Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
4.9
ความคิดเห็น
395.1K
ชม
189
บท

หลังจากหายตัวไปสามปี หนานจืออินพาลูกชายกลับมา เพื่อสืบทอดทรัพย์สินของมารดา หนานจืออินแต่งงานกับโปรแกรมเมอร์คนหนึ่ง แต่หลังแต่งงาน หนานจืออินปรากฏว่ายิ่งอยู่ด้วยกันต่อไปยิ่งรู้สึกมีอะไรพิกล "ทำไมคุณยังไม่ไปทำงานเหรอ นี่ก็สิบโมงแล้วนะ" "การทำงานด้านไอที เวลาไม่ตายตัวหรอกน่ะ" "ฉันว่าเบื้องหลังของนักธุรกิจชื่อดังในทีวีคนนั้นเหมือนคุณมาก" "คุณมองผิดไปแน่ ที่รัก" "กระเป๋าที่คุณซื้อให้ฉันเหมือนรุ่นใหม่ของแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งแป๊ะเลย" "มันเป็นของก็อปน่ะ ซื้อมาแคห้าร้อย" หนานจืออินเชื่อในสิ่งที่สามีพูดโดยไม่ต้องสงสัย แต่พอเดินไปถึงหน้าห้างห้างหนึ่งซึ่งกำลังทำโปรโมชั่นอยู่ เธอก็ต้องตกตะลึกเมื่อเห็นว่าสามีของตัวเองกำลังถูกต้อนรับให้ขึ้นไปบนเวทีเพื่อกล่าวปราศรัย หลังจากสิ้นสุดกิจกรรม ชายหนุ่มขอร้องให้หนานจืออินให้อภัย หนานจืออินโกรธเป็นอย่างมาก"กู้จิ่งเฉิน คุณยังมีเรื่องอะไรที่ยังปิดบังฉันอยู่?" "คือ...เรายังมีลูกด้วยกันสองคนนะ" "......"หนานจืออินตกตะลึกอีกครั้ง ทำไมลูกฉันฉันกลับไม่รู้ด้วย? ปรากฎว่าหลังจากมองแวบเดียว คุณก็กลายเป็นทั้งชีวิตของฉันไปแล้ว

บทที่ 1 เอาของที่เป็นของเธอกลับคืนมาทั้งหมด

“หนานจืออินใช่ไหม คุณตั้งครรภ์แล้ว” สูตินรีแพทย์พูดขึ้น

“...” ว่าไงนะ

หนานจืออินถลึงตาโต รู้สึกไม่อยากเชื่อ

ตัวเองไม่มีแฟน ไม่เคยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเพศตรงข้ามด้วย แล้วจะท้องได้ยังไง

ขณะที่หนานจืออินกำลังรู้สึกสงสัยอยู่นั้น หนานซีซี น้องสาวต่างแม่ที่อยู่ไม่ไกลก็เอามือปิดปากพร้อมกับส่งเสียงร้อง “ว้าย” ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ “พี่ ฉันยังนึกว่าพี่กินของผิดสำแดงที่บ้านเสียอีก ถึงได้มาที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนกับพี่ คิดไม่ถึงว่าจะตั้งท้องทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงานแบบนี้ ไม่ได้การแล้ว แบบนี้มันน่ากลัวเกินไป ฉันต้องบอกพ่อกับแม่”

หนานซีซีพูดจบก็รีบโทรศัพท์ทันที

“...” หนานจืออินอึ้งตะลึงไปอีกครั้ง

ตอนที่หมอมองไปหาหนานจืออินในครั้งนี้ สายตาแปลกประหลาด แต่ก็ยังพูดเตือนขึ้นมา “ดัชนีชี้วัดต่าง ๆ ทางสุขภาพของคุณไม่เสถียรอย่างมาก มีความเสี่ยงในการแท้งบัตรสูงมาก นอกจากนี้ยังอาจจะทำให้มีบุตรไม่ได้อีกตลอดชีวิต คลอดเด็กออกมาจะดีที่สุด”

