เมียบำเรอฟรีแลนซ์

เมียบำเรอฟรีแลนซ์

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
1.8K
ชม
38
บท

ปานทิพย์ถูกส่งให้ไปทำเรื่องบางอย่างกับณัฏฐ์ในคืนงานเลี้ยงรุ่น แต่แล้วเขากลับรู้ตัวและตลบหลังเธอด้วยการจับมาเป็นเมียบำเรอแบบลับ ๆ “ปานต้องคอยทำให้ดินสิ ไม่ใช่ให้ดินหากินเองแบบนี้” เสียงเขาตอบคลอเคลียข้างหู เรียกขนอ่อนให้ลุกชันไปทั่วทั้งร่างกาย เบี่ยงตัวหนี แต่ก็ไปไหนไม่พ้น เมื่อแขนกำยำกักเธอเอาไว้ทั้งสองข้างกับขอบผนังตรงนั้น เธอเบี่ยงหน้าหลบลมหายใจร้อน ๆ หลบปาก หลบจมูกของเขาที่อวลไปด้วยกลิ่นเหล้า ที่รู้สึกเหม็นคลุ้งจนอยากอาเจียน “อย่านะดิน” “อย่าอะไรล่ะ” ณัฏฐ์ถามเสียงแตกพร่า อย่างที่คนฟังรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร “ดินบอกแล้วไง ว่าปานต้องพร้อมให้ดินทุกที่ทุกเวลาอย่างที่ดินต้องการ” “แต่ไม่ใช่ตรงนี้” “อย่างนั้นจะเรียกว่าทุกที่ทุกเวลาได้ยังไงล่ะ” คนพูดย่ามใจ ล้วงมือเข้าเสื้อของเธอ คลึงเนื้อนุ่มอย่างมันเขี้ยว “เห็นปานเป็นอะไรเนี่ย” “อ้าว นี่ยังไม่รู้อีกหรือปานทิพย์ว่าเป็นอะไร” ณัฏฐ์ถามกลั้วหัวเราะ แต่เธอไม่นึกขำไปด้วย เค้นเสียงที่บ่งบอกถึงความรู้สึกได้อย่างชัดแจ้ง “ปานอยากเกลียดดินแค่ไหนรู้ไหม” “ก็เกลียดสิ ดินไม่ได้ห้ามนี่” ปานทิพย์ชะงัก มองหน้าชายตรงหน้านิ่ง ต่อว่าเขาด้วยความน้อยอกน้อยใจ “ดินไม่ใช่ลูกผู้ชายเลยที่ทำกับปานแบบนี้” “ปานน่าจะรู้ว่าดินเป็นผู้ชายแค่ไหน ที่ทำให้ปานร้องขอครั้งแล้วครั้งเล่าได้ขนาดนั้นน่ะ”

บทที่ 1 บทนำ

รัศมีโชติวางแทบเลตในมือลง ทำทีเป็นถามกับสามีว่า “ลูกชายคนเดียวของคุณจะหมั้นแล้วนี่คะคุณวัฒน์”

เจ้าของชื่อเล่น 'วัฒน์' วางกรรไกรตัดแต่งกิ่งลงบนโต๊ะใกล้ ๆ ก่อนจะหันมองหน้าคนถาม เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งกลับไป

“หมั้นกับใคร เมื่อไร”

“ตายแล้ว! นี่ ลูกชายคุณไม่ได้บอกอะไรคุณเลยหรือคะ”

วัฒน์ส่ายศีรษะเบา ๆ เป็นคำตอบ สีหน้าสลดวูบในทันทีที่ได้ยินคำถามของผู้เป็นภรรยา

“เดี๋ยวนะคะ เดือนจำชื่อไม่ได้”

รัศมีโชติรีบหยิบแทบเลตขึ้นมาเลื่อนดูชื่ออีกครั้ง

ตอนนั้นเองที่มีถาดบรรจุน้ำและอาหารว่างวางลงที่บนโต๊ะ พร้อมด้วยเสียงนุ่มนิ่มเอ่ยขึ้นว่า “น้ำผลไม้ปั่นรวมเพื่อสุขภาพค่ะน้าเดือน ของคุณน้าวัฒน์เป็นน้ำผักรวมแบบเดิม อาหารว่างเป็นปั้นสิบไส้ปลานะคะ”

รัศมีโชติยังคงก้มหน้ากับจอ เพื่อค้นหาข่าวที่อ่านเมื่อครู่ ไม่ได้สนใจคนที่เข้ามาใหม่ในวงสนทนาเท่าไรนัก ค่อยเงยหน้าขึ้น บอกชื่อให้สามีได้รู้

