คู่รักคู่หนึ่งต้องเผชิญกับเหตุการณ์ระทึกขวัญจากสิ่งลี้ลับ วิญญาณอาฆาตที่หมายเอาชีวิต และมันจะไม่หยุดจนกว่าทั้งคู่จะตายตกไปตามกัน อีกครั้ง! ตั้งแต่วันที่ได้พบกับ มะปราง เด็กกำพร้าท่าทางแปลกๆ ที่ญาติของ ชวิน ธำมรงค์ รับเป็นลูกบุญธรรม สิตางศุ์ ศรัทธาธรรม ก็พบเจอเหตุการณ์ประหลาดชวนสยองขวัญ หล่อนเริ่มตาฝาดเห็นภาพน่ากลัวบ่อยครั้ง และฝันเห็นผู้หญิงที่ไม่รู้จักแต่มุ่งหมายเอาชีวิตก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะถูกฆาตกรรมโดยหล่อนและชายที่หน้าเหมือนชวิน ความฝันนั้นชัดเจนและต่อเนื่องกันทุกครั้งจนปะติดปะต่อเรื่องได้ ในขณะที่คนรอบข้างก็เจอเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัว จนกระทั่งหล่อนได้พบประกาศขายบ้านและที่ดินแห่งหนึ่ง ที่ซึ่งรอคอยให้พวกทั้งคู่วนเวียนกลับไปครั้งแล้วครั้งเล่า และเหมือนมีอะไรดลใจให้ชวินซื้อที่นั่นเพื่อปลูกเรือนหอ บ้านหลังหนึ่ง เด็กคนหนึ่ง และความฝัน ทำให้ชีวิตของทั้งคู่ไม่สงบสุขอีกต่อไป เพราะมีอะไรบางอย่างคอยติดตามอย่างอาฆาตแค้น สิ่งที่มันต้องการคืออะไร ทำไมต้องการเอาชีวิตทั้งคู่ และความแค้นนั้นเริ่มต้นที่จุดใด คือคำตอบที่สิตางศุ์อยากรู้
บทที่๑
แหวนเพชรเม็ดเดี่ยวรูปหัวใจน้ำงามพิสุทธิ์ตัวเรือนทำจากทองคำขาวแวววาวเคลื่อนเชื่องช้าจากปลายนิ้วเรียวยาวกลมกลึงดุจลำเทียนไปยังโคนนิ้วนางซ้ายของหญิงสาวที่มองตาม ประกายตาระริกด้วยความตื้นตันเกิดขึ้นอย่างไม่อาจบดบัง หล่อนไม่ได้ตื่นเต้นกับขนาดเพชรบนเรือนแหวน แต่ตื้นตันยินดีเพราะคนที่สวมให้คือคนที่หล่อนรักเขามากที่สุดและรู้ว่าคิดไม่ผิดที่จะฝากชีวิตไว้กับเขา น้ำตาแห่งความปรีติเริ่มเอ่อคลอแล้วหลั่งออกมาจากอย่างสุดกลั้นเมื่อชายหนุ่มก้มลงจุมพิตหลังมือขาวนวลเนียนอย่างแผ่วเบา เมื่อเขาปล่อยมือหล่อนเป็นอิสระมือเรียวสวยกลมกลึงก็ประกบกันแล้วกราบลงที่อกเขาอย่างขอบคุณและซาบซึ้งใจ ชายหนุ่มรับไหว้แล้วรวบมือมากำเอาไว้แนบอกแล้วกระซิบคำรัก
“ผมรักมูนครับ” คำหวานล้ำจากปากไม่ทานแววตาหวานซึ้งที่ตรึงดวงตาหล่อนเอาไว้ยามเงยขึ้นมาประสาน สายใยรักบางเบาแต่เหนียวแน่นเพราะเนิ่นนานในการคบหากำลังซ่านซึมผ่านดวงตาแล้วไหลรินสู่ดวงใจเติมความรักที่มีอยู่เต็มจนแทบจะล้นปรี่ สองคนประสานสายตากันนานจนมีเสียงกระแอมเบาๆ ดังขึ้น หญิงสาวรีบละสายตาจากคู่หมั้นหมาดๆ ของเธออย่างขัดเขิน ก่อนจะนิ่งงันเมื่อมองข้ามไหล่ชายหนุ่มไปสบเข้ากับสายตาคู่หนึ่ง
“มูน”
“คะ” เสียงกระซิบเบาๆ ทำให้หล่อนได้สติรีบขานออกไปแล้วหันมาสบตาชวินคู่หมั้นที่กระซิบเรียก
“มองอะไรคะ” เขาถามน้ำเสียงอ่อนโยนเพราะเห็นคู่หมั้นสาวมองข้ามไหล่ไปอย่างสนใจ ขนาดเขาเรียกตั้งหลายครั้งกว่าหล่อนจะรู้สึกตัวแล้วละสายตากลับมา
“ไม่มีอะไรค่ะ” สิตางศุ์บอกปัดพร้อมส่ายหน้าช้าๆ ก่อนหันไปยิ้มกับกล้องเมื่อได้ยินเสียงเร่งเร้า
การถ่ายรูปดำเนินไปพักใหญ่เพราะญาติมิตรและเพื่อนฝูงต่างหวังมีรูปในงานมงคลของทั้งสองไว้เป็นที่ระลึกจนต่างพอใจก็แยกย้ายกันไปรับประทานอาหารเพราะแขกในงานก็เป็นญาติและเพื่อนสนิทของทั้งคู่ถือเป็นคนกันเองทั้งนั้น งานหมั้นของหล่อนจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่บ้าน สนามหน้าบ้านก็กว้างพอสำหรับงานเลี้ยงเล็กๆ ในมื้อกลางวันแบบบุฟเฟต์ มีทั้งอาหารจีน ไทย ที่สั่งมาจากร้านอาหารที่เชื่อฝีมือและรสชาติถูกปากของคนในบ้าน
บ้านของสิตางศุ์ที่อาศัยอยู่กับบิดามารดา ติดกับบ้านของชวินซึ่งอาศัยอยู่ตามลำพังเพราะบิดามารดาของเขาเสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่เมื่อ ๕ ปีที่แล้ว เรียกได้ว่าสองคนเป็นเพื่อนบ้าน เพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ จนก่อเกิดความผูกพันแล้วพัฒนาขึ้นเป็นความรักเมื่อเข้าวัยหนุ่มสาว และเพราะต่างรู้จักนิสัยใจคอกันดีเมื่อถึงเวลาอันสมควร ต่างมีงานมีการทำมั่นคงดีแล้วบิดามารดาของสิตางศุ์จึงยินดีและเต็มใจที่จะได้ชวินมาเป็นลูกเขย โดยทั้งสองทำพิธีหมั้นในวันนี้แล้วค่อยหาฤกษ์แต่งงานทีหลัง