หนานจืออินมองไปหาหมอ รู้สึกสับสนงงงวย

พอกลับมาถึงตระกูลหนาน หนานจืออินก็ได้ยินคำพูดตำหนิติเตียนของพ่อกับแม่เลี้ยง

“แกมันไอ้เด็กหน้าไม่อาย ฉันไม่มีลูกสาวแบบแก” หนานเหวินซานโมโหเกรี้ยวกราด

“เห้อ ทำให้ประเพณีอันดีงามของวงศ์ตระกูลเสื่อมเสียจริง ๆ ” สวีซิ่วลี่ทอดถอนใจออกมา ก่อนจะพูดขึ้นต่อ “ตระกูลของพวกเรากับตระกูลเจียงที่สูงศักดิ์ร่ำรวยมีข้อตกลงการแต่งงานกัน ก่อนหน้านี้นายท่านบอกว่าจะให้หนานจืออินแต่งเข้าไปในตระกูลเจียง แต่ว่าตอนนี้... นี่มัน...”

สวีซิ่วลี่อยากจะพูดอะไรแต่ก็หยุดเอาไว้ ท่าทางหมดหนทาง

หนานเหวินซานพูดตอบ “เธอไม่คู่ควร ให้ซีซีแต่งเข้าไปในตระกูลเจียงแทน”

พอคำพูดนี้ออกมา สวีซิ่วลี่ก็ยิ้มอย่างพออกพอใจ ก่อนจะหันไปสบตากับลูกสาวสุดที่รักที่อยู่ไม่ไกล

หนานซีซียิ้มให้กับแม่อย่างดีอกดีใจ จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างเห็นดีเห็นชอบ “ได้เลย ๆ หนูชอบพี่หยานจือมาโดยตลอด”

หนานเหวินซานพยักหน้า เรื่องนี้ก็ตกลงกันตามนี้เลย จากนั้นก็ตามมาด้วยคำดุด่าของหนานจืออินอีกหนึ่งชุด

หนานจืออินไม่สนใจกับคำดุด่าว่ากล่าวและข้อตกลงการแต่งงานที่พวกเขาพูดถึงเลยแม้แต่นิดเดียว ในหัวเอาแต่รู้สึกสับสนกับเรื่องตั้งท้องอยู่ตลอดเวลา

ความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวที่พอจะนึกได้ในตอนนี้ ก็คือตอนที่ตัวเองดื่มไวน์ไปหนึ่งแก้วแล้วเริ่มเมาเล็กน้อยในงานปาร์ตี้เพื่อนร่วมชั้นเมื่อสามเดือนก่อน

หลังจากที่หนานเหวินซานและสวีซิ่วลี่ดุด่ามานานมากแล้ว พอเห็นว่าหนานจืออินไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาแต่อย่างใด แล้วก็ไม่ได้หักล้างด้วยเหมือนกัน จึงหมดอารมณ์ไม่ดุด่าต่ออีก ก่อนจะไปดูโทรทัศน์เป็นเพื่อนกับหนานซีซี ลูกสาวสุดที่รัก

ตอนนี้ในโทรทัศน์กำลังออกอากาศข่าวซุบซิบ “ก่อนหน้านี้ทายาทของตระกูลกู้ ตระกูลอันดับหนึ่งของตระกูลร่ำรวยถูกศัตรูคู่อาฆาตตามไล่ล่า ตามตัวถูกแทงหลายแผล ตอนนี้หายสาบสูญไปสามเดือนกว่า ทางตำรวจกับตระกูลกู้พยายามตามหาอย่างสุดกำลัง จนถึงตอนนี้ร่องรอยเบาะแสยังคงไม่แน่ชัด...”

...

สามปีต่อมา ตรงทางออกสถานีรถไฟของเมืองเป่ย หนานจืออินที่รูปร่างผอมบางใส่เสื้อกันลมที่ดูภูมิฐาน ผมดำสั้นประบ่า แต่งหน้าเบา ๆ ทำให้ใบหน้าดูสวยงามละเอียดอ่อน มือหิ้วกระเป๋าเดินทางสีขาวขนาดใหญ่ มืออีกข้างจูงมือเด็กชายตัวน้อยหนึ่งคน

เด็กชายใส่ชุดยีนส์ของเด็กดูหล่อเท่ เขาพูดถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหน่อมแน้ม “หม่ามี๊ พวกเราจะไปหาแม่บุญธรรมตอนนี้เหรอฮะ”

“ไม่ใช่ พวกเรากลับไปที่โรงแรมกันก่อน แล้วตอนค่ำถึงค่อยไปหาแม่บุญธรรมชองลูก” หนานจืออินตอบลูกชาย

