icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon

ลิขิตแค้นแสนรัก

บทที่ 5 ผู้หญิงที่โดดเด่นที่สุด

จำนวนคำ:2704    |    อัปเดตเมื่อ:14/07/2023

มุมมองของซือเจียเหลย:

ที่หน้ากระจกแต่งตัว ฉันมองดูตัวเองที่สวมชุดเดรสกระโปรงแบบรัดเอวสีขาวตัวหนึ่งกับรองเท้าส้นสูงของพราด้า ผมเกล้าขึ้นทรงดังโงะแบบดูค่อนข้างน่ารัก ที่หูใส่ต่างหูมุกขนาดพอเหมาะคู่หนึ่งเอาไว้

ยังเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง

ฉันจึงใส่สร้อยคอแบบสั้นพอดีคอสีดำเส้นหนึ่ง ด้านบนมีจี้พลอยสีเขียวมิ้นท์เม็ดหนึ่ง นี่เป็นของขวัญจากพ่อของฉันที่มอบให้แม่ของฉันเอาไว้ก่อนหน้านี้ แล้วแม่ของฉันก็เก็บไว้ให้ฉันอีกที

“เสร็จรึยัง? ซือเจียเหลย ขอฉันดูหน่อยสิ เธอช่วยยกโทรศัพท์ขึ้นหน่อยจะได้ไหม?” ในวิดีโอคอล เถียนน่าพูดท้วงติงขึ้นมาเสียงดัง

“ฉันมีแค่สองมือนะ ใกล้จะเสร็จแล้วล่ะ”

สุดท้ายฉันก็ทาลิปสติกสีชมพูที่ฉันโปรดปรานมากที่สุดบนริมฝีปาก แล้วก็ทำการเม้มปากเล็กน้อย

“หันกลับมา ฉันขอดูหน่อย”

ฉันมองตัวเองในกระจก แต่ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยจะสบายใจเท่าไหร่

ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เถียนน่านิ่งอึ้งไปเลย เธอเอามือปิดปากอยู่อย่างนั้น

โทรศัพท์ของฉันค้างเหรอเนี่ย? หรือว่าหลุดสัญญาณไปแล้ว?

“เถียนน่า เธอยังอยู่ไหมเนี่ย?”

“โอ้พระเจ้า เธอน่าทึ่งมาก เฉินหลีซือจะตกหลุมรักเธอแน่ ผู้ชายทุกคนจะต้องมองมาที่เธอเป็นตาเดียว”

“คุณนายเฉินครับ ถ้าเรายังไม่ออกเดินทางกันตอนนี้ เราอาจจะต้องนั่งเครื่องบินไปที่นั่นแทนแล้วนะครับ” ในลานบ้าน มีเสียงเร่งของพันตุ้นที่เป็นคนขับดังขึ้นมา

“เถียนน่า เธอพูดเวอร์ไปแล้ว ฉันต้องไปแล้ว ฉันไม่มีเวลาแล้ว” พอพูดจบ ฉันก็วางสายวิดีโอคอลไปเลย

ฉันยกกระโปรงขึ้น แล้วก็ลงไปข้างล่างอย่างระมัดระวัง

“คุณนายเฉิน คุณช่างงดงามจริง ๆ คุณจะต้องเป็นโดดเด่นที่สุดในงานแน่ ๆ” พันตุ้นเปิดประตูรถให้ฉัน

“ขอบคุณ” แม้ว่าฉันจะไม่ใช่คนชอบปาร์ตี้ แต่ฉันก็รอคอยการที่จะได้ไปเข้าร่วมงานราตรีอย่างมาก

“จะไปทันมั้ย?”

