบเม้ม ไล้มือไปทั่วกายนุ่มของนางอย่างหลงใหล มิไหวแล้ว... เขามิอาจทนความน่ารักของชุนเสี่ยวป๋ายได้อีกแล้ว.... “ข้าพลาดแล้วจริงๆ ที่สัญญาว่าจะอ่อนโยนกับเจ้า” จิ่งซานหวง “มิใช่ว่าหม่อมฉันต้องปรนนิบัติพระองค์เหมือนสามีภรรยาหรอกหรือเพคะองค์จักรพรรดิ” “ก็มิใช่ว่าข้าให้เจ้าปรนนิบัติอยู่หรอกหรือ” เขาว่าพลางหลับตาลงไม่อยากมองหน้าสนมโจว นางจึงต้องจำใจอ่านตำราให้เขาฟังอย่างเสียมิได้ คิดมิถึงว่าจักรพรรดิน้อยจะหาทางหลบเลี่ยงการร่วมเตียงกับนางจนได้ ล่วงรู้ไปถึงไหนอับอายไปถึงนั่น ท่ามกลางความซ่านเสียวอู่ซุนต้าเอ่อร์ก็อดถอนใจให้กับตนเองมิได้ คราแรกคิดว่าคืนนี้นางจะได้นอนสบายมิต้องโดนเขาเคี่ยวกรำอยู่แล้วแท้ ๆ แล้วเหตุใดนางจึงยังถูกเขาจับกินได้อีกเล่า!!

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

ฮูหยินบ้านป่า

ฮูหยินบ้านป่า

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เอ๋ สาวโรงงานที่มีคำถามอยู่ในหัวตลอดเวลาว่า คนเราตายแล้วไปไหน แต่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบเธอได้เลยสักคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนรักอย่างชลดา ที่มาด่วนจากไปเมื่อ 5ปีที่แล้ว หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอเองที่เพิ่งจะเสียไปเมื่อ 3เดือนก่อน แล้วตอนนี้ สำหรับเอ๋ ไม่เหลือญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้ว นอกจากเพื่อนสนิท ที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียว เช่น พร อยู่มาวันหนึ่งเอ๋ได้ฝันถึงชลดา เพื่อนรักอีกคนที่จากไปแล้ว ในฝัน ชลดา บอกกับเธอว่า หลังจากที่ตายไปแล้วชลดาก็ไปมีสามีและมีลูก เธอยังพูดกับชลดาว่า มันจะเป็นไปได้ยังไง ตายแล้วไหนจะไปมีสามีมีลูกได้เล่า และในฝัน ชลดาบอกว่านี่เป็นคำตอบสำหรับตัวเธอว่าตายแล้วไปไหน ส่วนคนอื่นเธอไม่รู้จริงๆ ว่าตายแล้วไปไหน แต่ตัวชลดาเองบอกกับ เอ๋ ว่าตายแล้วไปมีสามีและมีลูก เช้าวันต่อมา เอ๋ก็ไปทำงานตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ เอนก แฟนหนุ่มของเธอ จะเกิดอะไรขึ้นกับเอ๋ และเอ๋จะได้คำตอบเป็นของตัวเองหรือไม่ เราไปร่วมลุ้นหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ

ข้าเก็บภรรยาได้ที่ชายหาด (ภาคต่อ สามีข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง)

ข้าเก็บภรรยาได้ที่ชายหาด (ภาคต่อ สามีข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง)

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

ชาติที่แล้วของไห่เฉิงเขาเป็นประมุขมารที่ไม่สมหวังในความรัก มาแสนภพแสนชาติ และภพชาติที่หนึ่งแสนของเขา มีเหตุให้ต้องทำลายดวงจิตมารของตนเอง และเหลือเสี้ยวดวงจิตเอาไว้เพียงน้อยนิด ดวงจิตที่เหลืออยู่เขาอ้อนวอนขอต่อมหาเทพขอให้เขาได้เกิดเป็นมนุษธรรมดา ที่สมหวังในความรักม่ีครอบครัวที่อบอุ่น และไม่ขอจดจำอดีตชาติของตัวเองอีกต่อไป เขาขอเริ่มต้นใหม่ในดินแดนมนุษย์และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ครั้งกี่ภพกี่ชาติ ขอให้เขาได้สมหวังในความรักทุกภพทุกชาติไป

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