5.0
ความคิดเห็น
1.8K
ชม
25
บท

การแต่งงานดั่งความฝันยามค่ำคืน ตะวันสาดแสงแรงกล้าภาพทุกอย่าง แจ่มชัด เหลือเพียงหยดน้ำตาจากคำลวง .......... "ไม่นอนฉันจะปิดไฟ ถ้ายังไงเธอไปนอนห้องเดิมสิ คืนนี้ไม่ต้องรอฉันกดเธอใต้ร่างอีกหรอกนะ ฉันไม่มีอารมณ์" ดุจฝันยังเอาหมอนปิดหน้า เธอไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้วแต่ไม่อยากออกไปนอกห้อง เด็กในบ้านจะนำเรื่องนี้ไปถึงหูแม่เลี้ยงสร้อยฟ้า ท่านจะซักถามโน่นนี่ สามีนั้นกลับคิดอกุศลว่าเธอรอให้เขาทำเรื่องอย่างว่า "ฉันไม่ไปไหนที่นี่ห้องฉัน" "คุณปิดไฟได้เลยค่ะฝันไม่รบกวน คิดว่าฝันไม่อยู่ในห้องเหมือนทุกคืนสิคะส่วนเรื่องอื่นฝันไม่ต้องการซะหน่อย" "อย่างเธอหรือไม่ต้องการวันทั้งวันคงแต่งตัวรอผัวกลับบ้าน" รวีพงษ์ยิ้มเยาะ "ไฟฉันปิดแน่" ดุจฝันรับรู้ความมืดที่โอบล้อมรอบตัวหยิบหมอนออกจากใบหน้า ในห้องมืดสนิท เวลาที่หมุนช้าๆนับจากนี้จะมีเพียงเธอนั่งถางตาเพราะนอนไม่หลับ หลายคืนที่เธอไม่ได้พักผ่อน คืนนี้อีกสักคืนจะเป็นไรไป

บทที่ 1 1

ดุจฝัน ธีระกร นั่งมองแผลเป็นบริเวณริมแก้มซ้ายใกล้ใบหูที่เป็นแนวยาวราวหนึ่งนิ้วซึ่งมันดูน่าเกลียด นัยน์ตาสีเทาหม่นหลบการมองใช้ผมสีดำสนิทราวเส้นไหมซึ่งยาวกว่าสามสิบนิ้วมาปกปิดไว้ จากนั้นกวาดตามองเครื่องสำอางราคาแพงที่แม่เลี้ยงสร้อยฟ้าซื้อมาฝาก และหยิบโลชั่นบำรุงผิวมาเทใส่มือเล็กลูบไล้ทาอ้อยอิ่งที่แขน หน้าตาไม่ได้สวยงามหมดจด ให้มีกลิ่นหอมบ้างก็คงดี สามีจะได้ไม่ทำหน้าตาเย็นชาใส่เธอนัก หวนคิดถึงใบหน้าสามีเมื่อทาโลชั่น ถ้าลดสายตาเย็นชาลงบ้าง นัยน์ตาสีถ่านคงชวนให้น่ามองยิ่งนัก

จังหวะนั้นประตูห้องเปิดออก เรือนร่างบอบบางขยับตัว รู้สึกอึดอัดแต่ยังนั่งอยู่ที่เดิม

“ทำไมยังไม่นอน บอกกี่ครั้งไม่ต้องมานั่งทาน้ำหอมยั่วผัว ถ้าฉัน ‘อยาก’ มีน้ำหอมหรือไม่มีเธอต้องสนองให้ฉัน แม่ฉันเลี้ยงเธอมาเพื่อให้ฉันระบายความใคร่ ยังไงฉันก็ต้องใช้ให้คุ้มค่า”

ขวดโลชั่นกลิ่นดอกไม้ถูกวางลงเบาๆ ดวงตาเริ่มมีน้ำตาแวววาว หัวใจเมื่อไหร่จะด้านชา มันเนิ่นนานที่ต้องเจอแบบนี้ ทำไมยังทนเจ็บอยู่ ร่างสูงใหญ่มายืนใกล้ตรงหน้าต้องทำใจให้เย็นเหมือนไม่รู้สึกอะไร

“คุณกินอะไรมาหรือยังคะ”

“ทำไมไม่สะทกสะท้านเลย ฉันพูดกับผนังห้องเหรอเนี่ย”

“ว่าไงคะกินมาหรือยัง”

