นิยายเรื่องนี้เป็นงานเขียนล่าสุดของศิรารัยที่สร้างเรื่องราวความรักจากปัจจุบันสู่อดีตและกลับมาจบสมบูรณ์ในยุคปัจจุบันที่อยากให้ผู้อ่านได้เปลี่ยนบรรยากาศที่เคยอ่านนิยายไทย-ไทย ไทย-อาหรับ ไทย-จีน มาเป็นนิยายไทย-อินเดียดูบ้าง โดยสร้างคู่พระนางให้นางเอกเดินทางไปประเทศอินเดียและได้ไปพบพระเอกในอดีตเพื่อช่วยเหลือให้ได้ขึ้นครองราชย์ แต่ความรักของคนในโลกอดีตกับคนในโลกปัจจุบันจะสมหวังได้ก็เกินความเป็นจริงจึงต้องทำให้นางเอกมาสมหวังในความรักกับพระเอกในโลกปัจจุบันที่สืบเชื้อสายมาจากเขาผู้นั้น และนักเขียนเชื่อว่า...ถ้าเพื่อนนักอ่านเปิดใจอ่านนิยายเรื่องนี้ จะได้รับทั้งความสนุกสนานและความซาบซึ้งใจในความรักของคนในโลกอดีตและคนในโลกปัจจุบัน... ************************************* เพียงสบตาในอุราก็หวั่นไหว เลือดเนื้อกายร้อนรุมดังสุมไข้ ยิ่งใกล้ชิดยิ่งขัดเขินสะเทิ้นอายใยไพ ใจหนอใจทำไมสั่นไหวเช่นนี้เอย *************************************** ความรัก... ไม่ใช่นํ้าหมึกจากปลายปากกา ที่ผ่านวันเวลา ไม่นานก็เจือจาง ความรัก... ไม่ใช่นํ้าหอมที่กลิ่นจางหายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ความรัก... ไม่ใช่เสื้อผ้าอาภรณ์หรือข้าวของเครื่องใช้ ที่เก่า แล้วก็เปลี่ยนใหม่ ความรัก... ไม่ใช่อาหารที่กินหลายมื้อก็เบื่อหน่าย ฯลฯ ************************************** ''เธอเป็นใครถึงจะมาสอนสั่งว่าฉันกินอะไรได้หรือกินอะไรไม่ได้ เป็นแม่ครัวก็ควรทำหน้าที่แม่ครัวของเธอ ไม่ต้องมาวิจารณ์คนกิน ไป ไปทำอาหารที่ฉันต้องการมา ต่อไปไม่ต้องเอาผักหญ้าพวกนี้มาให้ฉันกินอีก” อาหารจานหนึ่งถูกโยนแตกเพล้งตรงหน้าผู้ที่ถูกเรียกว่า...แม่ครัว...สลัดผักธัญพืชและนํ้าสลัดที่วัสสิกาต้องใช้เวลาคำนวณแคลอรี่ว่าต้องมีผักธัญพืชมากน้อยเท่าไรและสรรหาผักสดๆใหม่ๆมาทำอย่างประณีตหกกระจายเกลื่อนอยู่ตรงหน้าเหมือนเศษขยะ ที่วัสสิกาแทบจะร้องกรี๊ดออกมาด้วยความโมโห เพราะเจ้าชายจอมยโสไม่ได้ทำลายแค่อาหารจานสองจานแต่ได้ทำลายความตั้งใจดีของเธอจนหมดสิ้น “ตาหมีอ้วน" วัสสิการ้องว่าในใจ ความโกรธวิ่งจี๊ดขึ้นสมองวัสสิกาแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต เธอไม่เคยโกรธใครมากมายอย่างนี้ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าโกรธทำไม่นักหนา แต่ตอบโต้ออกมาได้เพียงกรีดเสียงอยู่ในความนึกคิด..ตาหมีอ้วน ฉันอุตส่าห์ตั้งใจทำมาให้กิน ยังจะมาว่ามาทำแบบนี้อีก...เพราะสิ่งที่เจ้าชายอาทิตยสุเรนทรากระทำ...โยนจานอาหารใส่หน้า...เป็นการทำร้ายจิตใจแบบที่ไม่เคยมีใครทำกับเธอมาก่อน วัสสิกาหมดความอดทนต่อผู้สูงศักดิ์ จึงโต้กลับทันควัน ฯลฯ ********************************
