ทิพย์อัปสรนางฟ้าผู้งามละไม ได้เป็นที่รักแห่งเทพผู้ใหญ่อย่างพระเสาร์ เรื่องราวเกือบจะราบรื่นแล้ว ถ้านางจะไม่เป็นที่รักแห่งองค์พระอังคารเทพแห่งสงครามผู้แกร่งกร้าวด้วย ดังนั้นสงครามแห่งสวรรค์จึงบันเกิด!
สูงขึ้นไป...ในห้วงจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล กล่าวกันว่า อีกฟากหนึ่งของทางช้างเผือกที่ดารดาษดวงดาวคือดาวดึงส์...อันเป็นดินแดนสวรรค์ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยความสุขสนุกสนาน ความงดงามวิจิตรตระการตานั้น จะครึกครื้นเป็นพิเศษเมื่อถึงเทศกาลดอกอาสาวดีบาน ที่พันปีจึงบานเพียงครั้งเดียว และมีอยู่ในสวนจิตรลดาวันบนดาวดึงส์เท่านั้น
เนื่องจากยามที่พวงระย้าของดอกอาสาวดีประดับไปทั่ว อาณาบริเวณอุทยานสวรรค์จะแลดูอร่ามราว
พลิ้วม่านทองคำ ส่งกลิ่นหอมกรุ่นอบอวลกำจายไปทั่วทุกอณูอากาศ
องค์อมรินทร์จอมเทพแห่งดาวดึงส์จึงทรงเลือกบรรยากาศน่ารื่นรมยิ่งนี้ เป็นโอกาสจัดงานเฉลิมฉลองสวรรค์ขึ้นเป็นประจำในสวนจิตรลดาวันอย่างเอิกเกริก โดยทรงเชิญปวงเทพผู้ใหญ่มาร่วมงานรื่นเริงนี้ด้วย
เหล่าเทพบุตรเทพธิดาทั้งมวลก็พากันเตรียมต้อนรับงานฉลองสวรรค์อย่างคึกคัก มีการคัดเลือกเทพธิดาผู้ที่มีความงดงามที่สุดให้เป็น “นาฏนารี” เพื่อฟ้อนนำในระบำที่จัดถวายแด่ปวงเทพผู้ใหญ่
และในงานเฉลิมฉลองสวรรค์ครั้งนี้ ผู้ที่ได้รับเลือกว่ามีความงามเป็นเลิศคือ เทพธิดาสุลักษณา...ด้วยความงามหยาดเยิ้มและท่วงท่าอันแช่มช้อยของนาง ที่ร่ายรำอยู่ท่ามกลางเหล่านางฟ้าซึ่งกำลังจับระบำ ณ เบื้องหน้าปวงเทพทั้งหลาย ได้สะกดให้ผู้เห็นต่างเพลิดเพลินจนแทบจะไม่อาจละสายตาแม้แต่วินาทีเดียว
เว้นแต่องค์พระเสาร์ !
ด้วยทรงมีพระอัธยาศัยรักสงบสันโดษ จึงไม่ใส่พระทัยในงานรื่นเริงนัก ระบำยังไม่ทันจบชุดก็ดำริจะเสด็จออกจากงานฉลองไป
“อ้าว! ศนิท่านจะกลับแล้วหรือ”
พระราหูซึ่งประทับอยู่ใกล้ๆตรัสทัก เมื่อเหลือบเห็นร่างสูงสง่าของพระสหายสนิทลุกจากราชอาสน์
“อืม...” พระเสาร์รับคำอย่างคุ้นเคย
“มีกิจสำคัญใดเร่งเร้าท่าน...” สุรเสียงกังวานก้องซักถามต่อคิ้วรูปกนกบนพระพักตร์ดุร้ายอย่างพระยายักษ์ของพระราหูเลิกขึ้นด้วยความสงสัย พลางเหยียดขนดหางออกช้าๆราวเกียจคร้าน
“ไม่มี...เราเพียงแต่เบื่อที่พลุกพล่านเท่านั้น”
“ท่านนี่แปลก! นางฟ้าที่งามเลิศอยู่ตรงหน้ายังบอกว่าเบื่อได้...แล้วก็ไม่เคยเห็นท่านสนใจในสตรีนางใดเลย เฮ้อ...ดูท่าองค์กามเทพคงไม่โปรดท่านละมัง”
พระเสาร์เพียงแต่สรวลเบาๆ ต่อคำสันนิษฐานหยอกเย้าของพระสหายผู้มีรูปกายครึ่งยักษ์ครึ่งนาค แล้วเสด็จ
จากไปอย่างไม่ใส่พระทัยนัก...
