5.0
ความคิดเห็น
76.7K
ชม
98
บท

มีคนบางประเภทแสดงความรักด้วยการ ‘ทำร้าย’ คนที่รัก และมักแสดงออกในทางตรงข้ามกับความรู้สึกของตัวเอง สำหรับธราลินแล้ว เธอไม่เคยหวังจะได้ ‘รัก’ จากคนที่ชอบรังแกเธอทุกครั้งที่โอกาสอย่างปรัชญ์ เพราะรู้ดีว่าตัวเองเป็นได้แค่พระจันทร์ในคืนแรม

บทที่ 1 ไร้อารมณ์

“รอด้วยค่ะ รอด้วยค่ะ”

ประตูลิฟต์ของหอพักที่กำลังจะปิดลง ทำให้เจ้าของร่างบางในชุดนักศึกษาร้องบอกคนข้างในให้กดปุ่มหยุดค้างเอาไว้ก่อน พร้อมกับเร่งฝีเท้าของตนจนกลายเป็นเดินแกมวิ่งเพื่อที่คนอื่นๆ จะได้ไม่ต้องรอนาน

“ขอบคุณค่ะ” เสียงอันหวานใสสมตัวที่ปนหอบนิดๆ กล่าวขอบคุณเมื่อคนในนั้นมีน้ำใจกดเปิดรอ ร่างบางขยับไปยืนติดผนังลิฟต์ พลางกระชับสมุดเลกเชอร์และแฟ้มที่เก็บชี้ตอย่างเป็นระเบียบแนบไว้กับอก ขณะเงยหน้าขึ้นมองตัวเลขของลิฟต์ที่เลื่อนมาถึงชั้นห้าในเวลาเพียงไม่ถึงสองนาที

เท้าเล็กๆ ที่รับด้วยรองเท้าหุ้มส้นสีดำก้าวออกจากลิฟต์ตรงไปยังห้องพักของตัวเอง วางกระเป๋า สมุดเลกเชอร์และแฟ้มที่ถืออยู่ในมือลงบนโต๊ะ แล้วถอนหายใจเบาๆ อย่างเกือบจะโล่งอก เพราะพรุ่งนี้ก็เป็นวันสอบปลายภาควันสุดท้ายในเทอมแรกของการเรียนปีสี่แล้ว

ความเคร่งเครียดจากการสอบบวกกับความร้อนอบอ้าวที่ต้องนั่งรถเมล์จากมหาวิทยาลัยกลับมายังหอพัก ทำให้หญิงสาวรีบถอดชุดนักศึกษาแล้วพาตัวเองเข้าไปอาบน้ำจึงค่อยรู้สึกสบายตัวขึ้น

หลังจากตากผ้าขนหนูที่เปียกชุ่มจากการซับน้ำไว้ที่ราวตากผ้าเสร็จ ธรินดาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปยืนหวีผม ทาครีมบำรุงก่อนจะทาทับด้วยแป้งฝุ่นกลิ่นหอมอ่อนๆ ลงบนใบหน้าที่นวลเนียนละเอียดราวกับผิวของเด็กก็ไม่ปาน

ภาพที่สะท้อนออกมาจากกระจกตรงหน้าฟ้องได้ชัดว่า เธอเป็นผู้หญิงที่หน้าตาชวนมองและรูปร่างดีคนหนึ่ง ทว่าธรินดาก็ไม่คิดจะใส่ใจกับรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเองแต่อย่างใด สิ่งที่เธอสนใจตอนนี้มีเพียงอย่างเดียว นั่นคือการตั้งใจเรียนให้จบ เพื่อไม่ให้คนที่ส่งเสียต้องผิดหวัง ถึงแม้ว่าลักษิกาแม่บุญธรรมของเธอจะร่ำรวยในระดับเศรษฐีนีทางภาคเหนือ หรือที่ใครๆ เรียกว่า ‘แม่เลี้ยง’ แต่ธรินดาก็อยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัวมาโดยตลอด ด้วยรู้สถานะของตัวเองดีว่าเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกขอมาเลี้ยงเท่านั้น แม่บุญธรรมของเธอส่งเธอเข้าเรียนมัธยมที่โรงเรียนเอกชนชื่อดังและค่าเทอมแพงเอาการในเชียงใหม่ ด้วยตระหนักในข้อนี้ดี เธอจึงตั้งใจเรียนและอ่านหนังสืออย่างมุ่งมั่นจนสามารถสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศได้ในที่สุด ซึ่งนั่นทำให้แม่เลี้ยงลักษิกาหรือคนที่เธอเรียกว่าแม่ใหญ่ภูมิใจในตัวเธอมาก

