Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
คนทั้งโลกกำลังตกหลุมรักภรรยาผม

คนทั้งโลกกำลังตกหลุมรักภรรยาผม

กฤษฎิ์ แสนชล

4.9
ความคิดเห็น
912.2K
ชม
347
บท

หยุนซีแต่งงานกับกู้ซือเฉิน คุณชายที่สูญเสียสิทธิ์ที่เป็นผู้สืบทอดตระกูลแทนน้องสาว ตอนแรก พวกเขาเพียงแค่ว่าที่สามีภรรยาในนามเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวของหยุนซีถูกค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมา สถานการณ์ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปตาม ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นคนธรรมดาอย่างที่คิดเลย ใครจะไปคิดว่าเธอเป็นทั้งแฮ็กเกอร์มืออาชีพ นักประพันธ์เพลงลึกลับ และทายาทคนเดียวของนักแกะสลักที่มีชื่อเสียงระดับชาติ.... มีทั้งนักร้องชื่อดัง นักแสดงที่เคยได้รับรังวัลมากมายและผู้สืบทอดของตระกูลที่ร่ำรวยมาตามจีบว่าที่ภรรยาของเขา กู้ซือเฉินควรทำอย่างไรดี?

บทที่ 1 ถูกรับเลี้ยง

รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กส์ ซีรี่ส์ ระดับไฮเอนด์คันหนึ่งจอดอยู่ข้างถนนอันทรุดโทรมในชนบทเล็ก ๆ

หญิงสาวสวมกางเกงยีนส์ที่ซักจนขาวซีด มือลากกระเป๋าเดินทางเก่า ๆ ใบหนึ่ง กำลังยืนอยู่หน้าประตูรถด้วยใบหน้าอันไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ

ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่เบาะคนขับรถปรายตามองหญิงสาวด้วยหางตาพลางขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าเขาไม่พอใจที่เธอสวมใส่เสื้อผ้าเชย ๆ

“ขึ้นรถซะ”

ใบหน้าของหญิงสาวยังคงไร้อารมณ์

เธอไม่ได้ตกตะลึงกับการที่เธอได้ขึ้นรถคันหรู และก็ไม่ได้ตกใจต่อท่าทีที่เฉยชาของชายคนนั้นอีกด้วย

เธอดึงประตูรถให้เปิดออก แล้วนั่งลงที่เบาะหลัง

หญิงสาวพบแต่แรกแล้วว่า ที่เบาะหน้าข้างคนขับรถ มีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอคนหนึ่งนั่งอยู่

หล่อนแตกต่างไปจากคนบ้าน ๆ อย่างเธอ เสื้อผ้าของหญิงสาวผู้นั้นดูงดงามเป็นประกาย เป็นชุดที่ไม่เคยพบเห็นในชนบทแห่งนี้มาก่อน

“เป็นเธอนี่เอง” หยุนซีคิดอยู่ในใจ

เธอเคยเห็นหล่อนในรายการวาไรตี้มาก่อน หล่อนเป็นนักแสดงหน้าใหม่นามว่า “หยุนเวยเวย” ซึ่งในตอนนี้ชื่อเสียงของหล่อนกำลังดังขึ้นเรื่อย ๆ นับได้ว่าค่อนข้างจะเป็นคนดังมีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อย

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอก็ถือซะว่าตัวเองเป็นลูกสาวของฉัน หยุนหลงซาน ตอนนี้ฉันจะพาเธอกลับไปยังเมือง s เดี๋ยวฉันจะจัดคนมาสั่งสอนเธอ ให้เธอกลายเป็นคุณหนูแห่งตระกูลหยุนที่เพียบพร้อมในเร็ววัน”

“นอกจากนี้ ขอแนะนำเธอให้รู้จักสักหน่อย นี่คือหยุนเวยเวย เป็นลูกสาวของฉันเอง เธอคงจะเคยเห็นหยุนเวยเวยมาก่อนแล้วบนอินเทอร์เน็ตใช่ไหมล่ะ?”

