สถานีรถไฟความเร็วสูงเมือง A
ผู้หญิงสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ มือลากกระเป๋าเดินทางคนหนึ่งเดินออกมา
เธอหน้าตาน่ารัก ผมลอนสลวยพลิ้วไหวอยู่ด้านหลัง ภายใต้คิ้วใบหลิ่วที่งดงามนั้นมีดวงตาสดใสคู่งาม จมูกโด่ง ริมฝีปากที่แดงราวกับผลเชอร์รี่ แม้จะเป็นใบหน้าที่ไม่ได้แต่งหน้าเลย แต่ก็ทำให้คนอดใจที่จะมองไม่ได้
“สวัสดีครับ คุณคือคุณซูใช่มั้ยครับ? ผมเป็นคนขับรถของตระกูลฮั่ว”
ซูฉิงพยักหน้า เธอเดินตามคนขับรถไปขึ้นรถโดยไม่ใส่ใจ สีหน้าท่าทางของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนล้า
เมื่อรถขับออกไปจากสถานีรถไฟความเร็วสูง ระหว่างทาง คนขับรถอดไม่ได้ที่จะมองผู้หญิงที่หลับตาอยู่ด้านหลังผ่านกระจกมองหลัง
นี่ก็คือคู่หมั้นของคุณฮั่ว
ฮั่วหยุนเฉิงนั้นเป็นใครน่ะเหรอ? เขาเป็นถึงประธานของฮั่วซื่อ กรุ๊ป ที่อายุเพียงยี่สิบเอ็ดปี แต่เป็นคนที่เด็ดขาดมาก มีวิธีการที่ชาญฉลาด ในแวดวงธุรกิจไม่มีใครไม่เกรงกลัวเจ้าพ่อคนนี้
พูดไปแล้วก็น่าตลก เมื่อหลายปีก่อน ท่านผู้เฒ่าฮั่วกลับเคยหมั้นหมายคู่แต่งงานไว้ให้กับฮั่วหยุนเฉิง และคนที่หมั้นหมายด้วยคือซูฉิง ผู้หญิงที่ไม่มีเบื้องหลังอะไรเลย แล้วยังนั่งรถไฟความเร็วสูงมาจากชนบทอีกด้วย
คนขับรถมองหน้าตาที่ไร้เดียงสาของซูฉิง และอดไม่ได้ที่ทำเสียงจิจิขึ้น ซินเดอเรลล่าจะแต่งงานกับตระกูลผู้สูงสักดิ์ ช่างยากจริง ๆ !
แต่ในเวลานี้ ซูฉิงที่นั่งอยู่ด้านหลังค่อย ๆ ลืมตาขึ้น มองเมืองที่แปลกตาด้วยสีหน้าที่สงบ
ในไม่ช้ารถก็มาถึงตระกูลฮั่ว คนขับรถช่วยยกกระเป๋าให้กับซูฉิง
ทันทีที่เธอเดินเข้าประตูมาก็ถูกขวางไว้ หน้าประตูมีสุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์คนหนึ่งยืนอยู่ เธอมองซูฉิงตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูถูกเหยียดหยามแวบหนึ่ง
“แม่บ้านหลี่”
“คุณนาย มาถึงแล้ว”
ในมือของแม่บ้านหลี่ถือขวดน้ำยาฆ่าเชื้อ และฉีดพ่นไปทั่วทั้งร่างของซูฉิง
คุณแม่ฮั่วที่อยู่ข้าง ๆพูดขึ้นว่า “ยังมีรองเท้า ผม และที่อื่น ๆ ด้วยต่างก็อย่าให้หลุดลอดพ้นสายตาไปแม้จุดแต่จุดเดียว”
กลิ่นแสบจมูกลอยโชยมา ซูฉิงเอามือขึ้นมาปิดหน้าแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นี่พวกคุณป่วยรึไง?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ คุณแม่ฮั่วก็โกรธทันที
“มาจากชนบทอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ทักก็ไม่ทักทาย ไม่มีการศึกษาเอาเสียเลย พวกฉันแค่กลัวว่าบนตัวของเธอจะมีเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ถ้ามันแพร่เชื้อเข้าสู่คนตระกูลฮั่วของพวกฉันขึ้นมาจะทำยังไง? ”
ถ้าเป็นปกติแล้ว ซูฉิงก็คงสะบัดตูดเดินออกไปตั้งนานแล้ว แต่นี่ไม่มีทางอื่น