Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
854
ชม
21
บท

ชาดสีเหลือดเป็นนิยายแล้วย้อนเวลาและกลับมาแก้แค้นคนที่รัก ซึ่งในเนื้อเรื่องนี้เป็นสามีที่ผูกปิ่นกราบไหว้ฟ้าดินกันเอาไว้ หากแต่การแก้แค้นก็ล้วนอยู่บนเหตุผล ซึ่งทำให้หลินเหมยได้พบกับความสุขหรือว่าความทุกข์ตลอดไป โปรดติดตามได้ในเล่มค่ะ

บทที่ 0 ชาดสีเลือด

สายฝนที่เทลงมาอย่างหนักตกลงบนเรือนร่างเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยแผลและเลือด ชะล้างเลือดลงสู่พื้นดิน แต่เจ้าของร่างกลับนอนรวยรินใกล้ตาย ไม่อาจจะขยับตัวไปไหนได้ ยังคงได้ยินเสียงหัวเราะของพวกมันที่ดังใกล้หู

“หยุดทำไม!!” เสียงทรงอำนาจของรัชทายาทฟงหวินแห่งแคว้นเจี่ยกล่าววาจาขุ่นเคือง เพราะเหล่าทหารต่างเริ่มเบามือเมื่อฝนเทลงหนัก

เหล่าทหารที่เปลือยเปล่าท่อนล่าง ต่างขาดอาหารมาแรมเดือน บัดนี้มีเหยื่อสาวมากองให้เชยชมอยู่ตรงหน้า ต่อให้ฟ้าผ่าหรือแผ่นดินสะเทือนก็ไม่อาจทำให้พวกเขาหยุดมือได้

ร่างระหงบอบบาง ผิวขาวนวลถูกน้ำโคลนเปอะเปื้อนจนมองไม่เห็นผิวขาวอีกแล้ว สตรีนางนี้มีนามว่าเหอหลินเหมย เป็นชายาเอกของมู่หยางจวิ้นอ๋อง โอรสของฮ่องเต้เฟยเทียนแห่งแคว้นโจว ของเล่นบรรณาการที่จวิ้นอ๋องมอบให้เขาเมื่อสองวันก่อน

เป็นสาวงามที่ต้องตาต้องใจเขาเหลือเกิน มุมปากปีศาจนั้นขยับยกขึ้นอย่างพอใจเมื่อเห็นบรรดาทหารต่างเข้าไปรุมกินทั้งตัว ด้านบนป้อนอาหาร ด้านล่างใส่อาหารให้ไม่ได้ขาด เลือดในกายนางไหลออกมาผสมกับเนื้อโคลนจนมองไม่ออกว่าเป็นเลือดหรือเป็นน้ำอะไร

ความโหดเหี้ยมของรัชทายาทฟงหวินไม่ได้มีเพียงแค่ได้เห็นภาพสนุก แต่ความโหดร้ายของเขาไม่จบสิ้น หลังจากทรมานนางจนหายใจรวยรินเกือบตาย เขาก็สั่งให้ทหารล้างตัวนาง แล้วจับลงอ่างน้ำไว้ในกระท่อม

ผู้เป็นนายกองธงแห่งแคว้นเจี่ยนั้นย่างก้าวไปยังอ่างไม้อย่างเลือดเย็น เขาหันมองถังใบเล็กก็ยกขึ้น แล้วเทเกลือลงไปในน้ำ ได้ผล ร่างที่เกือบไร้วิญญาณเริ่มขยับตัว แต่ไม่อาจมีเสียงออกมา เปลือกตาหงส์ขยับเปิดออก ปากแห้งมีรอยเลือดเปรอะเอ่ยด้วยเสียงสั่น แต่ก็ไม่อาจส่งเสียงได้

“เจ้าช่างอดทนเหลือเกิน คิดหรือว่าจวิ้นอ๋องขี้ขลาดผู้นั้นจะมาช่วยเจ้า”