พอหยุนหลงซานพูดจบ หญิงสาวที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาราวกับลั่นกระดิ่งเงินรัว ๆ

เมื่อสิ้นเสียงหัวเราะ หยุนเวยเวยก็พูดเป็นภาษาอังกฤษขึ้นว่า “แด๊ดดี้เคอะ ชียากจนขนาดนี้ ชีจะดูวาไรตี้โชว์ออนดิอินเทอร์เน็ตด้วยเหรอเคอะ?”

หยุนหลงซานตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้าอย่างชื่นชม แล้วตอบเป็นภาษาอังกฤษเช่นกันว่า “ภาษาพูดของยูเวรี่พัฒนาเลยล่ะ ฟอร์ยัวคำถามอ่ะนะ ไอว่ามันโนแฮฟมารยาท”

หยุนเวยเวยได้ยินเช่นนั้น ก็หัวเราะคิกคักขึ้นมาอีกครั้ง และยังคงตอบกลับไปเป็นภาษาอังกฤษว่า “ไอกลัวว่ามายนิวโอลเดอร์ซิซเตอร์จะไม่แฮปปี้เท่าไร ไอเลยจงใจสปีคอิงลิชกับยูน่ะเค่อะ!”

หยุนหลงซานถูกลูกสาวของเขาพูดแหย่จนมีความสุขมาก จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นมาสบาย ๆ ว่า “ถึงแม้ชีจะไม่เอคเซลเลนท์เท่ายู แต่ยังไงก็เป็นรีเลทีฟฟาร์ ๆ กับตระกูลหวินของพวกเราอยู่นะ ถ้าทีชชีให้มีแอดติจูดไฮ ๆ แล้วแมรี่เข้าไปยังตระกูลกู้แทนยูได้ แดทซ์อะกู้ดไอเดียเวรี่มัช”

“คิก ๆ ๆ ๆ แด๊ดดี้เคอะ ยูสปีคแบบนี้ ก็โนแฮฟมารยาทเหมือนกันนี่เคอะ”

สองพ่อลูกสนทนากันเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด โดยด่วนสรุปไปเองว่าหยุนซีที่นั่งอยู่เบาะหลังจะฟังไม่ออก

เนื่องจากพวกเขาได้ตรวจสอบมาล่วงหน้าแล้ว ชนบทอันห่างไกลแห่งนี้มีครูสอนภาษาอังกฤษเพียงสองท่านเท่านั้น อีกทั้งยังจบการศึกษาเพียงระดับปวช.

ขนาดครูยังอยู่แค่นี้ นับประสาอะไรกับหยุนซีที่ไม่เคยออกไปจากชนบทเลย เธอจะมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีไปได้อย่างไรกัน?

รถหรูติดเครื่องขึ้น แล้วค่อย ๆ ขับออกจากชนบทไป

ระหว่างทาง หยุนซีหยิบคอมพิวเตอร์พกพาเก่า ๆ โทรม ๆ ออกมาจากกระเป๋าเป้สะพายหลัง

เธอเหมือนกับว่าไม่ได้ยินบทสนทนาภาษาอังกฤษของสองพ่อลูกนั้นทั้งหมด เพียงแค่ก้มหัวเคาะแป้นพิมพ์เท่านั้น

“พี่หยุนซี พี่มีคอมพิวเตอร์พกพาด้วยเหรอ? แล้วพี่พิมพ์อักษรเป็นด้วยเหรอ?”

หยุนเวยเวยเห็นหยุนซีหยิบคอมพิวเตอร์พกพาออกมา ก็แสดงอาการตกใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน!

เพราะเท่าที่เธอรู้มา ในชนบทแห่งนี้มีตระกูลหยุนอยู่ร้อยกว่าครัวเรือน แม้ว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับพ่อของเธออย่างหยุนหลงซาน แต่ก็ล้วนเป็นเหล่าบรรดาญาติที่ยากจนทั้งสิ้น

อีกทั้งหยุนซียังไม่มีพ่อแม่ เธอใช้ชีวิตอยู่กับร้อยกว่าครัวเรือนนี้ตั้งแต่เด็ก ดูท่าทางจะเติบโตมาด้วยข้าวของร้อยครัวเรือนนี้

เธอไม่ได้อดตายเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ได้ยินว่าสามารถสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายได้อย่างอัศจรรย์

คนแบบหยุนซีเนี่ยนะ จะมีคอมพิวเตอร์พกพาด้วย?

