Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
103.5K
ชม
35
บท

สายตาคมที่ยืนมองเหตุการณ์ในมุมลับตา การเสวนาระหว่างหญิงสาวที่เขาเพิ่งชนอยู่ในสายตาของเชคฮ บราฮิมตลอดหลังจากที่เขานั้นเดินออกมา เชคฮ บราฮิมดั่งถูกสาปให้นิ่งดั่งหินเมื่อเห็นใบหน้าหวานเสลา ดุจนางพญา ดวงตาคมของม่านฟ้าที่มองหน้าสบตาเขามันตราตรึงติดในดวงตาอย่างน่าจดจำ...^นางฟ้าเดินดิน^ เขาตราหน้าเธอในใจ "เราพอใจหญิงนางนั้น" เชคฮ บราฮิมเอ่ยบอก "ท่านหมายถึงใครหรือครับ" "นางฟ้าเดินดินคนนั้น" คำพูดที่ทำเอาเลขาอย่างราชิตถึงกับงวยงงเมื่อเจ้านายพร่ำบอก "คนที่ชนเราตอนเข้ามา" เชคฮ บราฮิมขยายความเมื่อเห็นแล้วว่าคนสนิทไม่เข้าใจ "เราต้องการเธอคนนั้น!" เสียงเข้มแผดดังหนักแน่นอย่างมุ่งมั่น "แต่กระผมเกรงว่า..." "อยากได้ก็คืออยากได้!...ไปสืบมาว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน แลกด้วยอะไรเราก็ยอม"

บทที่ 1 เจอครั้งแรกก็ถูกใจ

ม่านฟ้า

สาธารณะรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อาณาเขตดินแดนในฝันที่ใครหลายคนนั้นอยากไปเหยียบสักครั้งในชีวิต ด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ความมั่งคั่งของผู้คน ความตระการตาของตึกราบ้านช่อง วัฒนธรรมที่น่าศึกษาและสิ่งสวยงามของประเทศนี้ที่แตกต่างและหรูหรา

"สวยจัง" เสียงหวานของม่านฟ้าหญิงสาววัยสร้างตัววัยยี่สิบแปดที่ได้แต่นั่งมองรูปภาพ ชื่นชมทัศนียภาพแค่ภาพนิ่ง อยากให้สักวันมันเป็นความจริง ว่าเธอนั้นจะได้มีโอกาสสัมผัส ผืนทะเลทราย ที่ร้อนระอุแต่มันก็มีความงามในแบบของตัวมันเอง ที่ทำให้ม่านฟ้านั้นหลงใหล อยากจะไปสักครั้ง

ม่านฟ้า เป็นสาวโสดตัวคนเดียว ไร้ญาติพี่น้อง พ่อแม่ตายจากตั้งแต่เธอยังเด็ก มีเพียงยายคนเดียวที่ชุบเลี้ยงเธอมา แต่ต้องมาจากลาไปอย่างไม่มีวันกลับเมื่อปีที่แล้วด้วยโรคชรา ม่านฟ้าเป็นคนใจแข็ง เธอเลือกคบคน น้อยนักที่ใครจะกล้าเข้าหาเพราะหน้าตา ท่าทางเธอนั้นดูเย็นชา ม่านฟ้าชอบอิสระ ชอบท่องเที่ยว ชอบถ่ายรูป มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง แต่แอบดื้อเงียบ มีความมั่นใจในตัวเอง กล้าได้กล้าเสีย ม่านฟ้าทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มีเพื่อนที่สนิทกันแค่ไม่กี่คน เพราะเธอนั้นเลือกที่คบ มันมีสาเหตุให้เธอเป็นแบบนี้เพราะความไว้ใจของเพื่อนสมัยอนุบาล แต่ม่านฟ้ากลับถูกเพื่อนคนนี้หักหลัง จนม่านฟ้ากลายเป็นคนหยิ่งในสายตาคนอื่นเพราะเธอเฉยชากับการที่ต้องให้ใจใคร แต่ที่จริงเธอนั้นอ่อนไหวและใจดีเสียยิ่งกว่ากระไร

"เป็นอะไรยัยม่าน นั่งยิ้มคนเดียว" และนี่แหละเพื่อนสนิทไม่กี่คนของเธอที่พูดถึง 'เอย' เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่มารู้จักกันตอนที่ม่านฟ้ามาทำงานที่นี่ซึ่งเอยทำงานอยู่ก่อนแล้ว และมีแค่หล่อนคนเดียวที่กล้าเข้าหาม่านฟ้าจนกลายเป็นนั้นสนิทสนมกันจนถึงปัจจุบัน

"นี่...ฉันอยากไปที่นี่สักครั้งแก" ม่านฟ้าชี้โรงแรมแห่งหนึ่งที่มีลักษณะเป็นรูปเรือใบให้เอยดู เป็นโรงแรมที่ขึ้นชื่อและสวยงาม มีเอกลักษณ์ที่น่าตราตรึงแก่สายตา