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเองครับ” หลังจากพันตุ้นพูดจบ เขาก็เหยียบคันเร่ง แล้วก็ขับรถไปทางโรงแรมลี่ซือคาเอ่อทันที

*****

ที่ทางเข้าโรงแรม ลมค่อนข้างเย็น ขนที่แขนของฉันลุกซู่ไปหมด โชคดีที่ข้างในน่าจะอุ่นขึ้นหน่อย

ฉันเดินเข้าประตูห้องจัดเลี้ยงไป ฉันคิดว่า เสื้อผ้าที่ฉันสวมใส่มา ไม่น่าจะสะดุดตาเกินไปนัก

“ซือเจียเหลย ในที่สุดเธอก็มาแล้ว” เป็นเสียงของเคอหลินนั่นเอง

“ขอโทษค่ะคุณย่า ฉันมาช้าไปหน่อย”

“เจ้าหญิงน้อยของพวกเราในที่สุดก็มาสักทีนะ”

เฉินวุยถิงกับอั้ยหลี่ฉือก็เดินเข้ามาหาฉันด้วย

“คุณพ่อ คุณแม่ ฉันมาช้าไปหน่อยค่ะ”

“ไม่ช้าหรอก สิ่งที่ดีที่สุดก็ต้องออกมาช่วงท้ายสุดของงานสิ” อั้ยหลี่ฉือพูดด้วยรอยยิ้ม

เวลานี้ สายตาหลายคู่ในห้องจัดเลี้ยงมองมาที่ฉัน หนึ่งในนั้นมีใครคนหนึ่งโบกมือไปมา ซึ่งฉันจำได้ว่า เขาคือเสิ่นผิงเซินนั่นเอง

ดวงตาของฉันทอดยาวออกไปท่ามกลางฝูงชน แล้วในที่สุดฉันก็ได้พบกับดวงตาคู่นั้นที่ลึกล้ำราวกับท้องทะเล เฉินหลีซือ สายตาของเขาที่จ้องมองมาที่ฉันไม่ได้ดูเย็นชาขนาดนั้นแล้ว

“เธอเป็นใครเหรอ?”

“เป็นลูกเลี้ยงของเฉินวุยถิงน่ะ สวยอะไรเบอร์นั้นล่ะ”

“นั่นน่ะสิ สวยมากเลยล่ะ สวยกว่าเหรินธาซะอีก”

.......

ผู้คนกำลังคุยกันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

“ดูสิ ๆ ซือเจียเหลยตัวน้อยของพวกเรากลายเป็นสาวแล้วนะ” เสิ่นผิงเซินเดินมาหาฉันด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ต่งเว่ยเต๋อก็เดินตามมาด้วย

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ฉันยื่นมือออกไป พวกเขาก็จูบมือของฉันเล็กน้อย

ตอนที่เสิ่นผิงเซินกอดฉัน ฉันได้ชำเลืองมองไปที่เฉินหลีซือ เขากำลังยืนอยู่ด้านข้างโพเดียม สายตากำลังมองมาทางฉันอยู่ ท่าทางของเขายังคงดูเย็นชาเช่นเคย แต่กลับดูมีความโกรธแฝงอยู่ในนั้น

“ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย ก่อนงานเลี้ยงครบรอบหกสิบปีของมอเอ่น กรุ๊ปจะเริ่มขึ้น เราจะขอเชิญคุณเฉินหลีซือ ประธานบริษัทขึ้นมากล่าวสุนทรพจน์สักหน่อย ขอเชิญครับ”

เมื่อเฉินหลีซือขึ้นไปบนโพเดียม สีหน้าของเขาก็ไม่ได้เย็นชาขนาดนั้นแล้ว เขาเริ่มพูด แต่สายตากลับจ้องมองมาที่ฉันเป็นระยะ ๆ

ในงานมีนักข่าวอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง แสงแฟลชจึงกระพริบขึ้นมาเป็นครั้งคราว หลังจากจบการกล่าวสุนทรพจน์แล้ว ก็ถึงเวลาที่นักข่าวจะถามคำถาม

“คุณเฉินหลีซือคะ มีข่าวลือว่าคุณกับคุณเหรินธากำลังจะแต่งงานกัน จริงหรือไม่คะ?”

“ใช่ค่ะ ก่อนหน้านี้คุณเฉินได้พาคุณเหรินไปลองชุดแต่งงานมาใช่ไหมครับ?”

.........

