Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
โสเภณีไร้เดียงสา

โสเภณีไร้เดียงสา

อักษรสีทอง

5.0
ความคิดเห็น
40.6K
ชม
34
บท

เธออายุเพียง 15 ปี ก็ถูกนำตัวมาขายให้มหาเศรษฐีหนุ่ม เขาอายุ 32 ปี หนุ่มใหญ่ผู้ร่ำรวยและเย็นชา เมื่อเธอถูกนำมาขายใช้หนี้และเขาก็รับเธอไว้ในฐานะคนรับใช้ส่วนตัว ทว่าเพียงวันแรกที่เธอได้มาเหยียบบ้านของเขา เธอก็สูญเสียพรหมจรรย์ไป อะไรคงไม่ร้ายเท่าเขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว และเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา เธอไม่มีวันยอมเป็นโสเภณีไร้เดียงสาตลอดไปหรอก เพื่อลูกและเพื่ออนาคต เธอจึงต้องอุ้มท้องหนีเขาไปอยู่ที่อื่น โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ และเมื่อเวลาผ่านไป 4 ปี เธอและเขาได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในฐานะท่านประธานกับเลขาสาว การพบกันครั้งนี้ เธอเปลี่ยนไปมาก จากเด็กสาวผู้อ่อนต่อโลก กลายเป็นหญิงสาวที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ที่สำคัญ...เด็กชายวัย 3 ขวบที่เรียกเธอว่า ‘แม่’ ก็มีใบหน้าเหมือนเขาราวกับพิมพ์เดียวกัน !

บทที่ 1 1

บทที่ 1

“แม่จ๋า อย่าทำกับหนูอย่างนี้” เสียงคร่ำครวญจากเด็กสาวร่างเล็ก ไม่ได้ทำให้สาวใหญ่วัยสี่สิบปลายใจอ่อนเลยแม้แต่น้อย ยังคงลากผู้ที่มีศักดิ์เป็นลูกเลี้ยงเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ซึ่งมีสตรีผอมสูงนั่งรออยู่บนโซฟา

“ไหนล่ะมาลัย เงินที่เธอต้องคืนฉัน” พรทิพาถามเสียงเรียบ

“ไม่มีเงินหรอกค่ะ” มาลัยผลักเด็กสาวจนล้มลงกองที่พื้น “ฉันยกเด็กคนนี้ให้แทนเงินต้นเงินดอกค่ะ จะเอาเป็นคนรับใช้หรืออะไรก็ตามใจ”

พรทิพาชักสีหน้าไม่พอใจ

“เธอติดหนี้ฉันสามแสนนะ ถึงกำหนดก็ต้องคืนเงิน ไม่ใช่เอาเด็กมาให้เป็นภาระฉันอีก”

“โอ๊ย มันไม่เป็นภาระหรอกค่ะ มันทำงานบ้านเก่ง กับข้าวก็ทำอร่อย ได้มันไปทำงานให้ฟรีๆ ถือว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มอีกค่ะ ไม่ต้องให้เงินเดือนมันหรอก ให้มันกินข้าวกันอดตายไปวันๆ ก็พอ”

ฉันท์ชนกได้ยินแล้วสะอื้น สูดน้ำมูกฟืดฟาด ในตอนนี้ใบหน้าเธอคงมอมแมมไม่ต่างจากเด็กกะโปโล ดวงตาแดงช้ำมองแม่เลี้ยงอย่างผิดหวัง

ตั้งแต่แม่เธอตายไป พ่อก็มีเมียใหม่คือมาลัย...ซึ่งไม่ยอมหยิบจับทำงานอะไรเลย นอกจากผลาญเงินเล่นไปวันๆ จนเงินเก็บที่พ่อและแม่สร้างมาเริ่มร่อยหรอลงไปทุกที สุดท้ายพ่อก็เครียดจัดจนล้มป่วย แล้วไม่รู้ว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรนักหนา พ่อเป็นโรคร้ายและเสียชีวิตภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทิ้งเธอให้อยู่กับแม่เลี้ยงที่ไม่เคยรักเธอเลย

