คุณกู้ คุณนายทอดทิ้งท่านไปแล้ว
เมียผมน่ารักจัง
สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน
อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก
ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง
โชคชะตาของพระชายา
เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ
ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย
รักใหม่พันล้าน
ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ
ทะเลทรายสีทองอันร้อนระอุ ไอแดดเต้นรำระริกไหวอยู่ในอากาศ ผืนทรายที่สะท้อนเงาแดดทอดยาวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาจรดแผ่นฟ้าสีสวย ทัศนียภาพสุดแสนน่าอภิรมย์ แต่กระนั้นก็ไม่อาจซ่อนเร้นความโหดร้ายของแห่งดินแดนทะเลทรายให้เลือนหายไปจากสายตาได้เลยแม้แต่น้อย เฉกเช่นเดียวกับความเวิ้งว้าง เดียวดายที่ปรกคลุมผืนทรายไม่เคยแปรเปลี่ยน
พระราชวังใหญ่สีขาวที่สร้างสรรค์ขึ้นจากหินอ่อนเนื้อดีงามจับตา ตั้งอยู่ใจกลางโอเอซิสขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศความาร์ แม้จะอยู่ท่ามกลางทะเลทรายที่ถูกแสงแดดยามเที่ยงวันแผดเผา แต่ก็ดูเหมือนมันจะเย็นฉ่ำใจมากเสียกว่าภายในพระราชวังที่ติดแอร์ชั้นดีเสียอีก เพราะตอนนี้เจ้าชายฮิมราน บิน ฮาเซม อัล-ราชิด กำลังเกรี้ยวกราดใส่อำมาตย์คนสนิทที่กำลังนั่งก้มหน้าจ้องมองพื้นด้วยความหวั่นเกรง
“ท่านหาทางออกให้เราไม่ได้จริงๆ ใช่ไหม”
เสียงคำรามด้วยความเดือดดาล จากเรือนกายสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดประจำชาติสีดำยกด้วยดิ้นทอง เสื้อตัวในสีขาวเป็นแบบคอตั้งมีกระดุมเม็ดสวยสีเดียวกันกับตัวเสื้อเรียงรายลงไปตามสาบเสื้อจนถึงเอว ชายเสื้อปล่อยยาวกรอมเท้า บนศีรษะประดับด้วยผ้าคลุมหน้าตาหมากรุกสีขาวคาดทับด้วยเสวียนเชือกสีดำที่ทำจากไหมชั้นดี ที่กำลังเดินย่ำเท้าไปมาบนพรมเปอร์เซียหนานุ่ม ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความขัดเคือง
“หม่อมฉันคิดหาทางออกยังไม่ได้เลยพ่ะย่ะค่ะ เพราะดูจากสัญญาที่พระราชินีทรงทำไว้ก่อนสิ้นพระชนม์นั้นรัดกุมอย่างมาก ไม่มีช่องโหว่เลยพ่ะย่ะค่ะ”
อำมาตย์สูงวัยก้มหน้า กราบทูลเจ้าชายเสียงสั่น เพราะใครก็ตามที่อยู่ในพระราชวังนี้ไม่มีผู้ใดไม่รู้จักเกียรติศัพท์ความร้ายกาจของอารมณ์โกรธของเจ้าชายฮิมรานแม้แต่คนเดียว แม้ต้องให้ไปตายในพายุทะเลทรายยังดีเสียกว่าต้องเผชิญหน้ากับพายุแห่งโทสะของชายสูงศักดิ์ตรงหน้า
“ไม่มีช่องโหว่อย่างนั้นหรือ...” ฮิมรานหัวเราะเยาะออกมา ดวงตาคมกล้าเจิดจรัสไปด้วยกองเพลิงนับล้านกอง ก่อนจะตวาดออกมาอีกจนอำมาตย์สูงวัยตัวสั่น
“ยังไงฉันก็ต้องแต่งงานกับแม่ผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนั้นใช่ไหม?!”