“ไว้ใช้เล่นเกมน่ะ” เสียงของหยุนซีเบามาก

พอได้ฟังคำตอบของเธอแล้ว ดวงตาของหยุนเวยเวยพลันฉายแววดูถูกเหยียดหยาม

เกมคอมพิวเตอร์งั้นเหรอ?

เหมาะสมแล้วแหละที่จะเป็นกิจกรรมบันเทิงของพวกไพร่ชั้นต่ำ

หยุนเวยเวยค้นพบได้ในทันทีว่า เคสคอมพิวเตอร์พกพานั้นเก่าไม่ไหว ถึงกระทั่งแยกไม่ออกว่าเป็นของยี่ห้ออะไร

“พี่สาว พี่ซื้อคอมพิวเตอร์มาราคาเท่าไรเหรอ?” หยุนเวยเวยแกล้งทำเป็นถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ไม่ได้เสียตังค์เลย” หยุนซีตอบ “ฉันไปทำงานที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในชนบทน่ะ เจ้านายฉันไม่มีเงินจ่ายค่าจ้างให้ เลยให้เศษชิ้นส่วนมาเป็นค่าชดเชย ฉันประกอบมันขึ้นมาเอง”

เครื่องประกอบอย่างนั้นเหรอ?

นี่มันคือเครื่องอิเล็กทรอนิกส์เกรดต่ำที่ไม่ได้มาตราฐานเลยด้วยซ้ำ!?

ด้วยความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ของหยุนเวยเวย ก็มองออกในทันทีว่าคอมพิวเตอร์ของหยุนซีนั้นเป็นขยะที่ขุดขึ้นมาจากถ้ำคนจนแน่ ๆ

“พี่สาว คอมพิวเตอร์เครื่องนี้เหมาะกับพี่มากเลย” หยุนเวยเวยพูดพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เดิมพันแห่งโชคชะตา

เดิมพันแห่งโชคชะตา

Haley
5.0

ชูเหอถูกบังคับให้แต่งงานกับนักเลงชื่อดัง น้องสาวของเธอจับมือแฟนเก่าของชูเหอแล้วพูดอย่างเย่อหยิ่ง "เธอเป็นแค่ลูกสาวบุญธรรม สามารถแต่งงานแทนฉันถือว่าเป็นบุญของเธอ!" ทุกคนต่างรอดูชูเหอจะใช้ชีวิตอย่างน่าสงสาร อย่างไรก็ตาม ชีวิตของชูเหอมีความเจริญรุ่งเรืองหลังจากการแต่งงาน ทุกคนที่รังแกเธอได้รับผลกรรม แม้แต่จับสลากยังได้รางวัลเป็นบ้านหลังใหญ่อีกด้วย! ชูเหอโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของสามีแล้วเอาแต่อุทานว่าเป็นสามีทำนำโชคให้ภรรยาจริงๆ กู้เฉินยิ้มอย่างอ่อนโยน "คุณเองที่โชคดีไป" จนกระทั่งวันหนึ่ง คนรักในวัยเด็กของกู้เฉินมาหา "เธอไม่คู่ควรกับเขา ฉันจะให้คุณเงินก้อนใหญ่แล้วออกไปขากเขาซะ " จากนั้นชูเหอถึงรู้ว่านี่นักเลงที่ไหนกัน เขาเป็นมหาเศรษฐีชัดๆ! คืนนั้น เธอมองไปที่มหาเศรษฐีและเสนอหย่าอย่างตัวสั่นเท้า ทว่าชายคนนั้นกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาอย่างครอบงำ "ผมจะให้ทรัพย์สินทั้งหมดของผมแก่คุณ ห้ามหย่าร้าง!"