"ฝันเฟื่องแล้วแกอะ" เอยดีดนิ้วดังเปาะอย่างดึงสติทำให้ม่านฟ้านั้นหลุดจากภวังค์ จากที่ยิ้มจนต้องหุบยิ้มทันทีเพราะเพื่อนสนิทนั้นดับฝัน

“ฝันอะไร...ฉันกำลังเก็บเงินอยู่ ฝันของฉันมันต้องเป็นจริงเว้ยเพื่อนรัก หุหุ” เสียงหวานหัวเราะขบขันอย่างมีความหวัง

“เป็นเอามากเพื่อนฉัน” เอยส่ายหัวและเปรยออกมาอย่างเอือมระอาในความฝันของม่านฟ้าที่พร่ำเพ้อออกทางสีหน้าชัดเจน

“แล้วนี่แกไม่มีงานมีการทำหรือไง...มาดับฝันฉันเนี่ย”

“มี!”

“แล้วทำไมไม่ไปทำ”

“ฉันขี้เกียจ”

“เออ...ง่ายดีเนอะ”

“ก็ฉันเป็นคนง่าย ๆ ผู้ชายก็ได้ ผู้หญิงก็ดี” เอยไหวไหล่และเอ่ยออกมาหน้าตาเฉย ไม่สะทกสะท้านกับคำพูดสักนิด

“ไม่มีคำบรรยาย...” ม่านฟ้าเอ่ยอย่างเอือมระอา จนเอยเพื่อนรักเดินออกไป ส่วนม่านฟ้าก็ก้มหน้ามองสถานที่ต่าง ๆ ในฝันที่เธอนั้นอยากจะไปด้วยความหวังที่มีเต็มเปี่ยม เพราะตั้งใจไว้แล้วว่า จะต้องไปให้ได้ในชีวิตนี้

“แล้วนี่แกจะรีบไปไหนม่านฟ้า รุกรี้รุกรนเชียว” เอยเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนสาวนั้นเก็บกระเป๋าอย่างร้อนรนเหมือนคนรีบร้อน

“อ๋อ ฉันจะไปบริษัททัวร์น่ะแก ต้องเอาพาสสปอร์ตไปให้เขา”

“ห๊า นี่แกเอาจริงหรอม่านฟ้า แล้ว แล้วนี่แกไปเตรียมการตั้งแต่ตอนไหนวะ” เอยถามขึ้นอย่างตกใจไม่คิดว่าสิ่งที่เพื่อนนั้นฝัน เธอแอบทำมันโดยที่ไม่ได้บอกให้เธอรู้สักนิด

“ก็เริ่มมาสักพักแล้วล่ะ”

“ทำไมฉันไม่รู้อะ”

“แกชอบบอกฉันฝัน ฉันเพ้อเลยไม่อยากบอก ตอนแรกก็ว่าจะเล่าให้ฟังนะ แต่พอเห็นแกบอกเมื่อกลางวันว่าฉันนั้นฝันเฟื่องเลยเปลี่ยนใจไม่เล่าให้ฟัง

“แกนะแก ปิดเพื่อนได้ แล้วนี่จะไปเมื่อไหร่ล่ะ” เอยเมื่อไม่มีคำจะพูดต่อ เพราะสิ่งที่ม่านฟ้านั้นบอกเธอพูดดับฝันเพื่อนจริง ๆ

“อาทิตย์หน้าออกเดินทางและฉันก็ยื่นแจ้งลาพักร้อนไว้แล้ว” ม่านฟ้าบอกกล่าวให้เอยรับรู้ เพราะการไปตามฝันในสถานที่ใฝ่ฝันนั้นต้องไปหลายวัน และบ้านหลังเดียวที่เป็นมรดกส่งต่อมาจากยายเธอต้องอาศัยวานให้เอยดูแลให้ในช่วงที่เธอไม่อยู่

“เร็วจังวะ”

“ก็ฉันเตรียมตัวไว้นานแล้ว แค่ไม่บอกแกแค่นั้นเองเพื่อนรัก”

“ฉันมองแกพลาดมากม่านฟ้า”

“ฮ่าฮ่าฮ่า...ถ้าฉันตั้งใจนะเอยไม่ว่าเรื่องยากแค่ไหนฉันก็ต้องทำมันให้ได้ ไปกับฉันด้วยไหมล่ะ”

“ไม่ไปอะ...แต่คืนนี้อย่าลืมนัดนะ เดี๋ยวฉันเป็นเจ้ามือเอง”

“โอเคจ้ะ”

....ยามราตรีที่แสนครึกครื้นแต่เวลากลางคืนแบบนี้บางคนอาจจะเข้าสู่ของการหลับใหลอย่างสบายใจ แต่มันไม่ใช่สำหรับสองสาวงามอย่างม่านฟ้าและเอย ที่กำลังเชยชมเหล่าผีเสื้อตัวผู้และตัวเมียร่ายท่าทางประกอบกับเสียงเพลงที่แสนเร้าใจ มือบางถือแก้วเครื่องดื่มโยกเบา ๆ ไปมา สายตาก็กวาดมองโดยรอบบริเวณแต่สายตาของม่านฟ้าได้สบตามองกับใครบางคนที่จ้องมาทางเธอเช่นกัน ชายคนนั้นส่งยิ้มให้เธอแต่ม่านฟ้าก็ไม่ได้สนใจ ละสายตามองไปทางอื่นทันที ท่าทางแบบนี้ที่เธอเป็นประจำและคงไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