คนได้ยินสั่นสะท้าน หัวใจนางเหมือนคนตายไปแล้ว แต่ความรักที่มีต่อพระสวามีก็ยังไม่จางหาย ยังคงหวังว่าจวิ้นอ๋องจะมาช่วยนาง หากด้วยลมหายใจรวยรินนั้น ก็ไม่รู้ว่านางจะมีชีวิตต่ออีกนานเท่าไร

รัชทายาทฟงหวินมองดวงตาที่ลืมขึ้น แม้จะเปิดไม่หมด แต่ก็พบว่าอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความโกรธแค้น สายตานั้นไม่แม้แต่จะยอมศิโรราบ นั่นจึงนำมาซึ่งความโมโหให้คนมีอำนาจมากกว่า จึงยกมือขึ้นบีบคางนาง

“เจ้ายังไม่สาแก่ใจ ยังคิดจะมีชีวิตต่อเพื่อไปเป็นชายาผู้ทรงเกียรติอย่างนั้นรึ สภาพเจ้าเช่นนี้กลัวแต่จวิ้นอ๋องผู้นั้นจะยกดาบขึ้นฆ่าให้ตายเสียมากกว่า”

“ท่านอ๋องจะไม่ทำเช่นนั้น” เสียงอันอ่อนแรงนั้นพยายามเค้นออกมาทั้งที่แทบอ้าปากไม่ออก นำพาความโกรธให้รัชทายาทฟงหวินยิ่งกว่าเดิม จึงเปลี่ยนมือจากจับคาง มาจับคอด้านหลังแล้วกดหัวลงไปในอ่างน้ำ น้ำเกลือนั้นผสมกับเลือดทำให้นางปวดแสบไปทั่วร่าง หลินเหมยสำลักน้ำเกลือเข้าปาก หายใจรวยรินเหมือนคนใกล้ตาย แต่สมองนางกลับได้ยินเพียงประโยคแสนหวาน

‘เจ้าแค่ขึ้นรถม้าไป หลังจากนั้นเชื่อใจข้า ข้าจะพาเจ้ากลับมาให้จงได้’

แล้วเหตุใดนางถึงถูกจับตัวอย่างง่ายดายเล่า หัวใจนางปวดร้าวคิดเพียงแต่ห่วงใยพระสวามีว่าตอนนี้เป็นเช่นไร ไม่ได้ห่วงเลยว่าตัวเองจะตายในอีกไม่ช้า

รัชทายาทฟงหวินมองร่างที่เริ่มอ่อนแรงลง พอคิดว่าอีกฝ่ายกำลังจะตายก็คิดว่าคงหมดสนุก จึงจับคอนางขึ้นมา ใบหน้านั้นซีดเผือดไร้เลือดเหมือนคนตายจริงๆ

เพียะ!! มือหนาตบลงไปทันที เลือดในปากของหลินเหมยก็กระอักออกมาพร้อมกับเสียงไอ มุมปากคนกระทำพอใจเมื่อเห็นว่าพระชายาเอกของจวิ้นอ๋องยังไม่ตาย

“ลากนางขึ้นมาจากอ่างแล้วรักษาแผล ยังไงก็ให้ตายภายในสามวันไม่ได้” เหยื่อตายแล้วจะสนุกอะไร ยังไงเขาจะขุดหลุมล่อให้จวิ้นอ๋องเดินเข้ามาเอง แบบนั้นต่างหากถึงจะสนุกที่สุด

เหล่านางกำนัลที่ได้ยินก็รีบพาเรือนร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผลออกจากอ่าง ในใจพวกนั้นต่างอกสั่นขวัญหาย สงสารพระชายาผู้นี้ก็สงสาร แต่พวกนางสงสารตัวเองมากกว่า ว่าจะโดนแบบนางหรือไม่ ดังนั้นพวกนางจึงพยายามรักษาพระชายาอย่างดี

