5.0
ความคิดเห็น
17.3K
ชม
21
บท

ชาดสีเหลือดเป็นนิยายแล้วย้อนเวลาและกลับมาแก้แค้นคนที่รัก ซึ่งในเนื้อเรื่องนี้เป็นสามีที่ผูกปิ่นกราบไหว้ฟ้าดินกันเอาไว้ หากแต่การแก้แค้นก็ล้วนอยู่บนเหตุผล ซึ่งทำให้หลินเหมยได้พบกับความสุขหรือว่าความทุกข์ตลอดไป โปรดติดตามได้ในเล่มค่ะ

บทที่ 0 ชาดสีเลือด

สายฝนที่เทลงมาอย่างหนักตกลงบนเรือนร่างเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยแผลและเลือด ชะล้างเลือดลงสู่พื้นดิน แต่เจ้าของร่างกลับนอนรวยรินใกล้ตาย ไม่อาจจะขยับตัวไปไหนได้ ยังคงได้ยินเสียงหัวเราะของพวกมันที่ดังใกล้หู

“หยุดทำไม!!” เสียงทรงอำนาจของรัชทายาทฟงหวินแห่งแคว้นเจี่ยกล่าววาจาขุ่นเคือง เพราะเหล่าทหารต่างเริ่มเบามือเมื่อฝนเทลงหนัก

เหล่าทหารที่เปลือยเปล่าท่อนล่าง ต่างขาดอาหารมาแรมเดือน บัดนี้มีเหยื่อสาวมากองให้เชยชมอยู่ตรงหน้า ต่อให้ฟ้าผ่าหรือแผ่นดินสะเทือนก็ไม่อาจทำให้พวกเขาหยุดมือได้

ร่างระหงบอบบาง ผิวขาวนวลถูกน้ำโคลนเปอะเปื้อนจนมองไม่เห็นผิวขาวอีกแล้ว สตรีนางนี้มีนามว่าเหอหลินเหมย เป็นชายาเอกของมู่หยางจวิ้นอ๋อง โอรสของฮ่องเต้เฟยเทียนแห่งแคว้นโจว ของเล่นบรรณาการที่จวิ้นอ๋องมอบให้เขาเมื่อสองวันก่อน

เป็นสาวงามที่ต้องตาต้องใจเขาเหลือเกิน มุมปากปีศาจนั้นขยับยกขึ้นอย่างพอใจเมื่อเห็นบรรดาทหารต่างเข้าไปรุมกินทั้งตัว ด้านบนป้อนอาหาร ด้านล่างใส่อาหารให้ไม่ได้ขาด เลือดในกายนางไหลออกมาผสมกับเนื้อโคลนจนมองไม่ออกว่าเป็นเลือดหรือเป็นน้ำอะไร

ความโหดเหี้ยมของรัชทายาทฟงหวินไม่ได้มีเพียงแค่ได้เห็นภาพสนุก แต่ความโหดร้ายของเขาไม่จบสิ้น หลังจากทรมานนางจนหายใจรวยรินเกือบตาย เขาก็สั่งให้ทหารล้างตัวนาง แล้วจับลงอ่างน้ำไว้ในกระท่อม

ผู้เป็นนายกองธงแห่งแคว้นเจี่ยนั้นย่างก้าวไปยังอ่างไม้อย่างเลือดเย็น เขาหันมองถังใบเล็กก็ยกขึ้น แล้วเทเกลือลงไปในน้ำ ได้ผล ร่างที่เกือบไร้วิญญาณเริ่มขยับตัว แต่ไม่อาจมีเสียงออกมา เปลือกตาหงส์ขยับเปิดออก ปากแห้งมีรอยเลือดเปรอะเอ่ยด้วยเสียงสั่น แต่ก็ไม่อาจส่งเสียงได้

“เจ้าช่างอดทนเหลือเกิน คิดหรือว่าจวิ้นอ๋องขี้ขลาดผู้นั้นจะมาช่วยเจ้า”