ระหว่างรอชวินไปตักอาหารสิตางศุ์ก็กวาดตามองพร้อมส่งยิ้มให้เพื่อนฝูงและญาติมิตรที่เอ่ยแสดงความยินดีทุกครั้งที่เดินผ่านหน้าหล่อนไป หญิงสาวกวาดตามองแล้วสะดุดกับแววตาคู่เดิมที่เห็นตอนอยู่ในโถงทำพิธี แววแปลกใจผุดพรายบนใบหน้ารูปไข่และดวงตายาวใหญ่ดำขลับจนต้องลุกขึ้นสาวเท้าเข้าไปใกล้เจ้าของดวงตาที่กำลังมองอยู่หล่อนส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรไปก่อน แม้อีกฝ่ายไม่ได้ยิ้มตอบทว่าไม่มีท่าทีหวาดกลัวแต่อย่างใดหล่อนจึงเอ่ยทักทาย
“สวัสดีจ้ะ หนูชื่ออะไรคะ” สิตางศุ์ย่อตัวลงนั่งตรงหน้าเด็กหญิงหน้าตามอมแมมที่ยืนแอบอยู่มุมบ้าน เด็กคนเดียวกับที่ชะเง้อมองตอนทำพิธีหมั้นในห้องโถง
“สวยจัง” เด็กหญิงไม่ได้ตอบคำถามของสิตางศุ์ แต่เอื้อมมือเล็กๆ เหี่ยวๆ ไปจับชายสไบลูกไม้เนื้อดีของชุดไทยประยุกต์แบบแขนเดียวตัดเย็บด้วยผ้าสุโขทัยลายข้าวหลามตัดทั้งชุด ตัวกระโปรงตัดเย็บแบบจีบหน้านางชายพกแบบใบพัดคาดเข็มขัดสามห่วงหัวทรงข้าวหลามตัดประดับด้วยพลอยสีเทา เข้ากับสร้อยคออุบะทรงเดียวกัน
เพียงไม่นานแววตาชื่นชมของเด็กหญิงก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อละมือจากสไบลูกไม้ แล้วหันหลังวิ่งหนีไปทางหลังบ้าน
“อ้าว!เดี๋ยวสิหนู” สิตางศุ์ได้แต่ยกมือห้ามค้าง เพราะร่างผอมแกร็นนั้นวิ่งเร็วจนลับหายไปกับมุมบ้านและต้นไม้ในสวนเสียแล้ว
ลูกใครกัน?
บทที่ 1 เพรงมายา
28/06/2022
บทที่ 2 เพรงมายา
28/06/2022
บทที่ 3 เพรงมายา
28/06/2022
บทที่ 4 เพรงมายา
28/06/2022
บทที่ 5 เพรงมายา
28/06/2022
บทที่ 6 เพรงมายา
28/06/2022
บทที่ 7 เพรงมายา
28/06/2022
บทที่ 8 เพรงมายา
28/06/2022
บทที่ 9 เพรงมายา
28/06/2022
บทที่ 10 เพรงมายา
28/06/2022
บทที่ 11 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 12 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 13 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 14 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 15 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 16 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 17 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 18 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 19 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 20 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 21 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 22 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 23 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 24 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 25 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 26 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 27 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 28 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 29 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 30 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 31 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 32 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 33 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 34 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 35 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 36 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 37 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 38 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 39 เพรงมายา
29/06/2022
บทที่ 40 เพรงมายา
29/06/2022
หนังสืออื่นๆ ของ Mookreang
ข้อมูลเพิ่มเติม