กริ๊ง...กริ๊ง...

เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าดังขึ้น ธรินดาจึงวางหวีลงแล้วรีบสาวเท้าไปหยิบเอามากดรับสาย เมื่อเห็นว่าคนที่โทร.มาคือแม่ใหญ่ของเธอนั่นเอง

“สวัสดีค่ะแม่ใหญ่” เสียงหวานกรอกผ่านเครื่องมือสื่อสารนั้นไปอย่างนุ่มนวลสมบุคลิก

“พรุ่งนี้สอบวันสุดท้ายแล้วใช่มั้ยหนูเล็ก” แม่เลี้ยงลักษิกาถามกลับมาอย่างคนที่รู้ความเคลื่อนไหวของลูกสาวบุญธรรมเป็นอย่างดี เพราะโทร.มาไถ่ถามอยู่แทบจะทุกวัน

“ใช่ค่ะแม่ใหญ่ สอบเสร็จเล็กก็ปิดเทอมเลย”

“งั้นสอบเสร็จหนูเล็กกลับบ้านเราเลยนะลูก เดี๋ยวแม่ใหญ่จะจองตั๋วเครื่องบินไว้ให้”

“เล็กนั่งรถไฟกลับก็ได้นะคะแม่ใหญ่ ค่าเครื่องบินแพงออกค่ะ สิ้นเปลืองเงินเปล่าๆ”

ธรินดาบอกอย่างเกรงใจ แม้แม่ใหญ่ของเธอจะรวยมาก แต่เธอก็ไม่อยากจะรบกวนท่าน แค่ที่ท่านให้ความเมตตาชุบเลี้ยงและส่งเสียให้ได้เรียนหนังสือ เธอก็ไม่รู้จะตอบแทนพระคุณท่านหมดอย่างไรแล้ว

“เปลืองอะไรกัน มันต่างกันไม่กี่บาทหรอกหนูเล็ก แม่อยากให้หนูเล็กกลับมาถึงบ้านไวๆ หนูเล็กจะได้ไม่เหนื่อย อีกอย่างตอนนี้คุณปรัชญ์ของหนูเล็กก็กลับมาแล้วเหมือนกัน”

ชื่อนั้นทำให้ธรินดาเงียบไปหลายอึดใจ แม่ใหญ่พูดผิดถนัดเลยละ เพราะ ‘คุณปรัชญ์’ ไม่ใช่ของหนูเล็ก เธอหรือจะกล้าคิดว่าเขาเป็นคุณปรัชญ์ของเธอ เธอเป็นแค่ลูกสาวบุญธรรมที่แม่เลี้ยงลักษิกาขอมาเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าหลังจากที่ผู้เป็นสามีซึ่งเป็นนายทหารระดับนายพลเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก

ตอนเข้ามาอยู่ที่คุ้มลักษิกาใหม่ๆ เธออายุได้ห้าขวบแล้ว จึงรู้ดีว่าปรัชญ์และปราณต์ไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ ของตน เธอไม่สนิททั้งกับปรัชญ์และปราณต์ เพราะรู้ดีว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร แถมการเรียกขานชื่อของทั้งคู่ก็เรียกไม่เหมือนกัน เธอเรียกคนหนึ่งว่า ‘คุณ’ เรียกอีกคนว่า ‘พี่’ ตามที่ทั้งสองอยากให้เรียก