ผ่านเทือกทิวเขาสลับซับซ้อนสูงชัดเสียดฟ้า ห้วงน้ำมหึมากว้างใหญ่...สู่ดินแดนหิมพานต์ที่กั้นกลางระหว่างสรวงสวรรค์กับถิ่นที่อยู่ของมนุษย์
หิมพานต์...ป่าอาถรรพณ์ที่อุดมไปด้วยมวลพฤกษา ภูผา สายธาร และเหล่าสัตว์แปลกตาหลากหลาย
แต่ในความงดงามแห่งธรรมชาติก็แฝงไว้ด้วยภยันตรายนานาทั้งจากสัตว์ป่าดุร้ายและยักษ์มารผู้สัญจรผ่าน
ดินแดนที่มนุษย์สามัญไม่สามารถอาศัยอยู่ได้นี้กลับเป็นที่ทรงสำราญแห่งองค์พระเสาร์
ร่างสูงสง่าในอาภรณ์สีม่วงเข้มประดับด้วยรัตนมณีนิลจึงปรากฏเด่นอยู่กลางป่าอาถรรพณ์...ดุจดั่งเคย พระเสาร์ทรงปกปิดรัศมีเจิดจ้าที่แผ่ออกรอบพระวรกายไว้ ด้วยทรงไม่ต้องการจะทำให้เกิดความแตกตื่นตกใจแก่ผู้ที่บังเอิญพานพบพระองค์เข้า
หลังจากได้ชื่นชมดื่มด่ำกับความสุขสงบของป่าเขาและธรรมชาติเป็นที่เพียงพอแล้ว พระองค์ก็ทรงนั่งเล่นอยู่
ใต้ร่มไทรใหญ่ต้นหนึ่ง
ในเวลาเดียวกันนี้ ที่ขอบฟ้าทิศตะวันตกซึ่งดวงอาทิตย์สีส้มสดคล้อยต่ำจวนจรด ปรากฏร่างกินรีสามนางสวมอาภรณ์วาวระยับประดับอัญมณีอย่างธิดากษัตริย์ ต่างมีดอกไม้หลากชนิดอยู่ในอ้อมแขน บินเกาะกลุ่มหยอกล้อกัน
ใกล้เข้ามาทุกขณะ
“กุหลาบสีขาวของพี่หญิงงามมากเพคะ” กินรีน้องน้อยเอ่ยเสียงอ่อนหวาน
“น้องเกศกัลยาชอบหรือจ๊ะ เอ้า! พี่แบ่งให้ เกศสุดาซึ่งเป็นพี่หญิงใหญ่ยิ้ม พลางเลือกกุหลาบดอกโตส่งให้
“ขอบพระทัยเพคะ อุ๊ย!...” เกศกัลยาอุทาน เพราะขณะที่นางยื่นมือรับ ก้านกุหลาบได้เกี่ยวถูกสร้อยข้อมือของนางหลุดร่วงหล่นลงไปเบื้องล่าง
“น้องเกศประภารอก่อนจ๊ะ” เกศสุดาเรียกน้องหญิงคนรองซึ่งบินล้ำหน้าไปเล็กน้อยจึงไม่ได้เห็นเหตุการณ์ที่กิดขึ้น
“มีอะไรหรือเพคะ พี่หญิง” เกศประภาหันมาถาม พลางชะลอร่างไว้กลางเวหา
“สร้อยข้อมือของน้องเกศกัลยาตกลงไปข้างล่าง คงอยู่แถวๆต้นไทรนั่น” เกศสุดาตอบ พร้อมกับชี้ไปที่ต้นไทรซึ่งอยู่ต่ำลงไป
“อย่างนั้น...พวกเรารีบลงไปหากันเถิดเพคะ เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน” เกศประภาออกความเห็น
กินรีทั้งสามจึงบินลงสู่พื้นดิน ในบริเวณต้นไทรนั้น...