คนโดนถามมีเสียงจิจ๊ะไม่พอใจ ดุจฝันแสดงความรู้สึกห่วงใยให้เขารับรู้ สักวันเขาคงเห็นใจ มองเมียอย่างเธอ ในสายตาบ้าง ไม่ต้องมาเยาะเย้ย ประชดประชันก็ร่ำไป

“ฝันเป็นห่วงจริงๆ นะคะ ไม่เคยเห็นคุณกินข้าวด้วยกันเลย”

“คิดไม่ได้อีกหรือ ฉันกินไม่ลง และบอกไว้เลยเอาใจแม่ฉันก็พอ ฉันไม่ได้ต้องการอะไรแบบนี้ หลีกไปหน่อย”

เขามองดูชุดนอนที่เธอสวมใส่ ดุจฝันก้มหน้า เรื่องที่เขาประชดประชันทุกถ้อยคำต้องทำหูทวนลม คนไม่มีที่ไปอย่างเธอต้องทนแบบนี้ หน้าชื่นอกตรม

“ดูเสื้อผ้าเธอสิ ฉันว่าจะไม่พูดเรื่องนี้แต่เก็บปากไว้ไม่ได้จริงๆ”

“มีอะไรคะ เสือ้ผ้าฝันมีอะไรหรือ ”

“แต่งตัวด้วยชุดสวยๆ นั่งสบายๆ ทั้งวันนะ อยู่ในไร่จะแต่งสวยไปทำไมนักหนา ยั่วคนงานก็ไม่ได้ ที่นี่มีแต่คนงานผู้หญิง”

เมื่อก่อนเธอไม่เคยแต่งตัวแบบนี้ เคยเห็นรูปถ่ายที่อยู่ในห้องนอนเดิม ดุจฝันจับเนื้อผ้าของชุดนอนตรงชายเสื้อ ตอบตะกุกตะกัก

“แม่เลี้ยงซื้อมาไม่ใส่ก็เสียดายค่ะ… ของดีๆ ทั้งนั้น ถ้าคุณไม่ชอบฝันจะไม่ใส่อีกแล้ว”

“ อย่างอื่นเธอยังเอามาได้เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ใส่ไปก็แล้วกัน แม่จะมาว่าฉันอีก เบื่อจะฟัง”

สามีไม่เคยตามใจเธอ ทำทุกอย่างเพราะแม่เลี้ยงสั่ง การพูดคุยของทั้งสองจึงมีน้อยมาก เรื่องที่อยากพูดอยากถาม ได้แต่เก็บไว้ในหัวใจ ซึ่งนานวันก็เจียนจะทนไม่ได้ บางครั้งอยากหาที่โล่งๆ ตะโกนเรื่องราวที่อึดอึด ถามว่าเธอเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่ เคยทำผิดกับคนที่นี่มากน้อยแค่ไหน ทำไมทุกวันต้องโดนเหน็บโดนประชดประชัน

ร่างสูงกำลังจะเดินไปห้องน้ำ ดุจฝันก้มมองแหวนแต่งงานซึ่งเป็นเพรชเม็ดโต เธอเป็นเมียผู้ชายตรงหน้า ทว่าความสงสัยเรื่องการแต่งงานยังดังก้องในหัว ทำไมเขามาแต่งงานกัน เพราะหลายเดือนที่อยู่ด้วยกัน สัมผัสได้มากขึ้นทุกวันคืน ไม่มีคำว่ารักกับชีวิตคู่ที่ได้เริ่มต้น ซ้ำอาจเกลียด ถามเสียอย่าให้คาใจคงดี อยู่แบบนี้รังแต่จะอึดอัด หญิงสาวใช้มือขวากุมแหวนแต่งงานที่นิ้วนางข้างซ้ายแน่น สูดลมหายใจลึกๆ

“คุณ พ่อเลี้ยงคะ ฝันถามได้ไหมทำไมคุณยอมแต่งงานกับฝันละคะ ยิ่งอยู่กันนานวันฝันรู้ว่าคุณเกลียดฝัน เราไม่รักกัน หรือฝันคิดมากไป”

ใจบางๆ สั่น กลัวคำตอบแต่ความจริงก็คือความจริง เธอจะหลบหนีมันไปได้นานแค่ไหน

สายตาคมเข้มข้นเหมือนมีโทสะ คิ้วดกหนาสีดำเลิกขึ้นน้อยๆ วงหน้าหล่อเหลากำลังจะกลายเป็นซาตาน เจ็บที่ต้องเห็นมันร่ำไปแต่ต้องทนมอง ทนเจ็บและนิ่งฟัง แม้ในใจไม่ชินกับเรื่องนี้ น้ำตาก็ไม่เคยหยุดไหลเมื่อต้องทนอยู่แบบนี้ทุกวัน