‘คุณปรัชญ์’ ตรงข้ามกับ ‘พี่ปราณต์’ ทุกอย่าง เรียกว่าสีดำกับสีขาวเลยก็ได้ พี่ปราณต์เป็นพี่ชายคนโต มีบุคลิกที่อบอุ่น เป็นกันเอง พูดจาสุภาพอ่อนโยน แต่งตัวเนี้ยบ สะอาดสะอ้าน ดูเป็นมิตร และไม่ถือตัว ในขณะที่ปรัชญ์นั้นเป็นผู้ชายแบบเซอร์ๆ ไว้ผมยาว มีนิสัยมุทะลุ กินเหล้า สูบบุหรี่ เจ้าชู้ พูดจาหยาบกระด้าง ชอบงัดข้อกับแม่เป็นประจำ โดยล่าสุดก่อนไปเรียนต่อเขาก็ไปสักที่ต้นแขนด้านซ้าย ทั้งๆ ที่แม่ใหญ่ห้ามเอาไว้แล้วแท้ๆ ถ้าจะมีสิ่งเดียวที่เธอเห็นว่าเป็นความอ่อนโยนซึ่งหาได้ในตัวเขานั่นก็คงมีเพียง แพขนตาอันดกดำงอนยาวน่ามองเสียจนผู้หญิงยังต้องอิจฉาเท่านั้น

ตอนเธอเริ่มเรียนชั้นมัธยม คนที่อยู่ในฐานะพี่ชายต่างก็เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว ทั้งสองเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกับที่เธอเรียนอยู่ตอนนี้ เรียกได้ว่าเธอเป็นศิษย์รุ่นน้องก็ไม่ผิด แต่ทั้งสองจบไปก่อนหลายปี โดยปราณต์เรียนแพทย์ ส่วนปรัชญ์เรียนวิศวะ ในยามที่ปรัชญ์กลับมาเยี่ยมบ้าน เขามักจะพูดจาค่อนแขวะอย่างไม่รักษาน้ำใจเธอเสมอว่า เธอทำตัวไม่สมวัยซึ่งให้เขารู้สึกรำคาญสายตาเป็นอย่างมาก บางครั้งก็ว่าเธอทำหน้านิ่งไร้อารมณ์เหมือนพวกรูปปั้นในวิหาร บางครั้งก็ว่าเป็นนางซินที่ชอบขลุกอยู่ในครัว เป็นนางเอกละครจักรๆ วงศ์ๆ ที่ชอบเดินชมนกชมไม้อยู่ในสวนดอกไม้บ้าง หนักๆ เข้าก็บอกว่าเธอเป็นนางชีและไล่ให้ไปบวชในวัดเสียให้รู้แล้วรู้รอดเลย ซึ่งเธอก็ได้แต่อดทนให้เขาค่อนแขวะอย่างสบายใจและไม่เคยคิดจะต่อล้อต่อเถียงด้วยสักครั้ง

หลังจากเรียนจบ ปราณต์บรรจุเข้าเป็นหมอที่โรงพยาบาลในจังหวัด ส่วนปรัชญ์ไปเรียนต่อในระดับปริญญาโทที่ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วอยู่ทำงานที่นั่นเสียหลายปี แทบจะไม่กลับมาบ้าน จนธรินดาคิดว่าเขาอาจจะแต่งงานและตั้งรกรากอยู่ที่นั่นเลย ดังนั้นเมื่อได้ยินจากแม่ใหญ่ว่าปรัชญ์กลับมาแล้ว เธอจึงแปลกใจไม่น้อย