“ให้เกียรติดื่มกับผมสักแก้วจะได้ไหม?” ชายคนนั้นเดินมายืนตรงข้ามม่านฟ้าและเอ่ยทักอย่างร้องขอ

“..................” ม่านฟ้ามองนิ่งจ้องมองชายตรงหน้าแต่ก็ไม่พูดจาอะไร

“แก” เอยสะกิดแขนม่านฟ้าอย่างบอกกล่าวเมื่อเพื่อนนั้นเอาแต่นิ่งเงียบไม่สนใจ

“อะไร” ม่านฟ้าตอบเพียงสั้น ๆ

“เขาคุยกับแกอะ” เอยบอกพร้อมส่งยิ้มเป็นการทักทายชายตรงหน้า “นั่งก่อนสิคะ”

“ขอบคุณครับ” ชายคนนั้นนั่งลงตรงข้ามกับม่านฟ้า สายตาที่มองม่านฟ้าอย่างหยาดเยิ้มแต่เธอไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย “ผมชื่อครรชิตนะครับ...จะเป็นอะไรไหมถ้าวันนี้ผมขอเป็นเจ้ามือ” ครรชิตเสนอตัว

((ไม่ค่ะ/ยินดีค่ะ)) คำแรกม่านฟ้าพูด คำต่อมาเอ่ยบอกกล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่ต้องหุบยิ้มลงเมื่อเพื่อนไม่เล่นด้วยเอยจึงส่งสายตาขึงตึงใส่ม่านฟ้าอย่างส่งสัญญาณว่าเธอนั้นอุตส่าห์จะรอดพ้นจากการเป็นเจ้ามือในค่ำคืนนี้แต่ทำไมเพื่อนต้องเป็นหนาม

“แหะ ๆ” เมื่อทำอะไรไม่ได้เมื่อสายตาของม่านฟ้านั้นส่งสัญญาณบอกกล่าวว่าเอยควรอยู่นิ่ง ๆ

“คงไม่เป็นไร ขอบคุณค่ะเรามีเงินเลี้ยงตัวเอง...ไปกลับกันได้แล้วเอย” ม่านฟ้าวางแก้วเครื่องดื่มแล้วลุกพรวดจากโต๊ะนั้นทันทีโดยไม่รีรอให้เอยนั้นได้มีโอกาสเอ่ยปากถามหรือตอบโต้ใด ๆ

“ม่านฟ้า!” เอยตวาดเสียงดังในรถเมื่อเพื่อนไม่ได้ดั่งใจ

“ตะคอกเสียงดังทำไม” ม่านฟ้าไม่ได้ใยดีเสียงแค่นี้ไม่สะทกสะท้านหูเธอหรอก

“แกทำให้เราชวดกินฟรี” เอยนั่งหน้างอมือกอดอกพูดพร่ำ

“ของฟรีไม่มีในโลก มันอาจจะคิดไม่ดีกับเราก็ได้นะเอย” ม่านฟ้าชี้แจง “เราเป็นผู้หญิงมาเที่ยวแบบนี้จะเห็นแก่กินฟรีไม่ได้ต้องนึกถึงความปลอดภัยของตัวเองก่อน”

“มันก็ใช่อะ ฉันคิดน้อยไป งั้นเรากลับบ้านกันดีกว่า”

ครรชิต

ท้องฟ้าที่แสนสดใส แสงแดดเจิดจ้าร้อนระอุของเมืองไทย สาวไทยผิวสองสีกำลังย่างกรายเรียวขายาวสวยเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้เธอจะไปทำตามฝันที่ตั้งใจ ม่านฟ้าทำการลาพักร้อนด้วยสิทธิ์ที่เธอนั้นมี วันนี้เธอจะได้เหยียบผืนดินที่ใฝ่ฝันมานาน

"เดินทางดีๆ นะแก" เอยเพื่อนสนิทมาส่งม่านฟ้ายังสนามบินเพื่อเดินทางไปยังที่หมาย สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์

"ขอบใจนะเอย...ที่มาส่ง" ม่านฟ้าขยับเข้าไปกอดเอยอย่างขอบคุณ

"เที่ยวให้สนุกนะแก...ฝันกำลังเป็นจริงแล้ว"

"อืม...ฝากดูแลบ้านด้วยนะ รดน้ำต้นไม้ให้ด้วย" ม่านฟ้าละกอดจากเอย และเอ่ยฝากฝังดูแลบ้านที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ยายทิ้งไว้ให้ก่อนลาลับจากโลกไป

เสียงเครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าที่แสนกว้างใหญ่ไพศาล แพรก้อนเมมฆสีขาวสะอาดตาหนากระทบกับแสงแดดจ้า ส่องประกายระยิบระยับ เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติช่างสรรค์สร้างขึ้นมาเสียจริง สายตาคมจ้องมองความงามบนท้องฟ้ารอยยิ้มและหัวใจเต้นตุบ ๆ

...บริษัททัวร์ที่ม่านฟ้าเลือกใช้บริการก็ดูแลดีเสียจริง การเดินทางที่ไร้คนรู้จัก ก็ไม่ยักจะเป็นอุปสรรคต่อม่านฟ้าเลยสักนิด

"สวัสดีครับ" เสียงหนึ่งดังขึ้นจนเธอต้องละสายตาหันมามองตามเสียง ชายคนที่นั่งข้างๆ เอ่ยเรียก เขาคือหนึ่งในคนที่ร่วมทริปในครั้งนี้

"ค่ะ" เสียงนิ่งตอบกลับเพียงสั้น ๆ

"ผมชื่อครรชิต มากับทัวร์กรุ๊ปที่จะไปดูไบ" ชายวัยกลางคนที่นั่งข้าง ๆ ม่านฟ้าแนะนำด้วยท่าทีเป็นมิตรเพราะเธอคนนี้เขาเคยเจอมาก่อนหน้าแล้วแต่เธอนั้นแสดงท่าทีไม่ได้อยากรู้จักเลยสักนิด แต่ก็เอาเถอะอย่างน้อยก็มีเพื่อนร่วมทริปแล้วกัน

"อ่อค่ะ...ฉันม่านฟ้า"

"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ"

"ค่ะ...ว่าแต่คุณหน้าคุ้น ๆ นะคะ"

“อย่างนั้นเหรอครับ” ครรชิตตีหน้าซื่อตอบแบบอมยิ้มอ่อนเมื่อสิ่งที่เธอนั้นบอกแม้จะจดจำไม่ได้ แต่อย่างน้อยเธอก็ยังแสดงความคุ้นหน้า

การสนทนาแนะนำตัวเริ่มขึ้น ครรชิตที่สังเกตเห็นม่านฟ้าที่คุ้นหน้าคร่าตาตั้งแต่คืนที่พบเจอกันในสถานบันเทิงที่บังเอิญเจอ ความต้องตาเริ่มก่อตัวจนอยากรู้จัก หญิงสาวผู้มักมีใบหน้าไร้รอยยิ้ม ไม่รู้อะไรที่ทำให้ครรชิตหนุ่มหน้าตาดีต้องตาต้องใจได้ ครรชิตเป็นเจ้าของบริษัททัวร์นี้ และครั้งนี้เขาก็มาดูแลลูกค้าด้วยตัวเองแต่ไม่รู้ว่ามันคือโชคชะตาหรือเปล่าที่ทำให้เขานั้นพบสาวคนนี้ที่ถูกใจเขาเพียงสายตาแรกที่พบเห็นแบบชัดเจน เพราะคืนที่เจอกันเขามองเธอผ่านม่านไฟสลัวเท่านั้น ไม่คิดว่าเมื่อเจอเธอแบบจัง ๆ เธอจะถูกใจยิ่งกว่า...

ครรชิตพยายามพูดคุยกับสาวเจ้าที่โลกส่วนตัวค่อนข้างสูง คำถามที่ครรชิตถามยาวเหยียด แต่คำตอบจากสาวเจ้าที่ตอบกลับนั้นช่างแสนสั้นนัก แต่ครรชิตก็ไม่ลดละความพยายาม เพราะเธออาจจะระแวดระวังตัวจากคนไม่คุ้นหน้า และม่านฟ้าก็ยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วครรชิตคือเจ้าของบริษัททัวร์ที่เธอกำลังใช้บริการอยู่

"คุณม่านฟ้า..."ครรชิตเอ่ยถาม

"คะ ?"ม่านฟ้าตอบรับสั้น ๆ

"รับอาหารว่างไหมครับ” เมื่อการเดินทางมานานพอสมควรจนพนักงานบริการบนเครื่องบินเข็นรถเข็นที่มีน้ำและอาหารมาบริการ ครรชิตจึงเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นม่านฟ้าไม่มีทีท่าขยับกายไปไหนหรือต้องการอะไรสักอย่าง ความเป็นสุภาพบุรุษจึงก่อตัว

"ไม่เป็นไรค่ะ" ม่านฟ้าตอบปฏิเสธและก้มหน้าอ่านหนังสือที่เธอนั้นชอบพกติดตัวตลอดเวลามาด้วย นิยายเล่มโปรดที่เธอยังอ่านค้างไม่จบ

"ต้องการอะไรบอกได้นะครับ"ครรชิตเสนอตัวให้ความช่วยเหลือ และเขาก็ยินดีหากเธอจะเรียกให้เขาบริการ