...พระเสาร์ทรงหยิบสร้อยบุษราคัมเส้นเล็กๆ ซึ่งหล่นลอดใบดกหนาของต้นไทรลงมาบนพระเพลาของพระองค์อย่างบังเอิญขึ้นพิศดูพร้อมกับทรงลุกขึ้นยืน
แล้วครู่ต่อมา พระองค์ก็ได้เห็น...กินรีน้อยผู้งามพิลาสล้ำสามนางร่อนลงมาในบริเวณใกล้ๆ
ภาพที่ปรากฏแก่สายตานี้สะกดให้พระเสาร์ต้องชมดูอย่างตะลึงงัน ด้วยทรงตรึงใจว่านางหนึ่งในจำนวนนั้น งามซึ้งไร้ที่ติ...คิ้วโค้งเรียว นัยน์ตาคมหวาน จมูกน้อยโด่งเป็นสัน และริมฝีปากอิ่มสวย ทุกอย่างช่างรับกันเหมาะเจาะ
บนใบหน้ารูปไข่นวลเนียน ตลอดจนเรือนร่างที่อรชรสมส่วน
ขณะเดียวกัน นางกินรีทั้งสามชะงักยืนนิ่งไปเช่นกัน ที่เพิ่งถึงพื้นดินก็ต่าง เพราะไม่คาดคิดว่าจะมีผู้อื่นอยู่ในบริเวณนั้นด้วย...แม้เขาจะเป็นชายหนุ่มที่มีรูปลักษณ์งามนัก...ร่างสูงสง่า แข็งแรง ผิวคล้ำเนียน และดวงหน้างามราวกับบรรจงปั้นก็ตาม...
แต่ประกายที่คมกล้าจนดูดุดันของบุรุษแปลกหน้าผู้อยู่ในอาภรณ์สีม่วงและมีนิลเป็นเครื่องประดับกาย ก็ทำให้นางกินรีน้อยเกศประภาและเกศกัลยารู้สึกตระหนกกลัว
“โอ...” เสียงอุทานแผ่วเบาอย่างตกใจ แล้วเกศประภากับเกศกัลยาผู้เป็นน้องทั้งสอง ก็คว้ามือพี่หญิงใหญ่เกศสุดาซึ่งยังยืนนิ่งไว้มั่นคนละข้าง พาทะยานบินขึ้นสู่ท้องฟ้า...เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
พระเสาร์ทอดพระเนตรตามร่างน้อยๆที่กำลังบินลับไปทางทิศตะวันออก พลางดำริว่า..ที่แท้พวกนางเป็นเผ่าพันธุ์เทพกินนร ซึ่งมีถิ่นอาศัยอยู่ในเทือกเขาวินธัย ใจกลางหิมพานต์นี่เอง...พวกวิหคกึ่งเทพ มิน่าล่ะ! นางจึงมีรูปกายงดงามอย่างเทพธิดาทุกประการเว้นแต่ยามบินไปในเวหาเท่านั้นที่ปีกบางเบาใสราวแก้วผลึกจะงอกออกมาจากไหล่ทั้งสองข้าง และทันทีที่เท้าสัมผัสถูกพื้นดิน ปีกทิพย์ของพวกนี้ก็จะหดหายไป ไม่เหลือร่องรอยใดๆให้สังเกตบนผิวเนื้อบริเวณนั้น
“กินรีน้อยที่งามซึ้งนางนั้นคือใคร...นางมีคู่หมายหมั่นหรือยัง” นี่คือคำถามที่พระเสาร์ทรงต้องการจะรู้คำตอบ แต่ยังไม่ทันได้ไต่ถามเนื่องจากว่าพอพระองค์ทรงหายจากอาการตะลึง พวกนางก็พากันบินหนีไปแล้ว
พระเสาร์จึงดำริจะเสด็จกลับวิมานก่อน แล้วใช้อมรเทพผู้เป็นเทพบริวารของพระองค์มาสืบเรื่องราวนี้แทน เพราะหากพระองค์ไปติดตามสืบถามด้วยตัวเอง คงได้สร้างความตื่นตระหนกตกใจแก่ผู้อื่นอีกมากมาย เนื่องจากบารมีแห่งเทพผู้ใหญ่ของพระองค์
