อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก
เจ็บแต่ไม่ยอมปล่อยมือ
ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย
ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง
เมียผมน่ารักจัง
เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ
โชคชะตาของพระชายา
ผู้บัญชาการรักซ้อนแค้น
รักใหม่พันล้าน
คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว
ตอนที่ 1 คุณชายจ้าว
ช่วงพักเที่ยงของบริษัทเกม ฟางนี่ โปรดักชั่น เมืองตงไห่..
“นี่.. พวกนายได้ดูหนังเรื่อง ‘Big Shot’ ที่เปาเป่ยเอ๋อกับหวังเชียนหยวนเล่นกันบ้างยัง? บทคุณชายจ้าวที่เปาเป่ยเอ๋อเล่นนี่แม่งเลวสุดๆเลย!”
“ฉันดูแล้ว! ฉันชอบประโยคเด็ดในหนังเรื่องนี้ที่สุด ‘ทุกคน คืนนี้คุณชายชายจ้าวเป็นเจ้ามือเอง! แล้วก็มีเสียงโห่ร้องตะโกนตามมา!’”
“ฮ่าๆๆๆ”
เสียงหัวเราะดังกึกก้องของทุกคนในที่นั้น ทำให้จ้าวเฉียนที่กำลังฟุบหลับอยู่บนโต๊ะทำงานในตอนเช้าตื่นขึ้นมา
จ้าวเฉียนเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะ และเวลานี้สายตาของเพื่อนร่วมงานทุกคู่ต่างก็จับจ้องอยู่ที่เขาเป็นตาเดียว
“โอ้โห!! นี่ถ้าเป็นคุณชายจ้าวในหนัง เขาคงมีเงินซื้อทุกสิ่งทุกอย่าง ผิดกับคุณชายจ้าวที่แสนยากจนของพวกเรา แม้แต่เงินจะซื้อมือถือใหม่ยังไม่มีเลย”
เสียงพูดของเจวียงหยวนดังขึ้น เขาทำงานอยู่ในแผนกเดียวกันกับจ้าวเฉียน และกำลังคิดวางแผนบางอย่างอยู่ แผนกของเขานั้นไม่มีผู้จัดการมาพักหนึ่งแล้ว เวลานี้เขากับจ้าวเฉียนก็กำลังแข่งขันกัน เขาจึงไม่ชอบขี้หน้าจ้าวเฉียนนัก และคอยหาโอกาสที่จะเขี่ยจ้าวเฉียนออกไปตลอดเวลา
เพื่อนร่วมงานต่างก็พากันหัวเราะออกมาพร้อมกันทันที
จ้าวเฉียนมักจะถูกเพื่อนร่วมงานดูถูกเรื่องความยากจนเสมอๆ แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะต่อล้อต่อเถียงด้วย แต่ยิ่งเขาไม่มีปากมีเสียงมากเท่าไหร่ คนอื่นๆก็ยิ่งอยากจะยั่วเย้าเขามากขึ้นเท่านั้น
เจวียงหยวนเดินตรงเข้าไปหาจ้าวเฉียนทันที เขาหยุดยืนอยู่ข้างๆจ้าวเฉียนพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้าย “คุณชายจ้าว ตั้งแต่คุณชายมาทำงานที่บริษัทของเรา คุณชายยังไม่เคยไปกินข้าวเย็นกับพวกเราเลยสักครั้ง ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันศุกร์พอดี พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องทำงาน ทำไมคุณชายจ้าวถึงไม่ชวนพวกเราไปกินข้าวสักครั้งล่ะ? ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ผมจะจ่ายส่วนของผมเอง ส่วนคุณชายจ้าวก็แค่เลี้ยงเพื่อนคนอื่นๆก็พอ..”
เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆต่างก็ตอบตกลงทันที และบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า งานนี้ต่างคนต่างจ่าย ส่วนจ้าวเฉียนก็จ่ายเฉพาะส่วนของตัวเองท่านั้น
“ไม่ไป! ฉันไม่มีเงิน” จ้าวเฉียนตอบเสียงเบา
เจวียงหยวนจงใจพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น “ถามจริงๆ!! คุณชายจ้าว นี่นายไม่ได้ล้อเล่นใช่มั๊ย? ค่าอาหารหารกันออกมาก็ไม่น่าเกินหนึ่งหรือสองร้อยหยวนเท่านั้นเอง นี่นายยากจนขนาดนี้เลยเหรอ? เงินเดือนของนายหายไปไหนหมด? อย่าบอกนะว่าเอาไปตบรางวัลให้กับสตรีมเมอร์สาวคนนั้นหมดแล้ว ส่วนนายก็นั่งกินมาม่าแทนนี่นะ? คุณชายจ้าว นี่นายทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นได้ยังไง?”
“ฮ่าๆๆ”
เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ จ้าวเฉียนเคยตบรางวัลให้สตรีมเมอร์สาวคนหนึ่งเป็นเงินถึงสองสามพันหยวน หลังจากนั้นตัวเองก็ต้องมานั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่เกือบครึ่งเดือน เมื่อทุกคนในบริษัทรู้เรื่อง พวกเขาก็พากันพูดจาถากถางจ้าวเฉียนในเรื่องนี้อยู่ตลอดทั้งเดือน และมักจะนำเรื่องนี้มาล้อเลียนเขาทุกครั้งที่มีโอกาส
คนที่แทบไม่มีจะกินแต่กลับเอาเงินไปตบรางวัลให้กับผู้หญิงแบบนี้ ต้องปัญญาอ่อนขนาดไหนกัน?