หลินเหมยลืมตาขึ้นมองนางกำนัลที่กำลังทำแผล

“พระชายามิต้องกลัวเพคะ หม่อมฉันเพียงแค่ช่วยทำแผล”

น้ำเสียงนั้นดูเป็นมิตร สายตาหลินเหมยมองสำรวจหญิงสาว ใบหน้านั้นงดงามล่มเมือง กิริยามารยาทก็เหมือนได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี ไม่รู้ว่านางมองอีกฝ่ายมากเกินไปหรือเปล่า หญิงสาวจึงหันมายิ้มแล้วเล่าให้ฟัง

“ข้าชื่อซูเม่ย เป็นหญิงหอคณิกาที่ไทจื่อ[ องค์รัชทายาท]พามาชุบเลี้ยง”

“นางเป็นหญิงเดียวที่ไทจื่อเลี้ยงดูอย่างดี” เสียงหญิงสาวอีกคนเอ่ยขึ้น หลินเหมยมองแล้วก็คิดว่าอีกฝ่ายคงเป็นสาวใช้ที่คอยดูแลแม่นางซูเม่ย

“จะกล่าวเช่นนั้นก็มิได้ ต้องเรียกว่าข้ายังโชคดี แต่ถ้าวันใดพระองค์เกิดเบื่อหน่ายข้าขึ้นมา เกรงว่าเมื่อนั้นก็คงมีสภาพไม่ต่างจากเจ้าเท่าใดนัก” นางเอ่ยไปก็พยายามทำใจไปด้วย แม้ว่าองค์รัชทายาทจะเมตตานางกว่าคนอื่น ก็ใช่ว่าจะไม่ฆ่านางในวันพรุ่งนี้

“ท่านก็อดทนหน่อย อีกไม่นานพระสวามีของท่านก็จะมาช่วยท่านแล้ว”

ในใจของหลินเหมยก็คิดเช่นนั้น แต่สภาพนางตอนนี้ต่อให้กลับไปก็คงถูกหย่าในเร็ววัน หรือแม้จะกลับไปได้ นางก็ไม่กล้าที่จะยืนเคียงข้างเขาอีก สายตานางมองไปโดยรอบ ไม่ได้มองหาทางออก แต่มองหาอาวุธที่จะทำให้นางตาย เพื่อให้พระสวามีของนางไม่ต้องเสี่ยงชีวิตมาช่วยนาง

“นางฟื้นแล้วใช่ไหม” เสียงทรงอำนาจทำให้คนที่กำลังทำแผลมือสั่นตกใจ ซูเม่ยรีบขยับหันมองแล้วถอยออกมา สายตานั้นเป็นห่วงพระชายาที่นอนนิ่งไม่ขยับเช่นกัน

“ออกไป”

ซูเม่ยจะไม่ตกใจเลยสักนิด ถ้าไม่เห็นว่าในมือขององค์รัชทายาทนั้นมีสิ่งใดอยู่ เชือกหนังสีดำในมือนั้นแทบจะทำให้นางก้าวขาไม่ออก

ดวงตาทรงอำนาจหันมามองซูเม่ย “หรือเจ้าอยากจะโดนมันด้วย”

แน่นอนว่าเมื่อได้ยินเช่นนั้นซูเม่ยก็รีบขยับออกไปทันที ในใจนั้นได้แต่ขอโทษอีกฝ่ายที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้

ทันทีที่ก้าวออกจากกระโจม นางก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้น พร้อมกับเงาขององค์รัชทายาทที่กำลังใช้เชือกหนังในมือฟาดลงไปยังร่างที่ทำแผลก่อนหน้า เสียงร้องเจ็บปวดนั้นยิ่งดังมากเท่าไรก็ยิ่งทำให้เสียงหัวเราะขององค์รัชทายาทฟงหวินดังขึ้นไปอีก

เสียงทรงอำนาจดังขึ้น “เจ้าน่าสนุกกว่าหมูพวกนั้นเสียอีก!!”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