“ว่าที่คู่หมั้นชื่ออรอลินค่ะคุณ ทายาทจากตระกูลดัง ไอ้ตระกูลดัง นี่เดือนอยากรู้นักว่ามันดังแค่ไหนกันเชียว” คนพูดไม่ลืมเยาะใส่ในตอนท้ายของประโยค

“เออนี่ คุณดินรุ่นเดียวกันกับเราหรือเปล่ายายปาน”

รัศมีโชติถามหลานสาวด้วยสายตาวาววับคล้ายคิดอะไรในสมองขึ้นมาได้ ปานทิพย์ยกของออกจากถาดจนหมดแล้ว ถามกลับ

“ดินไหนคะน้าเดือน”

“จะดินไหนก็คุณณัฏฐ์ ลูกชายคนเดียวของคุณวัฒน์น่ะซิ”

ปานทิพย์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย สายตามองเลยไปยังกอไม้ที่อาเขยตัดค้างไว้ พยักหน้ารับเบา ๆ “ใช่ค่ะ เรียนรุ่นเดียวกันกับปาน”

“แล้วเรารู้หรือเปล่าว่าเขากำลังจะหมั้น แล้วก็แพลนจะแต่งกันปลายปีน่ะ”

ปานทิพย์รู้สึกถึงจังหวะหัวใจที่เต้นแกว่งไกวแปลกไปชั่วขณะ ตอนที่ได้ยินข่าวนั้นจากปากของน้า “หรือคะ ดีจัง ปานไม่รู้เรื่องเลยค่ะ” จริง ๆ เธอก็ตามข่าวเขามาตลอด แต่ช่วงต้นปีมานี่เองที่มัวแต่ยุ่งกับงานที่รับมาเสียแยะ จนแทบปลีกตัวไปทำอะไรไม่ได้เลย ลืมเลือนที่จะแอบสอดส่องความเคลื่อนไหวของเขาแบบที่เคยทำ ๆ มา

“ ‘เขา’ ไม่ได้รักแม่หนูลินลินอะไรนั่นหรอก ผมแน่ใจ”

คุณวัฒน์ทิ้งท้ายไว้แค่นั้น แล้วลุกออกจากวงสนทนาไปโดยไม่แตะของว่างที่ปานทิพย์ยกมาให้แม้แต่น้อย หญิงสาวมองตามหลังอีกฝ่ายไปจนลับตา ค่อยหันมาถามกับน้าสาวของตน

“คุณน้าเป็นอะไรคะ”

“คงจะงอนลูกชายเขาน่ะสิ จะหมั้นจะแต่งกับใครไม่มีมาบอกมากล่าวกันละ แล้วดูพูดเข้า ยังกับรู้จักลูกชายตัวเองดี ไปรู้ใจได้ยังไงว่าทางนั้นเขาไม่ได้รักไม่ได้ชอบยายอลินคู่หมั้น คนไม่รักไม่ชอบกัน เขาจะตกลงหมั้นหมายกันทำไม ใช่ไหมยายปาน”

รัศมีโชติบ่นยาวเหยียด เนื้อหาก็ค่อนสามีเสียเยอะ

“ว่าแล้ว น้าก็นึกหมั่นไส้คุณดินอะไรนั่นเหมือนกันนะปาน เด็กอะไรก็ไม่รู้ก้าวร้าว เจอหน้าน้าทีไรไม่มีล่ะจะยกมือไหว้”

ปานทิพย์นึกถึงเขาแล้ว ได้แต่ยิ้มน้อย ๆ ให้กับผู้เป็นน้า ไม่รู้จะพูดอะไรเป็นการตอบท่านกลับไป อดคิดไม่ได้ว่าณัฏฐ์คงไม่พอใจน้าเดือนเท่าไรนักหรอก ที่เข้ามาแทรกแซงครอบครัวของคุณวัฒน์กับคุณสารินีแบบนั้น

นึกถึงใบหน้าของคนในบทสนทนาทีไร ใจที่เคยนิ่งก็มักจะทำงานหนักขึ้นทุกที ด้วยว่าแอบรักเขา ตั้งแต่เรียนมัธยมศึกษา และเธอก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้ใครสักคนได้รับร้าก่อน

“น้าล่ะ อยากจะเห็นสีหน้าคุณดินเหมือนกันนะ ว่าถ้าตัวเองเกิดพลาดไปนอกใจว่าที่คู่หมั้นบ้าง จะเป็นยังไง”