เธอโดนบังคับให้เลิกเรียนทันทีที่จบ ม.3 ต้องมีหน้าที่ทำงานบ้านทุกอย่างให้มาลัยที่เอาแต่เล่นพนันไปวันๆ และท้ายที่สุดก็พาเธอมาที่นี่...ยกเธอให้คนอื่นง่ายๆ ทำอย่างกับว่าเธอเป็นเพียงลูกหมาตัวหนึ่งเท่านั้น

“มีอะไรกันครับคุณแม่” เสียงทุ้มเอ่ยถาม ก่อนร่างสูงใหญ่ใน ชุดสูทสีดำสนิทจะก้าวเข้ามาในห้องโถง แวบแรกที่เด็กสาวเงยหน้าขึ้นเห็นเขา เธอบอกได้เลยว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดูภูมิฐานและรูปหล่อมาก แต่ก็คงจะอายุมากกว่าเธอหลายปี โดยเฉพาะสายตาคมกริบคู่นั้น บ่งบอกว่าผ่านประสบการณ์อะไรมามากมาย

“มาลัยเขาติดหนี้แม่สามแสน ไม่ยอมจ่ายสักที ถึงเวลาให้ดอกก็ไม่ให้ บ่ายเบี่ยงไปเรื่อย แม่ก็ไม่อยากมีปัญหา แต่ก็ไม่ยอมให้หนี้สูญหรอกนะ จะใช้กฎหมายเอาผิดเขา เขาบอกว่าวันนี้จะมาจ่ายหนี้ให้ แต่ก็พาเด็กคนนี้มาให้แทนเงิน ธรก็ลองคิดดูสิ...ไม่ให้เงิน แต่เอาคนมาให้เป็นภาระเราเพิ่ม”

ชายหนุ่มพินิจมองร่างบางที่นั่งตัวสั่นระริกอยู่บนพื้น เธอดูผอมเหลือเกินในสายตาเขา ผมยุ่งรุงรัง ใบหน้าเลอะคราบน้ำตา ตามแขนขามีแต่รอยเขียวๆ แดงๆ เป็นจ้ำๆ เด็กคนนี้คงผ่านความทรงจำอันเลวร้ายมาไม่ใช่น้อย ถึงได้ไม่เปล่งปลั่งประสาวัยสาวเลย มีแต่ความแห้งแล้ง ซูบซีด โดยเฉพาะในแววตาที่มีหยาดน้ำหล่อรื้นอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่าเป็นทุกข์ตรม

“เด็กคนนี้เป็นใครครับ ลูกของคุณเหรอ” เขาถามมาลัย

“ลูกเลี้ยงน่ะค่ะ พอผัวฉันตาย มันก็อยู่กับฉันมาโดยตลอด ตอนนี้มันอายุสิบห้าแล้ว ย่างเข้าสิบหก คุณช่วยรับมันไปทีเถอะค่ะ ฉันคงเลี้ยงมันไม่ไหว”

“คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า” พรทิพาเอ่ยเสียงเย็นชา “ฉันต้องการแค่เงินเท่านั้น บ้านเราไม่ใช่สถานสงเคราะห์จะได้รับอุปการะใคร”

ฉันท์ชนกสะอึกกับประโยคนั้น เธอดูราวขยะเปียกไร้ค่าที่มีแต่คนปฏิเสธไม่อยากได้ เธอห่อเหี่ยว จนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยซ้ำ

อยู่กับแม่เลี้ยง เธอก็ไม่มีความสุข เพราะถ้ามาลัยไม่พอใจอะไรขึ้นมาก็มักลงไม้ลงมือกับเธอเป็นประจำ บางทีต้องไปรับจ้างกรำแดดกรำฝน ดายหญ้า ตัดอ้อย เพื่อหาเงินมาซื้อกับข้าวเข้าบ้าน

