จำเลยรักลวงใจ
มันเหมือนแผ่นดินแล้งน้ำที่ได้รับสายฝนเย็นชื่น เหมือนกับปลาที่ติดอยู่ในปลักดินแห้งๆ ของหนองน้ำที่รอวันตาย แต่จู่ๆ ก็มีสายฝนโปรยลงมาให้ชีวิตใหม่ ปลาที่กระเสือกกระสนหนีตายเลยดีดดิ้นเริงร่า ม่านมุกระริกระรี้ไปกับรสสวาทหวานหอม เธอค่อยๆ จมดิ่งลงไปกลางหุบเหวสวาท ถูกเปลวไฟปรารถนาเผาไหม้ และถึงขีดสุดด้วยความพึงพอใจ
หลังอิ่มเอมรสสวาทที่เฝ้าปรนเปรอกันและกัน
ม่านมุกจำไม่ได้แล้วครั้งสุดท้ายที่มาหาทามไท เธอกับเขาใช้ชีวิตนอกห้องนานกี่นาที
“ตกลงคุณจะไปกับผมไหมมุก?” ทามไทถามเสียงแข็ง เขามองม่านมุกผ่านควันบุหรี่ที่ลอยอบอวลอยู่รอบตัว
ชายหนุ่มได้ยินเสียงถอนใจแรงๆ ก่อนที่ม่านมุกจะยอมเปิดปากตอบ “มุกรักคุณนะคะไท แต่...” หากเห็นความรักสำคัญกว่าความสะดวกสบายที่ชาวีมอบให้ ม่านมุกคงไม่หนักใจเท่านี้ เธอยังไม่รู้ประวัติความเป็นมาของทามไทดีพอ และหากหุนหันพลันแล่น ถลำตัวไปคุณภาพชีวิตของเธอจะลดลงไหม
เพราะหากเริ่มต้นใหม่กับทามไทจริงจัง เธอก็ไม่อยากเริ่มต้นด้วยการนับหนึ่ง เธอคงไม่สะดวกใจที่จะไปลำบากลำบนพร้อมเขา
“ผมคงรักคุณไม่เท่าที่พ่อเลี้ยงชาวีมอบให้คุณสินะ” ทามไทพูดประชด เขาสลัดผ้าห่ม กระชากกางเกงมาสวมลวกๆ
“โธ่!” ม่านมุกคราง เธอตัดสินใจลำบาก
แต่หากถามหาความรัก หัวใจของเธอเอนเอียงมาที่ชายตรงหน้าเต็มตัว
“เอาอย่างนี้ดีไหม ผมรวยไม่เท่าพ่อเลี้ยงชาวี และคุณคงคิดว่าผมคงเลี้ยงคุณได้ดีไม่เท่าเขา แต่ผมมีทางออกนะ” ทามไทยื่นข้อเสนอ ม่านมุกน่าจะสนใจ
“แบบไหนคะ” ม่านตาม่านมุกเบิกกว้างขึ้น
การไปจากที่นี่คือความฝัน เธอเบื่อความจำเจ อยากออกไปพบกับความศิวิไลซ์ แต่หากไปแต่ตัวเปล่า คงได้อดมื้อกินมื้อแบบนั้น เธอคิดว่าเธอยอมอึดอัดอยู่แบบนี้มากกว่า ความจนมันน่ากลัว เธอสัญญากับตัวเองแล้ว เธอจะไปกลับไปใช้ชีวิตแบบนั้นอีกแน่ๆ
“พ่อเลี้ยงน่าจะมีสมบัติเยอะ เครื่องเพชร เครื่องทองของเก่าน่าจะสะสมไว้ไม่น้อย หากคุณอยากมีทุนสำหรับไปตั้งหลักกับผม คุณควรปันส่วนที่น่าจะเป็นของคุณในอนาคตมาสักก้อนนะมุก”
ม่านมุกนิ่งคิด สมบัติของชาวีมีเยอะเหมือนที่ทามไทเสนอ เพียงแต่เธอไม่ชอบเพราะแบบโบราณคร่ำครึ สมบัติเหล่านั้นอยู่ในตู้เชฟหัวเตียงนั่นเอง หญิงสาวเม้มปาก สมบัติเก่าโบราณนั่นคงทำให้เธอสบายเหมือนที่ทามไทบอกจริงๆ
“ผมมีที่ปล่อย และไม่มีทางที่ผัวเก่าคุณจะดมกลิ่นจนเจอเราสองคนแน่”
ทามไทย้ำหนักแน่น เขาไม่มีทางปล่อยม่านมุก จนกว่าหล่อนจะหมดประโยชน์นั่นแหละ
“ตกลงค่ะ ฉันจะหาทางยักยอกเครื่องเพชรนั่นมา ตอนนั้นเราค่อยวางแผนการหนีกันก็ได้ค่ะ” ทามไทไม่ได้พูด เขาวางแผนหนีตั้งแต่ม่านมุกตกลงใจแล้ว ชาวีไม่ใช่คนธรรมดา หากเขาจะหลบสายตาผู้ชายคนนั้น เขาต้องเตรียมแผนรับมือชาวีไว้แต่เนิ่นๆ
บทที่4.
คนหนึ่งไป อีกคนหนึ่งก็มา
มิลินเลียไอครีมในมืออย่างเอร็ดอร่อยๆ เธอไม่ได้ชิมไอครีมโบราณแบบนี้นานจนแทบจำรสสุดท้ายที่ผ่านปากไม่ได้ ในเมืองใหญ่มีแต่ไอครีมสำเร็จรูป หากอยากชิมรสดั้งเดิมต้องที่บ้านเกิดเธอ หรือไม่ก็ตามชนบทที่ห่างไกลตัวเมืองเท่านั้นแหละ แต่แล้วเธอก็ต้องผวาตัวสั่นไปทั้งร่าง จู่ๆ ผู้ชายแปลกหน้าก็วิ่งเขามาหา เขาจับหัวไหล่เธอเขย่า จนไอครีมในมือหลุดตกพื้น
“มุกคุณมาทำบ้าอะไรอยู่ตรงนี้หะ!!”
ท่าทางเคร่งเครียด แววตาหลุกหลิกน่าสงสัย
“ปล่อยฉันนะคุณ ฉันไม่ใช่คนที่คุณตามหาหรอก” มิลินสะบัดหัวไหล่ ยกมือดันอกคนตรงหน้า พร้อมกับพยายามชี้แจง
“อย่ามาตลก ผมไม่ตลกนะคุณ เราต้องรีบไปจากที่นี่ เดี๋ยวนี้” ทามไทลดมือมากุมข้อมือหญิงตรงหน้า เขาออกแรงรั้ง แต่หล่อนขืนตัวไว้
“ฉันก็ไม่ตลกค่ะ ฉันชื่อมิลิน ไม่ใช่คนชื่อมุกที่คุณพูดถึง” มิลินสะบัดข้อมือ เธอขยับถอยห่าง ตั้งท่าป้องกันตัวหากชายตรงหน้าจงใจเข้ามาหาตนเองอีกครั้ง
ทามไทขมวดคิ้ว เขาพิจารณาหญิงตรงหน้าซ้ำ เขากำลังร้อนใจ หากไม่รีบไปตอนนี้ เกรงว่าชาวีจะตามเจอ