ที่ตัวเองกลับมาในครั้งนี้เพราะว่ามีธุระสำคัญที่อยากจะจัดการ เดี๋ยวกลับไปวางกระเป๋าที่โรงแรมเสร็จแล้วก็ต้องไปทำธุระ นอกจากนี้ก่อนที่จะกลับมาก็นัดกับตงเจียเว่ย เพื่อนสาวไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะไปพบปะกินข้าวกันในคืนนี้

“ได้เลยฮะ” เด็กชายตัวน้อยตอบรับอย่างน่ารักน่าเอ็นดู

หนานจืออินพาลูกชายเดินไปที่ป้ายรอแท็กซี่ เตรียมขึ้นรถไปยังโรงแรม แล้วไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามีคนสองคนกำลังจ้องมองพวกเธอจากที่ไม่ไกลอยู่ตลอดเวลา

ตรงบริเวณข้างป้ายโฆษณา มีผู้ชายเสื้อสูทรองเท้าหนังสองคน หนึ่งในนั้นรูปร่างสูงใหญ่ดูดีมีราศี แว่นกันแดดปิดบังไปเกือบทั้งหน้า สายตามองที่ตัวของหนานจืออินและเด็กชายตัวน้อย รู้สึกปั่นป่วนอยู่ภายในใจ

“คุณชายสี่ คุณหนานกับคุณชายน้อยน่าจะไปโรงแรมนะครับ” เหออัน ผู้ช่วยพูดรายงานที่ข้างหูของเจ้านาย

เมื่อวานตัวเองตรวจสอบมาแล้วว่า คุณหนานได้ทำการจองโรงแรมที่เมืองเป่ยเอาไว้เป็นเวลาสองวัน

เขาได้ยินแล้วแต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ ยังคงจ้องมองเงาหลังของทั้งสองคนอยู่แบบนั้น

จนกระทั่งร่างนั้นหายไป เขาถึงได้เปิดปากพูดขึ้น “ไปโรงแรม”

บนรถแท็กซี่ หนานจืออินอุ้มลูกชายที่กำลังนอนหลับอยู่ สายตาค่อย ๆ เลื่อนจากหน้าของลูกชายออกไปข้างนอกหน้าต่าง มองวิวทิวทัศน์ของเมืองที่เลื่อนผ่านไป เริ่มค่อย ๆ จมดิ่งอยู่ในความคิด

สามปีก่อน หลังจากที่ตัวเองตั้งท้องก็ถูกพ่อกับแม่เลี้ยงไล่ออกมาจากตระกูลหนาน เนื่องจากปัญหาสุขภาพทำให้ไม่สามารถเอาเด็กออกได้ ทำได้แค่บากหน้าไปขอพึ่งพิงคุณน้าที่ชนบท

ตอนที่ทำการตรวจที่โรงพยาบาลในเมือง ตัวเองถึงได้รู้ว่าตั้งท้องแฝดสาม แต่ในวันที่คลอด เนื่องจากว่าคลอดยากทำให้ต้องผ่าคลอด สุดท้ายเด็กสองคนแรกก็ไม่สามารถรักษาไว้ได้ เพิ่งจะคลอดออกมาก็หยุดหายใจไปแล้ว มีเพียงแค่เด็กคนสุดท้ายที่มีชีวิตรอดปลอดภัย

ช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือนหลังคลอด เธอร้องไห้ฟูมฟายเนื่องจากตัวเองสูญเสียลูกไปตั้งสองคน แต่พอคิดว่าชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป ยังมีลูกที่ต้องให้ตัวเองคอยเลี้ยงดูจนเติบโตอยู่อีกหนึ่งคน ดังนั้นเธอจึงเข้มแข็งลุกยืนหยัดใช้ชีวิตต่อไป

สามปีมานี้ เคยลำบาก เคยร้องไห้ เคยเหน็ดเหนื่อย แต่โชคดีที่คุณน้าดูแลเอาใจใส่ลูกชายของตัวเองอย่างมาก ลูกชายก็เป็นเด็กน่ารักเชื่อฟัง ตัวเองรู้สึกปลื้มปีติและปลอบโยน ชีวิตก็ถือว่าพอจะสมดั่งความปรารถนาอยู่บ้าง

ตอนนี้ ตัวเองแค่หวังว่าลูกชายจะเติบโตอย่างแข็งแรงและปลอดภัย เรื่องอื่น ๆ ในชีวิตก็พยายามให้ได้ดั่งใจที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