และเหตุผลอีกประการหนึ่งคือ พระเสาร์ไม่ต้องการจะใช้อำนาจหยั่งรู้ ด้วยทรงระลึกเสมอว่า ทุกชีวิตย่อมมีบางเรื่องที่อยากเก็บไว้เป็นการส่วนตัว ดังนั้นถ้าไม่มีความจำเป็นอย่างถึงที่สุดแล้ว พระองค์ก็ไม่ปรารถนาจะใช้อำนาจที่เหนือกว่านี้ก้าวก่ายในจิตสำนึกของผู้ใด
บทที่ 1 คู่หมายหมั่น
09/04/2022
บทที่ 2 ราชธิดาของท้าวธุมราช
09/04/2022
บทที่ 3 พิธีอภิเษก
09/04/2022
บทที่ 4 ไม่อาจรับความปรารถดี
09/04/2022
บทที่ 5 ผู้ได้ชัยชนะ
09/04/2022
บทที่ 6 เกศกัลยา
09/04/2022
บทที่ 7 มิตรภาพ
09/04/2022
บทที่ 8 ทำแต่เรื่องผิดพลาด
09/04/2022
บทที่ 9 เศร้าสร้อย
09/04/2022
บทที่ 10 ความอาภัพ
09/04/2022
บทที่ 11 คงไม่มีทาง
16/04/2022
บทที่ 12 จุดไฟแค้นขึ้นในใจ
16/04/2022
บทที่ 13 พิโรธ
16/04/2022
บทที่ 14 ไม่อาจจะหาสิ่งไรมาลบล้าง
16/04/2022
บทที่ 15 รายละเอียดในสาส์นเชิญ
16/04/2022
บทที่ 16 หาทางแก้ไขความผิดพลาด
16/04/2022
บทที่ 17 เหมือนคลั่ง
16/04/2022
บทที่ 18 ฝืนชะตากรรมของมนุษย์
16/04/2022
บทที่ 19 ทายาทคนเดียวของมหาเศรษฐี
16/04/2022
บทที่ 20 ทำเพื่ออวดรวย
16/04/2022
บทที่ 21 ดั่งต้องมนตร์
16/04/2022
บทที่ 22 ผู้ชายคนนั้นสง่างดงาม
16/04/2022
บทที่ 23 แหวนที่ถอดไม่ออก
16/04/2022
บทที่ 24 คงความเป็นเพื่อน
16/04/2022
บทที่ 25 เพียงภาพลวงตา
16/04/2022
บทที่ 26 เหตุการณ์ที่ออกจะพิกล
16/04/2022
บทที่ 27 ความรู้สึกบอกว่า...
16/04/2022
บทที่ 28 ความจริงที่น่าตกใจ
16/04/2022
บทที่ 29 ทิพย์อัปสร
16/04/2022
บทที่ 30 การตัดสินพระทัย
16/04/2022
บทที่ 31 เคยคุ้นมานาน
16/04/2022
บทที่ 32 ป่าอาถรรพณ์
16/04/2022
บทที่ 33 การแก้คำสาปเมืองกินนร
16/04/2022
บทที่ 34 อ่านความคิด
16/04/2022
บทที่ 35 ห่วงหน้าพะวงหลัง
16/04/2022
บทที่ 36 เนื้อเพลง
16/04/2022
บทที่ 37 หนี
16/04/2022
บทที่ 38 ห่อพระคัมภีร์
16/04/2022
บทที่ 39 ฟังดูน่ากลัว
16/04/2022
บทที่ 40 ไม่มีเวลาพอจะอธิบาย
16/04/2022
หนังสืออื่นๆ ของ รวิวร
ข้อมูลเพิ่มเติม