สำหรับคำถามเช่นนี้ ฉันไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ เพราะมอเอ่น กรุ๊ปเป็นจุดสนใจของผู้คนอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งเหรินธายังเป็นนักแสดงหญิงที่ชอบมีกระแสข่าวเม้าท์ต่าง ๆ อีกด้วย พวกนักข่าวทางด้านการเงินบางครั้งก็มีซุบซิบกันบ้าง

ฉันเห็นว่าสีหน้าของเคอหลิน อั้ยหลี่ฉือและเฉินวุยถิงดูบึ้งตึงอย่างมาก

“นี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม รบกวนไม่ถามนะครับ ตอนนี้ผมขอประกาศว่า งานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว ขอให้ทุกท่านได้ดื่มด่ำกับค่ำคืนที่วิเศษนี้อย่างมีความสุขนะครับ”

สำหรับคำถามอะไรแบบนี้ เฉินหลีซือเจอจนมีความชำนาญในการตอบแล้ว

หลังจากพูดจบ วงดนตรีงานเลี้ยงก็เริ่มเล่นเพลงเต้นรำขึ้นมา กลบการถามของนักข่าวทันที

แขกทุกคนก็เริ่มที่จะร้องเพลงและเต้นรำกัน

“ซือเจียเหลย ผมพอจะมีเกียรติที่จะได้เต้นรำกับคุณบ้างไหม?” เสิ่นผิงเซินเดินมาหาฉัน ยกมือขึ้นอย่างสง่างาม แล้วก็ก้มหัวมาทางฉัน

ฉันหัวเราะออกมาเบา ๆ ถ้าฉันไม่รู้ว่าเสิ่นผิงเซินมีแฟนเป็นสิบ ๆ คนตั้งแต่สมัยมัธยมปลายแล้ว ฉันจะต้องถูกท่าทางที่ดูเป็นสุภาพบุรุษของเขาหลอกลวงแน่ ๆ

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?” ฉันจับมือเสิ่นผิงเซิน

เสิ่นผิงเซินวางมือข้างหนึ่งลงบนเอวของฉัน

“จับแน่น ๆ หน่อยสิ คนขี้ขลาด คุณกลัวเฉินหลีซืองั้นเหรอ?” ฉันกระซิบที่หูของเสิ่นผิงเซินเบา ๆ

เสิ่นผิงเซินเลิกคิ้วขึ้น แล้วก็โอบแขนรอบเอวของฉันทันที

จากนั้นเราก็เริ่มเต้นรำกัน ทันใดนั้น ฉันก็รู้สึกว่าคอของฉันมันร้อน ๆ ขึ้นมา ราวกับว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองมาที่ฉันอยู่ตลอด ประหนึ่งเป็นเงาที่คอยตามติดอย่างไรอย่างนั้นแหละ อาจเป็นเพราะฉันคิดมากไปเอง จริง ๆ แล้วอาจจะเป็นเพราะสร้อยคอของฉันมันแน่นเกินไปก็ได้?

“เอามือของนายออกไปเดี๋ยวนี้” ทันใดนั้น เสียงที่คุ้นเคยของใครคนหนึ่งก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา

ฉันรู้สึกว่า มือของเสิ่นผิงเซินเด้งออกไปจากเอวของฉันในทันที ราวกับว่าเขาสัมผัสโดนถ่านไฟที่กำลังลุกโชนอะไรอย่างนั้น

ฉันจึงต้องหยุดเต้น แล้วก็หันหน้าไปอย่างโกรธเคือง แล้วก็พบว่าดวงตาที่ลึกราวกับท้องทะเลคู่นั้นกำลังมองตรงมาที่ฉันอยู่

“ทำไมต้องโวยวายด้วย ก็แค่เต้นรำเองนะ” ฉันพูดกับเฉินหลีซืออย่างไม่พอใจ

เขาชะงักไปครู่หนึ่ง บางทีเขาอาจจะไม่ได้คาดคิดว่าฉันจะเถียงเขาขึ้นมาเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็เดินออกไปด้วยความโมโหทันที