คนได้ยินสั่นสะท้าน หัวใจนางเหมือนคนตายไปแล้ว แต่ความรักที่มีต่อพระสวามีก็ยังไม่จางหาย ยังคงหวังว่าจวิ้นอ๋องจะมาช่วยนาง หากด้วยลมหายใจรวยรินนั้น ก็ไม่รู้ว่านางจะมีชีวิตต่ออีกนานเท่าไร

รัชทายาทฟงหวินมองดวงตาที่ลืมขึ้น แม้จะเปิดไม่หมด แต่ก็พบว่าอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความโกรธแค้น สายตานั้นไม่แม้แต่จะยอมศิโรราบ นั่นจึงนำมาซึ่งความโมโหให้คนมีอำนาจมากกว่า จึงยกมือขึ้นบีบคางนาง

“เจ้ายังไม่สาแก่ใจ ยังคิดจะมีชีวิตต่อเพื่อไปเป็นชายาผู้ทรงเกียรติอย่างนั้นรึ สภาพเจ้าเช่นนี้กลัวแต่จวิ้นอ๋องผู้นั้นจะยกดาบขึ้นฆ่าให้ตายเสียมากกว่า”

“ท่านอ๋องจะไม่ทำเช่นนั้น” เสียงอันอ่อนแรงนั้นพยายามเค้นออกมาทั้งที่แทบอ้าปากไม่ออก นำพาความโกรธให้รัชทายาทฟงหวินยิ่งกว่าเดิม จึงเปลี่ยนมือจากจับคาง มาจับคอด้านหลังแล้วกดหัวลงไปในอ่างน้ำ น้ำเกลือนั้นผสมกับเลือดทำให้นางปวดแสบไปทั่วร่าง หลินเหมยสำลักน้ำเกลือเข้าปาก หายใจรวยรินเหมือนคนใกล้ตาย แต่สมองนางกลับได้ยินเพียงประโยคแสนหวาน

‘เจ้าแค่ขึ้นรถม้าไป หลังจากนั้นเชื่อใจข้า ข้าจะพาเจ้ากลับมาให้จงได้’

แล้วเหตุใดนางถึงถูกจับตัวอย่างง่ายดายเล่า หัวใจนางปวดร้าวคิดเพียงแต่ห่วงใยพระสวามีว่าตอนนี้เป็นเช่นไร ไม่ได้ห่วงเลยว่าตัวเองจะตายในอีกไม่ช้า

รัชทายาทฟงหวินมองร่างที่เริ่มอ่อนแรงลง พอคิดว่าอีกฝ่ายกำลังจะตายก็คิดว่าคงหมดสนุก จึงจับคอนางขึ้นมา ใบหน้านั้นซีดเผือดไร้เลือดเหมือนคนตายจริงๆ

เพียะ!! มือหนาตบลงไปทันที เลือดในปากของหลินเหมยก็กระอักออกมาพร้อมกับเสียงไอ มุมปากคนกระทำพอใจเมื่อเห็นว่าพระชายาเอกของจวิ้นอ๋องยังไม่ตาย

“ลากนางขึ้นมาจากอ่างแล้วรักษาแผล ยังไงก็ให้ตายภายในสามวันไม่ได้” เหยื่อตายแล้วจะสนุกอะไร ยังไงเขาจะขุดหลุมล่อให้จวิ้นอ๋องเดินเข้ามาเอง แบบนั้นต่างหากถึงจะสนุกที่สุด

เหล่านางกำนัลที่ได้ยินก็รีบพาเรือนร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผลออกจากอ่าง ในใจพวกนั้นต่างอกสั่นขวัญหาย สงสารพระชายาผู้นี้ก็สงสาร แต่พวกนางสงสารตัวเองมากกว่า ว่าจะโดนแบบนางหรือไม่ ดังนั้นพวกนางจึงพยายามรักษาพระชายาอย่างดี

หลินเหมยลืมตาขึ้นมองนางกำนัลที่กำลังทำแผล

“พระชายามิต้องกลัวเพคะ หม่อมฉันเพียงแค่ช่วยทำแผล”

