เวลาผ่านไปอย่างดวงจันทร์

ตอนที่ 1.

ประเทศคารัสซีเลีย เป็นประเทศเล็กๆ ตั้งอยู่บนหมู่เกาะแห่งหนึ่งแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย โดยมีประธานาธิบดีเป็นผู้นำสูงสุด เมืองหลวงของประเทศคือเมืองคาซาญ่า เป็นพื้นที่ส่วนกลางของประเทศ มีความเจริญเทียบเท่าเมืองหลวงของประเทศอื่นๆ

คารัสซีเลียมีทรัพยากรทางธรรมชาติมากมาย โดยเฉพาะทองคำและเพชร รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาจากทั่วโลก เดินทางโดยเรือสำราญมาแวะที่นี่ ทำให้มีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ มีความเจริญทางเทคโนโลยีไม่แพ้ประเทศใดใด

ทว่า... ในสังคมยังมีกลุ่มผู้ทรงอิทธิพล ที่มีเบื้องหลังเป็นแก๊งมาเฟียใหญ่ สี่แก๊งด้วยกัน ประกอบด้วย แก๊งเลโอปาสคาล มีสัญลักษณ์เป็นสิงโต แก๊งไทก้าซานโตนี่ มีสัญลักษณ์เป็นเสือดาว แก๊งฟินนิกซ์ลาโอญ่า มีสัญลักษณ์เป็นนกฟินนิกซ์ และแก๊งดราก้อนฟิโรเช่ มีสัญลักษณ์เป็นมังกร กลุ่มผู้มีอิทธิพลทั้งสี่แก๊งต่างฝ่ายต่างไม่ยุ่งเกี่ยวกัน อยู่ในเขตการปกครองสี่แคว้นใหญ่ของประเทศ คือ แคว้นปาสคาล แคว้นซานโตนี่ แคว้นลาโอญ่า และแคว้นฟิโรเช่ ดังเป็นชื่อต่อท้ายแก๊งต่างๆ ตามเมืองที่อยู่อาศัย

ณ โรงพยาบาลเซนส์โจนา เมืองคาซาญ่า

อลิชาเดินทางมาที่นี่เมื่อห้าวันที่แล้วเพื่อตรวจร่างกาย เตรียมความพร้อมก่อนจะเริ่มต้นการอุ้มบุญ เธอได้รับคัดเลือกจากผู้สมัครนับร้อยคน โดยผู้เป็นนายจ้างได้ส่งทนายความของเขามาจัดการเรื่องนี้แทนตัวเขา

“คุณผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้าย ได้ถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ นี่คือสัญญาผมจะอ่านเงื่อนไขให้ฟัง หากคุณตกลงใจว่าสามารถทำตามสัญญานี้ได้ ก็ลงชื่อรับรองสัญญาจะสมบูรณ์ในทันที”

เอริกทนายความยื่นเอกสารให้อลิชา ก่อนจะหยิบแว่นตามาสวมแล้วอ่านฉบับของตนที่ถืออยู่ให้หญิงสาวฟัง

“เงื่อนไข ในสัญญาอุ้มบุญ มีดังนี้ หนึ่งนายจ้างต้องการลูกชายเท่านั้น สองต้องปกปิดความลับเรื่องการอุ้มบุญนี้ ไม่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ โดยผู้อุ้มบุญจะสัญญาว่า จะไม่บอกว่าเป็นแม่ของเด็ก สามผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายค่าจ้างตามที่ตกลงกัน โดยไม่ต้องพบหน้ากัน ให้ทนายคือผมเป็นคนดำเนินการแทน เมื่อคลอดเด็กออกมาจะจ่ายค่าจ้างงวดสุดท้ายให้และสัญญาถือว่าสมบูรณ์”

อลิชาอ่านเอกสารในมือตัวเองพร้อมกับฟังไปด้วย หญิงสาวนิ่วหน้าเมื่อเห็นชื่อนายจ้าง

“นายจ้างของฉันคือ คุณริคคาโด้ มาร์เซียอาโน่”

“ใช่ครับ คุณริคคาโด้ มอบอำนาจให้ผมจัดการทุกสิ่งแทนท่าน ขอให้คุณเก็บความลับเรื่องนี้ไว้ด้วยนะครับ”