จะมาอยู่กับบ้านใหม่หลังนี้ เธอก็คงไม่มีความสุขเหมือนเดิม ใครเล่าจะเมตตาคนจนๆ ที่ไม่มีอะไรเลยอย่างเธอ

“บ้านหลังที่คุณอยู่เป็นบ้านของพ่อเด็กคนนี้ไม่ใช่เหรอ อันที่จริงน่าจะเป็นคุณมากกว่านะครับที่ต้องเป็นฝ่ายออกจากบ้าน” กันต์ธรพูดเสียงเรียบ

มาลัยแสยะยิ้ม “บ้านเป็นของฉันค่ะ เป็นชื่อฉัน ฉันมีสิทธิ์ทุกอย่าง”

ฉันท์ชนกหลุบเปลือกตาลงมองมือตัวเองเพราะกลัวว่าใครจะเห็นความเสียใจที่ฉายชัดอยู่ในดวงตาที่มีแต่ความทุกข์ เธอรู้ดีทุกอย่างว่ามาลัยทำตัวน่ารักเสมอเวลาอยู่กับพ่อ ตอนพ่อเจ็บป่วยก็ปรนนิบัติพัดวีไม่ห่าง รวมทั้งเอกสารต่างๆ ในทรัพย์สินมรดก มาลัยก็หลอกให้พ่อเซ็น พ่อก็รักและไว้ใจเมียคนนี้ซะเหลือเกิน ถึงขั้นฝากฝังให้ช่วยดูแลเธอหากพ่อไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว

บางทีเธอก็นึกโกรธพ่อและชิงชังมาลัย ที่ทำให้ชีวิตเธอต้องกลายเป็นแบบนี้

“โอเค ถ้างั้นผมก็พอจะเข้าใจอะไรๆ ขึ้นมาแล้วล่ะ” กันต์ธรควักกระเป๋าเงินออกมาแล้วหยิบธนบัตรปึกหนึ่งโยนใส่หน้ามาลัยโดยไม่คิดจะให้ความเคารพเลยแม้แต่น้อย “นี่เงินห้าหมื่น ผมให้เพิ่มนะ รวมหนี้เก่าด้วยก็สามแสนห้า ถือซะว่าต่อไปนี้เด็กคนนี้ไม่ใช่คนของคุณอีกต่อไป ห้ามมายุ่งเกี่ยวด้วยอีก พรุ่งนี้ผมจะส่งทนายไปบ้านคุณเพื่อให้เซ็นยินยอมและรับรู้ว่าคุณกับเด็กคนนี้ได้ตัดขาดกันแล้วโดยสิ้นเชิง”

มาลัยรีบตะครุบเงิน ตามเก็บส่วนที่ปลิวว่อนจ้าละหวั่น สีหน้าลิงโลดดีใจ พยักหน้ารับ

“ค่ะๆ เข้าใจแล้วค่ะ ตกลงตามนั้น” จากนั้นก็หันมาทำตาดุใส่ฉันท์ชนก “แกเองก็ทำตัวดีๆ นะนก เขาจะได้เอ็นดู อย่าสร้างปัญหาล่ะ”

เด็กสาวนั่งเงียบ ไม่พูดจาอะไรสักคำ และมาลัยก็ไม่คิดจะอยู่ รอฟังด้วย รีบเดินแกมวิ่งออกจากบ้านไปพร้อมเงินที่กำแน่นเต็ม สองมือ

“ธร แม่ไม่เข้าใจ” พรทิพาเอ่ยขึ้นหลังจากนิ่งเงียบมานาน “เงินสามแสนห้าที่เสียไป แลกกับการได้ภาระกลับคืนมา แม่คิดว่าไม่คุ้ม”

“ผมจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องของเด็กคนนี้เองครับคุณแม่” เขาเดินมาดึงแขนเล็กๆ ให้ลุกขึ้นยืน ซึ่งเธอก็ยืนห่อไหล่ ก้มหน้า ไม่กล้าสบตาเขา “บอกฉันมาสิ เธอชื่ออะไร”