น้ำเสียงนั้นดูเป็นมิตร สายตาหลินเหมยมองสำรวจหญิงสาว ใบหน้านั้นงดงามล่มเมือง กิริยามารยาทก็เหมือนได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี ไม่รู้ว่านางมองอีกฝ่ายมากเกินไปหรือเปล่า หญิงสาวจึงหันมายิ้มแล้วเล่าให้ฟัง

“ข้าชื่อซูเม่ย เป็นหญิงหอคณิกาที่ไทจื่อ[ องค์รัชทายาท]พามาชุบเลี้ยง”

“นางเป็นหญิงเดียวที่ไทจื่อเลี้ยงดูอย่างดี” เสียงหญิงสาวอีกคนเอ่ยขึ้น หลินเหมยมองแล้วก็คิดว่าอีกฝ่ายคงเป็นสาวใช้ที่คอยดูแลแม่นางซูเม่ย

“จะกล่าวเช่นนั้นก็มิได้ ต้องเรียกว่าข้ายังโชคดี แต่ถ้าวันใดพระองค์เกิดเบื่อหน่ายข้าขึ้นมา เกรงว่าเมื่อนั้นก็คงมีสภาพไม่ต่างจากเจ้าเท่าใดนัก” นางเอ่ยไปก็พยายามทำใจไปด้วย แม้ว่าองค์รัชทายาทจะเมตตานางกว่าคนอื่น ก็ใช่ว่าจะไม่ฆ่านางในวันพรุ่งนี้

“ท่านก็อดทนหน่อย อีกไม่นานพระสวามีของท่านก็จะมาช่วยท่านแล้ว”

ในใจของหลินเหมยก็คิดเช่นนั้น แต่สภาพนางตอนนี้ต่อให้กลับไปก็คงถูกหย่าในเร็ววัน หรือแม้จะกลับไปได้ นางก็ไม่กล้าที่จะยืนเคียงข้างเขาอีก สายตานางมองไปโดยรอบ ไม่ได้มองหาทางออก แต่มองหาอาวุธที่จะทำให้นางตาย เพื่อให้พระสวามีของนางไม่ต้องเสี่ยงชีวิตมาช่วยนาง

“นางฟื้นแล้วใช่ไหม” เสียงทรงอำนาจทำให้คนที่กำลังทำแผลมือสั่นตกใจ ซูเม่ยรีบขยับหันมองแล้วถอยออกมา สายตานั้นเป็นห่วงพระชายาที่นอนนิ่งไม่ขยับเช่นกัน

“ออกไป”

ซูเม่ยจะไม่ตกใจเลยสักนิด ถ้าไม่เห็นว่าในมือขององค์รัชทายาทนั้นมีสิ่งใดอยู่ เชือกหนังสีดำในมือนั้นแทบจะทำให้นางก้าวขาไม่ออก

ดวงตาทรงอำนาจหันมามองซูเม่ย “หรือเจ้าอยากจะโดนมันด้วย”

แน่นอนว่าเมื่อได้ยินเช่นนั้นซูเม่ยก็รีบขยับออกไปทันที ในใจนั้นได้แต่ขอโทษอีกฝ่ายที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้

ทันทีที่ก้าวออกจากกระโจม นางก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้น พร้อมกับเงาขององค์รัชทายาทที่กำลังใช้เชือกหนังในมือฟาดลงไปยังร่างที่ทำแผลก่อนหน้า เสียงร้องเจ็บปวดนั้นยิ่งดังมากเท่าไรก็ยิ่งทำให้เสียงหัวเราะขององค์รัชทายาทฟงหวินดังขึ้นไปอีก

เสียงทรงอำนาจดังขึ้น “เจ้าน่าสนุกกว่าหมูพวกนั้นเสียอีก!!”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

Me'JinJin
4.9

คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

รักซ้ำรอย

รักซ้ำรอย

มาชาวีร์
4.9

“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)

ทางใหม่ เริ่มใหม่

ทางใหม่ เริ่มใหม่

Beckett Grey
4.5

ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

Coupling Shim
5.0

ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