แด๊ดดี้หนูเป็นซีอีโอ
“โอเค จะพยายามนะ”
เฉี่ยนซีเอาแต่คุยโทรศัพท์อยู่กับลูกชาย โดยไม่ได้สังเกตเลยว่า น้ำเสียงอ่อนโยนที่เธอใช้พูดกับซีเจ๋นั้น กำลังดึงดูดความสนใจของเจ๋อข่ายอยู่
เจ๋อข่ายมองดูรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่อยู่บนใบหน้าของเฉี่ยนซี แล้วเขาก็พบว่า ตัวเองกำลังสับสนกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น เมื่อเห็นประกายของรอยยิ้มที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนบนใบหน้าของเธอ เจ๋อข่ายก็รู้ทันทีว่า เฉี่ยนซีใส่ใจคนที่อยู่ปลายสายมากเพียงใด
“นั่นลูกชายคุณเหรอ”
ทันทีที่เธอวางสาย เจ๋อข่ายก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แสดงความสนใจ แต่นั่นก็ทำให้เธอตกใจเล็กน้อยที่เขาถามถึงลูกชายของเธอ
“ใช่ค่ะ” เฉี่ยนซีตอบ
แต่ก่อนที่เจ๋อข่ายจะทันได้ถามอะไรต่อ รถก็จอดลงที่หน้า หวางจิน คลับ สถานที่จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำในคืนนี้พอดี
คนกลุ่มเดียวที่ได้รับสิทธิพิเศษให้เข้ามาในสถานที่แห่งนี้ มีเพียงเศรษฐีระดับหมื่นล้าน หรือไม่ก็เป็นคนที่มีฐานะสูงส่งเท่านั้น ทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างดูสง่าผ่าเผย และดูมีออร่า แต่ถึงอย่างนั้น ออร่าของพวกเขากลับแฝงไปด้วยความมืดมิดอย่างน่าประหลาด เหมือนที่เขาว่ากันว่า ที่ไหนมีแสงสว่าง ที่นั่นย่อมมีเงาเสมอ
คนขับรถรีบลงไปเปิดประตูรถให้เจ๋อข่ายทันทีที่รถจอดสนิท ซึ่งนั่นทำให้เฉี่ยนซีรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่เจ๋อข่ายหยุดถามเกี่ยวกับลูกชายของเธอ เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็ก้าวลงจากรถ แล้วเดินตามเจ๋อข่ายไปอย่างเงียบ ๆ
พนักงานหน้าคลับเปิดประตูให้พวกเขาเข้าไปด้านใน ซึ่งดูเหมือนว่า ภายในนั้นจะแน่นไปด้วยผู้คน เห็นได้ชัดว่า แขกคนอื่น ๆ มาถึงที่นี่ได้ครู่หนึ่งแล้ว และพวกเขาต่างก็กำลังรอเจ๋อข่ายที่บุคคลสำคัญของงานนี้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าบ่นอะไร
หลังจากที่ต่างคนต่างทักทายกันเรียบร้อยเเล้ว เจ๋อข่ายก็เข้ามานั่งตรงตำแหน่งหลักซึ่งอยู่หัวโต๊ะ ขณะที่เฉี่ยนซีกำลังจะหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ที่ห่างจากเจ๋อข่ายอยู่หนึ่งตำเเหน่ง เเต่เจ๋อข่ายก็คว้าแขนเธอไว้
เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเขยิบไปนั่งเก้าอี้ทางด้านขวาที่อยู่ติดกันกับที่นั่งของเจ๋อข่ายแทน
เธอรู้ว่า งานแบบนี้จะต้องมีกลุ่มสาว ๆ มาสร้างสีสันในงานแน่นอน และเนื่องจากเธอเป็นคนที่นั่งข้างเจ๋อข่าย เธอจึงต้องทำหน้าที่เป็นไม้กันหมาให้เขาไปโดยปริยาย
“ผมไม่ชอบให้ผู้หญิงแปลกหน้ามาเข้าใกล้ผม”