อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก
เจ็บแต่ไม่ยอมปล่อยมือ
ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย
ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง
เมียผมน่ารักจัง
เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ
โชคชะตาของพระชายา
ผู้บัญชาการรักซ้อนแค้น
รักใหม่พันล้าน
คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว
วันนี้เป็นวันที่สำคัญมากวันหนึ่งสำหรับจารวี จีรวัฒนกิจ บุญพจน์ โรจนศิริกุล ผู้จัดการส่วนตัวของเธอบอกเธอตั้งนานแล้วว่าคืนนี้เธอจะได้รับรางวัล“ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม”ประจำปี 2018
จารวีอดใจรอไม่ไหวที่จะบอกข่าวดีนี้กับปวิชเจนกิจโภคิน
เธอโทรหลายรอบแต่เขาก็ไม่รับสาย จารวีจึงทำได้แค่เพียงโทรหาเขาครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งเธอกดโทรหาเขาเป็นครั้งที่5 ในที่สุดเขาก็รับสาย “มีอะไร?”
น้ำเสียงอันแสนจะเย็นชาของเขาทำเอาเธอแทบไม่รู้จัก จนต้องมองดูที่หน้าจอโทรศัพท์อีกทีเพื่อแน่ใจว่าใช่เขาจริง ๆ หรือไม่
“คุณอยู่ที่ไหน?” ทันทีที่จารวีมองเห็นหน้าจอวิดีโอคอลนั้น ก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ภาพในวีดีโอด้านหลังเขาคือป้ายขนาดใหญ่ของโรงแรมที่มีชื่อเสียงในเมืองจันทร์ซึ่งก็คือโรงแรมวีวา
สถานที่แห่งนี้มีชื่อเสียงสำหรับผู้ที่กำลังมองหาวันไนต์สแตนด์ หรือก็คือสถานที่สำหรับการสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนนั่นเอง ที่นี่มีคนลักลอบเล่นชู้กันอยู่บ่อย ๆ โรงแรมนี้เลยมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สถานที่สำหรับจับชู้
เรื่องมันก็ช่างจะบังเอิญซะเหลือเกิน เมื่อภาพยนตร์เรื่องใหม่ของจารวีนั้น ได้ถ่ายทำที่โรงแรมวีวา ดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยกับสถานที่นี้เป็นอย่างมาก
เธอกำโทรศัพท์ไว้แน่นจนเส้นเลือดที่มือปูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
จารวีพยายามควบคุมอารมณ์ไว้และยิ้มออกมาพลางถามเขาว่า “คุณปวิชคะ นี่คุณไปคุยธุระถึงโรงแรมม่านรูดเลยเหรอคะ? ฉันคงจะต้องมองคุณใหม่ซะแล้วหล่ะ”
ปวิชไม่พูดอะไรพลางรีบกดตัดสายเพื่อไม่ให้เธอพูดมากไปกว่านี้
เธอกัดฟันแน่นด้วยความโกรธก่อนจะผลักประตูออกจากห้องรับรองไป “นวิยาเอากุญแจรถให้ฉันที”
“แต่พี่จารวีคะ งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้นในอีกสองชั่วโมงนี้แล้วนะคะ...?” นวิยาขมวดคิ้วมองจารวี
“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดรึไง?” เธอถามด้วยความโมโห นวิยาทำอะไรไม่ถูกมือของเธอเริ่มสั่นเมื่อจารวีเริ่มจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ และในขณะนั้นเอง บุญพจน์ก็เดินเข้ามาหาพวกเธอพลางตบบ่านวิยาเบา ๆ เธอขอให้นวิยาออกไป ก่อนที่จะลากจารวีกลับไปที่ห้องรับรอง เธอหน้าบึ้งด้วยความหงุดหงิด