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เทียนธีรา

ข้อมูลเพิ่มเติม
กริชเพียงขิม

กริชเพียงขิม

โรแมนติก

5.0

ศาสตรา ภูวเดชาธร คือผู้ชายที่ ภัคธีมา บอกตัวเองว่าเขาช่างร้ายกาจสมกับชื่อ ผู้ชายคนนี้พร้อมจะฟาดฟันให้เธอย่อยยับแหลกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทั้งๆ ที่เธอคือว่าที่น้องสะใภ้ หรือเขารังเกียจว่าเธอจน ไม่คู่ควรกับคนในตระกูลภูวเดชธรเจ้าของไร่ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ เขาจึงกีดกันเธอกับน้องชายเขาทุกวิถีทาง แม้ภัคธีมาพยายามจะไม่ข้องแวะกับเขา หากทว่าในที่สุด โชคชะตาก็กลั่นแกล้ง ให้ต้องตกไปอยู่ในบ่วงพันธนาการของเขาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ภัคธีมาจึงได้แต่นับวันรอ… รอวันที่กริชผู้แข็งกร้าวอย่างเขาจะปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระ แต่ครั้นเมื่อถึงเวลาจริงๆ มันกลับไม่ง่ายเลย เพราะหัวใจที่แสนอ่อนไหวถูกบ่วงเสน่หาร้อยรัดเอาไว้อย่างแน่นหนา

ทัณฑ์สวาทเมียบำเรอ

ทัณฑ์สวาทเมียบำเรอ

มหาเศรษฐี

5.0

เมื่อเด็กที่อยู่ในอุปการคุณของผู้เป็นบิดาทำท่าว่าจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา ภาคิม วัชรอาชา ผู้ชายที่แสนจะหยิ่งยโสจึงยอมไม่ได้ สู้ให้บิดามีนางบำเรอเป็นร้อยเหมือนกับนางในฮาเร็มของสุลต่านยังจะดีเสียกว่าให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นมาร่วมสกุล เขาสลัดคู่ควงทุกคนทิ้งแทบจะทันทีแล้วหันมามุ่งมั่นกับการกำจัดว่าที่แม่เลี้ยงและจัดการลงทัณฑ์ผู้หญิงไม่เจียมตัวให้รู้สำนึกว่าอย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘นางบำเรอ’ เท่านั้น วิโรษณา ดุษยา เพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ สาวน้อยไร้เดียงสาจึงต้องยอมตกเป็น ‘เมียบำเรอ’ ของผู้ชายกักขฬะไร้หัวใจโดยไม่ยอมปริปากบ่น และไม่แม้แต่จะเรียกร้องความสมเพชใดๆ จากเขา เพราะรู้ว่าในสายตาของซาตานร้าย ผู้หญิงข้างถนนอย่างเธอมีค่าไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “คุณภาคิม ได้โปรดอย่าทำกับปุ้มแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์ลงโทษเธอตามวิธีของฉันวิโรษณา” เสียงเขาแหบกระเส่า วิโรษณาดิ้นอย่างกระสับกระส่าย ทำไมเขาไม่ลงโทษเธอด้วยการเฆี่ยนตี หรือให้อดข้าวอดน้ำ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ได้ เขาไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ร่างกายของเธอปั่นป่วนและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความทรมานอันแสนวาบหวาม ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบจุมพิตทั่วทุกอณูเนื้อของดอกไม้แสนฉ่ำหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้าไปรุกรานความอ่อนนุ่มที่นิ้วเรียวของเขาได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้ สาวน้อยพยายามตั้งสติไม่ปล่อยการกระทำไปตามอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังรู้สึกอยู่ แต่ลิ้นอุ่นจัดของคนแสนชำนาญก็แทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่มกลางกายด้วยจังหวะอันร้ายกาจอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือเล็กจิกลงบนที่นอนและขยุ้มจนยับย่นเพื่อระบายความซ่านสยิวที่กำลังโรมรันกายสาวอย่างหน่วงหนัก ร่างบางกระตุกไหว คิ้วสวยขมวดนิ่วด้วยอารมณ์สะท้านซ่าน หลงใหลไปกับสัมผัสของเขาจนเผลอยกสะโพกขยับไปมาเบาๆ ปลายลิ้นหนาลากถูไถขึ้นลงตามกลีบกุหลาบแสนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยความฉ่ำหวาน สองขาเรียวสั่นระริกๆ เมื่อชายหนุ่มเริ่มออกแรงกดปลายลิ้นแตะต้องแรงขึ้น

