อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก
เจ็บแต่ไม่ยอมปล่อยมือ
ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย
ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง
เมียผมน่ารักจัง
เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ
โชคชะตาของพระชายา
ผู้บัญชาการรักซ้อนแค้น
รักใหม่พันล้าน
คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว
นิ้วแข็งแกร่งสีน้ำตาลทองของคาฟาห์แตะลงบนกระดาษสีขาวนวล ดวงตารียาวคมกริบที่อยู่ใต้แนวขนคิ้วหนาดกไล่ไปตามตัวอักษรที่ถูกพิมพ์เอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยทีละตัว
“กานติมา รักษ์วงศ์ แม่หม้ายหมาดๆ เพราะผัวคนที่เก้าขาดใจตายคาอกไปเมื่อสองเดือนก่อน...” รอยยิ้มเหยียดหยันผุดพรายขึ้นเต็มใบหน้าหล่อจัดของเจ้าชายทะเลทรายรูปงาม “ตอนนี้ได้กลายเป็นแม่หม้ายยังสาวที่มีสมบัติพัสถานมากที่สุดในเมืองไทย”
ริมฝีปากหยักสวยสีแดงระเรื่อของคาฟาห์บิดเบี้ยวด้วยความขยะแขยง
“ก็สมบัติผัวทั้งนั้นแหละ!”
น้ำเสียงดุดันเล็ดลอดออกมาจากลำคอแกร่ง ขณะที่กระดาษในมือถูกขยำจนกลายเป็นก้อนกลมๆ และตกลงไปอยู่ในถังขยะในวินาทีต่อมา
“ฉันจะไม่มีวันยอมให้พ่อของฉันถูกเธอปอกลอกแน่นอน กานติมา” ทุกพยางค์ที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากหยักสวยเต็มไปด้วยความเดือดดาลยิ่งนัก
เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อขจัดหล่อนออกให้ออกไปจากชีวิตของบิดา ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีเหี้ยมโหดขนาดไหนก็ตาม
เจ้าชายคาฟาห์กัดฟันกรอด ภายนอกแสดงออกมาว่าขยะแขยงผู้หญิงเจ้าของดวงตากลมโตคู่นั้นมากมาย แต่ภายในใจกลับร้อนรุ่มไปด้วยความรู้สึกสะอิดสะเอียน เมื่อไม่สามารถขจัดภาพของหล่อนออกไปจากหัวสมองได้
ครั้งแรก เขาเจอหล่อนที่โรงแรมในฐานะโสเภณีที่ขายตัวให้กับชายแก่ ครั้งที่สองก็ในงานเลี้ยงที่หล่อนเข้ามาตีสนิทกับบิดา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้หญิงแพศยาคนนี้ต้องการอะไรจากผู้ชายแก่
ใช่... หล่อนคงคิดว่าบุรุษสูงวัยโง่และหลอกง่าย แถมยังตายง่ายอีกด้วย
สันกรามกระด้างของคาฟาห์ที่มีไรหนวดขึ้นเสมอขบกันแน่นจนขึ้นสันนูนเป่ง มือใหญ่กำเป็นหมัดอย่างเดือดดาลตนเอง เพราะถึงแม้จะรู้เช่นเห็นชาติผู้หญิงหน้าหวานคนนี้อยู่เต็มอก แต่เขากลับหยุดความคิดถึงในตัวของหล่อนลงไม่ได้เลย
ใช่... ไม่ได้เลยแม้แต่ขณะจิตเดียว
บ้าฉิบ!
เขาหงุดหงิด ใช่... เขารู้สึกหงุดหงิด เดือดดาลคล้ายกับไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อย่างเต็มที่เหมือนเมื่อก่อน เพราะใครน่ะเหรอ ก็เพราะแม่หม้ายพราวเสน่ห์ที่เห็นเงินแล้วร้องว้าวตาโตอย่างกานติมายังไงล่ะ
ทั้งๆ ที่เกลียดชังหล่อน แต่ร่างกายกลับรู้สึกตรงกันข้าม มันบ้ามากที่เป็นแบบนี้
คาฟาห์ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินตรงไปยังประตูห้องทำงาน เอ่ยกับเลขาฯ สาวหน้าห้องก่อนจะเดินผ่านไป
“วันนี้ผมไม่กลับเข้ามาอีกแล้วนะครับ มีอะไรด่วนก็โทร.หาผมได้ตลอดเวลา”
“ค่ะ ท่านประธาน”
คาฟาห์ฝืนยิ้มให้กับเลขาฯ หน้าห้องของตนเองที่ทำงานร่วมกันมาหลายปีจนรู้ใจ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในลิฟต์ตัวใหญ่ที่มีเฉพาะเจ้าของโรงแรมหรูเช่นเขาคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ใช้มัน
“วันนี้ท่านประธานหน้าตาเครียดจัง เป็นอะไรไปนะ” มาลินีผู้เป็นเลขาฯ เอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ
คฤหาสน์หลังงามของกานติมา รักษ์วงศ์ หลังใหญ่ราวกับพระราชวัง แถมภายในยังตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรูที่นำเข้าจากทั่วโลกทุกตารางนิ้ว แต่ถึงแม่หม้ายสาววัยเพียง 34 กะรัตจะร่ำรวยมหาศาลสักแค่ไหน แต่ชื่อเสียงของหล่อนก็ฉาวโฉ่เหม็นคลุ้งจนต้องเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับนักข่าว
หล่อนมักใส่แว่นตากันแดดสีดำขนาดใหญ่เสมอยามต้องพบปะผู้คน และก็สวมผ้าปิดปากที่ปิดทั้งปากและจมูกจนน้อยคนนักที่จะมองออกว่าแท้จริงแล้วหล่อนมีหน้าตาเช่นไร แต่ถึงจะถูกสังคมประณามเรื่องรสนิยมชื่นชอบแต่งงานกับชายผู้ร่ำรวยแต่สูงวัยของหล่อนสักแค่ไหน กานติมาก็โนแคร์โนสนใจ เพราะคนที่วิจารณ์หล่อนไม่ได้เอาข้าวมาให้หล่อนกินเสียหน่อย
“ปราง มาช่วยฉันแต่งตัวหน่อยสิ”
กานติมาตะโกนเรียกคนสนิทที่มักจะเดินทางไปไหนด้วยกันทุกหนทุกแห่ง ยกเว้นแค่ที่เดียวที่ปรางสิตาไม่เคยเดินทางไปด้วยนั้นก็คือบนเตียงที่หล่อนมักจะใช้สวิงกิ้งกับหนุ่มวัยละอ่อนที่จ่ายเงินซื้อมาบำเรอความสุข
“ค่ะ คุณนาย”
ปรางสิตา อาจหาญ หญิงสาววัยสิบเก้าปี หล่อนเป็นเด็กกำพร้าไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เรียนโรงเรียนวัดจบแค่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สาม ก่อนจะหางานทำเลี้ยงตัวเอง และก็โชคดีที่กานติมาจ้างหล่อนมาเป็นคนรับใช้ตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อน
ผู้คนทั่วไปอาจจะมองว่ากานติมาเป็นผู้หญิงหน้าเงิน เป็นนักขุดทอง แต่เนื้อแท้แล้ว กานติมาเป็นผู้หญิงมีเมตตากับลูกน้องไม่น้อย หล่อนไม่เคยตระหนี่ถี่เหนียวกับลูกน้องเลย
“สวยแล้วค่ะ คุณนาย”