“ทำไมเพิ่งมาถาม ฉันคิดว่าเธอไม่มีหัวคิดเรื่องนี้เสียอีก คิดว่าใช้ชีวิตชิลๆ กับความสุขสบายจนชิน มองข้ามเรื่องพวกนี้ เธอมันพวกทำทุกอย่างได้เพื่อความสุขสบายของตนเองเท่านั้น”

“ทำไมคุณพูดแบบนี้คะ ฝันแค่ไม่กล้าพอ ตอนนี้ฝันทำใจไว้แล้ว มีอะไรก็บอกฝันมาเถอะ ถ้าคุณต้องฝืนทน เราจะฝืนทำไม ฝันเองก็คิดมาก นอนไม่หลับนะคะ เราไม่เคยมีคำว่า ครอบครัว ฮือๆๆ ฝันเหนื่อยแล้ว เหนื่อยท่าทีเย็นชาของคุณ เหนื่อยที่ต้องคิดว่าคุณคิดถึงแต่คนอื่น ไม่มีเมียคนนี้ในหัวใจสักนิด ”

น้ำตาแห่งความคับแค้นใจออกมาจากดวงตาเศร้าสร้อย มือเล็กป้ายเช็ดให้ออกจากแก้มนวลแต่เช็ดเท่าไหร่ก็ยังคงไหลบ่า สามีเบือนหน้าหนีเธอรั้งแขนล่ำสันไว้ เขามีคำตอบจะเดินนี้แบบนี้ไม่ได้

“อย่าเดินหนีสิคะคุณ มาพูดกับฝัน วันนี้ฝันกล้าถาม วันนี้คุณรู้ว่าฝันไม่ได้มองข้ามเรื่องนี้ คุณควรจะเคลียร์นะคะ ได้โปรดให้คำตอบฝัน”

“ทำไมต้องเป็นฉันที่ต้องเคลียร์มัน ที่ต้องมาอธิบายคนอย่างเธอ ทำไม …หยุดพูดมาก หลีกไปเดี๋ยวนี้!”

มือใหญ่สะบัดสุดแรง ดุจฝันสะอื้น “ฮือๆๆๆ คุณใจร้ายที่สุด ทำไมใจร้ายกับฝัน ฝันดีกับคุณมาตลอด ดูแลทุกอย่างเท่าที่เมียคนหนึ่งจะทำให้สามีได้ ไม่เคยขัดใจ เราแต่งงานกันแล้ว ฝันเป็นเมียคุณ ถึงอย่างไรได้ชื่อว่าเมีย”

“หยุดฟูมฟาย ไม่ว่าคำตอบเป็นยังไงถ้าความจำเธอดีเมื่อไหร่ก็รู้เอง ตอนนี้อยู่ไปเถอะ ที่นี่คือวิมานสำหรับเธอไม่ใช่หรือ วิมานที่เธออยากเป็นเจ้าของ”

เขาเดินจากไปทิ้งคำพูดประชดประชันเช่นเคย ดุจฝันเอื้อมมือหวังคว้าแขนแต่ร่างใหญ่ว่องไว หายเข้าห้องน้ำ ดุจฝันสะอื้น รู้สึกปวดหัว เธอต้องการอากาศที่ปลอดโปร่ง หญิงสาวเลือกเดินไปที่ระเบียงห้อง…อีกนานเท่าไหร่เธอจะจำเรื่องในอดีตได้ ไม่อยากอยู่อย่างนี้อีกแล้ว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ลิขิตนางฟ้า

ข้อมูลเพิ่มเติม
รักเพียงใดก็ไร้สถานะ

รักเพียงใดก็ไร้สถานะ

โรแมนติก

5.0

อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ

ร้ายไม่เคยรัก

ร้ายไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ

ความผูกพันที่ไร้ค่า

ความผูกพันที่ไร้ค่า

โรแมนติก

5.0

เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง

ซ่อนรักซ่อนรอยร้าว

ซ่อนรักซ่อนรอยร้าว

โรแมนติก

5.0

เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

Burke Gee
5.0

ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

Me'JinJin
4.9

คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