วิวาห์รอง

วิวาห์รอง

มหาเศรษฐี

5.0

เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับว่าที่เจ้าบ่าวในคืนแต่งงาน ทำให้พรรษรดาต้องเข้าพิธีกับน้องชายของเจ้าบ่าวแทน แม้วิวาห์ครั้งนี้จะเป็นเพียงวิวาห์สมมติในความรู้สึกของเขาและเธอ หากทว่าความรู้สึกที่เก็บซ่อนไว้ข้างในนั้นต่างหากที่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เธอจะกล้าบอกความในได้อย่างไร ว่าแท้จริงแล้วผู้ชายที่เธอมีใจใฝ่ปองและอยากแต่งงานด้วยจริงๆ ก็คือเขา ในเมื่อผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าสามี เอาแต่เฉยเมยเย็นชาใส่ ซ้ำยังเอ่ยปากขอหย่าอยู่หลายครั้ง พรรษรดาจะจัดการปัญหาหัวใจครั้งนี้อย่างไรดี ในเมื่อยิ่งเขาทำให้เจ็บ หัวใจไม่รักดีก็ยิ่งรักเขามากขึ้นๆ เธอควรรั้งเขาไว้ให้เป็นสามีในนามเพื่อทรมานใจกันเล่นๆ หรือว่าปล่อยเขาไปให้สมรักกับผู้หญิงอื่นตามที่เขาร้องขอ ***ตัวอย่าง*** “ฉันรักเธอพรรษรดา ฉันรักเธอ รักเธอคนเดียว” เขาสารภาพออกมาเสียงแหบห้าว นัยน์ตาหม่นมัวไปด้วยแรงรักแรงปรารถนาที่อัดแน่นอยู่ข้างใน “คุณภู...” “หัวเราะสิ หัวเราะเยาะฉัน หัวเราะไอ้ผู้ชายหน้าโง่ที่มันเป็นทาสรักของเธออย่างโงหัวไม่ขึ้นมาตลอดหลายปี หัวเราะเยาะไอ้ผู้ชายหน้าโง่ที่ตัดใจไม่ได้เสียที” คำสารภาพของเขาเหมือนระลอกคลื่นยักษ์ที่กระแทกโครมเข้าใส่หัวใจดวงน้อยของพรรษรดา เธอถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะแบกรับความรู้สึกอันท่วมท้นนั้นไม่ไหว “ฉันมันคงน่าสมเพชมากสินะ” ร่างใหญ่ขยับตัวเหมือนจะถอดถอนออกไป แต่พรรษตวัดขารัดรอบเอวสอบไว้แน่น ทำให้เขาดำดิ่งเข้ามาฝังลึกอยู่ในช่องสาวอีกครั้ง “อย่าบังอาจลุกจากตัวพรรษ” เธอแหวใส่เขาเสียงดังลั่น ตัวสั่นเทาเพราะความรัญจวนและความเต็มตื้นในหัวใจ “พรรษรดา...” “อย่าคิดว่าจะผลักไสพรรษง่ายๆ อีก รู้มั้ยว่าพรรษรอนานแค่ไหน รู้ไหมว่าต้องเสียน้ำตาไปกี่ครั้งเมื่อคิดว่าตัวเองรักคุณภูข้างเดียว อย่ามาบอกรักพรรษ ล้อเล่นกับหัวใจพรรษแล้วหนีไปง่ายๆ อีก พรรษไม่ยอมอีกแล้ว คราวนี้พรรษจะตามรังควานไปตลอดชีวิตเลย อย่าหวังว่าจะได้มีโอกาสมีความสุขกับผู้หญิงคนไหน อย่าหวังว่าจะได้บอกรักใครอีก เพราะคำว่ารักของคุณภูจะเป็นของพรรษคนเดียวตลอดไป”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ตามเธอไม่เคยทัน