เวลานี้ บริกรเพิ่งจะเดินผ่านมาพอดี ฉันจึงหยิบแก้วน้ำผลไม้มาแก้วหนึ่ง แล้วก็ดื่มรวดเดียวจนหมดเลย ฉันไม่มีอารมณ์จะเต้นแล้ว

“ทำไมเขาต้องมาสนใจอะไรฉันด้วยล่ะ” ฉันพูดกับเสิ่นผิงเซิน

“อาจจะแค่เคยชินล่ะมั้ง ซือเจียเหลย วันที่ดีกว่าของเธอรออยู่ข้างหน้าแล้วนะ”

วันที่ดี ก็คือวันหลังจากที่หย่าแล้วน่ะเหรอ?

ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ทันใดนั้น ฉันก็รู้สึกว่าเสียงในห้องโถงจัดเลี้ยงนั้นดังมาก จนทำให้ฉันเริ่มหายใจไม่ค่อยออก ฉันจึงทำการคลายสร้อยที่คอเล็กน้อย แล้วก็เดินไปที่ระเบียง ฉันต้องการที่จะหายใจให้ปลอดโปร่ง

เสิ่นผิงเซินและต่งเว่ยเต๋อไม่ได้ตามมา ซึ่งฉันรู้สึกขอบคุณพวกเขามาก เพราะฉันอยากจะอยู่คนเดียวให้ใจเย็นลงสักพัก

ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของลอสแองเจลิสสวยงามมาก แตกต่างจากปารีสโดยสิ้นเชิงเลย แน่นอนว่ามันต้องแตกต่างกันอยู่แล้ว เพราะที่นี่คือบ้านเกิดของฉัน

แต่ฉันกลับรู้สึกเหงาเล็กน้อย เถียนน่าน่าจะกลับมาจากที่ไปทำงานต่างจังหวัดอีกไม่นานแล้วล่ะมั้ง ฉันเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า ในช่วงสามปีที่ฉันไม่อยู่ที่นี่ เพื่อนสนิทของฉันทั้งหมดอยู่ในยุโรปหมดเลย ยกเว้นเถียนน่า

ลมอ่อนพัดโชยมา ทำเอาแขนของฉันขนลุกซู่ไปหมด ว่าแต่ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ มันทำให้จิตใจของฉันสงบลงมากเลย

เวลานี้ มีเสื้อตัวหนึ่งมาคลุมอยู่ที่ไหล่ของฉันเอาไว้ เป็นลมหายใจที่คุ้นเคย

ฉันจึงหันหลังกลับไป ท่ามกลางแสงไฟที่สลัว ๆ นี้ ชายที่มีใบหน้าเหมือนเทพเจ้ากรีกยืนอยู่ข้างหลังฉัน ดวงตาที่ลึกราวกับท้องทะเลคู่นั้น ทำให้หัวใจที่สงบของฉันเต้นเร็วขึ้นอีกครั้ง

“ตรงนี้มันหนาวนะ ระวังจะเป็นหวัดเอา”

ชายผู้เย็นชาคนนี้ก็รู้สึกห่วงใยผู้คนเหมือนกันเหรอเนี่ย?

อะไรกันเนี่ย แบบนี้มันหมายความว่ายังไง? ผู้ชายที่ทำตัวเย็นชากับฉันราวกับเป็นน้ำแข็งและกำลังจะหย่ากับฉันอยู่แล้ว ทำไมต้องมาทำให้ฉันรู้สึกทุกข์ใจเอาตอนนี้ด้วย?

“คุณไม่หนาวเหรอ?” ฉันเงยหน้าขึ้นมองเฉินหลีซือ

“ผมไม่หนาวหรอก”

ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของฉันก็ส่งเสียงบี๊บดังขึ้นมา เป็นข้อความจากเถียนน่าที่ส่งมานั่นเอง เธอช่วยฉันหาที่อยู่ได้แล้ว

“อีกไม่กี่วัน ฉันว่าจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกแล้วนะ”

“ทำไมล่ะ?”