"ค่ะ"ม่านฟ้าตอบรับพร้อมส่งยิ้มอ่อน จนคนที่ได้มองนั้นหัวใจแทบหลอมละลาย

เชคฮบราฮิม

"วันนี้เรามีภารกิจที่ไหนบ้าง ราชิต" ทายาทผู้นำรัฐเอ่ยถามเลขาคนสนิทถึงภารกิจที่ต้องทำ ตามที่ท่านผู้นำรัฐมอบหมายให้

"ท่านจะต้องต้อนรับแขกคนสำคัญด้วยตนเองที่สนามบินครับ...และเลี้ยงรับรองในมื้อเย็น เป็นอันเสร็จภารกิจของวันนี้ครับ" ราชิตร่ายยาวถึงภารกิจที่เชคฮบราฮิมต้องทำ

"ทานข้าวอย่างนั้นหรือ...ใครกันแขกสำคัญ เรื่องนี้เราไม่เห็นรู้ล่วงหน้า"

"ท่านผู้นำสั่งมาแบบกะทันหันครับ ต้องขออภัยที่รายงานช้า" ราชิตเลขาคนสนิทโค้งคำนับอย่างนอบน้อมเป็นการขอโทษขอโพย แต่แท้จริงแล้วราชิตทำโดยคำสั่งท่านผู้นำรัฐต่างหากที่สั่งเข้มไว้ เพราะหากบอกกล่าวล่วงหน้าบุตรชายทายาทคงปฏิเสธภารกิจนี้เป็นแน่

เชคฮบราฮิม ทายาทลำดับต่อไปต่อจากท่านผู้นำแห่งรัฐชาร์จาห์ ที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรอาหรับบนอ่าวเปอร์เซีย ที่มีประชากรนับหลายแสนคน เป็นจุดศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมที่มั่งคั่ง ผู้คนมากมายทั้งนักธุรกิจชาวต่างชาติและนักธุรกิจในอาหรับ ที่ต้องการร่วมลงทุนกับธุรกิจของชาร์จาห์ แต่ก็ไม่ง่ายนักเลยที่

เชคฮบราฮิมผู้เคร่งครัดและมีแบบแผนจะยอมร่วมลงทุนด้วยง่าย ๆ หากผลที่ได้นั้นไม่มากพอจนเป็นที่น่าพอใจ

เชคฮบราฮิม ผู้ที่ทรงเสน่ห์ด้วยมาดขรึม แววตาดุดันคมเฉี่ยวดุจพญาเหยี่ยวที่เฉิดฉายบนท้องฟ้า เป็นที่ต้องตาของหญิงสาวชาวอาหรับ แต่ทุกนางกลับถูกเชคฮบราฮิมนั้นปฏิเสธ เพียงเพราะยังไม่อยากผูกมัดกับหญิงใด หากไม่ใช่คนที่หมายตาและถูกใจจริง ๆ

^^^^^^^^^^^^^^^

...ผืนแผ่นดินอาหรับที่อาบล้อมด้วยความงดงามทางวัฒนธรรมและสิ่งก่อสร้างตระการตา สายตาคมของม่านฟ้ามองตึกสูงระฟ้าและสิ่งรอบกายอย่างสนอกสนใจ เธอชื่นชอบและหลงใหลที่นี่เสียแล้ว

"ทุกคน....เดี๋ยวคืนนี้เราจะพักกันที่โรงแรมBurj Al Arab(บุรจอัลอาหรับ) กันนะครับ เป็นโรงแรมที่หรูหราระดับเจ็ดดาวและเป็นสัญลักษณ์แห่งดูไบ” เสียงเข้มสุขุมดังขึ้น เมื่อหันมองไปก็เป็นเสียงของครรชิตที่เปร่งออกมาเพื่อบอกกล่าวลูกทัวร์

((ว้าว))

"ทำไม...?" ม่านฟ้าจ้องมองไปยังครรชิตด้วยความสงสัย และส่งสายตาอย่างเป็นคำถามเมื่อครรชิตนั้นมองมาและส่งยิ้มให้

"ผมขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ...ผมชื่อครรชิต เป็นคนดูแลทุกท่านตลอดทริปนี้ และ...เป็นเจ้าของบริษัททัวร์นี้ครับ"

((ว้าว)) เสียงโห่ร้องของลูกทัวร์ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อครรชิตแนะนำตัวจบลง แน่นอนสิเพราะครรชิตหนุ่มหน้าตาดีจะเป็นคนดูแลและบริการพาเที่ยว สาวที่ไหนจะไม่กรี๊ดจริงไหม?