“นะ หนู...หนู” เธอเสียงสั่น พยายามบังคับเสียงให้เป็นปกติแล้วตอบ “หนูชื่อฉันท์ชนกค่ะ ชื่อเล่นคือนก”

“ท่าทางยังเด็กอยู่เลยนะ เธอคงไม่เคยมีความสุขเลยสินะ”

“มีค่ะ” หยดน้ำตาร่วงเผาะลงสู่หลังเท้าตัวเอง “ตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ หนูเคยมีความสุข”

คำตอบนั้นเสียดแทงหัวใจพรทิพาเข้าให้อย่างจัง เธอเองก็มีลูก เลยอ่อนไหวเป็นพิเศษหากได้ยินเรื่องรันทดเกี่ยวกับแม่ลูก

“ฉันเข้าใจ” เขาพยักหน้า ก่อนจะหันไปหามารดา “คุณแม่ครับ ผมจะให้นกคอยปรนนิบัติผมส่วนตัวนะ”

“หืม ปรนนิบัติส่วนตัว” หญิงวัยกลางคนลูกตาแทบถลนออกนอกเบ้า “นี่เด็กนะธร แกยังจะหื่นอีกเหรอ”

ชายหนุ่มหน้าแดง รีบแก้ความเข้าใจผิด “ไม่ใช่แบบนั้น คุณแม่คิดไปถึงไหนล่ะนั่น ผมหมายถึงคล้ายๆ สาวใช้ส่วนตัวนั่นแหละครับ ให้นกอยู่ในความดูแลของผม”

“อ๋อ” พรทิพาลากเสียงยาว ถอนหายใจอย่างโล่งอก “เออ ถ้างั้นก็ตามใจธรเถอะ แม่ก็ไม่อะไรมากหรอก ธรว่าไงก็ว่าตามนั้น แล้วนี่จะไปงานศพไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก”

“เผาบ่ายสามโน่นครับ นี่เพิ่งบ่ายโมง”

“ไปไวๆ จะได้คุยกับคนอื่นบ้าง”

“ขี้เกียจคุย” ตอบอย่างไม่สนใจอะไรเลย ก่อนจะเลื่อนมือมาจับข้อมือเล็กไว้ “ตามฉันขึ้นไปชั้นสองก่อน” จากนั้นก็ลากฉันท์ชนกลิ่วๆ ขึ้นบันได

“โอ๊ะ ! หนูเดินเองได้ค่ะ”

“เธอทำตัวชักช้าพิรี้พิไร ให้ฉันลากไปน่ะดีแล้ว”

เธอลอบส่งค้อนให้เขาจากทางเบื้องหลัง ไม่รู้หรือไงว่ากระดูกข้อมือเธอแทบจะแตกอยู่แล้ว ผู้ชายอะไรเอาแต่ใจตัวเองจริงๆ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อักษรสีทอง