ต้องมนต์บุปผา

ต้องมนต์บุปผา

ซีไซต์
5.0

หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

กลร้ายทรายเสน่หา

กลร้ายทรายเสน่หา

ศิรารัย
5.0

นิยายแนว...ทะเลทรายสวีต...ที่ยิ่งอ่านยิ่งสนุกของนักเขียนเล่มนี้ ได้พานางเอกไปผจญภัยร้ายท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุจากโจรทะเลทรายตัวปลอมและโจรทะเลทรายตัวจริงที่กักขฬะด้วยการเอาคืนของพระเอกที่ถูกนางเอกใส่ร้ายให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและทำให้รู้ความจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำด้วยความเข้าใจผิด แต่การเดินทางที่ใกล้ชิดทำให้ความรู้สึกของทั้งสองเปลี่ยนจากคู่กัดเป็นคู่ที่ถูกตาต้องใจกัน เกล็ดทรายอันร้อนระอุจากแสงแดดแผดเผาจึงกลายเป็นเกล็ดน้ำตาล ...***...“นายก็พูดได้สิ ลองมาเป็นฉันดูบ้าง จะได้รู้ว่าต้องกระตือรือร้นไปทำไม" เธอย้อนอย่างโมโห “เลิกอยากรู้อยากเห็นเสียที แล้วฟังฉัน ระหว่างพักอยู่ที่นี่ทุกคนต้องมีหน้าที่ หล่อนก็ต้องทำงานเหมือนกัน" เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติที่เธอไม่ค่อยจะได้ยินนัก “นี่นายโจร ฉันไม่ใช่ลูกน้องหรือคนรับใช้ของนายนะ นายเป็นคนจับตัวฉันมา ก็ต้องเลี้ยงดูให้ฉันอยู่สุขสบาย จะมาใช้งานกินแรงกันไม่ได้นะ" เธอโวยลั่น “ฉันไม่สน ถ้าไม่ทำก็ไม่ต้องกิน อาหารมีไว้ให้คนที่ต้องออกแรงทำงานเท่านั้น" เขาข่มขวัญ คงคิดว่าเธอกลัวอดตายแล้วจะยอมทำตามทุกอย่างละสิ...ฝันไปเถอะ...เธอเชิดหน้าใส่ “แต่ไม่ใช่ฉัน ดูปากฉันนะ..." เธอชี้ที่ปากตัวเองอย่างที่น้องณัชชาลูกสาวพี่บ๊อบชอบทำ “ฉัน...ไม่...ทำงาน...อะไร...ทั้งนั้น..." เธอเน้นทุกถ้อยคำให้เขาฟังก่อนจะหันหลังเดินจากมาพร้อมไฟโกรธลุกท่วมตัว ...ตาบ๊องเอ๊ย...จิตสำนึกเข่นเขี้ยวเหมือนอยากจะเคี้ยวเขาให้แหลกคาปาก เธอไม่ได้เป็นฝ่ายร้องตามเขามาถึงจะต้องยอมทำทุกอย่างที่เขา...สั่ง...สั่ง...สั่ง... โดยเฉพาะการทำงานแลกข้าวน้ำประทังชีวิต...เขาสิต้องรับผิดชอบหาข้าวหาปลามาเลี้ยงดูให้อิ่มหนำสำราญ หากเขาต้องการใช้ประโยชน์จาก ตัวเธอ... “งานแรก..." เขาพูดต่ออย่างไม่สนใจ “หล่อนต้องซักเสื้อผ้าให้ฉัน งานอย่างที่สอง-ต้องทำความสะอาดกระโจมที่เราพักด้วยกันทุกเช้ากลางวันเย็น เก็บที่นอน ปูที่นอน กวาดพื้น ถูพื้น และปัดฝุ่นทำความสะอาดตากเครื่องนอนทุกชิ้นทุกวัน อย่างที่ สาม-ต้องนำอาหารมาเสิร์ฟให้ฉันทุกมื้อ เสร็จงานแล้วหล่อนจึงจะได้อาหารกิน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้กิน เข้าใจไหม” มิลินยืนอ้าปากค้าง อยากจะกรี๊ดให้ลั่น เขามันจอมบงการสิ้นดี แล้วถือดีอย่างไรมาใช้งานเธอเยี่ยงนางทาสีประจำตัวแบบนี้ เธอยืนกำหมัดแน่น อยากจะแล่นเข้าข่วนหน้ารกเคราของเขาให้สาสมกับความโกรธที่ถูกโยนตำแหน่งทาสรับใช้ใส่แล้วเดินหนีไปซึ่งๆหน้า ...ตาบ้า...ตาบ๊อง...ตาบื้อ...ตา...ขี้เก๊ก...เธอก่นว่าเป็นชุด สุดจะทนพฤติการณ์แบบเจ้าใหญ่นายโต...สั่ง...สั่ง...สั่ง...โดยไม่ฟังเสียงใคร คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่มาจากไหนกัน...ฮึ...***... **************************************************** นิยายเรื่องนี้เป็นความคิดสร้างสรรค์ของนักเขียนอย่างแท้จริง สงวนลิขสิทธิ์โดย : ศิรารัย-ศิรารัยนิยายรัก ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์คอมพิวเตอร์และสิ่งพิมพ์ ห้ามลอกเลียนทุกส่วนของหนังสือเล่มนี้ ห้ามเผยแพร่-จำหน่าย-ดัดแปลง-ทำซ้ำ-จัดพิมพ์ หรือห้ามกระทำการใดๆทุกประการกับนิยายเรื่องนี้ ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เขียน **************************************************