การจัดทริปท่องเที่ยวที่แสนจะพิเศษ เรียกได้ว่าระดับราชนิกูลเลยทีเดียว ด้วยราคาทัวร์ต่อคนนั้นเหยียบแสนกว่าบาทและลูกทัวร์แค่ไม่กี่คนเท่านั้น ก็ไม่แปลกหากเจ้าของบริษัทฯ จะลงมาดูแลความเรียบร้อยเอง

ม่านฟ้าที่ได้แต่ยืนมองครรชิตด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ท่ามกลางเสียงตื่นเต้นของสาว ๆ หลายคน ใช่แล้วล่ะสาวๆ เพราะทริปนี้ไม่มีคนแก่หรือเด็กสักคน แต่ม่านฟ้าหาได้สนใจไม่ แค่ตกใจกับการได้ยินและรับรู้ครั้งแรกเท่านั้น ทุกอิริยาบถจึงเข้าสู่ปกติดังเดิม

เมื่อผู้นำทัวร์ชี้แจงรายละเอียดห้องพัก คู่ที่ต้องนอนร่วมกันตลอดทั้งทริปและทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งหมดจึงมุ่งตรงสู่โรงแรมที่พัก ม่านฟ้าเกิดอาการประหม่าและตื่นเต้นแต่เก็บอาการ เธอจ้องมองรูปภาพของโรงแรมในฝันและตอนนี้มันกำลังจะกลายเป็นความจริง

ความหรูหราตระการตาภายในโรงแรมจนแทบไม่อยากจะละสายตา ความสวยงามที่ฉาบแต่งอย่างอลังการ ม่านฟ้าเดินก้าวขาอย่างช้า ๆ สายตาก็กวาดมองโดยรอบอย่างตะลึงในความสวยงาม และสิ่งก่อสร้างนี้ โดยที่เธอนั้นไม่ได้มองทางสักนิด เพราะหลงใหลกับสิ่งตรงหน้าจนไม่อาจละสายตาลงได้จริง ๆ

"สวยจริง ๆ" สายตาคมแหงนมองพื้นเพดานสีทอง ถูกตกแต่งด้วยไฟระย้าสวยงามพวงใหญ่ ตุ๊กตาพลทหารน่ารักยืนเรียงเป็นชั้น ๆ จนม่านฟ้านั้นอดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องมาถ่ายรูปเก็บไว้ในความทรงจำ "โอ๊ะ!..." ด้วยความไม่ทันระวัง ม่านฟ้าถอยหลังเพื่อมุมถ่ายรูปที่ต้องการ จนแผ่นหลังบางนั้นชนกระทบเข้ากับของแข็งบางอย่างจึงรีบหันกลับไปมองทันที "ขอโทษค่ะ" ม่านฟ้ารีบก้มหัวและพูดขอโทษเป็นภาษาอังกฤษทันทีตามวิสัยของคนไทยที่มักนอบน้อมเสมอไม่ว่าอยู่ที่ใดก็ตาม

ชายตรงหน้าที่มีใบหน้าคมเข้ม หล่อเหลา ในแบบฉบับชาวตะวันออกกลาง เปรียบเหมือนมนตราที่สะกดม่านฟ้าให้จ้องมองอย่างไม่อาจละสายตาได้อย่างกับโดนมนตร์ดำสะกดไว้

...ไร้เสียงตอบกลับจากฝ่ายตรงข้ามแม้ม่านฟ้าจะเอ่ยขอโทษออกไป มีเพียงสายตาคมดุดันเท่านั้นที่มองมาพร้อมใบหน้าที่นิ่งเรียบ

"ขอโทษอีกครั้ง...ฉันไม่ได้ตั้งใจ" ม่านฟ้ารีบกล่าวตามมารยาทอีกครั้งเป็นภาษาอังกฤษเมื่อดึงสติกลับมาให้หลุดจากภวังค์ขอบใบหน้าหล่อเหลานั้น "คุณคะ...อ๊ะ!!" มือบางยื่นออกไปหวังจะสะกิดชายตรงหน้า เพราะม่านฟ้าพูดออกไปหลายประโยคแต่กลับไร้น้ำเสียงโต้ตอบกลับมา มีเพียงสายตาคมที่มองมายังเธอเท่านั้น มือบางหวังสัมผัสเพื่อให้ให้ชายตรงหน้าโต้ตอบ เพราะเขานั้นนิ่งเหลือเกินอย่างกับหยุดหายใจ แต่ก็โดนชายชุดสูทสีดำปัดมือบางนั้นออกไปอย่างแรง

ชายคนนั้นเพ่งสายตาคมไปมองชายชุดดำที่ยืนขนาบข้าง พูดเสียงเข้มแต่ม่านฟ้าฟังไม่ออกด้วยภาษาที่เขาใช้กันนั้นไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เธอจึงได้แต่ยืนมองอย่างงวยงง

((คุณม่านฟ้า)) เสียงเรียกชื่อที่ดังขึ้นทำให้ม่านฟ้าเบนสายตาไปยังต้นเสียง ครรชิตที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งมายังเธอก่อนจะหยุดยืนข้าง ๆ และมองชายคนนั้นที่ยืนอยู่ก่อนหน้า ม่านฟ้างงว่าทำไมเขาไม่พูดอะไรหรือเดินจากไปเสียที หรือเขาเคืองโกรธที่เธอนั้นเผลอชนเขาเข้า