“เธอบ้าไปแล้วหรือไง? เธอก็เห็นนี่ว่าข้างนอกนั่นมีสายตาไม่รู้กี่คู่ต่อกี่คู่ที่คอยจับจ้องเธออยู่ เธอก็นี่รู้ว่างานนี้สำคัญมากแค่ไหน อยากให้พวกนักข่าวเขียนข่าวฉาวของเธอรึไง ถ้ายังทำตัวแบบนี้ พาดหัวข่าววันพรุ่งนี้จะต้องเป็นเธอแน่นอน!” บุญพจน์นิ่วหน้าพลางยกมือขึ้นด้วยความโกรธ แต่ที่ต้องเข้มงวดแบบนี้ก็เพราะว่าอยากให้เธอได้ดี
“เหรอ? หึ ฉันไม่สนใจแล้ว” จารวีกัดปากแน่น ในตอนนี้สามีของเธอคงจะกำลังเล่นชู้กับผู้หญิงที่หิ้วมาจากบาร์อยู่ ใครจะไปมีกะจิตกะใจไปสนใจเรื่องอื่นกันหล่ะ เธอไม่สนใจแล้วกว่าคนทั้งโลกจะคิดอย่างไรกับเธอ
“พี่บุญพจน์ ขอร้องหล่ะ ให้ฉันไปเถอะนะพี่ ฉันขอเวลาแค่ชั่วโมงเดียว ฉันมีเรื่องสำคัญที่จะต้องคุยกับสามีของฉัน” เธออ้อนวอนผู้จัดการของเธออย่างไม่ลดละ แต่บุญพจน์ก็ไม่สนใจเธอเลยซักนิด
“พี่ทำงานกับเธอมาก็นานพอสมควรแล้วนะ เธอก็รู้นี่ว่ามันยากแค่ไหนกว่าจะมาถึงจุด ๆ นี้ ถึงฟ้าจะถล่มพี่ก็ไม่ให้เธอไปไหนทั้งนั้น จนกว่างานนี้จะเลิก” บุญพจน์พูดอย่างไม่ถนอมน้ำใจเลยซักนิด
“พี่บุญพจน์” จารวีรู้ว่าการพูดจาอ้อมค้อมกับผู้จัดการของเธอนั้นไม่เป็นผล เธอจึงตัดสินใจพูดตรง ๆ “ไอ้บ้าปวิช มันนอกใจฉัน พี่จะให้ฉันนั่งรออยู่เฉย ๆ ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนานถึงสองชั่วโมงเหรอ ฉันทำไม่ได้!”
“ฉันว่าแล้วว่าต้องเป็นเพราะไอ้สารเลวนั่น!” ใบหน้าของบุญพจน์ซีดเซียวด้วยความโกรธ เธอชี้นิ้วไปที่จารวี “จารวีเธอเป็นผู้หญิงที่ดีนะแต่มันช่างตลกสิ้นดีเลย ที่เธอดันไปรักกับผู้ชายที่ไม่ได้รักเธอเลยแม้แต่น้อย นี่เธอแต่งงานมาสามปีแล้วนะ แต่มีใครรู้บ้างว่าเธอเป็นภรรยาเขา? มีแต่พี่คนเดียว ความสัมพันธ์แบบนี้ รีบบอกเลิกซะเลยจะดีกว่าไหม?”
“พี่พูดถูก” จารวีฝืนยิ้ม “ฉันก็แค่... ฉันแค่อยากจะคุยกับเขาให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย"
จารวีเหลือบมองเธอก่อนจะพูดต่อว่า “พี่บุญพจน์ที่ฉันยังไม่สามารถตัดใจจากเค้าได้ ก็เพราะความรักมันทำให้ฉันตาบอด ฉันหมายถึง... ตั้งแต่อายุ12จนถึง25 เป็นเวลาสิบสามปีเต็ม ๆ ... ถ้าเกิดว่าฉันเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นแบบคาหนังคาเขา ฉันจะตัดใจแล้วหล่ะ”
“จารวี...” บุญพจน์เริ่มขมวดคิ้ว “ฟังนะ ปัญหานี้มันแก้ได้ทุกเมื่อแหละ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลา โอกาสดี ๆ แบบคืนนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ เธอจะทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ”
“พี่คะ ให้ฉันไปเถอนะคะ ขอร้องหล่ะ” จารวีน้ำตาคลอเบ้า พลางพูดขอร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูแล้วก็น่าสงสาร
แน่นอนว่ามันไม่ได้ผล เพราะบุญพจน์ไม่ได้ขยับเลยแม้แต่นิด เธอยืนกอดอกขวางอยู่ที่หน้าประตู โดยไม่เหลือช่องว่างเลยแม้แต่น้อย