วัสสิกาสะดุ้งตื่นลืมตามองรอบกาย ห้องนอนกว้างขวางตกแต่งด้วยสีเหลืองนวลสลับขาวจากม่านมุ้งม่านหน้าต่างจนถึงผ้าปูเตียงปลอกหมอนผ้าห่มและพรมปูพื้น ทุกอย่างยังคงเป็นห้องนอนของเธอไม่ใช่ที่อื่น สิ่งที่เธอเห็นอยู่เมื่อครู่เป็นภาพจากความฝัน ใช่ ฝันอีกครั้งจากหลายครั้งในเวลาสองสามเดือนที่ผ่านมา เธอฝันว่าอยู่ในพระราชวังสวยงาม ได้ทำอาหารขึ้นโต๊ะเสวย แก่ผู้สูงศักดิ์ และเกิดเรื่องราว
“เจ้าเป็นแม่ครัวนะ ไม่ใช่หมอยาที่จะมาสอนสั่งให้ข้า ระวังโรคภัยหรือกินอะไรได้กินอะไรไม่ได้ เอาอาหารบ้าๆของเจ้าออกไป ข้าไม่กิน" และอาหารจานหนึ่งถูกโยนแตกเพล้ง ตรงหน้าวัสสิกา
...หมดกัน...อาหารที่เธอบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยการ คัดเลือกวัตถุดิบสดใหม่จัดลงจานอย่างสวยงามหกกระจายเกลื่อนอยู่ตรงหน้าเหมือนเศษขยะ
เหตุการณ์ความฝันในสถานที่แห่งเดียวกันเกิดซํ้าหลายครั้ง ยิ่งใกล้วันเดินทางไปร่วมประกวดการทำอาหารกับโครงการอาหารและสุขภาพในรายการ...สุดยอดฝีมือเชฟอาเชียน2020...ของสมาคมอาหารเพื่อสุขภาพแห่งอาเซียน วัสสิกาก็ยิ่งฝันบ่อยขึ้น เดือนนี้เธอฝันเป็นครั้งที่สามแล้ว และอีกหนึ่งสัปดาห์เธอกับเพื่อนสนิทอีกสองคนจะเดินทางไปประเทศอินเดียเจ้าภาพที่จัดงานประกวดในปีนี้
วัสสิกาเกิดในประเทศไทยจากมารดาคนไทยเชื้อสายจีน แต่มีความผูกพันกับประเทศอินเดียถิ่นกำเนิดของบิดาเชื้อสาย อินเดียมาตั้งแต่เยาว์วัย โดยครอบครัวของบิดาเข้ามาทำธุรกิจ การค้าเกี่ยวกับเครื่องเทศอยู่ในประเทศไทยนานหลายสิบปี วัสสิกาเป็นลูกหลานคนเดียวที่ชอบกินอาหารอินเดียเหมือนบิดาและปูย่า ทั้งยังเป็นคนเดียวในลูกสี่คนที่ชอบการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ และสนใจเรียนรู้ทุกสาขาวิชาเกี่ยวกับอาหาร
วัสสิกาเรียนจบหลักสูตรประกาศนียบัตรเชฟและเชฟเอ็กคิวซีฟจากสถาบันอาหารมีชื่อของฝรั่งเศสและนำความรู้มา ประยุกตัใช้กับกิจการค้าเครื่องเทศปรุงรสและร้านอาหารของ ครอบครัวจนได้รับความชื่นชมและการสนับสนุนจากครอบครัวให้เข้าประกวดการทำอาหารกับโครงการอาหารและสุขภาพใน รายการ...สุดยอดฝีมือเชฟอาเชียน2020...ของสมาคมอาหารเพื่อสุขภาพแห่งอาเซียน