ทนายเอริกส่งปากกาให้หญิงสาวเซ็นชื่อ และมอบเช็คเงินสดก้อนแรกให้เธอ

“ในสัญญาบอกว่า เจ้านายของคุณต้องการลูกชายเท่านั้น ถ้าฉันมีลูกผู้หญิงจะทำยังไงคะ” อลิชาตั้งคำถาม

“คุณริคคาโด้ ท่านต้องการทายาทผู้ชายเท่านั้นครับ ตามที่ระบุในสัญญา” ทนายเอริกย้ำ

อลิชานิ่งคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมเซ็นชื่อในใบสัญญานั้น แล้วส่งให้เอริกไปจัดการ

“เขาเคยเห็นรูปฉันหรือเปล่าคะ”

“ไม่ครับ ท่านให้ผมเป็นคนเลือกแม่อุ้มบุญเอง คุณริคคาโด้ท่านมีงานในความรับผิดชอบมากมาย ท่านจึงไม่ได้เดินทางมาพบคุณด้วยตัวเอง ผมว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะครับ คุณกับเจ้านายของผมมีฐานะเป็นแค่ลูกจ้างกับนายจ้าง ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกัน หลังจากคุณคลอดเด็กออกมา ถือว่าได้ทำตามสัญญาสมบูรณ์แล้ว”

ทนายเอริกมองหน้าหญิงสาวลูกครึ่งไทย-คารัสซีเลียด้วยแววตาเห็นใจ ธรรมชาติของผู้หญิงย่อมผูกพันกับสายเลือดของตัวเอง แม้จะเป็นการรับจ้างตั้งครรภ์ หากเด็กคลอดออกมาผู้เป็นแม่ก็คงใจหายเมื่อต้องมอบลูกให้คนอื่นดูแล

“ค่ะ ฉันจะทำหน้าที่ขอฉันให้ดีที่สุด”

อลิชาฝืนยิ้มให้อีกฝ่าย มือกำเช็คไว้แน่น เงินก้อนนี้จะทำให้พ่อของเธอรอดชีวิต เธอยอมรับจ้าอุ้มบุญเพื่อหาเงินก้อนใหญ่มารักษาท่าน และเมื่อคลอดเด็กออกมาเงินก้อนสุดท้ายจะเป็นต้นทุน ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเธอและพ่อ การตัดสินใจครั้งนี้ไม่มีทางให้ย้อนกลับ หญิงสาวบอกตัวเองว่า แล้วทุกอย่างจะผ่านไป...

ทนายเอริกนำเอกสารสัญญาไปให้เจ้านายของเขา ริคคาโด้รับมาอ่านพอผ่านตา เขาเป็นคนร่างสัญญานี้เองตอนที่ถูกผู้เป็นปู่ขอร้องแกมบังคับให้มีทายาท ตัวเขาไม่ต้องการแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนทั้งสิ้น เขาเป็นหัวหน้าแก๊งเลโอปาสคาล มีศัตรูอยู่มากมาย การมีภรรยาทำให้เขามีจุดอ่อนให้ฝ่ายตรงข้ามใช้โจมตีได้ แต่ถ้าไม่มีทายาทหากวันใดเขาดวงซวยถูกศัตรูฆ่าตาย ก็จะไร้เชื้อสายสืบทอด แม้จะมีน้องชายอีกคน แต่ราฟาเอลก็มีชีวิตภายใต้ความเสี่ยงไม่ต่างจากเขา จึงถูกนายฟรองซัวร์ผู้เป็นปู่ขอร้องให้ปั้มทายาททั้งคู่ เพื่อดำรงไว้ซึ่งตระกูลมาร์เซียอาโน่ที่ยิ่งใหญ่ของท่าน

ราฟาเอลเลือกจะหาผู้หญิงสักคนมาตั้งท้องลูกของเขาด้วยวิธีธรรมชาติ คนเป็นปู่จึงส่งผู้หญิงไปให้หลานชาย พร้อมกับย้ำว่าต้องมีทายาทภายในหนึ่งปีนี้ให้สำเร็จ ริคคาโด้ไม่ต้องการทำแบบเดียวกับน้องชาย เขาอยากมีลูกโดยไม่ต้องมีเมีย ไม่ว่าจะเมียแต่งหรือเมียบำเรอ การจ้างผู้หญิงสักคนมาตั้งท้องลูกของเขาจึงเป็นวิธีที่เขาเลือก และเขาไม่สนใจว่าเธอจะเป็นใคร จึงให้ทนายเอริกจัดการทุกอย่างแทน