“พ่ะย่ะค่ะ” จบคำพูดสั่นๆ ของอำมาตย์วัยชรา ฮิมรานก็ตบโต๊ะทำงานโบราณที่ทำด้วยไม้ขัดมันสุดหรูเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แม้ภายในใจจะรู้สึกเกลียดตัวเองยิ่งนักที่ไม่อาจระงับอารมณ์ส่วนต่ำเอาไว้ได้
เจ้าชายรูปงามขบกรามแกร่งจนขึ้นสัน ดวงตาคมกล้าสีน้ำตาลเข้มกร้าวขึ้นอย่างน่ากลัว ภาพสาวน้อยใบหน้างดงามลอยเข้ามาในความคิด ร้อยดาว...
ฮิมรานยังจดจำเรือนร่างอรชรในชุดแซกสีฟ้าสะอาดตาที่เซถลาเข้ามาในอ้อมแขนของเขาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวนั้นได้เป็นอย่างดี กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกายสาวยังติดจมูกเขาไม่ลบเลือน
ดวงตากลมโตสีดำขลับราวกับราตรีแห่งรัตติกาลนั้นเบิกกว้างอย่างตกใจ เรียวปากอิ่มเต็มสีแดงราวกับผลเชอรี่สุกเผยอออกจากกันอย่างลืมตัว เขาจำได้ดีว่าตัวเองนั้นตะลึงงันกับภาพสาวงามตรงหน้าอยู่นานแค่ไหน
ก็ใช่น่ะสิ... เขายอมรับอย่างไม่มีข้อแม้เลยว่าหล่อนนั้นสวยสดงดงามหาหญิงใดเปรียบได้ยาก ผมยาวสีดำสนิทปล่อยเหยียดตรงสลายอยู่กลางแผ่นหลัง และนั่นก็คือสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับเขายิ่งนัก เพราะปกติคู่ควงแต่ละคนของเขาจะเป็นแม่สาวจากฝั่งยุโรป หรือไม่ก็อเมริกาซะส่วนใหญ่ ไม่เคยสักครั้งเดียวที่เขาจะชายตามองผู้หญิงเอเชียอย่างเช่นหล่อน แต่ความสวยงามจอมปลอมนั่นก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงจิตใจที่แน่วแน่ของเขาได้ เพราะเขาไม่ต้องการแต่งงานกับหล่อน เขามีปัญญาแสวงหาผู้หญิงที่คู่ควรจะเป็นแม่ของลูกตัวเองได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ใครมาบงการ แม้กระทั่งมารดาเลี้ยงของตนเอง
เจ้าชายหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีตของตนอีกครั้ง รอยยิ้มกระด้าง ดุดัน ระบายออกมาบนใบหน้าหล่อเหลือร้ายนั้นช้าๆ ดวงตาคมกล้าดุจพญาเหยี่ยวเพ่งมองออกไปนอกหน้าต่างกระจกชั้นดี ทอดสายตาไปยังสวนสวยทรงยุโรปที่ได้รับการตัดแต่งและดูแลอย่างดียิ่ง
บิดาของเขา ท่านชีคฮาเซม อัล-ราชิด ผู้ที่ลุ่มหลงผู้หญิงไทยนามว่า อันมิกา อย่างหัวปรักหัวปรำ หลงจนแม้กระทั่งภาษาประจำชาติที่เคยมีแค่ภาษา ความาร์ และภาษาอังกฤษเท่านั้น ท่านก็ยังนำเอาภาษาไทยมาเป็นภาษาที่สาม ที่ประชากรในประเทศความาร์จำเป็นต้องศึกษาเอาไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เจ้าชายสูงศักดิ์คิดอย่างขัดเคือง แม้ตลอดเวลาที่อันมิกาแม่เลี้ยงของเขามีชีวิตอยู่ จะไม่ใช่แม่เลี้ยงใจร้ายตามแบบฉบับนิยายในโบราณกาลก็ตามที แต่หล่อนก็ทิ้งปัญหาอันหนักอึ้งไว้ให้เขาปวดหัวเล่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“ท่านออกไปได้แล้ว กาซิม”
ฮิมรานหันกลับมาพูดกับอำมาตย์ชราด้วยน้ำเสียงที่เจือโทสะน้อยลง ลมหายใจหนักหน่วงถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากได้รูปสีสวยนั้น
“พ่ะย่ะค่ะ องค์ชาย”