อาหารอินเดียมีความหลากหลายด้านวัฒนธรรมอาหาร และมีจุดเด่นจากการใช้เครื่องเทศมายาวนานกว่า 7,000 ปี ครอบครัวของวัสสิกามีธุรกิจนำเข้าเครื่องเทศทุกรูปแบบและมีเครื่องเทศปรุงรสอาหารเป็นผลิตภัณฑ์ของตนเองมายาวนานกว่า สิบปี ปัจจุบันมีทั้งการนำเข้าและส่งออกในประเทศกลุ่มอาเซียน กับละตินอเมริกาและยุโรปบางประเทศ
สินค้าเครื่องเทศปรุงรสที่บริษัทของครอบครัววัสสิกา นำเข้าและผลิตแบรนด์( Brand-ยี่ห้อ)ของตนเองเรียกว่า...มัสซา ลา(Masala) กับ การัมมัสซาลา(Karammasara)...เป็นรายแรก ของเมืองไทย และผลิตสูตรใหม่เป็นผงเป็นซอสเป็นกลิ่นออกมา ตามความต้องการของผู้บริโภคอีกหลายชนิดที่สามารถนำไปใช้ ปรุงรสอาหารได้ทุกรูปแบบ เช่น การหมัก การทอด การผัด การ แกง การอบ ฯลฯ หรือใส่ในอาหารประเภทของหวานของขบเคี้ยว และเครื่องดื่ม
บิดาเล่าให้ฟังว่าต้นสกุลจันทรัสมิ์(จัน-ทะ-รัด)เป็นชาว อินเดียนับถือศาสนาพุทธที่มีอยู่เพียง 0.7 % ในปัจจุบันทำการค้าเครื่องเทศสืบทอดกันมาช้านาน คุณทวดของวัสสิกาเป็นรุ่นบุกเบิกเดินทางค้าขายในต่างประเทศ และพาครอบครัวเข้ามาทำการค้าในประเทศไทยหลังจากเทียวไปเทียวมาจนการค้ามั่นคงก็พำนักอยู่ในประเทศไทยอย่างถาวร คุณปูของวัสสิกาเป็นบุตรชายคนเดียวที่สานต่องานการค้าเครื่องเทศและเป็นเจ้าของธุรกิจการค้าเครื่องเทศรายใหญ่รายหนึ่งในเอเชียและบิดากับพี่ชายทั้งสองของวัสสิกาได้สืบต่อธุรกิจมาจนถึงปัจจุบัน
คุณกฤษณะ จันทรัสมิ์ บิดาของวัสสิกาแต่งงานกับคุณวิมลหญิงสาวชาวไทยเชื้อสายจีน มีบุตรด้วยกันสี่คน พี่น้องสี่คนของวัสสิกาเป็นพี่ชายสองคนกับน้องสาวคนหนึ่ง พี่ชายคนโตแต่งงานกับสาวสวยเชื้อสายอินเดีย พี่ชายคนรองแต่งงานกับหญิงสาวชาวไทยเชื้อสายจีนอย่างมารดา และน้องสาวคนเล็กกำลังเรียนมัธยมปลาย โดยมีวัสสิกาคนเดียวที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารและโภชนาการ
วัสสิกาเติบโตในแวดวงอาหารอินเดียและเครื่องเทศของครอบครัวมาตั้งแต่เยาว์วัย ระหว่างเรียนก็คอยช่วยบิดากับพี่ชายต่อยอดธุรกิจเครื่องเทศปรุงอาหาร โดยคิดสูตรนํ้ากลิ่นเครื่องเทศกับผงสูตรและซอสมัสซาลากับการัมมัสซาลาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ในแบรนด์บริษัทของครอบครัวและกำลังเป็นสินค้าที่นิยมของลูกค้าทั่วโลก