“ก็เรากำลังใกล้จะหย่าร้างกันแล้วไงคะคุณเฉิน”

“แต่ผมยังไม่ได้เซ็นเลยนะ”

“ที่นั่นมันใกล้กับบริษัทของฉันมากกว่าด้วย จะสะดวกมากกว่า”

“คุณได้งานแล้วเหรอ? ผมสามารถหาให้ได้นะ”

หาให้ฉันเหรอ ฉันรู้สึกทุกข์ใจขึ้นมา จริงสิ ที่ผ่านมาเขาคอยจัดการให้ฉันตลอดเลย ทำให้ฉันต้องเป็นผู้หญิงที่เชื่อฟัง แต่งงานกับเขา แล้วก็เป็นคุณนายเฉินในนามเท่านั้น ฉันมีชีวิตโดยที่เขาเป็นคนคอยออกแบบจัดการให้มาโดยตลอด

“ไม่ต้องหรอก ฉันติดต่อเอาไว้เรียบร้อยแล้วล่ะ”

“คุณต้องเชื่อฟังผมนะ ซือเจียเหลย”

“ทำไมฉันต้องเชื่อฟังคุณด้วยเหรอ?” ฉันทำหน้ามุ่ย แล้วก็ถามกลับไป

ฉันพยายามเอาสูทที่คลุมตัวอยู่ออก แต่เฉินหลีซือกลับกดตัวฉันไว้

“อยากเป็นหวัดแล้วให้ผมดูแลคุณเหรอ? หรืออยากจะไปฟ้องคุณย่า?” เฉินหลีซือยกมุมปากขึ้น แล้วก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา

ฉันกลอกตามองบน แล้วก็ไม่จะเอาเสื้อที่คลุมอยู่ออกอีก

“คุณรับอันนี้ไว้เถอะ” พอพูดจบ เฉินหลีซือก็ยัดบัตรธนาคารใส่มือฉัน แล้วทำท่าจะก้าวออกจากไป

“เมื่อไหร่จะไปทำเรื่องหย่า?” ฉันถาม

“ที่คุณรีบร้อนขนาดนี้ เพราะนักจิตรกรฝรั่งเศสคนนั้นใช่ไหม? ชื่ออะไรนะ ปิเอ? ปิแอร์ใช่ไหม?” เฉินหลีซือถามขึ้นมาด้วยสายตาที่เฉียบคม

คำถามของเขาทำให้ฉันไม่รู้จะตอบยังไงไปพักใหญ่ ฉันมองเฉินหลีซือด้วยความเฉยเมย แล้วก็หันหลังเดินออกไปเลย