"คุณครรชิต คือฉันชนเขาค่ะ แต่....อ้าว~~~" ม่านฟ้ากำลังแถลงเหตุการณ์เล่าสู่ครรชิตฟัง หวังให้ครรชิตถามไถ่ให้ แต่ไหนเลยชายคนนั้นกลับเดินจากไปทันทีทั้งที่ก่อนหน้าก็นิ่งอยู่นาน แต่ก็ช่างเถอะเขาไม่เอาเรื่องก็ดีถมไปแล้ว

"เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณม่านฟ้า" ครรชิตเอ่ยถาม

"ไม่เป็นไรค่ะ" ม่านฟ้าตอบกลับ

"พอดีผมจะมาตาม...บัดดี้ที่จะนอนห้องเดียวกับคุณม่านฟ้ารอเข้าห้องพักอยู่ครับ"

"อ่อ...ขอโทษนะคะ ฉันเดินเพลินไปหน่อย"

"ไม่เป็นไรครับ...ไปกันเถอะเดี๋ยวผมเดินไปส่ง"

"ขอบคุณค่ะ" ม่านฟ้าส่งยิ้มให้ครรชิตและเอ่ยขอบคุณ ทันทีที่รอยยิ้มหวานผุดขึ้นบนใบหน้าเสลา ครรชิตนั้นปลื้มปริ่ม ยิ้มกริ่มในใจ รอยยิ้มหวานสดใสที่มองทีไรเป็นต้องทำให้หัวใจครรชิตนั้นสั่นไหวทุกครา

“คุณม่านฟ้ามาเที่ยวคนเดียวหรือครับ” ระหว่างทางที่เดินไปส่งหญิงสาว ครรชิตเอ่ยถามขึ้นเพื่อสยบความเงียบ เพราะม่านฟ้าดูท่าแล้วคงไม่มีทางพูดกับเขาก่อนเป็นแน่

“อ๋อใช่ค่ะ”

“ไม่เหงาหรือครับ ปกติผมเห็นผู้เขาไม่ค่อยไปไหนมาไหนคนเดียว” ครรชิตถามอย่างสงสัยเพราะเท่าที่รู้จักผู้หญิงแทบไม่เจอเลยคนแบบม่านฟ้า มาต่างถิ่นแบบนี้จะมาเพียงลำพัง

“ไม่หรอกค่ะ อีกอย่างฉันไม่ค่อยชอบความวุ่นวายเท่าไหร่ มาคนเดียวก็สบายใจดีค่ะ” ประโยคแรกตั้งแต่เดินทางร่วมกันมาที่ม่านฟ้าพูดกับเขายาวเหยียด จนครรชิตนั้นแสดงออกทางสีหน้าด้วยยิ้ม “ยิ้มอะไรเหรอคะ ? ฉันพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ”

“เปล่าครับ ผมแค่แปลกใจส่วนมากไม่ค่อยมีผู้หญิงที่จะคิดแบบคุณเท่าไหร่” ครรชิตบอกอย่างเขินอายเมื่อถูกจับได้เพียงรอยยิ้มบนใบหน้า

“แฟนหรือคะ ?”

“ผมยังไม่มีใครครับ” ครรชิตรีบพูดทันทีเมื่อคำถามออกจากปากของม่านฟ้า หญิงสาวที่หมายตาตั้งแต่แรกเห็น “ถึงห้องพอดีครับ”

“ขอบคุณที่เดินมาส่งนะคะ” ม่านฟ้าส่งยิ้มอ่อน ๆ พร้อมเอ่ยของคุณ

“พักผ่อนให้สบายนะครับ แล้วพบกันใหม่พรุ่งนี้เช้า”

“ค่ะ”

“คุณม่านฟ้าเข้าห้องเถอะครับ” ครรชิตบอกและม่านฟ้าก็ส่งยิ้มสุดท้ายของค่ำคืนนี้แก่ชายตรงหน้าก่อนจะเคาะห้องพักแล้วเดินหายลับเข้าไปทิ้งไว้เพียงรอยยิ้มที่มันยังคงฝังในใจของครรชิตให้นอนหลับฝันดีในคืนนี้เท่านั้น....

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ พลอยแก้ว

ข้อมูลเพิ่มเติม
กรงรักราชาโจร

กรงรักราชาโจร

มหาเศรษฐี

5.0

แค้น ที่ฝังใจทำให้เธอต้องถูกจองจำ และรับผลกรรมทั้งที่ไม่ได้เป็นคนเริ่ม! ***** "ก็แค่เชลยไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น" "แต่ฉันก็มีหัวใจนะคะ...ฉันมีความรู้สึกและเจ็บปวดเป็น" "เป็นเช่นรึ? ฮึ! ความรู้สึกของเธอไม่ได้มีผลสำหรับเรา.,." "หยาบช้าสิ้นดี!" "เทียบเท่าไม่ได้กับสิ่งคาว ๆ ที่พ่อเธอทำ" "พวกแกมันระยำ!" "เราทำได้มากกว่าจุดไฟเผาทั้งเป็นอีก.,.หรือเธออยากจะลอง" จอมโจรทรนงผู้คนขนานนามถึงความโหดร้าย เหี้ยมโหด ชายโฉดที่พรากพรหมจรรย์ของเธอ 'จัสซีเนีย' เธอเสียความสาวให้เขา 'จาห์มาล์' ผู้ชายป่าเถื่อนในแถบทะเลทราย สถานที่กบดานอันแสนไกล ที่ไม่มีใครอยากเข้าไปใกล้ ภายใต้ชายคาของกรงขัง หัวใจดวงน้อยของจัสซีเนียถูกย่ำยีด้วยแรงราคะของความเคียดแค้น ตัวแทนแรงอาฆาตที่เธอไม่ได้กระทำ แต่ต้องรับผลกรรมแทนผู้เป็นพี่อย่างจำยอม.....ด้วยฝีมือของราชาโจร!