แต่สิ่งที่อยู่ในความใฝ่ฝันของวัสสิกา คือ ทำให้คนสนใจกินอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น และการเข้าร่วมประกวดทำอาหารเพื่อสุขภาพในโครงการอาหารและสุขภาพของสมาคมอาหารเพื่อ สุขภาพแห่งอาเซียนก็เป็นโอกาสสำคัญ วัสสิกาชนะการคัดเลือก เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดในรายการ...สุดยอดฝีมือเชฟ อาเชียน...ที่ปี ค.ศ. 2020 ประเทศอินเดียเป็นเจ้าภาพ โดยผู้เข้า แข่งขันการทำอาหารทุกประเทศต้องเดินทางไปพักเตรียมตัวและ ร่วมประกวดนานหนึ่งสัปดาห์ ณ โรงแรมชัยปุระ ฮาวา รอยัล พาวิลเลี่ยน เมืองชัยปุระ รัฐราชสถานหรือราชาสถานประเทศอินเดีย อันมีคำลํ่าลือว่าเป็นโรงแรมสวยหรูอันดับหนึ่งและมีประวัติการสร้างยาวนานนับร้อยปี
บทที่ 1 ฝันอีกแล้ว
21/02/2023
บทที่ 2 โรงแรมที่เข้าพัก
21/02/2023
บทที่ 3 ใครเรียก
21/02/2023
บทที่ 4 คุ้นตา-คุ้นเคย
21/02/2023
บทที่ 5 วันแข่งขัน
21/02/2023
บทที่ 6 โกลาหล
21/02/2023
บทที่ 7 ทำได้อย่างไร
21/02/2023
บทที่ 8 ค.ศ.1889
21/02/2023
บทที่ 9 ที่อยู่ใหม่
17/02/2023
บทที่ 10 อาหารการกิน
21/02/2023
บทที่ 11 การทำงาน
21/02/2023
บทที่ 12 รีบ-เข้าเฝ้า
21/02/2023
บทที่ 13 ถูกใจ
21/02/2023
บทที่ 14 พูดจาแปลกๆ
21/02/2023
บทที่ 15 ทดสอบรสมือ
21/02/2023
บทที่ 16 สงครามเงียบ
21/02/2023
บทที่ 17 ฉาด...
21/02/2023
บทที่ 18 เกือบไม่ทัน
21/02/2023
บทที่ 19 อร่อยอย่างมีคุณค่า
21/02/2023
บทที่ 20 ได้คำตอบ
21/02/2023
บทที่ 21 หยั่งเสียงพระเชษฐา
21/02/2023
บทที่ 22 แม่ครัวคนใหม่
21/02/2023
บทที่ 23 เหตุผลการกลับมาอดีต
21/02/2023
บทที่ 24 ตำแหน่งรักษาการ
21/02/2023
บทที่ 25 บังอาจ
21/02/2023
บทที่ 26 เพล้ง...
21/02/2023
บทที่ 27 ข้อพิพาทคู่กรณี
21/02/2023
บทที่ 28 รูปลักษณ์สำคัญไฉน
21/02/2023
บทที่ 29 รูปลักษณ์สำคัญไฉน2
21/02/2023
บทที่ 30 รูปลักษณ์สำคัญไฉน3(NC)
21/02/2023
บทที่ 31 งอนหรือโกรธ
21/02/2023
บทที่ 32 ครัวเก่า-ครัวใหม่
21/02/2023
บทที่ 33 เรียกเข้าเฝ้า
21/02/2023
บทที่ 34 ไม่ทำ
21/02/2023
บทที่ 35 อุบัติเหตุ
21/02/2023
บทที่ 36 แรงจูงใจ
21/02/2023
บทที่ 37 แผนจูงใจ
21/02/2023
บทที่ 38 ดอกไม้ออกงาน
21/02/2023
บทที่ 39 งานประจำปี
21/02/2023
บทที่ 40 สะดุดตา
21/02/2023
หนังสืออื่นๆ ของ ศิรารัย
ข้อมูลเพิ่มเติม