การที่จ้าวเฉียนชื่นชมสตรีมเมอร์สาวนั้น เขาย่อมต้องมีเหตุผล เพียงแต่ไม่เคยอธิบายเรื่องนี้ให้กับใครๆฟัง เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้มีคุณสมบัติเพียงพอที่เขาจะต้องมานั่งอธิบาย
ในเวลานั้น เสี่ยวหลิวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินก็เดินเข้ามาพอดี
“เอาล่ะ.. สาวๆหนุ่มๆฟังทางนี้ ตอนนี้บริษัทช็อตเงิน ผู้อำนวยการฟ่างบอกว่าเดือนนี้สามารถจ่ายเงินเดือนได้แค่ครึ่งหนึ่งก่อน ทุกคนสามารถเช็คยอดเงินในบัญชีของตัวเองได้เลย ถ้าใครมีปัญหาอะไร ไปพบผมได้ก่อนที่จะเลิกงาน”
แววตาของจ้าวเฉียนเป็นประกายขึ้นมาทันที เขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาล็อคอินเพื่อเช็คยอดเงินในบัญชีทันที
เจวียงหยวนถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง พร้อมกับพูดขึ้นว่า “เห้ย!! ดูท่าทางตื่นเต้นของคุณชายจ้าวสิพวกเรา.. ห้าพันหยวน.. ไม่สิไม่ใช่ บริษัทจ่ายครึ่งเดียวก็แค่สองพันห้าร้อยหยวน เงินแค่ห้าพันหยวนนายถึงกับต้องตื่นเต้นขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ฮ่าๆๆ เจวียงหยวน นายพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะ อย่าลืมว่าสตรีมเมอร์สาวกำลังรอเงินรางวัลจากเขาอยู่!”
“ฮ่าๆๆๆ”
ระหว่างที่ทุกคนกำลังหัวเราะเสียงดังอยู่นั้น ผู้จัดการหวังเฉียงก็เพิ่งกลับจากไปกินอาหารกับผู้ช่วยสาวที่ชื่อเจียงเสี่ยวปิงพอดี
จ้าวเฉียนเริ่มรู้สึกอึดอัดอย่างมากเมื่อเห็นคนทั้งคู่ นั่นเพราะเจียงเสี่ยวปิงเคยเป็นแฟนของเขามาก่อน และทั้งคู่ก็เพิ่งจะเลิกรากันไปไม่กี่วันนี่เอง และตอนนี้เธอก็กำลังคบหาอยู่กับผู้จัดการหวังเฉียง
จ้าวเฉียนรีบหลบหน้าหน้าทันที และแสร้งทำเป็นเล่นโทรศัพท์มือถือในมือ
หวังเฉียงจงใจเดินเข้าไปในกลุ่ม และบอกเล่าให้ทุกคนฟังว่าตนเองกำลังมีความสุขอย่างมาก
เจวียงหยวนใช้เล่ห์กลด้วยการพยายามที่จะทำให้จ้าวเฉียนได้รับความอับอาย หากเขาทำสำเร็จและจ้าวเฉียนไม่สามารถทนทำงานที่นี่ต่อไปได้ ตำแหน่งหัวหน้าแผนกวางแผนก็ต้องตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน
“วันนี้เงินเดือนของพวกเราก็เพิ่งออกเหมือนกัน คุณชายจ้าวบอกว่าจะเลี้ยงข้าวพวกเราด้วย และชวนทุกคนในบริษัทไปด้วย ใช่มั๊ยพวกเรา?”
เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆก็ชอบเห็นจ้าวเฉียนเป็นตัวตลกเหมือนกัน จึงได้จงใจพูดออกมาเสียงดัง
หวังเฉียงเดินเข้าไปหาจ้าวเฉียน เขายิ้มให้พร้อมกับยกมือขึ้นตบบ่าจ้าวเฉียน และพูดขึ้นว่า “จ้าวเฉียน คุณเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก! ผมเองก็เคยได้ยินคนพูดกันว่า ความผิดหวังและความล้มเหลวจะทำให้คนเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ที่ผ่านๆมา คุณไม่เคยไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานเลยสักครั้ง แต่ตอนนี้ถึงกับเสนอตัวเลี้ยงพวกเรา นับว่ามีพัฒนาการขึ้นมาจริงๆ”
หลังจากที่หวังเฉียงพูดจบ เขาก็จงใจโอบกอดร่างของเจียงเสี่ยวปิงไว้แนบอก และพยายามทำไม่ให้ดูเหมือนว่าจงใจยั่วจ้าวเฉียนมากเกินไป
แต่จ้าวเฉียนก็ยังคงเล่นโทรศัพท์ในมือโดยไม่สนใจแม้แต่จะปรายตามอง
เจียงเสี่ยวปิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “จ้าวเฉียน นี่นายเสียสติไปหรือเปล่า? ถ้านายมีเงินก็เอาไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ก่อนไม่ดีกว่าเหรอ แต่ถ้าอยากจะอวดรวยก็ลองให้คนอื่นๆสอนให้ก็ได้ว่าต้องทำยังไง! เงินเดือนแค่นั้นจะเลี้ยงข้าวทุกคนในบริษัทได้ยังไงกัน? ฉันว่าแค่ซื้อเบียร์ได้ไม่กี่ลังก็หมดแล้ว..”
“ฮ่าๆๆ”