รัศมีโชติพูดจบมองหน้าหลานสาวที่เลี้ยงมาแบบทิ้ง ๆขว้าง ๆ พลันนั้นเองที่สายตาแปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ขึ้นในทันที จนปานทิพย์ต้องกลืนน้ำลายลงคอเอื้อก เมื่อพอจะคาดเดาความคิดผู้เป็นน้าได้บ้างแล้ว จึงส่ายศีรษะพร้อมปฏิเสธเสียงค่อยไปว่า

“ไม่นะคะน้าเดือน”

แต่แล้วสายตาของรัศมีโชติกลับดูวาววับเจ้าแผนการมากยิ่งขึ้น

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"

ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

Berne Beer
4.9

หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"

แสงสว่าง ณ ทางแยกใหม่

แสงสว่าง ณ ทางแยกใหม่

Fritz Lagerquist
5.0

เจียงหยวนชอบเสิ่นตู้มาเป็นเวลาสี่ปี แม้จะต้องเผชิญความรังเกียจจากตระกูลเจียง แต่เธอก็ยังเลือกยืนหยัดเคียงข้างเขา กระทั่งวันหนึ่ง เสิ่นตู้เพื่อพี่สาวของเขา ยอมยกให้เธอไปมีอะไรกับคนอื่น ในที่สุด เธอถึงได้เข้าใจว่าคนที่ไม่ใช่ยังไงก็คือไม่ใช่ ในเมื่อไม่ใช่คนที่ใช่ งั้นเธอยอมตัดทิ้งแล้วกัน เธอหันไปให้ความสำคัญกับการทำงานจนกลายเป็นนางแบบระดับโลก ทำให้คนทั้งโลกตะลึง ผู้ชายที่ทำร้ายเธอรู้สึกเสียใจ“หยวนหยวน โลกของฉันขาดเธอไม่ได้ กลับมานะ” ตลกสิ้นดี ผู้ชายมันจะเทียบกับอาชีพการงานได้ที่ไหน ! ** เจี่ยงเฉินโจว ผู้นำของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหรงเฉิง เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเป็นคนแสนเย็นชา แต่อยู่ลับหลังกลับเป็นคนคลั่งรัก เขาชอบความงามของเจียงหยวน เห็นเธอเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่น่ารักและเชื่อง ต่อมา บนพรมแดงท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์ ชายผู้ก้าวลงจากเวทีคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าสาธารณะ“ถึงแม้จะไม่มีฐานะอะไร ฉันก็ยินยอม”

หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง

หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ

การจากลาครั้งที่เก้าสิบเก้า

การจากลาครั้งที่เก้าสิบเก้า

Gavin
5.0

ครั้งที่เก้าสิบเก้าที่ ‘เจต’ ทำให้ฉันใจสลาย คือครั้งสุดท้ายของเรา เราสองคนเคยเป็นคู่รักดาวเด่นของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา อนาคตของเราถูกวางแผนไว้อย่างสวยหรูว่าจะเข้าเรียนที่จุฬาฯ ด้วยกัน แต่แล้วในช่วงปีสุดท้ายของม.ปลาย เขากลับไปหลงรักผู้หญิงคนใหม่ที่ชื่อ ‘แคท’ เรื่องราวความรักของเรากลายเป็นละครน้ำเน่าราคาถูกที่น่าเบื่อหน่าย เต็มไปด้วยการทรยศของเขาและการขู่ว่าจะเลิกอย่างไร้ความหมายของฉัน ในงานเลี้ยงจบการศึกษา แคท ‘บังเอิญ’ ดึงฉันตกลงไปในสระว่ายน้ำกับเธอ เจตกระโดดลงไปช่วยโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว เขากลับว่ายผ่านฉันที่กำลังตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดไปอย่างไม่ใยดี แล้วโอบแขนรอบตัวแคทก่อนจะพาเธอขึ้นจากสระอย่างปลอดภัย ขณะที่เขาช่วยพยุงเธอขึ้นจากสระ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ เขาหันกลับมามองฉันที่ตัวสั่นเทา มาสคาร่าไหลเป็นทางสีดำอาบแก้ม “ชีวิตเธอ ไม่ใช่ปัญหาของฉันอีกต่อไป” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนน้ำในสระที่ฉันกำลังจะจมดิ่งลงไป คืนนั้นเอง บางสิ่งในตัวฉันก็แตกสลายลงอย่างสมบูรณ์ ฉันกลับบ้าน เปิดโน้ตบุ๊ก และคลิกปุ่มยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาต่อ ไม่ใช่ที่จุฬาฯ กับเขา แต่เป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คนละฟากฝั่งของกรุงเทพฯ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