หลังจากที่มาถึงโรงแรมไรน์ หนานจืออินก็ปลุกลูกชาย ทั้งสองคนลงจากรถเตรียมจะเข้าไปในโรงแรม ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ของหนานจืออินก็ดังขึ้นมา

พอเห็นว่าตงเจียเว่ยเป็นคนโทรมา หนานจืออินก็รีบพูดกับลูกชายทันที “มู่มู่ หม่ามี๊คุยโทรศัพท์ก่อนนะ อย่าวิ่งเถลไถลไปไหนล่ะ”

“ได้ฮะ ผมจะไปดูดอกไม้ตรงนั้น” มู่มู่ตัวน้อยพูดจบ ก็วิ่งตรงไปยังซุ้มดอกไม้ที่อยู่ไม่ไกล

หนานจืออินมองตัวของลูกชาย อยู่ในสายตาของตัวเอง จึงไม่ได้รู้สึกเป็นห่วงอะไรอีก ก่อนจะรับโทรศัพท์

“อินอิน เธอกับมู่มู่ถึงเมืองเป่ยแล้วเหรอ” ตงเจียเว่ยที่อยู่ในสายพูดถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

“ถึงแล้ว เว่ยเว่ย พวกเราเพิ่งจะมาถึงโรงแรม อีกเดี๋ยวทำเรื่องเข้าพักเสร็จแล้วฉันจะไปทำธุระที่ซูเฉิง กรุ๊ป” หนานจืออินพูดตอบ

ซูเฉิง กรุ๊ปเป็นบริษัทที่คุณตาทิ้งไว้ให้กับแม่เมื่อตอนนั้น แม่เคยบอกว่ารอตนเองโตแล้วจะให้ตนเองมารับช่วงบริหารต่อ แต่ต่อมาหลังจากที่แม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุพ่อก็มาบริหารบริษัทแทน เป็นแบบนี้มาโดยตลอดหลายปีมานี้

ช่วงนี้ มีข่าวรายงานว่าพ่อจะขายซูเฉิง กรุ๊ปแล้วจดทะเบียนบริษัทใหม่ นิติบุคคลคือแม่เลี้ยง ดังนั้นตนเองจึงจำเป็นต้องมาขัดขวาง

ตนเองจะไม่ยอมให้ทรัพย์สมบัติที่คุณตาเหลือทิ้งไว้ให้ถูกขายทิ้งไปแบบนี้เด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้นเงินก็ยังยกให้กับสวีซิ่วลี่อีกด้วย ไม่มีทางอย่างแน่นอน

“อื้อ ไปเอาของที่เป็นของเธอกลับคืนมาทั้งหมด ฉันสนับสนุนเธอ” ตงเจียเว่ยที่อยู่ในสายเด็ดเดี่ยวแน่วแน่

“อื้อ” หนานจืออินยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้นแล้ว ทั้งสองคนพูดคุยกันต่อ

ทางด้านซุ้มดอกไม้ หลังจากที่มู่มู่ตัวน้อยดูดอกไม้ไปสักพัก ก็เห็นคุณปู่คนหนึ่งที่กำลังขายลูกโป่งตัวการ์ตูนอยู่ เขาอยากที่จะวิ่งไปดูด้วยความรู้สึกตื่นเต้นดีใจ

แต่ในขณะที่มู่มู่ตัวน้อยเพิ่งจะวิ่งไปได้สองก้าว ก็เห็นรถจักรยานคันหนึ่งขับตรงเข้ามาอย่างรวดเร็วจากที่ไม่ไกล จากนั้นก็มีเสียงที่รีบร้อนลนลานดังขึ้นมาที่ข้างหู

“ระวัง”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ห้ามหย่า

ห้ามหย่า

Bronson Heiss
5.0

ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

บังเอิญหรือพรหมลิขิต

บังเอิญหรือพรหมลิขิต

Irita Sarkar
5.0

เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สามีในมุมมืด
1

บทที่ 1 เอาของที่เป็นของเธอกลับคืนมาทั้งหมด

10/02/2023

2

บทที่ 2 หลังจากแต่งงานแล้วถึงจะมีสิทธิ์รับช่วงต่อ

10/02/2023

3

บทที่ 3 ผมยอมรับอดีตของคุณ แล้วก็เด็กด้วย

10/02/2023

4

บทที่ 4 แต่งงานกันตามที่สัญญาไว้ได้แล้ว

10/02/2023

5

บทที่ 5 สัญญา่แต่งงานของตระกูลหนานไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน

10/02/2023

6

บทที่ 6 ชื่อนี้คุ้นหูจัง

10/02/2023

7

บทที่ 7 รอผมกลับมาจากไปทำงานต่างถิ่น

10/02/2023

8

บทที่ 8 เรื่องของฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกคุณ

10/02/2023

9

บทที่ 9 พวกเราจะเจรจาราคากันดีไหมครับ

10/02/2023

10

บทที่ 10 เจ้านายของพวกเราไม่ขาดแคลนเงิน ไม่สนใจอะไรพวกนี้ครับ

10/02/2023

11

บทที่ 11 ป่าปี๊ จะอยู่เฝ้าเป็นเพื่อนหนูไปตลอดเลยไหมคะ

10/02/2023

12

บทที่ 12 พี่ใหญ่ น้องสาวของพี่ป่วยอีกแล้วเหรอ

10/02/2023

13

บทที่ 13 พวกเราเป็นสามีภรรยากัน เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน

10/02/2023

14

บทที่ 14 คิดถึงอินเอ๋อร์แล้ว

10/02/2023

15

บทที่ 15 ในที่สุดก็ประสบผลสำเร็จแล้วเหรอ

10/02/2023

16

บทที่ 16 นี่เขาไปทำอาหารแล้วอย่างนั้นเหรอ

10/02/2023

17

บทที่ 17 อีกเดี๋ยวก็จะได้เจอเขาแล้ว

10/02/2023

18

บทที่ 18 ป่าปี๊ ผมนึกออกแล้วฮะ

10/02/2023

19

บทที่ 19 ไม่กะที่จะร่วมงานกันกับซูเฉิง กรุ๊ปแล้ว

10/02/2023

20

บทที่ 20 รอคุณกลับมา

10/02/2023

21

บทที่ 21 หาตัวของคนพวกนั้นให้เจอโดยเร็วที่สุด

10/02/2023

22

บทที่ 22 รับผิดชอบผลประโยชน์ของท่านอย่างเต็มที่

10/02/2023

23

บทที่ 23 เจ้าหนูหนานมู่จือ มีป่าปี๊ไหม

10/02/2023

24

บทที่ 24 พยายามเติมเต็มความปรารถนาของลูก

10/02/2023

25

บทที่ 25 ซูเฉิง กรุ๊ปมีสิทธิพิเศษอยู่แน่นอน

10/02/2023

26

บทที่ 26 ฉันแต่งงานแล้ว ฉันมีสามี

11/02/2023

27

บทที่ 27 แกกล้าดียังไงมาสั่งฉัน

12/02/2023

28

บทที่ 28 เหอะ เป็นท่อนไม้ที่ไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกจริง ๆ

13/02/2023

29

บทที่ 29 วันนี้คุณป้าฉินมาที่บ้าน

14/02/2023

30

บทที่ 30 คุณเคยรักผู้ชายคนไหนมาก่อนหรือเปล่า

15/02/2023

31

บทที่ 31 ตกลงยินยอมให้เธอลาออก

16/02/2023

32

บทที่ 32 หลังจากพยายามอย่างถึงที่สุดแล้วค่อยว่ากัน

17/02/2023

33

บทที่ 33 ซูเฉิง กรุ๊ปเกิดเรื่องขึ้นแล้วเหรอ

17/02/2023

34

บทที่ 34 ขอรบกวนนายอีกหนึ่งเรื่อง

17/02/2023

35

บทที่ 35 ลูกชายของนายดีใจมาก

17/02/2023

36

บทที่ 36 ต่อไปห้ามไม่ให้ฉินเคอหยานมาที่บ้านอีก

17/02/2023

37

บทที่ 37 ไม่มีข้อมูลของหม่ามี๊ของพี่ใหญ่

17/02/2023

38

บทที่ 38 น่าจะไม่ส่งผลกระทบหรอกใช่ไหม

17/02/2023

39

บทที่ 39 กินอาหารมื้อดึกด้วยกันได้ไหม

17/02/2023

40

บทที่ 40 คุณอยากจะให้ฉันขอบคุณยังไง

17/02/2023