ถ้าเขาคิดว่าฉันทำแบบนี้แล้วเป็นการยอมรับ งั้นก็ให้เขาเข้าใจผิดไปนั่นแหละ

เปิดรับโบนัส

เปิด
1 บทที่ 1 กลับมาเพื่อหย่า2 บทที่ 2 เจอหน้ากัน3 บทที่ 3 ผู้มาเยือนที่คาดไม่ถึง4 บทที่ 4 ผู้ชายโลภ5 บทที่ 5 ผู้หญิงที่โดดเด่นที่สุด6 บทที่ 6 เสือที่ไร้เขี้ยว7 บทที่ 7 ฉันจะย้ายออก8 บทที่ 8 สิทธิ์ของสามี9 บทที่ 9 รักโดยไม่รู้ตัว10 บทที่ 10 รับประทานอาหารเย็นร่วมกัน11 บทที่ 11 ข้อตกลงการเลี้ยงดู12 บทที่ 12 นอนเตียงเดียวกัน13 บทที่ 13 คนที่คุณรักไม่ใช่ฉัน14 บทที่ 14 ไม่ได้นอนทั้งคืน15 บทที่ 15 บังคับจูบ16 บทที่ 16 ผิดสัญญา17 บทที่ 17 ถูกบังคับให้จำยอม18 บทที่ 18 ไข้ขึ้น19 บทที่ 19 เรื่องอื้อฉาว20 บทที่ 20 ดื่มเหล้า21 บทที่ 21 เป็นลม22 บทที่ 22 แสร้งทำเป็นคบกัน23 บทที่ 23 จิตใจว้าวุ่น24 บทที่ 24 ค้างคืนอีกครั้ง25 บทที่ 25 ไม่ได้รัก26 บทที่ 26 ชุดแต่งงาน27 บทที่ 27 อวยพร28 บทที่ 28 เมาเหล้า29 บทที่ 29 เกิดอะไรขึ้นกันแน่?30 บทที่ 30 ราคาของฉัน31 บทที่ 31 สำคัญจนประเมินค่าไม่ได้32 บทที่ 32 ด่าสาดเสียเทเสีย33 บทที่ 33 คุณนั่นแหละ!34 บทที่ 34 ทายา35 บทที่ 35 อาการเข้าขั้นวิกฤต36 บทที่ 36 คุณย่าเป็นลม37 บทที่ 37 ไม่เซ็นชื่อ38 บทที่ 38 ซื้อดอกไม้39 บทที่ 39 ไม่เกลียด40 บทที่ 40 โดนสาดสี41 บทที่ 41 ทำอาหารเช้า42 บทที่ 42 ความจริง43 บทที่ 43 ตีก้น44 บทที่ 44 ภาพอันแสนอบอุ่น45 บทที่ 45 ปัญหาของผู้ชาย46 บทที่ 46 ไม่อยากหย่า?47 บทที่ 47 แฉ48 บทที่ 48 ภาพถ่าย49 บทที่ 49 เค้ก50 บทที่ 50 ป่วย51 บทที่ 51 ควบคุมตัวเองไม่ได้52 บทที่ 52 นิสัยเด็ก53 บทที่ 53 สาบาน54 บทที่ 54 ความจริง55 บทที่ 55 ป้อนผลไม้56 บทที่ 56 รับประกันได้57 บทที่ 57 สงครามเย็น58 บทที่ 58 ดื่มเหล่าเป็นเพื่อน59 บทที่ 59 ดึง60 บทที่ 60 ข่าวลือ61 บทที่ 61 เอ้อระเหย62 บทที่ 62 ตีเทนนิส63 บทที่ 63 คำสารภาพ64 บทที่ 64 ผู้สนับสนุน65 บทที่ 65 ปกป้อง66 บทที่ 66 หลานสะใภ้67 บทที่ 67 คลุมเครือ68 บทที่ 68 คดีความ69 บทที่ 69 พบโดยบังเอิญ70 บทที่ 70 รักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น71 บทที่ 71 บนเตียง72 บทที่ 72 ข่าว73 บทที่ 73 เพชร74 บทที่ 74 ลองชุดแต่งงาน75 บทที่ 75 ชื่อคนติดต่อ76 บทที่ 76 ซื้อบ้าน77 บทที่ 77 ยั่วยวน78 บทที่ 78 ฟ้องหย่า79 บทที่ 79 เฉินหลีซือที่เมามาย80 บทที่ 80 ข่าวแต่งงาน81 บทที่ 81 เหรินธาที่คอยตามหลอกหลอน82 บทที่ 82 ตั้งท้อง83 บทที่ 83 ความขัดแย้ง84 บทที่ 84 ความจำเสื่อม85 บทที่ 85 เป็นไข้สูง86 บทที่ 86 ความขมขื่น87 บทที่ 87 ค้นพบ88 บทที่ 88 หยั่งเชิง89 บทที่ 89 งานเลี้ยงที่แอบซ่อนกับดัก90 บทที่ 90 ได้รับบาดเจ็บ91 บทที่ 91 ประกาศ92 บทที่ 92 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ93 บทที่ 93 อุบัติเหตุรถยนต์94 บทที่ 94 เยี่ยมไข้95 บทที่ 95 สัญญา96 บทที่ 96 การต่อสู้ของทั้งสอง97 บทที่ 97 แหวน98 บทที่ 98 สถานการณ์วุ่นวาย99 บทที่ 99 คำสอบถามจากคนในครอบครัว100 บทที่ 100 พักค้างคืน