ข้อมูลเพิ่มเติม
อุ้มรักเมียลับของท่านประธาน

อุ้มรักเมียลับของท่านประธาน

โรแมนติก

5.0

เพราะน้ำเมาในคืนนั้น เธอจึงพลาดท่า ‘ท้องไม่มีพ่อ’ เธอจำผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาคือใคร สิ่งที่จำได้ดีคือเสียงของเขาเท่านั้น วันเวลาผ่านไป เธอคลอดลูกชายฝาแฝด มีคนแปลกหน้ามาจับตัวเธอและลูกๆไป…คฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับวังคือสถานที่เธอและลูกถูกพาตัวมา เธอได้พบใครคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่ทว่าแววตากลับเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ “ในที่สุด ผมก็ตามหาคุณเจอเสียทีนะ” เธอจำได้…เสียงทุ้มทรงอำนาจที่ไม่เคยลืมเลย เขาคือผู้ชายในคืนนั้น ! “คุณตามหาฉันเจอได้ยังไง” “ไม่มีอะไรที่ผมต้องการแล้วจะไม่ได้หรอกนะ ถึงแม้จะใช้เวลานานไปหน่อยก็เถอะ” หญิงสาวนั่งคุกเข่ากอดลูกๆแนบอก เนื้อตัวสั่นระริก ถามด้วยเสียงที่สั่นจนควบคุมไม่อยู่ “คุณต้องการอะไร” “ตอนแรกแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนไหนกันที่มาเสียตัวให้ผมแล้วก็ชิ่งหนีไป แต่พอรู้ว่าคุณมีลูก ผมก็ต้องการลูก” “ไม่ได้นะ” เธอกอดลูกชายทั้งสองแน่นกว่าเดิม “เด็กๆเป็นลูกของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” ร่างสูงขยับมายืนใกล้ๆ หรี่ตามองเธอและเด็กๆ ก่อนยกมุมปากเป็นรอยยิ้มหยัน “มีแค่มดลูก คุณจะท้องได้เองหรือไง ถ้าไม่ได้สเปิร์มจากผมไปน่ะ” หญิงสาวหน้าร้อนวูบ… เพิ่งรู้ก็วันนี้เองว่า พ่อของลูกเธอนั้นไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ร่ำรวยมหาศาล ที่สำคัญเขาต้องการลูกๆ เธอจะต้องหนีจากเงื้อมมือของเขาให้ได้ อุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน จะยอมให้เขามาพรากลูกไปจากอกไม่ได้เด็ดขาด แม้จะตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะต้องหนีให้ได้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว…นอกจากจะหนีไม่พ้นแล้ว อย่าว่าแต่ลูกเลย แม้แต่หัวใจของเธอก็ตกเป็นของเขา !

คู่นอนสุดที่รัก

คู่นอนสุดที่รัก

โรแมนติก

5.0

เธอเป็นเลขาของเขา ส่วนเขาก็เป็นเจ้านายของเธอ.... อัมพิกาตกหลุมรักนิโคลัสตั้งแต่แรกเห็น ทว่า...สถานะระหว่างเลขากับท่านประธานช่างต่างกันจนเธอไม่อาจคาดหวังเกินตัว 1 ปีผ่านไป จากการได้ทำงานใกล้ชิด เธอยิ่งหวั่นไหวจนยากจะถอนหัวใจ ได้แต่เก็บงำความรักไว้เป็นความลับในใจ ไม่สามารถเอ่ยปากไปได้ จนวันหนึ่ง เธอและเขาต่างเมาด้วยกันทั้งคู่จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เธอยินยอมเพราะรัก แต่เขามีเพียงความใคร่ ในวันที่เสียตัวให้เขาแล้ว เขาพาเธอไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน...ที่นั่น ก็มีสาวสวยอยู่แล้วคนหนึ่ง เขาตั้งกติกาว่า ระหว่างเธอกับผู้หญิงคนนั้น...หากใครมีทายาทให้เขาได้ก่อน เขาจะยอมจดทะเบียนสมรสด้วย เพราะสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ความรัก แต่เป็นทายาทสืบสกุล ! ผู้ชายเลือดเย็นคนนี้น่ะหรือที่เธอรัก...ต่อให้เธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาก็อย่าฝันเลยว่าเธอจะยอมให้เห็นหน้าลูก !!