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
คนทั้งโลกกำลังตกหลุมรักภรรยาผม
1

บทที่ 1 ถูกรับเลี้ยง

01/11/2022

2

บทที่ 2 เทพหยุน

01/11/2022

3

บทที่ 3 บ้านใหม่

01/11/2022

4

บทที่ 4 ต้มบะหมี่

01/11/2022

5

บทที่ 5 ท่านเทพผู้ยิ่งใหญ่ยังโกหก

01/11/2022

6

บทที่ 6 แม่บ้านผู้แสนใจร้าย

01/11/2022

7

บทที่ 7 ใส่ร้ายป้ายสี

01/11/2022

8

บทที่ 8 ผลงานชิ้นเอก

01/11/2022

9

บทที่ 9 ของก็อป

01/11/2022

10

บทที่ 10 อาจารย์เซียวเนี่ยน

01/11/2022

11

บทที่ 11 กู้ซือเฉิน

01/11/2022

12

บทที่ 12 จัดฉาก

01/11/2022

13

บทที่ 13 นัดดูตัว

01/11/2022

14

บทที่ 14 โรงแรมหวี่จิ่น

01/11/2022

15

บทที่ 15 คุณกู้ ฉันมองไม่เห็น

01/11/2022

16

บทที่ 16 กำหนดความสัมพันธ์

01/11/2022

17

บทที่ 17 บริษัท YZ

01/11/2022

18

บทที่ 18 เธอคือพี่สาวของฉัน

01/11/2022

19

บทที่ 19 เทพหว่านเฉา

01/11/2022

20

บทที่ 20 นักแสดงชั้นนำเป็นแฟนคลับที่ไร้สมอง

01/11/2022

21

บทที่ 21 ความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง

01/11/2022

22

บทที่ 22 ผู้กำกับหลัก

01/11/2022

23

บทที่ 23 สนานออดิชั่น

01/11/2022

24

บทที่ 24 ผู้กำกับไม่พอใจ

01/11/2022

25

บทที่ 25 การออดิชั่นของหยุนเวยเวย

01/11/2022

26

บทที่ 26 เธอจะให้ฉันรออีกนานไหม

01/11/2022

27

บทที่ 27 หยุนซีออดิชั่น

01/11/2022

28

บทที่ 28 เธอคือหว่านเฉา

01/11/2022

29

บทที่ 29 อาการง่วงนอนกำเริบ

01/11/2022

30

บทที่ 30 เฉียวฮวาเหวิน

01/11/2022

31

บทที่ 31 ถูกซักถาม

01/11/2022

32

บทที่ 32 มีเรื่องให้มาหาแม่บุญธรรม

01/11/2022

33

บทที่ 33 แม่บุญธรรมเย่หรง

01/11/2022

34

บทที่ 34 คำเชิญไปงานเลี้ยง

01/11/2022

35

บทที่ 35 ความสามารถของเย่หรง

01/11/2022

36

บทที่ 36 บทสนทนาที่เรียบง่าย

02/11/2022

37

บทที่ 37 เสน่ห์ปลายจวักชั้นเลิศ

03/11/2022

38

บทที่ 38 คิดเล็กคิดน้อย

04/11/2022

39

บทที่ 39 ความจริงและบทลงโทษ

05/11/2022

40

บทที่ 40 ล้วนแต่เหมือนกันหมด

06/11/2022