ตามเธอไม่เคยทัน

Crepuscular Glyph
5.0

หลินหลั่งเยี่ยน เป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ จากรัฐ เป็นสาวอัจฉริยะที่ทุกคนในองค์กรอิจฉา มีความสามารถทางการต่อสู้สูงและไม่ยอมใคร แต่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวฝาแฝดของเธอเพียงลำพัง หลังจากผ่านไปเจ็ดปี ในที่สุดรัฐก็อนุมัติอิสรภาพให้เธอ หัวใจของหลินเหลิงเหยียนเต้นระรัวด้วยความคาดหวัง ขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับบ้าน แต่เธอกลับต้องพบว่าป้าของเธอใช้ชีวิตอย่างหรูหราในบ้านพักของพ่อแม่ผู้ล่วงลับ ขณะที่น้องสาวของเธอเองกลับถูกบังคับให้นอนในคอกสุนัขและกินของเหลือ ทันใดนั้น เธอพลิกโต๊ะอาหารด้วยความโกรธ ป้าข่มขู่? เธอใช้วิธีการที่เด็ดขาดถอนตัวจากการร่วมมือ จนบริษัทของป้าพังทลายลงอย่างรวดเร็ว! การกลั่นแกล้งในโรงเรียน? เธอปลอมตัวเป็นน้องสาว เข้าไปในโรงเรียนและตัดสินใจสู้ไฟด้วยไฟ จากนั้นเธอก็ถ่ายทอดสดตอนพวกอันธพาลคุกเข่าร้องขอความเมตตา ถูกเยาะเย้ยเรื่องตัวตน? หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา“ใช่ ฉันก็แค่คนธรรมดา” ในวินาทีถัดมา ครอบครัวที่มีชื่อเสียงมายืนยันว่า“เธอคือลูกสาวคนโตของเรา!” สถาบันวิจัยแห่งชาติ “พวกเราคือเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ!” …… ซือฮานเฟิง ผู้เป็นผู้นำของตระกูลลึกลับ ไม่เคยปรากฏตัวในสายตาสาธารณชน ข่าวลือว่าเขาเป็นคนเยือกเย็นและไร้ความปรานี บางคนเคยเห็นเขายืนสูบบุหรี่ในสถานการณ์ที่น่ากลัว และบางคนก็เห็นเขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา แต่ต่อมากลับมีคนเห็นว่าเขาไล่ตามหลินหลั่งเยี่ยนจนถึงมุมกำแพง ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าและความไม่พอใจ “หลั่งเยี่ยน ฉันช่วยเธอจัดการพวกนั้นแล้ว เธอควรจะอยู่เป็นเพื่อนกับฉันบ้างไหม?” “เราไม่ใช่แค่พันธมิตรหรือ?” หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างงงงวย ซือฮานเฟิงถอนหายใจลึกๆ แล้วจูบเบาๆ บนริมฝีปากของเธอ “ตอนนี้ล่ะ”