เสน่หาภรรยา ม.ปลาย

เสน่หาภรรยา ม.ปลาย

โรแมนติก

5.0

สรวิชญ์คือรักแรกของฝากขวัญ... เธอเป็นลูกสาวหัวหน้าคนงาน ส่วนเขาคือลูกชายเจ้าของไร่สิงห์คำรามที่อายุมากกว่าเธอ 5 ปี ความใกล้ชิดก่อเกิดความสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง เธอในวัยเยาว์ ไร้เดียงสา เรียนยังไม่จบมัธยมปลายก็เสียตัวให้เขา เธอวาดฝันถึงอนาคตที่ดี ความรักที่สวยงาม แต่แล้ว...ในวันที่เธอจบการศึกษาชั้น ม.6 คือวันเดียวกับที่ถูกเขาทอดทิ้ง พ่อพาเธอไปอยู่กรุงเทพเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ในขณะที่ท้องของเธอเริ่มโตขึ้นทุกวัน โดยที่สรวิชญ์ไม่เคยรู้เลยว่าเธออุ้มท้องสายเลือดของเขาอยู่ เวลาผ่านไป 6 ปี ลูกสาวของเธออายุ 5 ขวบ เธอได้เดินทางกลับมาที่ไร่สิงห์คำรามเพื่อดูแลสรัณซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของพ่อ เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง...เขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จากหนุ่มหน้าใส กลายเป็นผู้ชายดุดัน ไว้หนวดเครา ตัวโตร่างใหญ่ ที่สำคัญ...เขามีคู่หมั้นแล้ว แต่เธอไม่มีทางให้เขาสมหวังหรอกนะ เธอเคยเสียใจมากแค่ไหน เขาต้องได้รับความเสียใจมากกว่าเธอ ฝากขวัญไม่รู้เลยว่า...ความอยากเอาคืนในวันนั้น จะทำให้เธอตกหลุมรักอดีตสามีเป็นครั้งที่สอง ทว่าเธอไม่ใช่เด็กสาวม.ปลายผู้ไร้เดียงสาอีกแล้ว เธอไม่มีวันทำผิดพลาดเหมือนเมื่อก่อนแน่ๆ !

ถ่านไฟรักสามีเก่า

ถ่านไฟรักสามีเก่า

โรแมนติก

5.0

เธอเคยคิดว่าเขา รัก’จึงยอมยกให้ทั้งตัวและหัวใจ ทว่าในความจริง เธอเป็นได้แค่ ‘เมียในความลับ’ ที่ทำได้เพียงรอเวลาให้เขามานอนด้วย เจ้าสาวที่เขาจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงคนอื่น และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของเธอขาดลงก็คือการที่เธอตั้งครรภ์ แต่เขากลับแนะนำให้ไปทำแท้ง พอที...เธอไม่สามารถคบกับผู้ชายใจร้ายเช่นเขาได้อีก พรอุษาตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์ที่มีแต่ความเจ็บปวด อุ้มท้องลูกน้อยหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ 4 ปีผ่านไป บาดแผลในใจเริ่มจางหาย พร้อมลูกสาวที่เติบโตมาอย่างน่ารัก แล้วในวันหนึ่ง...โชคชะตาก็ทำให้เธอบังเอิญพบเจอกับสามีเก่าอีกครั้ง ถ่านไฟที่ยังไม่ทันได้ดับสนิทเริ่มติดไฟขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ทว่าเธอจะไม่มีวันยอมผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ ...................... “นี่มัน” ชายหนุ่มย่นหัวคิ้ว ดึงแผ่นทดสอบมาดู... ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าที่ถืออยู่นี้คืออะไร แล้วความหมายของสองขีดแดงคืออะไร...สายตาคู่คมจ้องหน้าเธออย่างเดือดดาล “เธอท้องเหรอ” “คือ...มัน...เอ่อ” เธออึกอัก “เธอท้อง...” เขากดเสียงให้ต่ำลงไปอีก ส่งผลให้เธอตัวลีบเล็ก อึกอัก “พิมลองตรวจดู ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะขึ้นสองขีด” “ไม่คิดงั้นเหรอ” ชายหนุ่มแค่นเสียง แสยะมุมปาก ปล่อยมือจากเธอพร้อมขยำแผ่นทดสอบปาลงพื้น “ฉันจะถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไปเอาเด็กออกซะ”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

รอยรักรอยร้าว

รอยรักรอยร้าว

Del Goodman
5.0

เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

อัญญาณี
5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ซีไซต์
5.0

หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