หนังสือที่คุณอาจชอบ

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

หงส์ขย่มมังกร(นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่)

หงส์ขย่มมังกร(นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่)

ซีไซต์
5.0

รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ซีไซต์
5.0

หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...

ทัณฑ์อสุรา

ทัณฑ์อสุรา

เพลงมีนา
5.0

นางเป็นฮูหยินที่ถูกต้อง แต่เขากลับเฉยชาใส่ มีเพียงบนเตียงเท่านั้นที่เขาเร่าร้อนจนนางแทบมอดไหม้ จ้าวจื่อรั่วอายุเพียงสิบหกปีเป็นลูกอนุของเสนาบดีสกุลจ้าว ถูกสับเปลี่ยนตัวมาเป็นเจ้าสาวมาแต่งงานกับแม่ทัพที่ชายแดนใต้ กู้ตงหยางบุรุษหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีฉายาแม่ทัพปีศาจที่แสนเหี้ยมโหด "เจ้าติดค้างข้า ไม่ว่าจะเล่นลิ้นอย่างไร เจ้าย่อมรู้ดีว่าสกุลจ้าวปลิ้นปล้อน เจ้าอย่าได้หวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเลย" พูดจบชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่นั่งเพียงลำพัง แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็อดเศร้าใจไม่ได้ ชีวิตนางจะได้พบความสุขเช่นคนอื่นบ้างไหม.

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

Gilbert Soysal
5.0

"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เสน่หามนตรา
1

บทที่ 1 เจอครั้งแรกก็ถูกใจ

20/04/2022

2

บทที่ 2 ต้องการพบเธอ

20/04/2022

3

บทที่ 3 ปราบพยศ

20/04/2022

4

บทที่ 4 เป็นใครไม่สำคัญ

20/04/2022

5

บทที่ 5 อยู่กับผมตลอดไปซะสิ

20/04/2022

6

บทที่ 6 เป็นของผมคนเดียว

20/04/2022

7

บทที่ 7 ต้องการเพียงคุณ

20/04/2022

8

บทที่ 8 เป็นห่วง

20/04/2022

9

บทที่ 9 ขอโทษจากใจ

20/04/2022

10

บทที่ 10 พยายามที่จะทำให้ได้

20/04/2022

11

บทที่ 11 ฮาฟีส

20/04/2022

12

บทที่ 12 ช่วยพี่ชาย

20/04/2022

13

บทที่ 13 ช้าไปใช่ไหม

20/04/2022

14

บทที่ 14 เดือดดาลโวยวาย

20/04/2022

15

บทที่ 15 เป็นกังวล

20/04/2022

16

บทที่ 16 ไม่มีทางอื่นแล้วหรือไง

20/04/2022

17

บทที่ 17 ขอจูบได้ไหม

20/04/2022

18

บทที่ 18 คิดผิดไปหรือเปล่า

20/04/2022

19

บทที่ 19 เป็นของกันและกัน

20/04/2022

20

บทที่ 20 คู่กัดที่ต้องร่วมเส้นทางเดียวกัน

20/04/2022

21

บทที่ 21 ความผิดพลาดของอาฟียา

20/04/2022

22

บทที่ 22 คนงอแงต้องโดนลงโทษ

20/04/2022

23

บทที่ 23 ศัตรูหัวใจมาเหยียบถิ่นถึงที่

20/04/2022

24

บทที่ 24 เริ่มมีอาการอีกครั้ง

20/04/2022

25

บทที่ 25 รักลงเอย

20/04/2022

26

บทที่ 26 การเสื่อมคลายของมนตรา

20/04/2022

27

บทที่ 27 ทวงสัญญา

20/04/2022

28

บทที่ 28 กลัดกลุ้ม

20/04/2022

29

บทที่ 29 วิธีที่สกปรกและต่ำช้า

20/04/2022

30

บทที่ 30 อยู่เพราะรัก

20/04/2022

31

บทที่ 31 ทายาทของตระกูล

20/04/2022

32

บทที่ 32 เรื่องที่ไม่คาดคิด

20/04/2022

33

บทที่ 33 ลูกของคนที่เกลียด

20/04/2022

34

บทที่ 34 คนหนึ่งสะใจอีกคนแทบขาดใจ

20/04/2022

35

บทที่ 35 มันคือความสุข

20/04/2022