เจ้าสาวจำเป็นกับสามีเศรษฐี

เจ้าสาวจำเป็นกับสามีเศรษฐี

Edgar Reeves
4.9

แต่งงานกับนักเลงคนหนึ่งแทนพี่สาวและใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก แต่ไม่คิดว่าจู่ ๆ สามีก็พลิกตัวกลายเป็นมหาเศรษฐีลึกลับที่มีอำนาจล้นฟ้า?เจียงช่านพยายามบอกกับตัวเองว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่นอน เธอวิ่งกลับไปที่บ้านเช่าเล็ก ๆ นั้นและโผ่เข้าในอ้อมกอดของสามีและพูดว่า"พวกเขาบอกว่าคุณเป็นคุณฮั่ว จริงเหรอ?"เขาลูบผมเธอพลางพูดว่า"คนนั้นก็แค่หน้าตาเหมือนฉันเท่านั้นน่ะ"เจียงช่านรู้สึกน้อยใจเล็กน้อย"คนนั้นน่ารำคาญมาก ยืนยันตลอดว่าฉันเป็นภรรยาเขา ที่รัก ช่วยจัดการเขาสักทีนะ"วันต่อมา คุณฮั่วปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนด้วยจมูกที่ช้ำและใบหน้าที่บวม "คุณฮั่ว นี่มัน?"มีคนหนึ่งอดถามขึ้นไม่ได้ เขายกยิ้มอย่างใจเย็น"ภรรยาสั่งให้จัดการ ผมจึงจำเป็นต้องลงมือหนักหน่อย"

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

Crimson Syntax
5.0

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เมียคืนแรม
1

บทที่ 1 ไร้อารมณ์

17/01/2023

2

บทที่ 2 คุ้นเคย

17/01/2023

3

บทที่ 3 ขัดใจแม่เลี้ยง

17/01/2023

4

บทที่ 4 ผู้ชายหุ่นดี

17/01/2023

5

บทที่ 5 ปมในหัวใจ

17/01/2023

6

บทที่ 6 ต้องการ

17/01/2023

7

บทที่ 7 ไม่อบอุ่นเหมือนทุกวัน

17/01/2023

8

บทที่ 8 ขัดขืน

17/01/2023

9

บทที่ 9 เรียกมันว่าอะไร...

17/01/2023

10

บทที่ 10 ผู้เป็นเจ้าของ

17/01/2023

11

บทที่ 11 เสียท่าเข้าให้

17/01/2023

12

บทที่ 12 ไม่เคยต่อต้าน

17/01/2023

13

บทที่ 13 ติดใจ

17/01/2023

14

บทที่ 14 สานต่อความปรารถนาของสามี

17/01/2023

15

บทที่ 15 เมียคืนแรม

17/01/2023

16

บทที่ 16 เมียคืนแรม

17/01/2023

17

บทที่ 17 คนบ้ากาม!

17/01/2023

18

บทที่ 18 สวมแหวนหมั้น

20/01/2023

19

บทที่ 19 คำถามอะไร

20/01/2023

20

บทที่ 20 โกหกแม่ใหญ่

20/01/2023

21

บทที่ 21 เดือดร้อน

20/01/2023

22

บทที่ 22 ไม่กล้าพูดความจริง I

20/01/2023

23

บทที่ 23 ไม่กล้าพูดความจริง II

20/01/2023

24

บทที่ 24 อย่านะคะ!

20/01/2023

25

บทที่ 25 คำว่า ‘ชอบ’

20/01/2023

26

บทที่ 26 ก็แค่จะจูบ

20/01/2023

27

บทที่ 27 เร่าร้อน 

20/01/2023

28

บทที่ 28 ไม่ควรเข้าใกล้

20/01/2023

29

บทที่ 29 คุณปรัชญ์

20/01/2023

30

บทที่ 30 ไม่ได้นะคะ

23/01/2023

31

บทที่ 31 คนเจ้าเล่ห์

23/01/2023

32

บทที่ 32 ชีวิตการเป็นนักศึกษา

25/01/2023

33

บทที่ 33 ดินเนอร์ใต้แสงเทียน

25/01/2023

34

บทที่ 34 ห่วงความรู้สึก

25/01/2023

35

บทที่ 35 ห่วงความรู้สึก II

25/01/2023

36

บทที่ 36 จงใจแกล้ง

25/01/2023

37

บทที่ 37 บรรเทาความรู้สึก

25/01/2023

38

บทที่ 38 บ่วงร้อยรัดตัวเอง

25/01/2023

39

บทที่ 39 คำไหนคำนั้น

25/01/2023

40

บทที่ 40 สมบัติเมียก็เหมือนสมบัติผัว

25/01/2023